ตอนที่ 457 ห้องสุสานหลัก
ในแดนยุทธ์อ้างว้าง สัตว์ที่แข็งแกร่งก็จะอยู่ระดับราวมังกรหรือ
ราชสีห์สวรรค์ อย่างมาก พวกนั้นก็จัดได้อยู่ระดับจักรพรรดิยุทธ์
ขณะที่สัตว์ซึ่งพิทักษ์สุสานหลัก พวกมันแค่ระดับเดียวกับราชันภูตผี
ดังนั้นอู่หมิงซวีจึงพบว่าการจัดการพวกมันหาได้ใช่เรื่องยากอันใดไม่
แน่นอน ว่าสัตว์ซึ่งรับหน้าที่คุ้มกันสถานที่แห่งนี้ย่อมไม่ใช่ง่ายรับมือ
กระทั่งว่าสังหารพวกมันไปแล้ว ก็ยังถือเป็ นเรื่องยากจัดการต่อ
ยกตัวอย่าง หลังตายแล้ว จระเข้ยักษ์ติดพิษจะปลดปล่อยพิษที่รุนแรง
ยิ่งขึ้นออกมา
ฉินหยุนและคณะตามหลังอู่หมิงซวีอย่างระมัดระวัง พวกเขาขณะนี้
รักษาระยะห่างจากอู่หมิงซวี โดยระยะห่างเป็นอู่หมิงซวีบอกต่อ
พวกเขา
อู่หมิงซวีแข็งแกร่ง เขาสามารถรับมือกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่าง
ฉับพลันได้ ดังนั้นด้วยเขาออกนําหน้า การเดินทางจึงปลอดภัย
มู่เฟิ งกล่าว “เป็ นเรื่องดีที่มีผู้อาวุโสอู่ร่วมทาง ไม่อย่างนั้น กระทั่งว่า
พวกเราทราบวิธีไปห้องสุสานหลัก ก็คงไม่มีทางไปถึงได้อย่าง
ปลอดภัยแน่! ที่แห่งนี้มีอันตรายซุกซ่อนในเงามืดมากมายเกินไป!”
สุ่ยเทียนสื่อหัวเราะ “เหมือนว่าราชันยุทธ์กลุ่มนั้นจะปรามาสสุสาน
เซียนจนเกินไป เป็นข้าไม่คิด ว่าพวกนั้นจะรอดกลับบ้านกันไปได้!”
“ผู้อาวุโสมู่ ราชันยุทธ์จากตําหนักจารึกเทวะท่านก็ด้วย หากเขาตาย
อย่างนั้นตําหนักจารึกเทวะของท่านไม่สูญเสียใหญ่หลวงหรือ?” สื่อ
ชิงเฉิงเอ่ยถาม
ด้วยเพราะอู่หมิงซวีนําหน้า พวกเขาจึงไม่ต้องกังวลต่อเรื่องนี้ ดังนั้น
จึงกล้าพูดคุยสัพเพเหระ
มู่เฟิ งหัวเราะ “ราชันยุทธ์คนนั้นหาได้ใช่คนดีไม่! ต่อให้เขาตายไป
ตําหนักจารึกเทวะก็แค่ปวดใจชั่วครู่ชั่วคราวเท่านั้น!”
ตําหนักจารึกเทวะคือขั้วอํานาจโบราณที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน
สูญเสียราชันยุทธ์ไม่นับเป็นอะไรสําหรับพวกเขานัก
ตู้ม!
เสียงดังสนั่น ฉับพลันมาจากทางด้านหน้า นี่ไม่ใช่อู่หมิงซวีโจมตี
ออก แต่เป็นกลุ่มก้อนเปลวเพลิงทองม่วงที่บินเข้ามาและระเบิดออก!
นับว่าโชคยังดี อู่หมิงซวีเป่ าลูกไฟนั่นทิ้งได้ทันเวลา
เปลวเพลิงระเบิดหายสิ้น เกิดขึ้นเป็นคลื่นความร้อนแทน ทําให้
ทางเดินกว้างขวางแห่งนี้ที่เดิมเย็นเยียบ กลับกลายเป็นร้อนระอุ
ตู้ม!
ลูกไฟทองม่วงอีกกลุ่มก้อนหนึ่งพุ่งมาอีกครั้งแล้ว!
