ในช่วงเวลาไม่กี่วันหลังการเดินทางของอู่โม่ หลินฮวงก็รู้สึกได้ว่าเจตจำนงโลกกรวดกำลังอ่อนแอลง
ทุกวัน เขานั่งบนเก้าอี้ตรงหน้าเต็นท์ ดูเหมือนจะหลับตาทำสมาธิตลอดเวลา แต่ในความเป็นจริง เขากำลังลอบบ่มเพาะไร้รอยต่อเพื่อเสริมพลังจิตเขา
ด้ายพลังจิตเขาเพิ่มขึ้นประมาณ 4800 เส้นทุกวัน จำนวนด้ายพลังจิตรวมเขาเพิ่มจากสองแสนเป็น230000แล้ว
หลินฮวงรู้ว่าสงครามของจริงกำลังจะเริ่มขึ้น!
มันเป็นวันนี้ที่คนคุ้นหน้าของหลินฮวงได้มายังขอบเหวนรก
เมื่อเห็นคนคนนี้ปรากฏตรงหน้าเขา หลินฮวงก็ลังเลไปชั่วขณะ
ตรงกันข้าม คุณฟู่กลับร้องอุทานหลังตกตะลึงไปสักพัก
“โม่ขุ่ย?!”
ชายคนนั้นพยักหน้าให้คุณฟู่”ข้าคือหลินซวน โม่ขุ่ยคือชื่อของร่างหลักข้า และข้าก็เป็นแค่ร่างโคลนของเขา”
“เสี่ยวซวน มันเป็นเจ้าจริงๆ?!”ตอนนี้หลินฮวงถึงกล้าเรียกชื่อเขาเต็ฒปาก
เหตุผลที่หลินฮวงไม่แน่ใจถึงตัวตนของผู้มาใหม่เพราะหลินซวนนั้นดูเหมือนคนอายุ 25-26 ปี แถมระดับพลังเขาก็ยังเทพเสมือนขั้น9แล้ว
เมื่อหลินฮวงพบหลินซวนตอนแรก เขาเป็นแค่เด็กอายุ 10 ขวบ ภายใต้สถานการณ์ปกติ ปัจจุบันเขาควรเป็นแค่เด็กหนุ่มอายุ 13หรือ14
แต่ตอนนี้ หลินซวนกลับดูโตยิ่งกว่าเขาซะอีก
“มันเป็นข้าเอง..”หลินซวนหันมามองหลินฮวงด้วยสายตาซับซ้อน เขาไม่รู้ว่าจะเรียกหลินฮวงว่าอย่างไรอีก
“เจ้าโตขึ้นมาก ดูโตเสียยิ่งกว่าข้าซะอีก”หลินฮวงยิ้มและตบไหล่หลินซวน
“ข้าปรับอัตราการเติบโตข้าเล็กน้อย ดังนั้นร่างกายข้าจึงเป็นของคนอายุ 25 ปีแล้ว”หลินซวนอธิบาย
“นั่งลงก่อนสิ”หลินฮวงนำเก้าอี้อีกตัวออกมาให้หลินซวน ลากเขามานั่งตรงหน้าเต็นท์
จริงๆเขาอยากนำหลินซวนเข้าวังจักรพรรดิไปเพื่อคุย แต่การรุกรานสามารถเริ่มได้ทุกเมื่อ ดังนั้น เขาจึงจำต้องนั่งคุยกันนอกเต็นท์เพื่อให้สามารถจับตาดูการเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา
“แล้วเจ้าไปที่ไหนมาตลอดสามสี่ปี”
“ข้าใช้เวลาส่วนใหญ่ในดินแดนต้นกำเนิด ตามหาอดีตข้าและฟื้นคืนความทรงจำ”
“แล้วเจ้ารู้เรื่องทั้งหมดหรือยัง?”
