บทที่ 276 เสียงของผู้หญิง

The king of War

ฉ่ายจวนนั้นร้องไห้จนหมดรูป เธอนั้นคิดว่าการที่หยางเฉินมาหาเธอนั้นต้องการมาทวงค่ารักษา

จากคำพูดของเธอ หยางเฉินก็ได้รู้ข้อมูลไปมากพอสมควร

สิ่งแรกที่สามารถยืนยันได้คือ หนันหนันนั้นเป็นมะเร็งในเม็ดเลือดขาวจริง

ส่วนหูฉาวนั้นก็เป็นมะเร็ง เดิมทีก็อยู่ได้อีกไม่นาน มีคนเอาเงินมาให้ห้าแสน บอกเขาให้ขับรถไปชนฉินต้าหย่ง เพื่อจัดหาค่ารักษามาให้หนันหนัน เขาจึงตัดสินใจที่จะทำแบบนี้

มันช่างเป็นเรื่องเล่าที่น่าสะเทือนใจจริงๆ ครอบครัวของฉ่ายจวนก็ยากจนมาก ไม่จำเป็นต้องไปตรวจสอบอะไร แค่มองจากการแต่งตัวของฉ่ายจวนกับหนันหนัน รวมถึงอาการป่วยของหนันหนัน มันก็สามารถยืนยันได้แล้ว

สภาพจิตใจของหยางเฉินนั้นดิ่งลงไปลึกมาก มันรู้สึกอึดอัดราวกับถูกหินก้อนให้ก้อนหนึ่งทับไว้

แต่แทนที่จะรู้สึกเกลียดหูฉาวมากๆ กับการที่เขาขับรถไปชนฉินต้าหย่ง ถึงเขาจะตายไปแล้ว แต่ฉินต้าหย่งกลับได้รับบาดเจ็บสาหัส จนอาจจะกลายเป็นเจ้าชายนิทราไปเลยก็ได้

แต่หลังจากที่ฟังในสิ่งที่ฉ่ายจวนเล่าแล้ว เขากลับไม่ได้รู้สึกเกลียดชังขึ้นมาเลย

หูฉาวนั้นได้ทำเรื่องที่โหดร้ายไปจริงๆ แต่แค่เรื่องนี้ มันก็สามารถปฏิเสธการเป็นพ่อที่ดีของเขาได้แล้วอย่างนั้นเหรอ?

ไม่ได้!

ถ้าไม่ตกอยู่ในสถานการณ์ที่สิ้นหวัง ไม่มีใครเลือกที่จะทำเรื่องแบบนี้แน่นอน

ต่อให้ไม่มีหูฉาว คนที่ต้องการจะฆ่าฉินต้าหย่ง ก็จะไปหาคนอื่นอยู่ดี

หยางเฉินนั้นเคยประสบกับความสิ้นหวังที่คนใกล้ตัวเป็นโรคที่ไม่มีทางรักษา และต้องใช้เงินก้อนโตในการรักษา แต่ไปขอยืมจากญาติทุกคนแล้วก็ยังหาเงินไม่ได้มาแล้ว

“พี่สาว คุณรีบลุกขึ้นมาเถอะ ที่ผมมาหาคุณ ไม่ใช่เพราะต้องการทวงค่ารักษากับคุณหรอก”

หยางเฉินรีบก้าวไปข้างหน้า พยุงฉ่ายจวนขึ้นมา แล้วพูดยืนยันไปว่า “ผมไม่เพียงจะไม่ให้คุณชดใช้ แต่ค่ารักษาพยาบาลทั้งหมดของลูกสาวคุณ ผมจะเป็นคนรับผิดชอบเอง!”

สำหรับหยางเฉินในตอนนี้ กับเงินแค่ไม่กี่แสน ยังเทียบกับค่าขนมยังไม่ได้เลย

โลกที่แสนกว้างใหญ่นี้ ครอบครัวแบบหนันหนันนั้นมีอยู่มากมาย หยางเฉินไม่สามารถช่วยทุกคนได้ แต่ในเมื่อเขาได้เจอแล้ว เขาก็ไม่มีทางหวงหัวใจที่โอบอ้อมอารีของเขาเด็ดขาด

ฉ่ายจวนที่ยังรู้สึกสิ้นหวังอยู่เมื่อกี้ พอได้ยินว่าหยางเฉินต้องการที่จะดูแลเรื่องค่าใช้จ่ายในการรักษาของหนันหนัน เธอก็หยุดร้องไห้ทันที ทำหน้าตกใจ และรู้สึกเหมือนตัวเองนั้นหูฝาดไป “คุณบอกว่า จะช่วยหนันหนันอย่างนั้นเหรอคะ?”