อู่หมิงซวีร้องตะโกน “พวกเจ้ารักษาระยะห่างเอาไว้! ยิ่งเข้าใกล้
สุสานหลักยิ่งอันตราย!”
ฉินหยุนและคณะเร่งร้อนถอยร่นกลับไปอีก
สุ่ยเทียนสื่อพลันตะโกนดังขึ้น “ดูที่กําแพงหินนั่น!”
มันมีเปลวเพลิงทองม่วงทุกหนแห่ง อุโมงค์ทางเดินมืดมิดแห่งนี้
กลายเป็ นเรืองรองด้วยแสงทองม่วง ภายใต้แสงทองม่วง ภูตผีสัตว์
ร้ายปรากฏตัวอย่างฉับพลันทีละตัวบนผนังกําแพง
“นี่เรื่องบ้าอะไรกัน? ภูตผีสัตว์ร้ายเหล่านี้ออกมาได้อย่างไร?” มู่เฟิ ง
ร้องตะโกนถามด้วยความแตกตื่น
ฉินหยุนนึกถึงความสามารถเทวะทะลุทะลวง คิดว่านี่เป็นพลังอํานาจ
เหนือลํ้าอย่างหนึ่ง ที่ทําให้ภูตผีสัตว์ร้ายเหล่านี้หลับใหลในกําแพง
และสามารถออกจากกําแพงหินได้
ภูตผีสัตว์ร้ายเหล่านี้แตกต่างจากพวกที่อยู่ด้านนอก ร่างกายพวกมัน
ปกคลุมด้วยเปลวเพลิงทองม่วง!
นับว่าโชคดี ฉินหยุนและคณะมียันต์สะกดวิญญาณในมือ ดังนั้นจึง
ไม่หวาดเกรงอันใดต่อภูตผีสัตว์ร้าย
มู่เฟิ งนํากระบี่ออกมา พุ่งทะยานเข้าสับฟันพวกมัน หลังจากสังหาร
ภูตผีสัตว์ร้าย ร่างของพวกมันระเบิดออก ส่งร่างหนักอึ้งของเขา
กระเด็นกลับจนกระแทกผนังกําแพง!
“ภูตผีสัตว์ร้ายทําลายจิตวิญญาณตัวเอง ระวังด้วย!” ฉินหยุนร้อง
ตะโกนก่อนจะหันไปยิ้มมองทางมู่เฟิ ง “ผู้อาวุโสมู่ ยังไหวหรือไม่?”
มู่เฟิ งเร่งรีบกลับมาข้างกายฉินหยุนและคณะ นํ้าเสียงหนักอึ้งกล่าว
ตอบ “ข้าอยู่ขอบเขตวรยุทธ์ลึกลํ้า โดนแค่นั้นย่อมไม่เป็นไร แต่เจ้า
ไม่ใช่ เจ้าต้องระวัง!”
อู่หมิงซวีขณะนี้แทบไม่ว่าง ต้องรับมือกับแมงป่ องยักษ์อัคคีที่พ่นยิง
ลูกไฟออกมาไม่หยุด
แมงป่ องยักษ์อัคคีเหล่านี้ครอบครองเกราะหนา สามารถสกัดการ
โจมตีจากดาบต้นกําเนิดชวนสะพรึงของอู่หมิงซวีเอาไว้ได้
ฉินหยุนและพลพรรค ขณะนี้ถูกล้อมเอาไว้โดยภูตผีสัตว์ร้ายจํานวน
มาก
“ใช้ยันต์ฝน!” มู่เฟิ งกล่าวคําจบ เขานําเอายันต์จํานวนหนึ่งออกมา
ขว้างโยนพวกมัน จากนั้นยันต์จึงทํางาน นําพามาซึ่งสายฝนหนัก
หน่วงชะล้างเข้าใส่ร่างภูตผีสัตว์ร้ายที่ลุกไหม้เหล่านั้น
ยันต์ฝนคล้ายทํางานไม่ดีดังที่ควรเป็น
“ถอยก่อน!” ฉินหยุนตะโกน “ให้ข้าใช้ปื นใหญ่ราชันลึกลํ้าเป่ าพวก
มันเอง!”
