ปฏิบัติการ ตามล่า อำนาจ ของ ฮาร์วีย์ ยอร์ก บทที่ 398

เจนเซ่นเอามือกุมหน้าแสดงสีหน้าที่อ่อนล้า

“พ่อครับ ผมพยายามแล้ว! ผมจัดเตรียมทุกอย่างไว้อย่างดีมาหลายปี!”

“ผมรอจนกระทั่งผู้อาวุโสอาร์มสตรองเสียชีวิต จากนั้นจึงนำเอกสารวิทยานิพนธ์นั้นออกมา!”

“สิ่งที่ผมทั้งหมดมันยังไม่พออีกเหรอ?!”

“พวกเราคาร์ลสันก็ร่ำรวยเช่นกัน ทำไมเราต้องเป็นคนรับใช้อยู่เบื้องล่างของคนอื่นด้วย? ควินตัน ยอร์ก ก็แค่คนธรรมดา…”

เพี้ยะ!

ผู้เฒ่าแห่งตระกูลคาร์ลสันเหวี่ยงมือตบลงใบหน้าของเจนเซ่นอีกครั้ง เพื่อต้องการหยุดเขาไม่ให้พูดในสิ่งที่เขาต้องการจะพูด

“ไอ้เด็กไม่รักดี ฉันจะบอกแกเป็นครั้งสุดท้าย ถ้าไม่มีนายท่านยอร์ก พวกเราคาร์ลสันคงอยู่ใต้ซากปรักหักพังไม่ได้โงหัวชูคอขึ้นมาแบบนี้!”

“การได้ช่วยเหลือนายท่านยอร์กในธุรกิจของเขาถือเป็นเกียรติของเรา! และเราต้องรับผลที่จะตามมาในครั้งนี้สำหรับความล้มเหลวของเรา!” ผู้เฒ่าพูดอย่างเศร้าโศก

ร่างสูงใหญ่ของเขาสั่นสะท้าน

เห็นได้ชัดว่าชื่อ “ควินตัน ยอร์ก” ทำให้ผู้เฒ่าแห่งตระกูลคาร์ลสันเกิดความกลัวขึ้นในใจ

เจนเซ่นรู้สึกขยะแขยงในสิ่งที่ได้ยิน

“ถ้าควินตันมีความสามารถจริง ๆ ทำไมเขาต้องให้ผมจัดการกับฮาร์วีย์ด้วย? เขาเพียงต้องการบังคับฮาร์วีย์ให้กลับไปที่เมืองหลวง ผมไม่เข้าใจ เขาเป็นแค่ลูกเขยที่ไม่มีใครต้องการ ทำไมผมต้องจริงจังกับเขาด้วย!”

ผู้เฒ่าแห่งตระกูลคาร์ลสันถอนหายใจเฮือกใหญ่พร้อมกับแสดงสีหน้าไม่พอใจ

“เจนเซ่น ฉันรู้ว่าแกภูมิใจในตัวเองสูงและแกไม่สามารถยอมรับความจริงได้ว่าพวกเราคาร์ลสันเป็นคนรับใช้ของควินตัน ยอร์ก แต่นี่เป็นความจริง ถ้าเราไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของนายท่านยอร์ก จะทำให้พวกเราสูญเสียทุกอย่างภายในคืนเดียวอย่างง่ายดาย”

“ตอนนี้เราทำงานล้มเหลว อาจไม่มีตระกูลคาร์ลสันอีกต่อไปในอนาคต”

ผู้เฒ่าแสดงสีหน้าที่เต็มไปด้วยความเศร้าโศก

เจนเซ่นที่ขยะแขยงพวกเขาก่อนหน้านี้ แต่กลับต้องตัวตัวสั่นเมื่อได้ยินสิ่งที่พ่อพูด

“พ่อครับ พ่อกำลังพูดว่าพวกเราคาร์ลสันกำลังจะล้มละลาย…?”