“พี่สาว ที่ผมพูดไปนั้นเป็นความจริง คุณรีบลุกขึ้นเถอะ ที่ผมมาหาคุณ แค่มีคำถามอยากถามคุณหน่อยเท่านั้น ไม่ได้ต้องการให้คุณรับผิดชอบอะไรเลย” หยางเฉินรีบพูดออกไป

แล้วฉ่ายจวนถึงได้มั่นใจว่า ตัวเองนั้นไม่ได้หูฝาดไป ร้องไห้ออกมาจนน้ำตาเต็มหน้าไปหมด และรีบกล่าวขอบคุณกับหยางเฉิน

ผ่านไปพักหนึ่ง เธอถึงใจเย็นลงได้

“คุณหยางคะ คุณมีเรื่องอะไรจะถามก็ถามมาได้เลยค่ะ ฉันจะบอกทุกอย่างที่ฉันรู้เลยค่ะ!”

ฉ่ายจวนพูดพร้อมกับจ้องมองหยางเฉินด้วยดวงตาที่แดงก่ำ ขอแค่สามารถช่วยลูกสาวได้ ต่อให้เธอต้องตาย เธอก็ยอม ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการตอบคำถามแค่ไม่กี่คำเลย

“ก่อนหน้านี้ที่คุณบอกว่า มีคนจ่ายเงินให้สามีของคุณห้าแสน ให้เขาไปชนพ่อตาของผมให้ตาย ผมจึงอยากถามคุณว่า คนคนนี้ เป็นใครกันแน่?” หยางเฉินถาม

ฉ่ายจวนส่ายหน้าด้วยสีหน้าที่รู้สึกผิด “คุณหยางคะ บอกตามตรง เรื่องนี้ สามีของฉันเป็นคนที่ติดต่อกับฝั่งนั้นเอง”

“ตอนที่เขาเอาเงินกลับมาห้าแสน บอกว่าจะเอาเงินก้อนนี้ไปเป็นค่ารักษาให้หนันหนัน ฉันนี่ตกใจจนช็อกไปเลย ฉันยังคิดว่าเขาไปปล้นธนาคารมาด้วยซ้ำ”

“สุดท้าย หลังจากที่ฉันเค้นถามเขา เขาถึงได้บอกกับฉันว่า มีคนจ้างเขาห้าแสน ให้เขาขับรถไปชนคนคนหนึ่งให้ตาย”

“ฉันขวางเขาไว้ไม่ได้ ใครจะไปคิด ว่าพอเขาออกไป ก็ไม่กลับมาอีกเลย!”

พอพูดถึงตรงนี้ น้ำตาแห่งความเจ็บปวดของฉ่ายจวนก็ได้ไหลออกมา

หยางเฉินนั้นรู้สึกผิดหวังนิดหน่อย เขาเองก็มาพร้อมกับความคาดหวังแค่นิดเดียวเท่านั้น เรื่องแบบนี้ หูฉาวไม่มีทางเล่าเรื่องที่เขาติดต่อกับใครให้ฉ่ายจวนฟังอยู่แล้ว ถ้าเป็นแบบนี้ มันก็เป็นการทำร้ายภรรยากับลูกสาวเท่านั้น แต่หูฉาวก็ยังคิดตื้นเกิดไป เขาคิดว่าการที่ตัวเองตายไปในอุบัติเหตุด้วย ก็จะสามารถปิดบังเรื่องทั้งหมดได้แล้ว

ส่วนฉ่ายจวนคนนี้ก็ใสซื่อเกินไป ถ้าหยางเฉินมาที่นี่เพราะต้องการให้รับผิดชอบเรื่องค่ารักษาจริง กับความจริงที่เธอพูดมาเมื่อกี้ หยางเฉินก็สามารถเอาค่ารักษาพยาบาลห้าแสนของหนันหนันนั่น มาเป็นค่าชดใช้ในการรักษาก็ได้แล้วนี่

“พี่สาว พี่ลองนึกดูอีกที ว่าก่อนที่สามีของคุณจะเสีย เขาเคยเจอคนแปลกหน้าบ้างรึเปล่า? เคยรับสายที่แปลกๆ บ้างมั้ย? แล้วเคยคุยกับใครในเน็ตบ้างหรือไม่?”

