โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ Ep.431 – ฆ่ายกบ้าน

 

เพียงสิ้นเสียงของฉินเฟิง แสงสีเงินพลันกระพริบไหว ผุดจากอากาศที่ว่างเปล่า ปรากฏออกมาจากคอของคนร่างผอม

 

ต่อมา แสงสีเงินราวกับปากใหญ่ มันค่อยๆอ้าออกจากภายในคอโดยตรง สะบั้นศีรษะผู้ลอบโจมตีทันใด

 

ผู้ใช้วรยุทธโบราณในคราบผ้าขี้ริ้ว หัวเชิดหงาย ร่วงกลิ้งลงกับพื้นทันที

 

เพียงอาศัยพลังสมาธิ ไปหลีก็สามารถส่งคนที่คุกคามเธอไปสู่ความตาย

 

ฉินเฟิงชักสายตากลับมา ตกลงบนร่างผู้ใช้อบิลิตี้ในสภาพกึ่งเป็นถึงตาย

 

“อีก!”

 

อีกฝ่ายฝืนกลืนน้ําลายอย่างยากลําบาก

 

เจ้าตัวไม่คาดคิดเลย ว่าเรื่องราวจะพลิกผันถึงขั้นนี้ ทุกสิ่งเปลี่ยนแปลงในพริบตาเดียว

 

พรรคพวกฝั่งตน ทุกคนตกตายไม่มีหลงเหลือ

 

“ผมจะไม่ฆ่าคุณ” ฉินเฟิงเอ่ยเสียงแผ่วเบา

 

ผู้ใช้อบิลิตี้ราวกับได้ยินเสียงสวรรค์ ผงกหัวหงิกๆด้วยความสิ้นหวัง

 

“อืม … แต่ผมต้องการสถานที่สะอาดๆเพื่อพักผ่อน และมันจะดีที่สุดถ้าเป็นที่ๆไม่ถูกใครเข้ามารบกวน” ฉินเฟิงกล่าว

 

ผู้ใช้อบิลิตี้พยักหน้าอีกครั้ง แต่คราวนี้ในดวงตาของเขาทอประกายเจ้าเล่ห์

 

“ถ้าอย่างนั้นบอสเชิญทางนี้”

 

ผู้ใช้อบิลิตี้กุมหน้าอก และเริ่มเดินนําไปข้างหน้า

 

ฉินเฟิงกับไปหลีเดินตาม คราวนี้พวกเขาออกมายังถนนสายหลัก ผู้ใช้อบิลิตี้เรียกรถศึกล่องเวหาออกมา

 

ฉินเฟิงและไป๋หลีทําตาม และเริ่มขับรถล่องเวหาเข้าสู่ใจกลางเมืองหวัง

 

ฉากทั้งสองฝั่ง ผ่านกระจกไปอย่างรวดเร็ว แต่ระหว่างทาง คุณสามารถมองเห็นถึงสภาพของผู้คนในที่แห่งนี้ได้ มันเลวร้ายมากจริงๆ

 

ปรากฏว่ามีคนธรรมดาอยู่ในเมืองหวังด้วยเช่นกัน แต่ทั้งหมด ล้วนเป็นทาสและโสเภณี หากผู้ หญิงเหล่านี้จู่ๆเกิดท้องขึ้นใน เด็กจากในจํานวน9/10 มิอาจรอดชีวิต ส่วนที่เหลือ กลายเป็นประ ชากรของเมืองหวัง

 

ที่นี่เปี่ยมไปด้วยพลังงานมืด

 

ฉินเพิงหลับตาลง รับรู้ถึงรูนมืดโดยรอบ เร่งรวบรวมพวกมันเข้ามายังจักรวาลแห่งจิตสํานึกอย่างรวดเร็ว

 

นี่นับเป็นกําไรที่คาดไม่ถึงจริงๆ

 

เมื่อมีผู้ใช้อบิลิตี้คอยขับน้อยู่เบื้องหน้า ฉินเฟิงก็สามารถออกจากโซนสลัมได้อย่างรวดเร็วและเริ่มเข้าสู่ใจกลางเมืองหวัง

 

