ตอนที่ 223

Crazy Leveling System

CLS ตอนที่ 223: ความรวดเร็วในการกลั่นโอสถ

 

เมื่อสมุนไพรถูกใส่ลงไปในเตาหลอมเพลิงม่วงศักดิ์สิทธิ์ อี้เทียนหยุนก็เริ่มกลั่นโอสถอย่างรวดเร็ว เพราะว่าระดับของมันไม่ได้สูงมาก ดังนั้นจึงใช้เวลากลั่นไม่นาน เมื่อเปลวไฟของเขาถูกจุดขึ้นมา ทำให้ไม่จำเป็นต้องพึ่งคบเพลิงจากผู้อาวุโสใหญ่ก็ทำให้ความมืดอันตรธานหายไปจากห้องลับนี้จนหมด

 

“นี่เจ้า เจ้ากลั่นโอสถได้ด้วย?” เหอเชียนหานมองไปยังเปลวเพลิงในมือของอี้เทียนหยุน รู้ว่านี่ต้องไม่ใช่เปลวเพลิงธรรมดาอย่างแน่นอน

 

“การกลั่นยาถอนพิษจะไม่มีปัญหาอย่างแน่นอน” อี้เทียนหยุนรีบปิดเตา พร้อมทั้งเพิ่มอุณหภูมิความร้อนเพื่อควบกลั่นสมุนไพร ความเร็วยิ่งมายิ่งเร็ว เมื่อมีเตาหลอมเพลิงม่วงคอยช่วย ทั้งความเร็วและอัตราสำเร็จก็เพิ่มขึ้นอย่างยิ่งยวด ทำให้ขจัดปัญหาที่ควรจะเกิดออกไป

 

แน่นอนว่าที่น่าสะพรึงที่สุดไม่ใช่พวกนี้

 

“เปิดโหมดคลั่ง หมวดกลั่นโอสถ!”

 

น้อยครั้งมากที่เขาจะเปิดใช้งานโหมดคลั่งหมวดกลั่นโอสถ เหตุผลก็ธรรมดา นั่นเพราะเขาไม่อยากให้ความเร็วที่กลั่นนั้นเร็วเกินไป นอกจากจะเป็นการแข่งขันหรือสถานการณ์เร่งด่วน ไม่อย่างนั้น เขาไม่จำเป็นต้องกลั่นโอสถด้วยความเร็วขนาดนั้น แต่ตอนนี้สถานการณ์ค่อนข้างฉุกเฉิน ดังนั้นเขาจึงใช้โหมดคลั่งหมวดกลั่นโอสถออกมา ทำให้ความเร็วในการกลั่นของเขาเพิ่มขึ้น 8 เท่าในทันที!

 

ภายใต้ดวงตาประเมิน สมุนไพรที่อยู่ในเตาจำเป็นต้องใช้เวลาในการกลั่นอย่างคร่าวๆ ประมาณ 1 ชั่วยามถึงจะสำเร็จ แต่ภายใต้โหมดคลั่ง ทำให้ความเร็วที่ต้องใช้ลดลงถึง 8 เท่าในทันที! นั่นหมายความว่าต้องใช้เวลาเพียงแค่ 10 นาทีเท่านั้น ก็จะสามารถกลั่นยาเม็ดนี้ออกมาได้สำเร็จ

 

และแน่นอนว่าระหว่างนี้ก็จำต้องเปิดโหมดคลั่งเอาไว้ ไม่อย่างนั้นผลลัพธ์ก็จะไม่แสดงออกมา ซึ่งก็คือในช่วงเวลานี้เป็นการเสียค่าความคลั่งไปเปล่าๆ และนี่ก็เป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่เขาไม่อยากจะใช้หมวดนี้นัก แต่ตอนนี้คงได้แต่ยอมเสียค่าความคลั่งนี้ไป เพราะการช่วยชีวิตคนนั้นสำคัญกว่า

 

พริบตา หลังจากผ่านไป 10 นาที เม็ดยาก็กลั่นออกมาสำเร็จ “ปัง” เตาหลอมพ่นเม็ดยาออกมา ยาถอนพิษหลายเม็ดพลันหล่นลงมาในมือของเขา การกลั่นประสบความสำเร็จอย่างงดงาม ทั้งคุณภาพก็ถือว่าดีเยี่ยม

 

“สำเร็จแล้ว!” อี้เทียนหยุนถอนหายใจออกมา โหมดคลั่งนี่ช่างรวดเร็วทันใจเสียจริง ยิ่งเป็นยาระดับสูงก็จะยิ่งแสดงประสิทธิภาพออกมาได้สูงยิ่งขึ้น จากต้องใช้เวลานาน ก็ถูกย่นลงมาอีกขั้นใหญ่ ทำให้กลั่นออกมาได้อย่างรวดเร็ว

 

“อะไรนะ เสร็จแล้ว!?”

 

พวกเขาพากันตกใจ การกลั่นโอสถนี้จะเร็วเกินไปแล้ว นี่มันพอๆ กับทอดปลาเลยด้วยซ้ำ เพียงพริบตาก็กลั่นออกมาจนสำเร็จ พวกเขาไม่เคยพบไม่เคยเจออะไรอย่างนี้มาก่อน

 

“เอายาถอนพิษนี้ไปให้ประมุขเพื่อถอนพิษออกไปก่อน จากนั้นค่อยให้ยาฟื้นฟูทีหลัง ไม่อย่างนั้น ต่อให้ใช้ยาฟื้นฟูไปก็เสียเปล่า” อี้เทียนหยุนส่งยาถอนพิษให้กับผู้อาวุโสใหญ่

 

ผู้อาวุโสใหญ่พยักหน้าหงึกหงัก จากนั้นก็รับยาถอนพิษไปให้กับประมุข คราวนี้ไม่มีการกระอักเลือดออกมา คราวนี้ผลลัพธ์ปรากฏออกมาอย่างรวดเร็ว จากรอยดำเพราะพิษที่อยู่บนพิษ ตอนนี้เริ่มจางลงน้อยๆ ค่อยๆ ลดน้อยลง แม้จะไม่ได้หายโดยทันทีทันใด แต่อย่างน้อยก็ทุเลาลงมาก

 

หลังจากทุเลาลงเล็กน้อย ผู้อาวุโสใหญ่ก็ให้ยาฟื้นฟูกับประมุขอีกครั้ง คราวนี้สีหน้าของประมุขดีขึ้นเล็กน้อย บาดแผลเริ่มสมานตัวอย่างรวดเร็ว แม้ความเร็วจะเหมือนเชื่องช้า แต่อย่างน้อยก็ไม่ได้สิ้นหวังเหมือนกับก่อนหน้า

 

“อาการเริ่มมั่นคงขึ้นเล็กน้อย หลังจากทุเลาลงกว่านี้ค่อยเคลื่อนย้ายออกไปรักษาข้างนอก” อี้เทียนหยุนมองดูอาการ จากนั้นก็สบายใจขึ้น

 

พวกเขาก็พากันโล่งใจเช่นกัน อาการของประมุขดูแล้วดีขึ้นมาก แม้ว่าจะไม่สามารถรักษาระดับพลังให้กลับคืนมาได้ แต่อย่างน้อยคนก็ยังมีชีวิตอยู่

 

“ขอบคุณน้องชายมาก…..” ประมุขพูดขึ้นมาด้วยสีหน้าที่เข้มแข็งขึ้น

 

“ท่านประมุขโปรดอย่าได้เกรงใจ” อี้เทียนหยุนยิ้ม สามารถรักษาชีวิตได้ก็ดีแล้ว ถึงยังไง การช่วยชีวิตคนก็ได้บุญมากกว่าการสร้างเจดีย์เจ็ดชั้น

 

จากนั้น ประมุขก็ไมได้พูดอะไรอีก เพียงนั่งพิงกำแพงเพื่อรอคอยการฟื้นตัว เพียงไม่นาน เลือดก็ไม่ไหลออกมาอีก ตอนนี้พวกเขาสามารถเคลื่อนย้ายประมุขออกจากที่นี้ และพาไปยังห้องนอนได้แล้ว

 

หลังจากรับยาถอนพิษไปหลายเม็ด อาการก็ดีขึ้นมาก ถ้าไม่มีอาการแทรกซ้อน อีกไม่กี่วันก็กำจัดพิษออกไปได้หมด จากนั้นอาการบาดเจ็บก็จะดีขึ้น อาการบาดเจ็บนี้ค่อนข้างรุนแรง โดยเฉพาะที่มือและเท้า จำเป็นต้องจ่ายราคาอย่างหนัก ถึงจะสามารถรักษาได้

 

ยังไงก็ตาม ระดับฝึกตนของเขาก็ได้ถูกทำลายไปแล้ว ซึ่งนี่เป็นเรื่องที่ไม่สามารถแก้ไขได้ในปัจจุบัน

 

“กล้ามเนื้อแขนและขาของประมุขถูกตัดขาดแล้ว จำเป็นต้องรักษา ต้องใช้ยาทาผสานกล้ามเนื้อมาทา ไม่รู้ว่าทางวังเทียนจี๋มีสมุนไพรที่พอจะใช้ได้หรือเปล่า ข้าจะได้ทำให้”

 

ยาทาผสานกล้ามเนื้อนี้เป็นยาชั้น 4 ซึ่งตอนนี้ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเขา

 

“นี่ นี่เจ้ากลั่นยาชั้น 4 ได้ด้วย…..” ผู้อาวุโสใหญ่ตกใจ แม้ว่ายาถอนพิษนี้เขาจะไม่รู้ว่าเป็นยาชั้นไหน แต่กลับยาทาผสานกล้ามเนื้อนั้นเขารู้ดี

 

ยังเด็กแต่ก็เป็นถึงอาจารย์กลั่นโอสถชั้น 4 ทั้งยังเป็นอาจารย์สลักอาคมชั้น 4 ด้วย นี่มันจะท้าทายสวรรค์เกินไปแล้ว!