หยางเฉินยังไม่ยอมแพ้ จึงได้เสนอออกไป

ในเมื่อสามารถติดต่อกับหูฉาวได้ และสั่งให้เขาไปชนฉินต้าหย่งจนตาย ก็มีเพียงแค่การพบหน้า โทรศัพท์หรือผ่านทางเน็ตสามวิธีนี้เท่านั้นแหละ

ฉ่ายจวนส่ายหน้า แล้วพูดด้วยดวงตาที่แดงก่ำว่า “ตอนกลางวันสามีของฉันจะไปทำงานเป็นพนักงานขนของที่โกดังแห่งหนึ่ง กลางคืนก็ไปขับอูเบอร์ พอกลับมาบ้านก็เข้านอนเลย เรื่องที่เกิดขึ้นกับเขาข้างนอกในช่วงกลางวัน ฉันเองก็ไม่รู้เรื่องหรอกค่ะ”

“แล้วมือถือของสามีคุณล่ะครับ?” หยางเฉินถามต่อ

ฉ่ายจวนส่ายหน้า พูดด้วยดวงตาที่แดงก่ำว่า “วันที่เกิดเรื่องกับเขา มือถือก็ถูกเผาไปพร้อมกับเขาแล้วค่ะ!”

ความหวังสุดท้ายของหยางเฉิน มันได้สลายไปอย่างสมบูรณ์แล้ว

ตอนแรกคิดว่าพอตามหาภรรยาของหูฉาวจนเจอ ก็สามารถสืบหาเบาะแสอะไรได้บ้าง แต่ไม่นึกเลยว่าจะไม่ได้เบาะแสอะไรที่มันจำเป็นเลยสักนิด แต่ก็สามารถยืนยันอะไรได้อย่างหนึ่ง นั่นก็คือการที่ฉินต้าหย่งถูกรถชนนั้น ไม่ใช่อุบัติเหตุแต่เป็นการจงใจวางแผนที่จะฆ่าต่างหาก

สิ่งที่หยางเฉินไม่เข้าใจก็คือ ฉินต้าหย่งที่เป็นคนดีขนาดนี้ ทำไมถึงมีคนคิดอยากจะฆ่าเขาด้วย?

หรือว่า เขาไปผิดใจกับใครเข้า?

แต่หยางเฉินก็ได้ส่งคนไปตรวจสอบดูแล้ว ช่วงหลังมานี้ ฉินต้าหย่งไม่ได้ไปมีปัญหาอะไรกับใครเลย

ส่วนโจวยู่ชุ่ยนั้น ก็ไม่เคยผุดเข้ามาในความคิดของหยางเฉินเลย

“ขอโทษนะคะ ที่ฉันช่วยอะไรคุณไม่ได้เลย”

ฉ่ายจวนพูดด้วยสีหน้าที่รู้สึกผิด

ตอนแรกนึกว่าหยางเฉินมาหาเธอเพราะต้องการให้เธอชดใช้ค่าเสียหาย ไม่นึกเลยว่ามันไม่เพียงไม่ใช่ แต่เขายังรับปากที่จะรับผิดชอบค่ารักษาทั้งหมดของหนันหนันด้วย

เธอรู้สึกซาบซึ้งในตัวหยางเฉินมาก และอยากช่วยเหลือหยางเฉิน แต่กลับช่วยอะไรไม่ได้เลย

หยางเฉินส่ายหน้า แล้วยื่นบัตรให้เธอแผ่นหนึ่ง “พี่สาว นี่คือเบอร์โทรของผม ถ้าคุณนึกถึงเบาะแสอะไรได้ ต้องขอร้องให้คุณช่วยติดต่อผมทันทีด้วยนะครับ!”

ฉ่ายจวนรีบพยักหน้า “คุณหยางไม่ต้องเป็นห่วงค่ะ ถึงจะนึกไม่ได้ ฉันก็จะไปถามเพื่อนของหูฉาวที่เคยคบก่อนตาย ถามดูว่าช่วงหลังๆ มานี้เขาเคยไปติดต่อกับใครจริงๆ รึเปล่า”

“ขอบคุณครับพี่สาว!”

หยางเฉินพูดด้วยความซาบซึ้งใจ จากนั้นก็มองไปยังกวนเจิ้งซาน “ส่วนเรื่องการรักษาของหนันหนัน ก็ต้องรบกวนคุณให้ช่วยติดต่อโรงพยาบาลและหาหมอที่ดีที่สุด รักษาให้เธออย่างเร็วที่สุด!”

หวนเจิ้งซานรีบพยักหน้า “ครับ คุณหยาง!”