เมื่อมาถึงพื้นที่ส่วนกลาง แม้จะไม่มีแสงจากดวงอาทิตย์ แต่พืชพรรณกลับเจริญงอกงาม ตึกรามไม่ตั้งเบียดเสียดกันอีกต่อไป มีกระทั้งวิลล่าแยกเดียว

 

อย่างไรก็ตาม วิลล่าเหล่านั้นมีเพียงผู้ใช้พลังเลเวล C เท่านั้นถึงจะสามารถครอบครองได้

 

ผู้ใช้อบิลิตี้ขับรถมาจอดอยู่เบื้องหน้าวิลล่าหลังหนึ่ง

 

ใช่ว่าเขาไม่อยากจะเข้าไป แต่เขาไม่สามารถเข้าไปได้ เนื่องจากมีคนมาขวางหน้าประตู

 

ผู้ใช้อบิลิตี้ผ่อนลมหายใจยาว ลงจากรถ และรีบวิ่งไปหลบหลังยามเฝ้าประตู ร้องตะโกนอย่าง บ้าคลั่ง

 

“เร็วเข้า! รีบไปเรียกลูกพี่ออกมา มีไอ้บ้ามาหาเรื่องพวกเรา!”

 

เขาเกิดความปิติยินดีสุดหัวใจ เพราะเมื่อมาถึงที่นี้ ดูเหมือนเขาจะรอดชีวิตแน่ๆ แล้ว

 

ประตูจากทั้งซ้ายและขวาก็เปิดออก ฉินเฟิงกับไปหลลงจากรถ ในเวลาเดียวกัน หน้าทางเข้าวิลล่า ผู้ใช้พลังเลเวล C ได้ก้าวออกมา

 

อีกฝ่ายเมื่อเห็นฉินเฟิงและไปหลี ความละโมบและตัณหากวาบผ่านเข้ามาในแววตาของเขา

 

เมื่อเห็นเลเวล C ออกจากประตู ผู้ใช้อบิลิตี้ก็เร่งเข้าไปประจบทันที

“พี่ใหญ่ตง พี่ใหญ่ตง!”

 

คนที่ถูกเรียกพี่ใหญ่ตง มีชื่อเต็มๆว่า หลุยตง ในเมืองหวัง เขาคือหัวหน้ากองกําลังที่มีอิทธิพลซึ่งสําหรับเมืองหวัง เสียงของเลเวล C เพียงคนเดียว มันเทียบได้กับประชากรนับพัน

 

วิลล่าของหลุยตงตั้งอยู่ขอบนอกสุดในบรรดาผู้ใช้พลังเลเวล C

 

อย่างไรก็ตาม ตราบใดที่เขาคือเลเวล C ย่อมมีสถานะที่ต่างออกไป

 

ผู้ใช้อบิลิตี้มั่นใจสุดแสน ว่าหลุยตงจะสามารถสังหารฉินเฟิงและไป๋หลีได้

 

ข่าวของฉินเฟิงกับไปหลี ล้วนถูกส่งผ่านมายังพวกระดับสูงแล้ว ทางหลุยตงเองก็ได้รับเช่นกัน!

 

แต่การจะหาใครสักคนในเมืองหวังนั้นเป็นเรื่องยาก เนื่องจากสัญญาณในเมืองไม่ค่อยดี ไหนจะไม่ติดตั้งอุปกรณ์โดรนเฝ้าระวังเอาไว้อีก แต่จริงๆแล้วนั่นเพราะพวกเขาไม่จําเป็นต้องใช้วิ ธีการเหล่านี้เพื่อลดอัตราการเกิดอาชญากรรมแต่อย่างใด

 

เพราะทุกคนที่นี้ ใครๆก็ก่ออาชญากรรมกันทั้งนั้น ไม่มีใครที่ไม่ลงมือหรอก

 

สังหารผู้คน แล้วช่วงชิงสมบัติไป , ต่อสู้ด้วยกําลังทั้งหมดที่นี่ มีหลากสิ่งหลายอย่างมากมายที่คนในเมืองนี้ทํา!

