ตอนที่ 1137 บางทีนี่อาจช่วยเปลี่ยนแปลงโชคชะตาของเธอ

วิวาห์พลิกรัก ฉบับซุปตาร์

“คุณ…รู้จักแม่ของฉันได้ยังไงคะ”

“ผมคุ้นเคยกับเธอค่อนข้างดีเลยละ” หนานกงเฉวียนตอบ “อีกอย่างผมต้องขอเตือนคุณว่าอย่าไว้ใจป้าของคุณมากนักเลยนะครับ”

ซูโยวหรานพูดอะไรไม่ออก ได้แต่เป็นห่วงแม่ตัวเอง หนานกงเฉวียนเร่งความเร็วและรีบตรงไปที่บ้านครอบครัวซูเมื่อสัมผัสได้ถึงตวามตื่นตระหนกของเธอ

เพื่อเลี่ยงการเป็นที่สงสัย หนานกงเฉวียนไม่ได้เข้าไปในบ้านกับซูโยวหราน ทำเพียงแค่รออยู่ด้านนอกเผื่อว่าซูโยวหรานจะต้องการความช่วยเหลือจากเขา นึกไม่ถึงว่าหลังจากตามเฝ้ามองเธอมานาน บทสนทนาแรกของพวกเขาจะเป็นเพราะแม่ของเธอ

ซูโยวหรานไม่มีเวลามาตั้งคำถามกับหนานกงเฉวียน ขณะที่รีบตรงเข้าไปในห้องของแม่ตัวเอง เธอผลักประตูห้องนอนเปิดเข้าไปก่อนพบว่าแม่ตัวเองนอนอยู่บนพื้น พร้อมป้าซึ่งเป็นทนายความที่กำลังเหยียบแม่ของเธออยู่

“ป้าทำอะไรน่ะ” ซูโยวหรานตวาดใส่ป้าของเธออย่างกรุ่นโกรธ

หญิงสาวไม่คิดว่าซูโยวหรานจะกลับมาในตอนนั้น ท่าทีตื่นตระหนกจึงปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเธอ

“โยวหราน กลับมาทำไมล่ะ”

“ถ้าหนูไม่กลับมาที่บ้าน ก็คงไม่รู้ว่าป้าที่แสนดีของหนูเป็นยังไงน่ะสิคะ!” ซูโยวหรานรีบเข้ามาหาแม่และช่วยประคองเธอนั่งบนรถเข็น “แม่ เป็นอะไรไหมคะ”

คุณนายซูกุมอก เดิมทีเธออยากจะตอบ แต่กลับมีเลือดพุ่งออกมาจากปากของเธอแทน ซูโยวหรานถึงกับตกใจจนโทรเรียกรถพยาบาลทันที

ทว่าในจังหวะที่เธออุ้มแม่ตัวเองออกไปที่ประตูหน้าเพื่อรอรถพยาบาล เธอก็เห็นว่ารถของหนานกงเฉวียนยังจอดอยู่ด้านนอก

“เกิดอะไรขึ้น”

ซูโยวหรานพยายามควบคุมอารมณ์ตัวเอง หากแต่เธอก็เกือบร้องไห้ออกมา “แม่ฉันบาดเจ็บสาหัส ฉันต้องพาเธอไปโรงพยาบาล”

“ขึ้นรถเลยครับ!”

“โอเคค่ะ” ซูโยวหรานก้าวขึ้นรถทันที ตอนนี้เองที่ป้าของเธอวิ่งออกมา

ซูโยวหรานค้อนมองป้าด้วยสายตาเกลียดชังก่อนเอ่ย “หนูจะให้ป้าต้องชดใช้ตอนที่หนูกลับมา!” พูดจบซูโยวหรานก็กลับเข้าไปนั่งในรถของหนานกงเฉวียน ก่อนให้เขาขับพาพวกเธอไปโรงพยาบาล

หลังจากหมอตรวจอาการของคุณนายซู เขายืนยันว่าเธอโดนทำร้ายร่างกายหลายครั้งและเกือบจะซี่โครงหัก…

และคนที่ทำก็คือป้าของซูโยวหราน!

หากเธอไม่ได้เห็นด้วยตาตัวเอง ซูโยวหรานคงไม่มีทางเชื่อ

“ทำไมคุณถึงบอกให้ฉันระวังป้าตัวเองล่ะ” ซูโยวหรานถามหนานกงเฉวียนขณะที่แม่ของเธอเข้ารับการรักษา “คุณรู้อะไรมาเหรอคะ”

“ก่อนหน้านี้ ตอนที่แม่ของคุณโทรหาผม ผมได้ยินเสียงอื่นดังอยู่ข้างหลังน่ะ รวมถึงเสียงผู้หญิงที่ตะโกนใส่เธอและเรียกเธอว่าน้องสาวด้วย”

เรื่องมันเป็นอย่างนี้เองสินะ!

ซูโยวหรานเข้าใจแล้ว

“ขอบคุณสำหรับวันนี้นะคะ คุณหนานกง วันหลังฉันจะเลี้ยงอาหารคุณสักมื้อนะคะ แต่ว่าตอนนี้ฉันต้องแก้ไขสถานการณ์ก่อน”

“ผมอยู่ที่นี่ได้ครับ ผมคุ้นเคยกับแม่ของคุณดีจริงๆ นะ คุณถามตอนที่เธอฟื้นขึ้นมาก็ได้ครับ” หนานกงเฉวียนยืนกรานว่าจะอยู่ที่โรงพยาบาล เขาต้องมั่นใจว่าพ่อของซูโยวหรานจะไม่โผล่มาก่อเรื่อง

ซูโยวหรานเองก็กังวลเรื่องนั้นเช่นกัน เธอจึงพยักหน้าให้ “ขอบคุณนะคะ”

ทั้งสองนั่งเงียบกันอยู่ทั้งชั่วโมง ทว่าซูโยวหรานกลับรู้สึกเบาใจขึ้นมาแปลกๆ ที่มีชายคนนี้อยู่ข้างๆ …

เธอไม่เคยรู้สึกปลอดภัยอย่างนี้มาก่อน หากแต่ครั้งนี้เธอกลับสัมผัสได้ถึงความอุ่นใจจริงๆ …เพียงเพราะว่าหนานกงเฉวียนนั่งอยู่ข้างเธอ

ไม่นานคุณนายซูก็ฟื้นขึ้นมา ซูโยวหรานพุ่งเข้าไปในห้องคนไข้เพื่อดูอาการแม่ น้ำตาเริ่มไหลรินจากดวงตา “ทำไมแม่ไม่บอกหนูก่อนหน้านี้ เกิดอะไรขึ้นกันแน่ ทำไมป้าถึงทำกับแม่อย่างนั้นล่ะ”

“ป้าแกก็อยู่ฝ่ายเดียวกับพ่อแกนั่นแหละ” คุณนายซูเผย “พวกเขาร่วมหัวกันมานานแล้ว…”

“แล้วทำไมแม่ไม่บอกหนูก่อนหน้านี้” ซูโยวหรานเอ่ยขณะที่ทุบอกตัวเอง “หนูคิดว่าเธอเป็นคนดีมาตลอด หนูคิดว่า…”

“โยวหราน โลกใบนี้มีคนดีอยู่ไม่มากหรอกนะ ผู้ใหญ่ทุกคนก็มีผลประโยชน์ของตัวเองทั้งนั้นแหละ มันเป็นสิ่งที่ฉันเข้าใจมานานแล้ว ฉันเลยไม่สนใจว่าคนอื่นจะทำกับฉันยังไง”

“แต่หนูสนค่ะ” ซูโยวหรานว่าขึ้น “หนูสนมากด้วย ต่อไปนี้ถ้าคนอื่นทำร้ายแม่อีกหนูจะฆ่าพวกเขาซะ”

“การที่คุณน้ากลับไปที่บ้านครอบครัวซูไม่ปลอดภัยอีกต่อไปแล้ว ให้เธอมาอยู่ที่บ้านของผมชั่วคราวก็ได้นะครับ” หนานกงเฉวียนเสนอขณะมายืนอยู่ด้านหลังผู้หญิงทั้งสองคน “ที่บ้านผมไม่ค่อยมีคนอยู่หรอกครับ มีแค่ผมกับลูกสาวแค่นั้น”

“ฉันกลัวว่าจะไม่ค่อยเหมาะเท่าไรน่ะสิคะ”

“ไม่มีอะไรไม่เหมาะหรอกครับ” หนานกงเฉวียนตอบ “พวกคุณต้องการที่ที่ปลอดภัยนะครับ…”

“แต่ว่าเราไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับคุณนะคะ”