“รู้แล้ว ข้าได้ทำการสืบสวนเรื่องนี้อย่างละเอียด”หลินซวนพยักหน้าเล็กน้อย จากนั้นก็ลดหัวก้มมองพื้น”ผลลัพธ์คือข้าเป็นแค่ร่างโคลนที่ไม่ได้เกิดขึ้นตามธรรมชาติ”
“เสี่ยวซวน มันไม่สำคัญว่าเจ้ามาจากไหน สิ่งสำคัญคือโม่ขุ่ยนั้นก็คือโม่ขุ่ย และเจ้าก็คือเจ้า เจ้ามีความคิดเป็นอิสระ และก็มีประสบการณ์กับมุมมองที่แตกต่าง เจ้าสามารถใช้ชีวิตได้ตามใจชอบ เจ้าอาจมาจากโม่ขุ่ย แต่เจ้าไม่ใช่เขา และเจ้าก็ไม่ใช่ตัวแทนของเขา อย่าใช้ชีวิตภายใต้เงาเขา…”หลินฮวงปลอบเสี่ยวซวน
หลังเรียนรู้ถึงสถานการณ์ของโม่ขุ่ยจากคุณฟู่ เขาก็ได้คาดเดาผลลัพธ์นี้ไว้แล้ว
“ท่านไม่ต้องปลอบข้าหรอก ข้าได้ยอมรับมันไปแล้ว”หลินซวนมองหลินฮวง”เมื่อข้าพบเรื่องนี้ มันก็ยากที่จะทำใจยอมรับ ข้าปล่อยให้ตัวข้าจมปลักอยู่อย่างนั้นหลายปี ตอนนี้ แม้ข้าจะไม่สามารถปล่อยวางได้อย่างสมบูรณ์ ข้าก็ดีขึ้นมากแล้ว”
“งั้นก็ดีแล้ว”หลินฮวงไม่พูดมาก
“ข้าได้ยินว่า…ท่านไปมหาพิภพมา มันเป็นอย่างไรบ้าง?”หลินซวนอดถามไม่ได้
ในอดีต เขาลอบติดตามการเคลื่อนไหวของหลินฮวงกับหลินซินตลอด หลังหลินฮวงไปมหาพิภพ เขาก็ลอบไปเมืองจักรพรรดิ ค่อยจากมาหลังมั่นใจว่าหลินซินอยู่อย่างปลอดภัย
“ปีหนึ่งของข้าในมหาพิภพเต็มไปด้วยประสบการณ์มากมาย เวลาส่วนใหญ่ของข้าใช้ไปกับการบ่มเพาะและเพิ่มพลังข้า”
“ที่นั่นมียอดฝีมือมากแค่ไหน?”หลินซวนถามอีกครั้ง
“มากมหาศาล ในมหาพิภพ เทพเสมือนก็แค่จุดเริ่มต้นของการบ่มเพาะ หลังจากนั้น ยังมีเทพแท้จริง เทพสวรรค์และแม้กระทั่งจ้าวเทวะ”
“งั้น ระดับพลังของพวกที่รุกรานโลกเราละ?่ท่านรู้หรือยัง?”
“ข้าไม่ได้ข้อมูลที่เกี่ยวข้องอะไรตอนข้าอยู่ในมหาพิภพ แต่ทว่า ผ่านการทดสอบในช่วงเวลานี้ ข้าพอจะประมาณได้ว่าคู่ต่อสู้เราาควรเป็นองค์กรชั้น 4 กล่าวอีกนัยหนึ่ง ผู้นำของพวกมันต้องเป็นเทพแท้จริงขั้น 9หรือไม่ก็แกร่งกว่านั้น”
“กฏของโลกเราไม่สมบูรณ์ การมาของเทพสวรรค์จะทำให้โลกพังพินาศ ดังนั้นพวกมันจึงส่งมาได้มากสุดแค่เทพแท้จริงขั้น9”หลินซวนแสดงความคิดเห็น จากนั้นก็พูดต่อ”ข้าควรสามารถจัดการกับเทพแท้จริงขั้น 3 ได้ แต่ข้าไม่คิดว่าข้าจะรับมือกับพวกที่แข็งแกร่งกว่านั้นได้ หากเป็นเช่นนั้น เมื่อเทพแท้จริงขั้นกลางกับสูงมาถึง….”
