“กัปตัน การที่พวกเรามีผู้บัญชาการในระดับเปลวไฟที่แท้จริงได้นั้น ฝ่ายตรงข้ามจะมีไม่ได้หรือ? บางทีผู้บัญชาการฐานทัพของพวกเราอาจจะถูกสังหารภายในสามกระบวนท่าก็เป็นได้” นายทหารหวางหวูคิดว่าสถานการณ์นี้ไม่สู้ดีนัก เหมือนกับว่าจะสัมผัสได้ถึงวิกฤติแห่งความตายที่กำลังจะมาเยือน

เดิมทีทหารจำนวนมากที่ผ่อนคลายลงเมื่อได้ยินคำพูดของกัปตันนั้น ทว่าตอนนี้เมื่อได้ยินคำพูดของหวางหวูนั้น หัวใจของพวกเขาก็ดิ่งฮวบลง จิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว รู้สึกท้อแท้ขึ้นมาทันที

ไอ้บัดซบเอ๊ย!

ได้ยินเช่นนี้ กัปตันก็โมโหอย่างมาก ปรารถนาที่จะใช้ฝ่ามือตบใบหน้าของเจ้าหวางหวูนี่ เขานั้นได้พยายามอย่างหนักเพื่อทำให้ทหารเหล่านี้มีอารมณ์ที่คงที่ ทำให้กลุ่มคนเหล่านี้สงบสติลง ไม่ให้พวกเขาแตกตื่นจนเกินไปซึ่งอาจจะพลาดท่าให้กับศัตรูได้ง่าย

ทว่าใครจะไปคิดกันว่าเจ้าบัดซบนี่จะมีปากพล่อยเช่นนี้ พูดในสิ่งที่ไม่ควรพูดตลอดเวลา สามารถที่จะทำลายสถานการณ์ให้ป่นปี้ได้

หากอยู่ในสงครามสมัยโบราณล่ะก็ เจ้าบุคคลที่พูดให้คนอื่นๆเสียขวัญกำลังใจเช่นนี้ จะต้องถูกประหารโดยการตัดหัวอย่างแน่นอน

ทว่าไม่ทันรอให้กัปตันได้ต่อว่าเจ้าหวางหวูนี่ ก็มีทหารคนหนึ่งที่ตะโกนขึ้นมาอย่างแตกตื่น “แม่เจ้า จบกัน ผู้บัญชาการของพวกเราถูกอัดจนระเบิด ถูกสังหารไปโดยยานอวกาศลำนั้นจริงๆ ร่างกายระเบิดกระจุยกระจายออกไป”

“บัดซบ หวางหวู เจ้าปากอสูรพิษ!”

อะไรนะ?!

ผู้คนต่างก็ตกใจ เดิมทีผู้บัญชาการของฐานทัพซึ่งเป็นยอดฝีมือในระดับเปลวไฟที่แท้จริงนั้นมีออร่าที่น่าสะพรึงกลัวอย่างมาก บินข้ามท้องฟ้าออกไป เป็นเหมือนกับเทพเจ้าบนสวรรค์ก็ว่าได้ พยายามที่จะกำจัดปีศาจและสังหารเดม่อน

ทว่าไม่คาดคิดว่ายานอวกาศลำนั้นจะร้ายกาจอย่างถึงที่สุด ก้าวร้าวไร้เหตุผล พุ่งชนเข้าไปโดยตรง ทว่าผู้บัญชาการที่ไม่ทันได้ระมัดระวังตัวนั้นก็ถูกอัดจนกระเด็นออกไปเหมือนกับลูกบอลยางก็ว่าได้ ปลิวออกไปบนอากาศ ปลิวออกไปไกลนับสิบกิโลเมตร

ท้ายที่สุดร่างกายของผู้บัญชาการก็กระแทกเข้าไปกับภูเขาลูกหนึ่ง ระเบิดกระจุยกระจายออกไป ตายไปอย่างที่ไม่สามารถตายได้อีกแล้ว

ผู้บัญชาการที่เป็นถึงยอดฝีมือในระดับเปลวไฟที่แท้จริงได้ถูกสังหารไปอย่างน่าสมเพชเช่นนี้ นี่มันเป็นเรื่องที่ไร้ความยุติธรรมจริงๆ

คำพูดที่หวางหวูพูดออกมานั้น เพิ่งผ่านไปเพียงไม่กี่วินาทีเท่านั้น ช่างมีประสิทธิภาพที่น่าสะพรึงกลัวจริงๆ

“ไม่มีทาง ผู้บัญชาการตายไปจริงๆหรือ? ถูกสังหารโดยยานอวกาศลำนี้? ถ้าอย่างนั้น บรรดารองผู้บัญชาการที่เหลือจะไม่เป็นอันตรายหรือ?” หวางหวูจ้องมองอย่างวอกแวก ไม่คาดคิดว่าคำพูดของตนเองจะเป็นจริงอย่างรวดเร็วเช่นนี้

เพ่ง เพ่ง เพ่ง!!!

ทันทีที่พูดจบ รองผู้บัญชาการหลายคนก็ถูกยานอวกาศนี้ไล่ล่าไป เพียงแค่การพุ่งชนเบาๆ พวกเขาก็ถูกสังหารไป ระเบิดออกมากลางอากาศ ต่อให้พวกเขาจะต้องการหลบหนีก็ไม่สามารถที่จะหนีรอดไปได้

ร่างของรองผู้บัญชาการเหล่านี้เป็นเหมือนกับดอกไม้ไฟก็ว่าได้ ระเบิดกระจุยกระจายออกมา ชิ้นส่วนร่างกายต่างก็ตกลงไปที่พื้น สภาพการตายนั้นน่าอนาถอย่างมาก

“เวรเอ๊ย บรรดารองผู้บัญชาการก็เผชิญกับจุดจบเช่นกัน”

“บัดซบ เจ้าหวางหวูเพิ่งพูดเสร็จ พวกเขาก็ถูกสังหารไปทันที พวกเขาที่เป็นถึงยอดฝีมือในระดับหล่อหลอมสมบัติ ทำไมถึงได้ตายไปอย่างง่ายดายเช่นนี้?”

“ยังจะต้องถามอีกหรือ? แม้แต่ผู้บัญชาการในระดับเปลวไฟที่แท้จริงก็ถูกสังหารไปอย่างง่ายดาย ระดับหล่อหลอมสมบัติจะต้องคำนึงถึงอีกหรือ?”

“ใช่ การที่สังหารผู้บ่มเพาะในระดับหล่อหลอมสมบัตินั้นคงจะง่ายเหมือนกับการเชือดไก่”

“ยานอวกาศลำนี้ช่างเป็นตัวตนที่ชั่วร้ายยิ่งนัก ไม่ว่าจะพุ่งชนใคร ก็จะต้องตายไปทั้งหมด”

“จบสิ้นแล้ว ฐานทัพของพวกเราจบสิ้นแล้ว รีบหลบหนีเร็ว!”

“ใครกันที่ได้ไปท้าทายบุคคลที่น่าสะพรึงกลัวเช่นนี้ หากไม่วิ่งหนีล่ะก็ พวกเราจะต้องตาย”

ทหารของกลุ่มโจรสลัดผ้าคาดหัวสีแดงจำนวนมากต่างก็ท้อแท้สิ้นหวัง ยังไม่ทันได้ต่อสู้ ผู้บัญชาการของพวกเขาก็ถูกสังหารไป รองผู้บัญชาการอีกหลายคนก็ไม่สามารถที่จะหนีรอดได้ แต่ละคนต่างก็ถูกอัดจนกลายเป็นเศษเนื้อโดยยานอวกาศที่น่าสะพรึงกลัวนี้

สำหรับค่ายกลของฐานทัพแห่งนี้ ระบบอาวุธและการป้องกันอื่นๆนั้น ยานอวกาศลำนี้ก็ได้พุ่งผ่านและทำลายไปอย่างกะทันหัน มีที่ไหนที่จะมีพลังอำนาจในการต้านทานได้

พวกเขาที่เป็นเพียงแค่ปลาซิวปลาสร้อยนั้น อย่างมากก็มีพลังอำนาจในระดับกายาศักดิ์สิทธิ์เพียงเท่านั้น ไม่มีทางที่จะต่อกรกับฝ่ายตรงข้ามได้

กัปตันคนนั้นก็เหมือนกับตกลงไปอยู่ในถ้ำน้ำแข็ง ทั่วทั้งร่างกายสั่นเทา แม้แต่ผู้บัญชาการและรองผู้บัญชาการที่เป็นยอดฝีมือในระดับสูงก็ยังถูกสังหารไปอย่างง่ายดาย พวกเขาที่เป็นเพียงแค่ทหารธรรมดาจะสามารถทำอะไรได้?!

