ตอนที่ 428

The Divine Nine Dragon Cauldron

กระบี่สายฟ้าอยู่ในคันฉ่องจักรวาล เพียงแค่ประสงค์เดียวมันก็ออกมาทำลายสามคนตรงหน้าได้

 

คำพูดอันอวดดีของซือหยูทำให้ทั้งสามแอบตกตะลึง บรรยากาศตึงเครียด แววตาของหลงจื้อซินเต็มไปด้วยจิตสังหาร

 

จ้าวอู๋จี๋เหลือบมองและยกมือขึ้น

 

“เจ้าพันธมิตร ข้าว่า…เราควรไตร่ตรองดูอีกครั้งเถอะ ถ้าเราลงมือจริงๆ นั่นจะไม่เป็นการสังหารคนเพื่อชิงสมบัติหรอกรึ? นี่มันขัดหลักการพวกเรา”

 

ฉิวหนิงชุ่ยที่เงียบมาโดยตลอดยืนขึ้นช้าๆและถอนหายใจ

 

“ข้าว่าเราควรหยุดแต่เพียงเท่านี้ ข้าไม่ยอมใช้กลเช่นนี้เพื่อชิงสมบัติของคนอื่นแน่ ไม่ว่าเราจะมีเหตุอันเป็นธรรมเพียงใด สุดท้ายนั่นก็เป็นสิ่งที่พวกโจรเท่านั้นที่จะทำ”

 

หลงจื้อซินตกใจเล็กน้อย ทั้งสองกำลังปกป้องซือหยู! ใบหน้าดุร้ายของเขาเปลี่ยนไป เขาถอนหายใจแรง

 

“เช่นนั้นก็ช่างเรื่องนี้ไป ข้าจะถามเจ้าเรื่องสุดท้าย ราชาปีศาจหิมะทมิฬ เจ้าเห็นลูกชายข้าหรือไม่? เขาหายตัวไปเพื่อตามหาเจ้า”

 

ซือหยูพูดอย่างไร้อารมณ์

 

“ข้าเอาแต่หนีเอาชีวิตรอดตอนที่เจออสุราและไม่ได้เจอกับลูกเจ้า มีอะไรจะถามอีกหรือไม่?”

 

หลงจื้อซินสีหน้าเยือกเย็น

 

“เจ้าพูดจริงรึ?”

 

ซือหยูหัวเราะเบาๆ

 

“ข้าพูดไปแล้ว เจ้าจะเชื่อข้าหรือไม่ก็ตามใจเจ้า”

 

จ้าวอู๋จี๋เห็นว่าทั้งสองกำลังจะระเบิดความขัดแย้งใส่กันและพูดแทรก

 

“เจ้าพันธมิตร เฟยหยูเป็นเด็กที่ระวังตัว เขาอาจจะซ่อนอยู่ที่ไหนสักแห่งในก้นบึ้งมังกรและรอโอกาสอยู่ ข้าจัดคนไปพบเขาที่เกาะก้นบึ้งมังกรแล้ว ถ้ามีข่าวเรื่องเฟยหยู เราจะรับรู้ได้ในทันที ท่านไม่ต้องกังวลไปนัก”

 

หลงจื้อซินสีหน้าผ่อนคลายลง เขาจ้องมองซือหยูก่อนจะจากไป

 

จากนั้นจ้าวอู๋จี๋ก็ยิ้มให้กับซือหยู

 

“หึหึ จ้าวคณะฉิวกับข้าช่วยเจ้าขนาดนี้เชียวนะ”

 

ซือหยูจะไม่รู้ได้อย่างไรว่าทั้งสองปกป้องเขา? หากไม่มีทั้งสอง หลงจื้อซินก็คงจะลงมือกับเขาไปแล้ว

 

ซือหยูประสานมือขอบคุณ

 

“ขอบคุณท่านทั้งสอง ข้าดีใจยิ่งนัก”

 

จ้าวอู๋จี๋โบกมือและหัวเราะ

 

“เจ้าไม่ต้องขอบคุณพวกข้าหรอก จะอย่างไรพวกข้าก็ไม่เห็นด้วยกับท่านหลงอยู่แล้ว การช่วยเจ้านั้นเป็นเรื่องสามัญที่ต้องทำ พวกข้าต่างหากที่ต้องเป็นฝ่ายขอบคุณเจ้า”

 

ซือหยูสับสน

 

“เจ้าอาจจะยังไม่รู้ว่าข้าเกิดในพันธมิตรร้อยดินแดน จ้าวคณะฉิวก็มาจากคณะวิหคเพลิง…”

 

“เรามิอาจเข้าไปแทรกแทรงการเปลี่ยนแปลงของทวีปได้เพราะตำแหน่งหน้าที่ การทำลายพันธมิตรอุดรทวีปของเจ้าเป็นการสั่งสอนพวกมันแทนเรา เจ้าใช้พลังตัวเองเพียงคนเดียวสังหารยอดฝีมือไปมากมาย นั่นไม่ใช่ความสำเร็จเล็กๆน้อยๆ ฉายายอดฝีมือที่แกร่งที่สุดในทวีปคงต้องเป็นของเจ้า”