“ใช่ และนี่คือสิ่งที่เรากังวล”

ผู้เฒ่าถอนหายใจ

“ฉันจะส่งแกไปยุโรปในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้ หวังว่าแกจะประสบความสำเร็จที่นั่น”

แน่นอนว่าผู้เฒ่าสูญเสียความหวังในตระกูลคาร์ลสันไปแล้ว

ควินตันเป็นคนเดียวที่สามารถให้ทั้งรางวัลและบทลงโทษ

ภายใต้ปีกการคุ้มครองของเขา ทุกคนสามารถได้รับประโยชน์สูงสุดและการลงโทษที่เลวร้ายที่สุดได้เช่นกัน

และความล้มเหลวนี้จะทำให้ตระกูลของเขาไม่สามารถแบกรับบทลงโทษได้

เจนเซ่นตกใจ เขาไม่อยากไปยุโรป

เขารู้ถึงความสามารถของเขา เขาไม่มีความสามารถมากพอที่จะไปแจ้งเกิดที่นั่น

นอกจากนี้ เขายังเคยชินกับชีวิตที่หรูหรา ทำไมเขาถึงต้องไปอยู่ที่อื่นและใช้ชีวิตที่ยากจนด้วย?

ไม่คิดอะไรอีกต่อไป เจนเซ่นกัดฟันและถามว่า “พ่อครับ เราจะทำให้สถานการณ์มันดีขึ้นได้ไหมถ้าเราสามารถบังคับฮาร์วีย์กลับเมืองหลวงของมณฑลได้ไม่ว่าจะใช้วิธีใด?”

“ได้ แต่แกไม่สามารถใช้เอลล่าเป็นตัวล่อได้อีก นั่นคือแผนดั้งเดิมของนายท่านยอร์ก…”

“ไม่ เรายังมีโอกาส ภารกิจของเรายังไม่ล้มเหลว”

เจนเซ่นแง้มประตูมองดูด้วยใบหน้าเต็มไปด้วยความขุ่นเคือง

“ยังมีโอกาส รอผมกลับโรงแรมก่อนนะพ่อ เชื่อผม ผมทำได้…”

***

ที่ห้องจัดสัมมนา เกรกอรี่รู้สึกทำตัวไม่ถูกเมื่อต้องเดินเข้าไปหาฮาร์วีย์

“มิสเตอร์ยอร์ก ผมเข้าใจคุณผิด”

“ถ้าคุณไม่ชี้ให้เห็นถึงการฉ้อโกงทางวิชาการของเจนเซ่นและเรื่องนี้หลุดออกไป ชื่อเสียงของผมคงจะเสียหาย!”

“วันนี้ผมเป็นหนี้บุญคุณคุณจริง ๆ !”

เกรกอรี่พูดอย่างจริงใจ เขาเป็นคนที่ปล่อยอดีตให้ผ่านไปได้ และเขารู้ดีว่าในตอนนี้เขาควรทำอะไรมากที่สุด

“นักบุญคลาร์ก คุณไม่จำเป็นต้องเป็นทำแบบนี้ คุณก็โดนเขาหลอกเหมือนกัน คุณเป็นอาจารย์ของเอลล่า อย่างน้อยผมควรจะทำแบบนั้น” ฮาร์วีย์พูด

เกรกอรี่รู้ว่าฮาร์วีย์กำลังรักษาหน้าของเขาไว้และปกป้องไม่ให้เขาอายมากกว่านี้ เขาส่ายหัวแล้วรีบไปที่ฝูงชนและโค้งคำนับ

“ทุกคน เรื่องของวันนี้เป็นความผิดพลาดของผมเอง ถ้าในอนาคตต้องการให้ผมช่วยเหลืออะไร ผมพร้อมจะให้ความช่วยเหลือทันที! ขอขอบคุณทุกท่าน!”

หลังจากที่เกรกอรี่กพูดจบ เขารู้สึกเหมือนแก่ขึ้นสิบปีทันที

การพูดแบบนั้นโดยพิจารณาถึงตัวตนของเขาแล้วนั้นเหมือนกับการขอร้องให้ทุกคนไม่กระจายข่าวเกี่ยวกับเรื่องนี้ออกไป

หากเรื่องนี้ถูกแพร่งพรายออกไป ชื่อเสียงของเขาจะได้รับผลกระทบอย่างมาก

ผู้คนที่นั่นยังคงสับสน พวกเขาไม่คิดว่าเรื่องจะจบลงแบบนี้