“กัปตัน ข้าคิดว่าตอนนี้เป็นช่วงเวลาที่อันตราย หากศัตรูค้นพบพวกเรา บางทีพวกเรา….” นายทหารหวางหวูอดใจที่จะพูดออกมาไม่ได้ รู้ว่าไม่ควรพูดแต่เขาก็ยังดึงดันที่จะพูดออกมาให้ได้

ปัง!

ไม่ทันรอให้หวางหวูได้พูดจบ กัปตันก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป เหวี่ยงฝ่ามือออกไป รวดเร็วดั่งสายฟ้าฟาด ตบเจ้าหวางหวูจนกระเด็นออกไปอย่างกะทันหัน หมุนตีลังกาบนอากาศหลายรอบ

จากนั้นก็ได้ต่อว่าออกมาทันที “เจ้าบัดซบเอ๊ย หากเจ้าไม่พูดอะไรก็ไม่มีใครว่าเจ้าเป็นใบ้ ก่อนหน้านี้ก็เป็นเพราะปากอสรพิษของเจ้าที่ทำให้ผู้บัญชาการและคนอื่นๆต้องตายไป ตอนนี้ไม่คาดคิดว่าสถานการณ์ที่ตึงเครียดเช่นนี้ เจ้าก็ต้องการที่จะฆ่าพวกเราอีก นับตั้งแต่ตอนนี้ ข้าขอสั่งไม่ให้เจ้าพูดอะไรออกมา”

“หากกล้าพูดออกมาแม้แต่คำเดียวล่ะก็ พ่อจะสังหารเจ้าต่อหน้าทุกๆคนทันที”

กัปตันคลุ้มคลั่งออกมาทันที จ้องมองหวางหวูด้วยสายตาที่ดุร้ายและน่าสะพรึงกลัว บ่งบอกว่าตนเองนั้นไม่ได้พูดเล่น หากกล้าที่จะพูดอะไรออกมาอีก เขาจะใช้อำนาจและตำแหน่งทางการทหาร สังหารเจ้าหวางหวูนี่อย่างแน่นอน

“เยี่ยมไปเลยกัปตัน เมื่อครู่นี้ข้าก็ต้องการที่จะประเคนหมัดใส่เขาเช่นกัน”

“บัดซบ เจ้าหวางหวูนี่มีฝีปากที่โหดเหี้ยมเกินไป บอกว่าใครตาย ก็จะต้องตาย แม้แต่ปากของอีกาก็ไม่ได้เป็นพิษภัยเช่นนี้”

“การจับเขาเย็บปากก็เป็นตัวเลือกที่ดีเหมือนกัน ไม่สามารถปล่อยให้เขาอ้าปากออกมาได้ ไม่อย่างนั้นพวกเราจะต้องตายอย่างแน่นอน”

กลุ่มของทหารที่เห็นด้วยกับการกระทำนี้ บ่งบอกว่ากัปตันได้ทำในสิ่งที่ถูกต้อง สั่งสอนเจ้าคนปากร้ายนี่ให้หุบปากเสียที

“สุภาพ สุภาพเกินไป นี่เป็นสิ่งที่ข้าควรทำ” กัปตันได้พูดออกมาอย่างอ่อนน้อมถ่อมตน เขารู้สึกสบายใจอย่างมาก การที่ได้เป็นกัปตันมานานหลายปีนั้น นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้รับการสนับสนุนจากลูกน้องเช่นนี้

ดูเหมือนว่าการที่ตบใบหน้าของเจ้าหวางหวูนี่จะเป็นการกระทำที่ถูกต้อง

นายทหารหวางหวูก็มีสีหน้าที่บูดบึ้ง มือของเขาปิดใบหน้าที่บวมเป่งของตนเอง คิดว่าตนเองไม่ได้รับความยุติธรรม ตนเองเพียงแค่แสดงความคิดเห็นออกมา มันจะเป็นปากอีกาได้อย่างไรกัน นี่เป็นการอคติ จะต้องเป็นการอคติอย่างแน่นอน เป็นการรังแกผู้ที่อ่อนแอกว่า

ทว่าเขาก็ไม่สามารถต่อต้านความโมโหของสาธารณะได้ ทำได้เพียงแค่อดทนอดกลั้นไว้

“กัปตัน ยานอวกาศลำนั้นได้บินเข้าไปที่ไร่ข้าวคริสตัลของพวกเรา เป้าหมายของพวกเขาจะต้องเป็นข้าวคริสตัลของพวกเราอย่างแน่นอน พวกเราจะทำอย่างไรกันดี ขัดขวางหรือไม่?”