 

ซือหยูคิดย้อนกลับไป จ้าววิหคเพลิงบอกว่ามียอดฝีมือมากมายในทวีปที่อยู่ในพันธมิตรผู้คุมสวรรค์

 

“จะยกยอข้าเกินไปหน่อยแล้ว…”

 

ซือหยูตอบอย่างนอบน้อม

 

“ข้าก็แค่หุนหันและโชคดีที่ไม่ตาย”

 

ฉิวหนิงชุ่ยมองซือหยู

 

“เจ้าไม่ต้องเกรงใจหรอก เจ้าสมควรจะถูกเรียกว่ายอดฝีมือที่แกร่งที่สุดในทวีปเหนือแล้ว”

 

นางค่อยๆยืนขึ้นและหยิบเอาขวดโอสถออกมาจากตัว

 

“ข้าได้ยินว่าเจ้าช่วยเซี่ยนเอ๋อในก้นบึ้งมังกร ให้โอสถขวดนี้แทนการตอบแทนจากเซี่ยนเอ๋อเถอะ”

 

จ้าวอู๋จี๋มองโอสถด้วยความตกใจเล็กน้อย เขาหัวเราะ

 

“จ้าวคณะฉิวชอบเจ้าน่าดู นี่คือโอสถที่นางปรุงด้วยตัวเอง เม็ดหยาดจันทราเยือกแข็งจะช่วยฟื้นฟูพลังวิญญาณของเจ้าได้ แม้แต่พวกผู้อาวุโสก็ร้องขอโอสถนี้ โชคดีจริงๆนะเจ้าหนู”

 

โอสถที่ฟื้นฟูพลังวิญญาณนั้นยาหากโดยแท้จริง! ซือหยูรับเอาไว้ด้วยความขอบคุณ การฟื้นฟูพลังวิญญาณขณะต่อสู้นั้นจะทำให้เขาได้เปรียบ

 

ฉิวหนิงชุ่ยพยักหน้าเบาๆ

 

“ถ้าเจ้าไม่มีสิ่งอื่นใดแล้วก็อยู่พักที่พันธมิตรผู้คุมสวรรค์เถอะ ที่นี่มีพลังวิญญาณเข้มข้นกว่าโลกภายนอกมากมายนัก เหมาะที่เจ้าจะได้บ่มเพาะพลัง”

 

ซือหยูเลิกคิ้ว

 

“ข้ายินดีเป็นอย่างยิ่ง แต่ข้ามีเรื่องสำคัญที่ใกล้เข้ามา ไม่ดีนักถ้าข้าจะไปไกลเกินไป และเจ้าพันธมิตรหลงก็มีอคติต่อข้า ข้าไม่คิดว่าจะอยู่ที่นี่นานนักหรอก”

 

ทั้งสองคิดอยู่ครู่หนึ่งและไม่พูดอะไร

 

“ถ้าเช่นนั้นเจ้าก็ดูแลตัวเองด้วย”

 

เมื่อพูดจบ ทั้งสองหันหลังเตรียมจะเดินออกไป

 

“ผู้อาวุโสฉิวโปรดรอเดี๋ยว!”

 

ซือหยูหยุดฉิวหนิงชุ่ย

 

“ข้ามีอีกเรื่องที่จะขอท่าน”

 

จ้าวอู๋จี๋ประหลาดใจเล็กน้อยแต่ก็เดินออกไป

 

“มีอะไรรึ?”

 

ฉิวหนิงชุ่ยหันกลับมาถาม

 

ซือหยูหยิบเขาแห่งความตายและหยดหมื่นพลห้าหยดออกมาส่งให้นางพร้อมกัน

 

“นี่มัน…”

 

สายตาของฉิวหนิงชุ่ยราวกับพยายามจะทำความเข้าใจซือหยู

 

“ให้มันกับเซี่ยนเอ๋อ…”

 

“ไม่มีสิ่งใดจะเหมาะสมกับนางเท่าสิ่งนี้อีกแล้ว ข้าหวังว่าท่านจะมอบมันให้กับเซี่ยนเอ๋อได้”

 

ฉิวหนิงชุ่ยมองซือหยูอย่างลึกซึ้ง แววตานางสลับซับซ้อน

 

“จะบอกข้าได้หรือไม่ว่าเจ้าเป็นใครกันแน่?”

 

บุรุษผู้นี้มิได้เพียงปกป้องฉินเซี่ยนเอ๋อเท่านั้น นี่เป็นสมบัติเทพระดับสูงที่ทำให้ต่อกรได้แม้กระทั่งกึ่งเทพ แต่เขาก็เต็มใจที่จะให้มันกับฉินเซี่ยนเอ๋อโดยไม่หวังสิ่งตอบแทน

 

ซือหยูพูดอย่างหนักแน่น

 

“ไม่สำคัญว่าข้าจะเป็นใคร สิ่งสำคัญคือท่านจะต้องมอบมันให้นางเมื่อถึงเวลา”

 

“เจ้าไม่กลัวว่าข้าจะเก็บมันเอาไว้เองรึ?”