 

และหลุยต่งไม่คาดคิดเลย ว่าแกะอ้วนทั้งสองตัว จะวิ่งมาเคาะประตูหน้าบ้านเขาอย่าง กะทันหัน

 

“จู่ๆก็มีพายเนื้อหล่นลงมาจากฟ้า หวานปากล่ะทีนี้”

หลุยตงเหลือบมองฉินเฟิง แต่แล้วก็ถูกสะกดสายตาด้วยร่างของไปหลี เห็นได้ชัดว่า รูปลักษณ์ของไปหลีทําให้เขาตะลึงลาน

 

“ฮ่าฮ่าฮ่า ฆ่าไอ้เด็กนั้น ปล่อยผู้หญิงเอาไว้ บิดาไม่เคยครอบครองหญิงงามขนาดนี้มาก่อนเลย!”

 

เพียงปริปาก ผู้ใช้พลังเลเวล D รอบกายเขาก็พุ่งทะยานออกไป

 

ผู้ใช้อบิลิตี้ตกใจมาก “พี่ใหญ่ตง ไม่นะ ต้องเป็นพี่ที่ออกไป…”

 

ช่างน่าเสียดาย ที่เสียงของผู้ใช้อบิลิตี้ กลับถูกกลบจมลงภายใต้เสียงความผันผวนของการต่อสู้ ผู้ใช้พลังคนอื่นๆเริ่มลงมือแล้ว!

 

“ตาย!”

 

ลูกน้องหลุยตงไม่ได้มีจํานวนมากมายอะไร มากสุดแค่ 20 คน แต่หายไปกว่าครึ่งแล้วจากการลอบโจมตีเมื่อครู่ เมื่อเจ้านายกําลังเฝ้าดู เลยเป็นธรรมดาที่ทุกคนอยากจะแสดงฝีมือ

 

ฉินเฟิงเป็นแค่เลเวล D ดังนั้นทุกคนจึงคิดว่าการสังหารฉินเพิง เป็นเพียงเรื่องง่ายดาย

 

เพื่อต้อนรับศัตรูตรงหน้า ฉินเฟิงก็ไม่คิดออมมือเช่นกัน

 

ปงงงง!

 

สองหมัดจากสองฟากฝั่งประสานกัน กําลังภายในของฉินเฟิงพัดกระพือดั่งพายุเฮอริเคน

 

ศัตรูที่ประสานหมัดกับฉินเพิง ถูกบดขยี้โดยกําลังภายในทันที ปราณกําลังภายในของเขาแหลกสลาย กระเด็นกลับหัวกลับหาง

 

อีกสองผู้ใช้วรยุทธโบราณก้าวสะอึกปาดซ้ายปาดขวา ปิดล้อมฉินเฟิงจากสองทิศทาง

 

“มังกรตะปบ!”

สองมือฉินเฟิงกางออก กําลังภายก่อร่างเป็นกรงเล็บมังกร เบื้องบนปรากฏเสียงมังกรคํารามส่งทั้งสองปลิวลงไปม้วนกลิ้งกับพื้นทันที

 

เพลง เพล้ง!

 

ปราณกําลังภายในของผู้ใช้วรยุทธโบราณเลเวล D ทั้งสองแตกเป็นเสี่ยงๆทันที

 

ยังไม่พอ มังกรตะปบยังทําร้ายพวกเขาจนเลือดทะลักจากปาก

 

พรวดดด!

 

ฉินเฟิงวาดมือ ปลดปล่อยกําลังภายในออกมา

 

“ทักษะลับกลืนดารา!”

 

เพียงพริบตา ร่างของทั้งสองพลันลอยขึ้นจากพื้นดิน ฉินเฟิงกดฝ่ามือลงตรงหน้า ท้องของทั้งสอง เกิดกระบวนการพลังภายในไหลย้อนกลับ

 

ทั้งสองสั่นสะท้านไปทั้งกาย มวลน้ํากําลังภายในทั้งหมดโดนดูดออกไป วรยุทธทั้งหมดเสียหายพังพินาศ

 

เมื่อหมดประโยชน์ ฉินเฟิงกดมือลงเบาๆ อวัยวะภายในของทั้งสองถูกทําลายทันที ร่วงตกลงกับพื้นกลิ้งหายไปราวกับฝุ่นอันบางเบา

 

อีกจุดหนึ่ง สี่ผู้ใช้พลังนั่งค้างจะตะลึงงัน

 

ทางหลุยตงเองก็เหมือนจะนึกไม่ถึงเช่นกัน

 

“ไอ้เด็กปีศาจ!”