ทหารบางคนที่ค้นพบเส้นทางที่ยานอวกาศมุ่งหน้าไป จากนั้นก็ได้รายงานทันที

“ขัดขวางตูดข้าสิ ไม่เห็นหรือว่าผู้บัญชาการและคนอื่นๆถูกสังหารไปอย่างง่ายดายแค่ไหน? เป็นไปได้อย่างไรที่พวกเราจะขัดขวางปีศาจร้ายเช่นนี้ได้ การที่กล้าเข้าไปขวางนั้นคงจะไม่ต่างอะไรไปจากการรนหาที่ตาย ข้าคิดว่าการที่พวกเราเสแสร้งแกล้งตายในตอนนี้เป็นทางเลือกที่ดีที่สุด รอให้ศัตรูเหล่านี้ได้ปล้นชิงจนเสร็จสิ้น จากนั้นพวกเราก็จะปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง นี่จะมีความปลอดภัยมากกว่า” กัปตันพูดออกมาอย่างไม่สบอารมณ์

เขาไม่ต้องการที่จะต่อสู้กับปีศาจเช่นนี้ นี่มันไม่ได้เรียกว่าการต่อสู้ด้วยซ้ำ ทว่าเป็นเหมือนการเข้าไปรับกระสุน เป็นการกระทำที่รนหาที่ตาย

“กัปตันช่างชาญฉลาดจริงๆ มองทะลุสถานการณ์ได้อย่างเด็ดขาด”

“ใช่ พวกเราโจรสลัดผ้าคาดหัวสีแดงทุกคนจะต้องมีชีวิตอยู่กินกันต่อไป ไม่จำเป็นที่จะต้องนำตนเองไปตาย”

“พูดถูก เมื่อสถานการณ์อันตรายก็ควรที่จะหลบซ่อน การที่มีความกล้าหาญมากเกินไปนั้น ใครกันที่จะเก็บกวาดซากศพให้กับพวกพ้องของเรา”

“การที่พวกเราเสแสร้งแกล้งตายที่นี่ พวกเราจะสามารถใช้ชีวิตอยู่ได้อีกนาน”

“ทว่าหากท่านผู้นำและคนอื่นๆล่วงรู้ว่าพวกเราทอดทิ้งหน้าที่ล่ะก็ บางทีอาจจะถูกลงโทษอย่างหนัก”

“พวกเราก็แค่หาข้อแก้ตัว บอกว่าพวกเราถูกกระแทกจนสลบไปโดยเศษหินที่กระเด็นออกมา หมดสติไปเป็นระยะเวลาหลายชั่วโมง ยิ่งไปกว่านั้นพื้นที่รอบๆก็เต็มไปด้วยเศษหินก้อนใหญ่ที่ล้อมรอบพวกเราไว้ ภายในระยะเวลาอันสั้นไม่มีทางออกไปได้”

“หลักแหลม หลักแหลมจริงๆ”

กลุ่มของทหารที่ร่วมกันออกความคิดเห็น พวกเขาต่างก็หาทุกวิถีทางเพื่อที่จะหลีกเลี่ยงการปะทะกับศัตรู เพราะว่าสุดท้ายแล้วพวกเขาก็เป็นเพียงแค่โจรสลัดจักรวาล ไม่ใช่ทหารที่ทำทุกอย่างเพื่อปกป้องประเทศชาติและสถาบัน

การที่จะให้พวกเขานำชีวิตของตนเองไปทิ้งกับศัตรูที่ไม่มีทางเอาชนะได้นั้น นี่ไม่ใช่เป็นเรื่องตลกหรือ?!

ระยะเวลาได้ผ่านไปในพริบตา ทันใดนั้นหนึ่งชั่วโมงก็ได้ผ่านไป

“กัปตัน ดูเหมือนว่ายานอวกาศลำนั้นจะเดินทางออกไปแล้ว” ทหารบางคนที่สังเกตเห็นว่ายานอวกาศลำนั้นได้บินออกไปจากฐานทัพแห่งนี้ กระโดดข้ามมิติออกไป เหมือนกับว่าจะจากดาวคริสตัลไปเช่นกัน

“เป็นความจริงหรือ? เก็บกวาดที่นี่ซะ วีรบุรุษมักที่จะปรากฏตัวขึ้นมาเป็นคนสุดท้ายเสมอ”

กัปตันกระตือรือร้นขึ้นมาทันที การที่ศัตรูได้เดินทางออกไปนั้น ในตอนนี้ก็เป็นโอกาสที่เขาจะได้แสดงความสามารถความชำนิชำนาญของตนเองออกมาให้เห็น