“พูดตามตรงเลยนะครับ ลูกสาวผมชอบคุณมาก” หนานกงเฉวียนใช้ลูกสาวตัวเองเป็นข้ออ้าง หากเขาพูดถึงการแต่งงานหรือการคบกันในเวลาเช่นนี้ คงเป็นการฉวยโอกาสในยามที่เธออ่อนแอ เขาจึงไม่อยากบีบให้ซูโยวหรานคบกับเขา “ถ้าเป็นไปได้ ผมก็อยากให้คุณโยวหรานมาเป็นพี่เลี้ยงให้ลูกสาวผม ผมแค่อยากให้อยู่เป็นเพื่อนลูกในวันหยุดเท่านั้นเองครับ ถ้าคุณทำได้ มันก็จะเป็นการแก้ปัญหาของคุณด้วยเหมือนกัน”

“แต่ว่า…คุณก็รู้ว่าฉันก็เป็นพี่เลี้ยงให้ตระกูลโม่เหมือนกันใช่ไหมคะ” ซูโยวหรานเอ่ยถาม

“ครับ ผมรู้” หนานกงเฉวียนพยักหน้ารับ

“งั้นคุณยังจะ…”

“คุณก็คือคุณ ตระกูลโม่ก็คือตระกูลโม่นี่” เขาว่าขึ้นอย่างตรงไปตรงมา “เลิกฝืนได้แล้วครับ ด้วยสถานการณ์ของคุณตอนนี้ คุณควรเลิกคิดถึงเรื่องศักดิ์ศรีไปก่อนนะ ผมไม่ใช่ศัตรูของคุณสักหน่อย”

“ถ้าอย่างนั้นก็ขอบคุณนะคะ คุณหนานกง” คุณนายซูตอบตกลงในขณะที่ลูกสาวของเธอยังลังเลใจ

แน่นอนว่าหนานกงเฉวียนรู้ว่าจริงๆ แล้วซูโยวหรานกำลังเครียดว่าจะจัดการกับครอบครัวซูอย่างไร โดยเฉพาะพ่อและป้าที่ร้ายกาจของเธอ!

ด้วยอาการบาดเจ็บของแม่ของเธอ ซูโยวหรานโทรหาถังหนิงเพื่อขอลางานในช่วงบ่าย

หลังจากเข้าใจสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ถังหนิงบอกให้ซูโยวหรานดูแลแม่ตัวเองให้ดี และรับรองว่าเธอจะหาคนอื่นไปรับเจ้าแสบทั้งสองเอง

“ถิงคะ…คุณคิดว่าตอนนี้หนานกงเฉวียนอยู่กับซูโยวหรานหรือเปล่าคะ”

“คุณสนใจเรื่องนี้จริงๆ เหรอครับ” โม่ถิงถามอย่างเอือมระอา

“คุณไม่คิดว่ามันน่าสนใจเหรอคะ หนานกงเฉวียนไม่ได้สนใจคนอื่นเลยสักนิด แต่เขากลับมาเล็งพี่เลี้ยงเด็กของเรา ไม่ใช่ว่าโยวหรานไม่ดีหรอกนะคะ ฉันแค่คิดว่ามันน่าสนใจที่รสนิยมของหนานกงเฉวียนไม่ได้เป็นพวกผู้หญิงที่โบกเครื่องสำอางไปวันๆ ในวงการบันเทิงน่ะค่ะ…” ถังหนิงหัวเราะ “การที่เขาเข้าไปเกี่ยวข้องกับผู้หญิงที่เชี่ยวชาญทักษะการต่อสู้จริงๆ ก็น่าสนใจออกนะคะ”

“คุณจะขัดขวางพวกเขาเหรอครับ”

“ฉันไม่มีเวลาว่างไปทำอย่างนั้นหรอกค่ะ…” ถังหนิงหัวเราะคิกคัก “ความจริงแล้วหนานกงเฉวียนก็เป็นผู้ชายที่ซื่อสัตย์ดีนะคะ ฉันว่าตัวเองคงยินดีที่ได้เห็นเขาลงเอยกับโยวหราน

“ฉันได้ยินมาว่าชีวิตของโยวหรานลำบาก บางทีการได้คบหากับหนานกงเฉวียนอาจจะเปลี่ยนแปลงโชคชะตาของเธอก็ได้ค่ะ อย่างที่เกิดขึ้นตอนที่ฉันแต่งงานกับคุณไงคะ!”