“พี่สาว คุณช่วยเอาช่องทางการติดต่อของคุณให้เขา เรื่องการรักษาของหนันหนัน เขาจะเป็นคนจัดการให้เองครับ” หยางเฉินหันไปพูดกับฉ่ายจวนอีกรอบ

ฉ่ายจวนนั้นรู้สึกซาบซึ้งอย่างมาก แล้วจะคุกเข่าลงอีกครั้ง แต่ก็ถูกหยางเฉินห้ามเอาไว้

ระหว่างทางที่กลับไป สีหน้าของหยางเฉินนั้นดูผิดหวัง

เขาเอาแต่คิด ว่าใครกันแน่ ที่อยากจะฆ่าฉินต้าหย่ง?

“คุณหยางครับ มีสิ่งหนึ่ง ผมคิดว่าจำเป็นต้องบอกคุณให้รู้!”

กวนเจิ้งซานลังเลไปพักหนึ่ง ก่อนที่จะพูดออกมาอย่างกะทันหัน

หยางเฉินเลิกคิ้วขึ้น “ผมบอกไปนานแล้ว ว่าอะไรที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ให้รีบบอกผมทันที!”

กวนเจิ้งซานรีบพูดไปว่า “คนของผมสืบทราบมาว่า ผู้หญิงที่ชื่อเจิ้งเหม่ยหลิงของตระกูลเจิ้ง ได้ไปที่บ้านเช่าของพ่อตาคุณ ในว่าที่เกิดเรื่องกับพ่อตาของคุณครับ”

“เจิ้งเหม่ยหลิง!”

หยางเฉินทำหน้าตกใจ

จนถึงตอนนี้ เขาถึงนึกถึงได้ผู้หญิงคนนี้ แต่ว่า ผู้หญิงคนนี้ ไม่น่าจะมีแรงจูงใจที่จะฆ่าฉินต้าหย่งเลย

นอกจากเจิ้งเหม่ยหลิง หยางเฉินยังนึกถึงโจวยู่ชุ่ยอีกด้วย

ตั้งแต่ที่ฉินต้าหย่งเลิกเล่นการพนัน กลับตัวกลับใจอีกครั้ง ก็เอาแต่คิดที่จะหย่ากับโจวยู่ชุ่ยมาโดยตลอด

แต่ไม่รู้ว่าเพราะอะไร จนแล้วจนรอดโจวยู่ชุ่ยก็ไม่ได้หย่า แถมยังกลัวที่จะต้องหย่าด้วย

ฉินต้าหย่งจึงใช้เรื่องการหย่ามาขู่บังคับเธอ โจวยู่ชุ่ยถึงได้ยอมย้ายออกจากยอดเมฆามาพร้อมกับเขา

แล้วในวันก่อนงานมงคลของตระกูลโจวหนึ่งวัน เพื่อปกป้องหยางเฉิน ฉินต้าหย่งก็โมโหต่อหน้าทุกคน เปิดเผยเรื่องที่โจวยู่ชุ่ยนั้นแอบสนับสนุนตระกูลโจวลับหลังเขา

ตอนแรกตระกูลโจวก็ไม่ยอมรับ โจวยู่ชุ่ยก็ไม่ยอมพูด สุดท้ายฉินต้าหย่งจึงใช้เรื่องการหย่ามาข่มขู่ โจวยู่ชุ่ยถึงยอมรับสารภาพ

หยางเฉินรู้สึกมาโดยตลอดว่า ระหว่างโจวยู่ชุ่ยกับฉินต้าหย่งนั้นมีความลับอะไรบางอย่างซ่อนอยู่

ในตอนที่หยางเฉินกำลังคิดอย่างเรื่อยเปื่อยอยู่นั้น จู่ๆ มือถือของเขาก็ดังขึ้น และคนที่โทรมาก็คือฉ่ายจวนที่เพิ่งจากกันเมื่อกี้

หยางเฉินรีบรับสายทันที แล้วก็ได้ยินฉ่ายจวนพูดด้วยสำเนียงที่แบบบ้านเกิดดังขึ้น “คุณหยางคะ จู่ๆ ฉันก็นึกถึงอะไรบางอย่างขึ้นมา ตอนเที่ยงของวันที่เกิดเรื่องกับสามีของฉัน ก่อนที่เขาจะไป มีคนโทรเข้ามาหาเขา และฉันก็ได้ยินเสียงของคนที่โทรมานั้นเป็นเสียงของผู้หญิงค่ะ!”