มู่เฟิ ง สื่อชิงเฉิง และสุ่ยเทียนสื่อ ขณะนี้ปลดปล่อยการโจมตีพลัง
ภายในแกร่งกล้า บีบบังคับให้ภูตผีสัตว์ร้ายอัคคีถอยทัพ เปิ ดเส้นทาง
ให้พวกตนได้ใช้ถอย
ถัดจากนั้น ฉินหยุนขว้างปายันต์สะกดวิญญาณ หยุดยั้งภูตผีสัตว์ร้าย
และทําให้เชื่องช้าลง
เมื่อออกมาห่างมากกว่าหนึ่งร้อยเมตร ฉินหยุนนําเอาปื นใหญ่ราชัน
ลึกลํ้าออกมา และยิงเข้าใส่ฝูงภูตผีสัตว์ร้าย!
ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม!
นํ้ามันสัตว์ที่อัดแน่นภายในปื นใหญ่ราชันลึกลํ้าทรงอํานาจ กระทั่ง
ภูตผีสัตว์ร้ายอัคคีก็ไม่อาจต้านทานได้ไหว หลังถูกโจมตีเข้าใส่ แก่น
วิญญาณของพวกมันระเบิดออก
ภูตผีสัตว์ร้ายอัคคีกว่าสิบตัวแหลกสลายในทันที เกิดขึ้นเป็นแรง
ระเบิดสั่นไหว เปลวเพลิงลุกโชน ระเบิดปะทุออกซึ่งคลื่นกระแทก
ไปยังสองด้านของเส้นทาง
สื่อชิงเฉิง สุ่ยเทียนสื่อ และมู่เฟิ งเร่งร้อนใช้พลังงานแกร่งกล้า ก่อเกิด
เป็นกําแพงหนาคุ้มกันฉินหยุนจากแรงกระแทก
ภูตผีสัตว์ร้ายกว่าสองร้อยตัวที่โผล่พรวดออกจากผนังกําแพงหิน
ขณะนี้ถูกฉินหยุนทําลายสิ้นในอึดใจ!
ทางด้านอู่หมิงซวีที่เพิ่งจัดการแมงป่ องยักษ์อัคคีที่ทรงพลังได้ เขาเอง
ก็ต้องประสบกับแรงระเบิดจากร่างของมัน
แรงระเบิดจากร่างแมงป่ องชวนสะพรึงยิ่งกว่า อํานาจรุนแรงของมัน
ผลักดันให้ฉินหยุนและคณะแทบต้องถอยถึงจุดเริ่มต้นของเส้นทาง
ในชั่วขณะนี้ เส้นทางเดินกลายเป็นอบอ้าว ผนังหินสีแดงร้อนแรง
เปรียบดั่งภายในเตาอบ
อู่หมิงซวีที่โดนแรงกระแทกไม่ต่างกัน จึงกลับมาถึงสถานที่ซึ่งฉิน
หยุนและพลพรรครออยู่
“ในที่สุดก็สังหารไอ้ตัวนั้นได้!” อู่หมิงซวีถอนหายใจ “ไม่นึกมาก่อน
เลย ว่าจะมีภูตผีสัตว์ร้ายมากมายขนาดนี้คุ้มกันสุสานหลักเอาไว้!”
“เป็นข้าสงสัย ว่าที่ด้านหน้าต่อไปอีกจะมีหรือไม่!” ฉินหยุนนึกย้อน
ถึงสิ่งที่เกิดขึ้น ความหวาดกลัวย่อมเกาะกุม หากอู่หมิงซวีไม่ร่วม
ทางมาด้วย พวกเขาไม่มีทางสังหารแมงป่ องยักษ์อัคคีตัวนั้นได้แน่
“สมควรหมดสิ้นแล้ว ไปกันต่อดีกว่า!” อู่หมิงซวีหัวเราะ “เมื่อครู่
น่าจะเบิกเส้นทางเรียบร้อยแล้ว เดินเร็วขึ้นหน่อยก็แล้วกัน!”
หากตรงหน้าปลอดภัย พวกเขาย่อมเคลื่อนไหวรวดเร็วได้
เส้นทางแห่งนี้ยาวไกล หลังพวกเขาพ้นจากสถานที่ซึ่งต่อสู้กับภูตผี
สัตว์ร้ายอัคคี ขณะนี้ต้องเผชิญหน้ากับความเย็นเยือกและหมองหม่น
อีกครั้ง
หลังจากเดินกว่าครึ่งค่อนวัน ในที่สุดพวกเขาก็ถึงปลายทาง!
ที่สุดทาง มันคือประตูสีดําแดง
หัวสัตว์ทั้งสองตัวถูกประดับไว้บนประตูใหญ่ ตัวประตูแกะสลักไว้
ด้วยอักขระชวนขนลุก ทําให้ขณะมองมัน แทบไม่ต่างอะไรกับ
วิญญาณร้ายที่แยกเขี้ยวเข้าคิดกลืนกินคนที่หาญกล้าเข้าไป
“สุสานหลักอยู่ด้านใน!” เวลานี้ สีหน้าของอู่หมิงซวีเผยความ
เคร่งเครียด ความหวาดกลัวปรากฏร่องรอยที่ใบหน้า “ข้ารู้สึกว่า
ภายในสุสานหลักสมควรมีอะไรที่ชวนสะพรึงขนลุกอยู่!”
มู่เฟิ งเอ่ยถาม “อย่างนั้นแล้วพวกเราควรเข้าไปหรือไม่?”
อู่หมิงซวีตอบ “ในเมื่อมากันถึงที่นี่แล้ว ก็ต้องเข้าไปดู!”
ประตูบานใหญ่สูงกว่ายี่สิบเมตร และตัวกลไกในการเปิ ดอยู่สูงขึ้น
ไป อู่หมิงซวีต้องลอยขึ้นกลางอากาศเพื่อเปิ ดประตู
“เปิ ดไม่ได้!” อู่หมิงซวีแข็งแกร่งมากลํ้า กระนั้นเขากลับไม่อาจเปิ ด
ประตู
เขาบินกลับลงพื้นและกล่าว “ฉินหยุน ให้ภูติน้อยตัวนั้นลองทําลาย
อักขระ ประตูนี้สมควรถูกอักขระผนึกเอาไว้!”
ฉินหยุนปลดปล่อยโมโมออกมา
โมโมพอออกมาแล้ว นางพิจารณาสิ่งตรงหน้า
หลังสํารวจประตูชั่วครู่ นางค่อยเอ่ยคํา “สิ่งนี้คือโทโทมผนึก!”
ทั้งมู่เฟิ งและอู่หมิงซวีเผยความแตกตื่น!
“โทเทมผนึก?” ฉินหยุนไม่เข้าใจ แต่ก็พอทราบได้ว่าเป็นอะไรที่
แข็งแกร่ง
“อย่างนั้นพวกเราควรเข้าไปหรือไม่?” มู่เฟิ งเอ่ยถาม
“หากสามารถทําลายเปิ ดมันได้ ก็ต้องเข้าไป!” อู่หมิงซวีมองทางโม
โมและเอ่ยถาม “ภูติน้อย เจ้าสามารถทําลายโทเทมผนึกได้หรือไม่?”
โมโมพยักหน้ารับ “ย่อมทําได้ แต่ต้องใช้เวลา! จะเริ่มงานเดี๋ยวนี้!”
อู่หมิงซวีเอ่ยคํา “โทเทมผนึก ถือเป็นผนึกที่แกร่งกล้าที่สุด! ปกติจะ
เอาไว้ใช้จองจําผู้คน โทเทมนี่คืออะไรกัน?”
“โทเทมอัคคีโบราณ! แต่มันไม่สมบูรณ์ ข้าไม่อาจพบเห็นอย่าง
กระจ่างชัดได้!” โมโมตอบกลับมา
ฉินหยุนกล่าวขึ้น “ตามปกติแล้ว สิ่งที่ยับยั้งโดยไฟ ย่อมเป็นนํ้าแข็ง
หรือไม่ก็ไม้!”
อู่หมิงซวีพยักหน้ารับ “ภูตผีสัตว์ร้ายที่พวกเราพบก่อนหน้านี้
ทั้งหมดร่างกายมีไฟติดลุกโชน! และเส้นทางนี้ก็เย็นเยือก เหมือนว่า
ร่างเซียนที่ผนึกเอาไว้ภายในจะครอบครองธาตุนํ้าแข็ง!”
ฉินหยุนและคณะเกิดความตระหนก ด้วยอาคมใหญ่ขนาดนี้ผนึกร่าง
เซียนเอาไว้ มันต้องเป็นอะไรที่ชวนโลกตื่นตะลึง
ผ่านไปครึ่งชั่วยาม โมโมค่อยทําลายส่วนเล็กน้อยของอักขระโทเทม
ทําให้โทเทมผนึกทั้งหมดสูญเสียสภาพ
ฉินหยุนเก็บโมโมสู่มิติเก็บของ อู่หมิงซวีลอยขึ้นสู่ด้านบนและเปิ ด
ประตูออก!