 

ไม่คิดเลย ว่าลูกน้อง 2 คนจะถูกฉินเฟิงสังหารในพริบตาเดียว

 

ต้องรู้นะว่า คืนนี้กําลังจะมีงาน “ประลองเทียนไต้” ของเมืองหวัง และลูกน้องเหล่านี้ จําเป็นต้องออกไปกางเขี้ยวเล็บ ต่อสู้ให้แก่เขา

 

แต่ตอนนี้ กลับตายลงถึงสองคน นั่นหมายความว่ากําลังรบของหลุยตงย่อมอ่อนแอลงเป็นธรรมดา

 

เพราะไอ้เด็กขนยังไม่ขึ้นเพียงคนเดียว!

 

ดังนั้นหลุยตงเลยต้องลงมือด้วยตัวเอง!

 

ด้สนการระเบิดโจมตีเพียงครั้งเดียว ก็ทําให้สามารถมองเห็นถึงความแข็งแกร่งของหลุยตงได้ในทันที

 

เป็นเลเวล C1

 

แม้จะไม่แกร่งเทียบเท่ากับเล่ยหยิง ทว่าก็มิได้อ่อนแอ แต่เมื่อเทียบกับฉินเฟิง มันคนละชั้น

 

อย่างไรก็ตามสไตล์การต่อสู้ของหลุยตง มุ่งเน้นไปทางลอบฆ่าสังหาร

 

เขาลงมือโหดร้ายอย่างไม่น่าเชื่อ ปะทุกําลังภายในทั้งหมด โจมตีเข้าใส่ฉินเฟิงในคราวเดียว

 

ปราณกําลังภายในของฉินเฟิงแน่นอนสามารถป้องกันหลุยตงได้ แต่เขาอยากเห็นการโจมตีขอ งอีกฝ่าย จึงยื่นมือออกไป

 

ในพริบตาบนกําปั้นของหลุยตง สะท้อนวาบไปด้วยแสงสีดําทันใด

 

เป็นเข็มเงิน!

 

มันคืออุปกรณ์รูนธาตุมืด!!

 

ตลอดทั้งเข็มเป็นสีดําสนิท มันทะลวงกําลังภายในของฉินเฟิงได้ในทันที

 

อบิลิตี้มืดเป็นอํานาจที่แปลกประหลาดอยู่เสมอ อุปกรณ์รุนธาตุมีดชิ้นนี้ เป็นสิ่งที่หลุยตุงมักจะใช้อยู่บ่อยครั้ง ฉินเฟิงรู้จักหลุยตงมาก่อนแล้วอยู่บ้าง แต่เขาไม่คาดคิดว่าอีกฝ่ายจะใช้วิธีนี้ทันที

 

และเมื่อไม่ทันคิด มันเลยเป็นไปไม่ได้ที่จะหลบเลี่ยง

 

แต่ฉินเฟิงจําเป็นต้องหลบซะที่ไหน!

 

เข็มเงินธาตุมืดเจาะเข้าตรงไหล่ของฉินเฟิง ทันใดนั้นหมอกสีดําพลันระเบิดออกมา

หลุยตงหัวเราะอย่างมีชัย

 

“แกนะ ได้ตายไปแล้ว!”

 

ด้วยเข็มเงินนี้ หลุยตงไม่เคยพ่ายแพ้ผู้ใด เมืองัดมันออกมา ทุกอย่างย่อมเป็นไปอย่างราบรื่นเสมอๆ

 

ทว่าแม้จะโดนเข็มเงินปักเข้าใส่ แต่ท่าทีของฉินเฟิงกับต่างออกไปจากคนอื่นๆที่แล้วๆมา 

 

ปรากฏว่าฉินเฟิงไม่สนใจเข็มเงินเลย ตรงกันข้าม ในมือของเขา ปรากฏอาวุธผุดขึ้นมาเช่นกัน

 

ใบของมันยาวเกินกว่าจะเรียกว่ามีด ทั้งยังลุกไหม้ไปด้วยเพลิงฟ้า

 

เป็นมีดกษัตริย์คราม

 

วูซซซ!