 

ฉิวหนิงชุ่ยถามกลับ

 

“ถ้าท่านสนใจสมบัติเทพชิ้นนี้ ท่านก็คงจะไม่หยุดหลงจื้อซิน”

 

ซือหยูวางของทั้งสองลงบนโต๊ะและประสานมือทำความเคารพ

 

“ได้โปรด ผู้อาวุโส”

 

เขาพูดจบและเตรียมจะเดินจากไป

 

“เดี๋ยวสิ…”

 

ฉิวหนิงชุ่ยมองเขาแห่งความตายและลังเลอยู่ครู่หนึ่ง สุดท้ายก็ถอนหายใจ

 

“ย่อมได้! ข้าจะให้มันกับเซี่ยนเอ๋อ! เจ้าต้องการโอสถก้นบึ้งมังกรใช่หรือไม่? ข้าค่อนข้างฝีมือดีในการปรุงยา ถ้าเจ้าเชื่อใจข้าก็ส่งผลก้นบึ้งมังกรให้ข้าแล้วกลับมาเอาโอสถในอีกครึ่งเดือน”

 

ซือหยูดีใจอย่างมากเมื่อได้ยินนางพูดเช่นนี้! แม้แต่จ้าวอู๋จี๋ก็ต้องได้โอสถของนาง เห็นได้ชัดว่าวิชาการปรุงงยาของนางนั้นเหนือว่าคนทั่วไป! ซือหยูไม่คิดให้มากความและส่งผลก้นบึ้งมังกรให้กับนาง

 

“แล้วก็ ให้ข้าดูดวงตาของเจ้าหน่อย”

 

ฉิวหนิงชุ่ยเดินไปหาและยื่นสองดัชนีแตะที่หน้าผากของซือหยู

 

พลังความเย็นไหลเข้าสู่ดวงตาของซือหยู ดวงตาของเขากลับมาเป็นปกติอยู่ไม่นานแล้วก็เริ่มกลับมาอยู่ในความมืดมิด! แต่สุดท้าย แสงสว่างนั้นก็หายไปอย่างรวดเร็ว

 

ฉิวหนิงชุ่ยสีหน้าเคร่งเครียด

 

“ดวงตาเจ้าบาดเจ็บรุนแรงเช่นนี้ได้ยังไงกัน? แผลนี้มีพลังสวรรค์พิโรธอยู่ด้วย ข้าไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย!”

 

ฉิวหนิงชุ่ยก้มหน้าและไม่พูดอะไร นางเงียบกริบ นางเขียนบันทึกที่มีชื่อนางวัตถุดิบประหลาดมากมาย

 

“การเสียการมองเห็นเพราะสวรรค์พิโรธนั้นแตกต่างกับการตาบอดทั่วไปอย่างมาก โอสถธรรมดาช่วยเจ้าไม่ได้ แม้แต่ข้าก็ทำอะไรไมได้”

 

ซือหยูผิดหวังอยู่บ้าง แต่เขาก็ไม่มีหวังมากอยู่แล้วตั้งแต่แรก แม้แต่จางตี๋เก้อที่อยู่ในขอบเขตภูติก็ช่วยเขาไม่ได้ ไม่ต้องพูดถึงฉิวหนิงชุ่ยเลย

 

“แต่…”

 

น้ำเสียงของนางเปลี่ยนไป

 

“ครั้งหนึ่งข้าเคยได้อ่านสิ่งที่เรียกว่าเนตรเงินล้างอสูรในตำราโบราณ ว่ากันว่าเนตรนั่นจะต่อสู้กับพลังสวรรค์พิโรธได้ ถ้าเจ้าบ่มเพาะเนตรเทพเช่นนั้นได้ ข้าก็คิดว่าเจ้าจะใช้มันต่อสู้กับพลังสวรรค์พิโรธและสลายพลังในดวงตาของเจ้าออกไปและกลับมามองเห็นได้อีกครั้ง!”

 

“เนตรเงินล้างอสูรรึ?”

 

“ข้าจะเอามันมาได้ยังไง?”

 

ฉิวหนิงชุ่ยพูดเบาๆ

 

“ไม่ยากที่จะได้เนตรนั้น ตราบเท่าที่เจ้ามีพื้นฐานวิชาดวงตา ดวงตาเจ้าก็จะมีเนตรเงินล้างอสูร ข้ามีวิธีทำให้ดวงตาของเจ้าเป็นเนตรเงินล้างอสูร แต่สิ่งที่ยากโดยแท้จริงคือการหาวัตถุดิบ! มีวัตถุดิบหลักสามชนิด นั่นคือมุกเงินเลี่ยงอัสนี สมุนไพรบาดาลอมตะ และสุดท้าย โลหิตมังกรของจริง!”