 

“แน่นอน ข้าทำได้” อี้เทียนหยุนตอบกลับอย่างสบาย

 

“งั้น งั้นข้าจะให้เซียนเอ๋อพาเจ้าไปที่หอโอสถเพื่อเลือกเองเลย” ผู้อาวุโสใหญ่บอกให้มู่เซียนเอ๋อที่อยู่ใกล้ๆ พาอี้เทียนหยุนไปเอาสมุนไพร

 

เหอเชียนหานกำลังรับหน้าที่ช่วยเหลือ ทั้งดูอาการรวมถึงเช็ดทำความสะอาดแผล ทำให้ค่อนข้างยุ่ง ไม่สามารถปลีกตัวไปเอาสมุนไพรได้

 

“ทราบแล้วท่านปู่” มู่เซียนเอ๋อพยักหน้า จากนั้นก็พูดกับอี้เทียนหยุน “คะ คุณชายอี้…. ข้าจะพาท่านไปเอง”

 

เผชิญกับเรื่องหนักๆ มาหลายเรื่อง ทำให้เธอรู้สึกตกใจอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ เรื่องระดับพลังที่สูงนั้นช่างมันเถอะ แต่อาจารย์สลักอาคมชั้น 4 นี่มันอะไร? แม้ว่าค่ายกลชั้น 4 เธอจะไม่เคยเห็นเขาทำมาก่อน แต่กับความสามารถในการกลั่นโอสถที่ได้เห็นกับตานี้ ทำให้เธอรู้สึกตกตะลึงไปโดยสมบูรณ์

 

ขณะที่อี้เทียนหยุนตามมู่เซียนเอ๋อไป ก็พูดขึ้นมาด้วยรอยยิ้มว่า “แม่มดน้อย เจ้าเรียกข้าว่าคุณชายอี้ ไม่เรียกข้าว่าตัวลามกแล้วเหรอ?”

 

“เจ้า เจ้า…..” มู่เซียนเอ๋อกัดริมฝีปากแน่น ในตอนนั้นเธอยังไม่เคยเจอกับเหตุการณ์แบบนี้ หรือว่าเรื่องใหญ่อะไร ทำให้เธอกล้าที่จะเล่นอย่างนั้น แต่ตอนนี้ได้มาเห็นความต่างที่ใหญ่มาก ซึ่งเทียบเท่าได้กับระดับผู้อาวุโส แล้วอย่างนี้เธอจะไปกล้าสร้างปัญหาให้กับเขาได้ยังไง

 

“ช่างเถอะ ไม่ล้อเจ้าเล่นแล้ว สถานการณ์ปัจจุบันของวังเทียนจี๋นี้ค่อนข้างวุ่นวาย ไม่รู้ว่ายังมีกบฏคนอื่นอยู่หรือเปล่า ถ้าไม่กวาดล้างให้หมด เรื่องความปลอดภัยก็จะเป็นปัญหาเช่นกัน….. ไม่เพียงเท่านี้ แต่ยังมีเรื่องของอาณาจักรใต้พิภพที่คอยจับตาดูอยู่อีก”

 

ต่อให้จะกวาดล้างกบฏจนหมด แต่ก็ยังมีอาณาจักรใต้พิภพที่คอยจับตาวังเทียนจี๋อยู่ ทำให้ไม่สามารถวางใจได้ พวกเขาวางแผนที่จะควบคุมวังเทียนจี๋ในเงามืด แต่ตอนนี้แผนของพวกเขาถูกทำลายแล้ว อาณาจักรใต้พิภพจะต้องไม่ยอมแพ้แค่นี้อย่างแน่นอน

 

ยังไงก็ตาม พวกเขาก็ทำได้เพียงลงมือในเงามืดเท่านั้น ถ้าเกิดว่าทำให้ขุมอำนาจอื่นล่วงรู้ มันจะก่อให้เกิดการต่อต้าน และสังหาร เมื่อเป็นอย่างนี้ ต่อให้ได้วังเทียนจี๋มาก็ได้ไม่คุ้มเสีย

 

มู่เซียนเอ๋อพยักหน้า เรื่องมันเป็นแบบนี้จริงๆ ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความหนักใจ แม่มดน้อยที่ร่าเริง ตอนนี้ไม่กล้าซุกซนอีกแล้ว ตอนนี้เธอไม่มีอารมณ์นี้แล้ว