“ไม่ต้องห่วง ข้ามีแผนรับมือ”ทันทีที่หลินฮวงกล่าวแบบนั้น หลินซวนก็จ้องเขา
ถึงแม้เขาจะไม่ถาม แต่มันก็เขียนชัดบนหน้าเขา
“เลิกพูดเรื่องนี้กันเถอะ พี่…หลินซินเป็นอย่างไรบ้าง?”หลินซวนเกือบหลุดคำว่า’พี่สาวซิน’ออกมาด้วยความเคยชิน
“ข้าปิดประตูบ่มเพาะไปไม่นานหลังกลับมาโลกกรวด นางเองก็ปิดประตูบ่มเพาะไม่นานหลังข้าทำ และยังไม่ออกมาเลย”
“เทพเสมือนทั้งหมดของขัตติยะถูกส่งมา แล้วในเมืองจักรพรรดิจะยังปลอดภัยหรือ?”หลินซวนถามอีกครั้ง
“ไม่ต้องห่วง ข้าทิ้งคนคุ้มกันไว้กับนาง”หลินฮวงลอบคิดในใจ’งั้นเจ้าก็ยังคิดถึงเราอยู่ เจ้ายังกังวลถึงความปลอดภัยของหลินซิน’
“โอ้ ดีแล้ว”จากนั้นหลินซวนถึงโล่งใจ เขาเร่งมาขอบเหวนรกทันทีหลังจัดการธุระเสร็จโดยไม่หยุดแวะเมืองจักรพรรดิ ดังนั้นเขาจึงอดสงสัยไม่ได้หลังไม่เห็นหลินซินอยู่ข้างหลินฮวง
ขณะที่ทั้งสองกำลังคุยกัน อู่โม่ก็กลับมา
นางดูมีชีวิตชีวากว่าเดิม ดูเหมือนว่านางจะปรับตัวเข้ากับร่างใหม่ได้แล้ว
“ที่เกาะลอยฟ้าเป็นอย่างไรบ้างที่สาวโมโม่”หลินฮวงถาม
“มันยุ่งมาก ข้าต้องใช้เวลาหลายวันเพื่อจัดการ หากมันไม่ใช่ว่าสงครามกำลังจะเริ่ม ข้าคงสอนบทเรียนให้เจ้าพวกโง่นั่นไปแล้ว!”อู่โม่โกรธ จากนั้นก็สังเกตเห็นหลินซวน”แล้วพ่อรูปหล่อคนนี้เป็นใคร?”
“หลินซวน”หลินฮวงแนะนำ จากนั้นก็กล่าวเสริม”น้องชายข้าเอง”
หลินซวนเหลือบมองหลินฮวงหลังได้ยิน เขาไม่ได้ปฏิเสธคำพูดของหลินฮวง แต่แค่ยิ้มและพยักหน้าให้อู่โม่
“น้องชายเจ้า?ทำไมเขาถึงดูโตกว่าเจ้าละ?”อู่โม่ถามตรงๆ
“เขาแค่โต้เร็วกว่าข้าก็เท่านั้น”หลินฮวงสวนกลับ จากนั้นก็เปลี่ยนเรื่อง”สงครามกำลังจะเริ่มแล้ว ท่านเข้ากับร่างใหม่ได้หรือยัง?”
“ความเข้ากันได้เพิ่มเป็น 93%แล้ว”อู่โม่ตอบด้วยรอยยิ้ม เห็นได้ชัดว่านางพอใจกับร่างใหม่มาก”ที่นี่เป็นอย่างไรบ้าง?”
“ยังไม่มีใครถูกส่งมาเลยตั้งแต่ที่ท่านไป”
“นั่นถือเป็นข่าวดี มันหมายความว่าวกเจ้าทำให้พวกมันเสียหายครั้งใหญ่ตอนทดสอบ”อู่โม่เลิกคิ้ว
“ข้าเองก็คิดแบบนั้น”หลินฮวงพยักหน้าเห็นด้วย
หลังคุยกันไม่กี่คำ ความผันปวนมิติรอบใหม่ก็พลันส่งมาจากอุโมงค์มิติที่นิ่งเงียบมาหลายวัน…
ทุกคนในขอบเหวนรกหยุดสิ่งที่พวกเขากำลังทำทันทีและมองอุโมงค์มิติ
ทุกคนรู้ว่าสงครามกำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว!