แดนนิรมิตเทพ บทที่ 510
เฉินซงจื่อไม่กล้าเงยหน้า และตอบด้วยความเคารพว่า “ฉู่เหวินสงและคนอื่นๆ ได้ขอพบอาจารย์เป็นเวลาสามวันติดต่อกัน แต่ถูกผมปฏิเสธ ตอนนี้พวกเขากำลังรออยู่นอกประตู อาจารย์จะพบพวกเขาไหม?”

เฉินโม่ขยับดวงตา แล้วมองไปข้างหน้า เห็นฉู่เหวินสงและคนอื่น ๆ ยืนอยู่ที่ประตูทันที

“สีหน้าของพวกเขาเศร้าหมอง พวกเขาต้องประสบปัญหาอย่างแน่นอน ให้พวกเขาเข้ามาเถอะ!”

“ครับ!” เฉินซงจื่อโค้งคำนับแล้วเดินจากไป

ในห้องโถงของวิลล่า เฉินโม่นั่งอยู่ตรงที่นั่งหลักที่สูง ฉู่เหวินสง เจี่ยจิ้งอานและคนอื่น ๆ นั่งด้านล่าง ในขณะที่ซังซังและเอียนชิงเฉิงเสิร์ฟน้ำชาให้กับทุกคน

เฉินโม่หยิบถ้วยน้ำชาขึ้นมาจิบแล้วถามเบา ๆ “บอกมาเถอะ ประสบปัญหาอะไร?”

ใบหน้าของพวกผู้ทรงอิทธิพลเปลี่ยนเป็นสีแดง และสุดท้ายสายตาของพวกเขาจ้องไปที่ฉู่เหวินสง

ฉู่เหวินสงยืนขึ้นด้วยความจำใจ แล้วเดินไปกลางห้องโถง โค้งคำนับเฉินโม่และกล่าวว่า “เฉินไต้ซือ คุณเป็นคนที่ฉลาดหลักแหลมมาก พวกเราประสบปัญหาจริง ๆ และปัญหานี้มีเพียงคุณคนเดียวที่จะสามารถแก้ไขได้!”

เฉินโม่ขยับสายตา มองฉู่เหวินสงและถามว่า “อ้อ เกิดเรื่องอะไรขึ้น?”

“คุณยังจำเรื่องเมื่อหลายวันก่อนที่คุณหักขาทั้งคู่ของคุณชายตระกูลกงซุนแห่งมณฑลซีไห่ได้ไหม?” ฉู่เหวินสงถาม

เฉินโม่พยักหน้า “จำได้ หรือว่าตระกูลกงซุนเริ่มล้างแค้นแล้ว?”

ฉู่เหวินสงพยักหน้า “ใช่ครับ ในระยะเวลาสั้น ๆ เพียงไม่กี่วันน้ำชีวิตของพวกเราครอบคลุมเกือบครึ่งหนึ่งของหัวเซี่ยแล้ว แต่มณฑลซีไห่ไม่ยอมให้พวกเราเข้าไปวางจำหน่าย และคนที่พวกเราส่งไปโปรโมตถูกขับไล่ออกมา คนของตระกูลกงซุนเผยแพร่ข่าวเชิงลบต่อน้ำชีวิตของพวกเราไปทุกที่ ถ้าเป็นเช่นนี้ต่อไปเรื่อย ๆ สถานการณ์จะวิกฤต”

“ผมได้ติดต่อกงซุนจั่วเสวียน ผู้นำตระกูลกงซุน เพื่อดูว่ามีที่ว่างสำหรับการเจรจาหรือไม่ แต่ผมยังไม่ทันได้พบเขาก็ถูกเชิญออกมาแล้ว ตระกูลจินก็ส่งคนไปติดต่อตระกูลกงซุนด้วย แต่ดูเหมือนว่าคราวนี้ตระกูลกงซุนนั้นตัดสินใจแน่วแน่แล้ว และตัดสัมพันธ์กับตระกูลจินทันที แล้วบอกตระกูลจินว่าอย่าเข้ามายุ่งเรื่องนี้”

“สำหรับในมณฑลซีไห่แล้ว พลังอำนาจของตระกูลกงซุนเป็นอันดับสองรองจากตระกูลเย่ ซึ่งอ่อนแอกว่าตระกูลจินแห่งฮ่านหยางเล็กน้อย แต่ถ้าอยู่แต่ในมณฑลซีไห่ พลังอำนาจของตระกูลกงซุนจะแข็งแกร่งกว่าตระกูลจินแห่งฮ่านหยาง ดังนั้นพวกเราไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากมาขอความช่วยเหลือจากคุณ!”

สีหน้าของเฉินโม่ไม่เปลี่ยนแปลง แต่มีเจตนาฆ่าอยู่ในใจ “โอเค ผมจะเป็นคนแก้ปัญหาของตระกูลกงซุนเอง พวกคุณข้ามมณฑลซีไห่ไปก่อน!”

เมื่อมีเฉินโม่ออกหน้า ตระกูลกงซุนจะต้องชดใช้ความเย่อหยิ่งของพวกเขา ฉู่เหวินสงและคนอื่น ๆ รู้สึกดีใจมาก “ขอบคุณ เฉินไต้ซือ!”

“ถ้าเช่นนั้นพวกเราขอตัวกลับไปก่อน และจะรอข่าวดีจากเฉินไต้ซือ!”

เฉินโม่พยักหน้า “ไม่ส่ง”

หลังจากผู้ทรงอิทธิพลจากไปแล้ว เฉินโม่ลุกขึ้นยืนด้วยสีหน้าครุ่นคิด

“ตระกูลกงซุนมีความสัมพันธ์เป็นญาติกับตระกูลจิน ดังนั้นตระกูลจินต้องแอบบอกตระกูลกงซุนเกี่ยวกับทุกอย่างของผม ถ้าตระกูลกงซุนรู้ความแข็งแกร่งของผม ไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่ว่าผมหักขาทั้งคู่ของกงซุนหลี ถึงแม้ว่าผมจะฆ่าเขา ตระกูลกงซุนก็ไม่กล้าต่อต้านผม เว้นเสียแต่ตระกูลกงซุนนั้นมีผู้สนับสนุนอยู่เบื้องหลัง!”

“ดูเหมือนผมจะต้องไปที่นั่นเองแล้ว”

หลังจากตัดสินใจได้แล้ว เฉินโม่ไม่ได้เดินทางทันที แต่กลับไปที่ห้องและปลีกวิเวกต่อ เตรียมที่จะหลอมกระดูกเซียนชั้นมนุษย์ครึ่งท่อนเป็นกระบี่สั้น

อย่างไรก็ตาม เฉินโม่เผามันด้วยไฟแท้สมาธิเป็นเวลาห้าชั่วโมงเต็ม แต่กระดูกของเซียนชั้นมนุษย์นั้นหลอดละลายเพียงหนึ่งในสิบเท่านั้น เฉินโม่ถอนหายใจและจำต้องยอมแพ้

“ดูเหมือนว่าผมจะประเมินกระดูกของเซียนชั้นมนุษย์ต่ำเกินไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้จะไม่มีพลังทิพย์แล้ว และหลังจากโดนทัณฑ์สายฟ้าฟาดแล้วกระดูกของเซียนชั้นมนุษย์นี้แข็งกว่าเหล็กละเอียดในท้องทะเลลึกเสียอีก ด้วยพลังบำเพ็ญในตอนนี้ของผม ถ้าต้องการหลอมละลายอย่างสมบูรณ์ มันต้องใช้เวลาอย่างน้อยห้าวัน”

“ช่างมันเถอะ รอให้สิ้นสุดการเดินทางที่ซีไห่แล้วค่อยหลอมต่อ! มีฉินซงจื่อและค่ายกลรวมทิพย์อยู่ เว้นเสียแต่จะเป็นผู้บำเพ็ญที่แท้จริง มิเช่นนั้นแม้แต่ปรมาจารย์มาเอง ก็ไม่สามารถทำร้ายเอียนชิงเฉิงได้”