ประตูเมื่อเปิ ดออกด้วยรอยแยกเพียงนิด คลื่นความเย็นเยือกก็โหมซัด
ออกมา
ฉินหยุนและคณะเร่งร้อนใช้พลังที่มีต้านทานความหนาวเย็น
ฉินหยุนครอบครองสายเลือดราชสีห์สวรรค์ เพราะเหตุนั้นแม้อยู่
ขอบเขตวรยุทธ์เต๋า ก็ยังสามารถต้านทานความหนาวเย็นนี้เอาไว้
หากเป็นผู้อื่นที่ขอบเขตวรยุทธ์เต๋าระดับสามเช่นกัน พวกคงกลาย
สภาพเป็นนํ้าแข็งในพริบตา!
อู่หมิงซวีกลับลงมาที่พื้น สายตากวาดมองด้านใน
สุสานหลักสว่างไสว ราวกับใช้ก้อนนํ้าแข็งยักษ์แกะสลักขึ้น ทั้งสี่
ด้านปกคลุมด้วยนํ้าแข็งเรืองแสงสุกสว่าง
ห้องสุสานถูกล้อมไว้เป็นวงกลม กว้างเพียงไม่กี่สิบเมตร กล่าวได้ว่า
ค่อนข้างเล็ก
ที่ตรงกลางวงกลมของห้องสุสาน มันมีกล่องกลมสีดําสนิทกว้างราว
สองเมตรตั้งอยู่
“โลงศพในสุสานหลักช่างพิเศษนัก!” มู่เฟิ งกล่าวขึ้น “ด้านในสมควร
เป็นร่างเซียน!”
ฉินหยุนกล่าว “ในเมื่อคนผู้นั้นถูกผนึก อย่างนั้นก็ไม่มีวัตถุในพิธีฝัง
ศพสินะ?”
อู่หมิงซวีก้าวเดินออกนําหน้า สํารวจมองกล่องทรงกลม “ทางด้านนี้
ก็มีผนึก! แต่หนาวเย็นเกินไปที่จะให้ภูติน้อยนั่นออกมาได้!”
คําพอกล่าวจบ เขาจึงใช้ดาบต้นกําเนิดสับฟันต่อเนื่องที่โลงศพ เกิด
เป็นเสียงดังปะทะอยู่หลายครั้ง
“ผู้อาวุโสอู่ ท่านสามารถเปิ ดมันได้หรือ?” ฉินหยุนเอ่ยถาม
“ไม่น่ามีปัญหา แค่ต้องใช้เวลา!” อู่หมิงซวีทําการโจมตีใส่โลงศพ
ทรงกลมนั้นอย่างต่อเนื่อง
ฉินหยุนและคณะหลบอยู่ไกลออกไป หากโลงนั่นถูกทําลาย ร่าง
เซียนภายในที่จะปรากฏย่อมต้องแกร่งกล้า
“ผู้อาวุโสอู่ระวังด้วย!” มู่เฟิ งขมวดคิ้วและกล่าวเสียงเบา “ชัดเจนว่า
กล่องทรงกลมนั่นคือโลงศพ สิ่งที่อยู่ภายในต้องแข็งแกร่งยิ่ง!”
หลังสับฟันเป็นชุดโจมตีต่อเนื่อง ฝาโลงในที่สุดค่อยขยับเล็กน้อย
ชั่วเวลานี้อู่หมิงซวีแทรกดาบเข้าที่รอยแยก ใช้เรี่ยวแรงทั้งหมดคิด
เปิ ดมันออก
“เพราะผ่านกาลเวลายาวนาน พลังของผนึกจึงอ่อนลงไปมาก!” อู่
หมิงซวีหัวเราะ
เพียงกล่าวคําจบ ฝาโลงก็กระเด็นออกแล้ว
มันเปิ ดออกแล้ว!
“เข้ามารับชมร่างเซียน!” อู่หมิงซวีตะโกนด้วยความยินดี
ฉินหยุนและคณะรวบรวมความกล้า ก่อนจะพุ่งทะยานร่างเข้าไป
ใกล้