คุณสามี แห่ง ปาฏิหาริย์ บทที่ 523
เมื่อเธอได้ยินจำนวนตัวเลข อีเว็ตต์ก็ลุกขึ้นยืนอย่างช้า ๆ และยิ้ม “ทำได้ดีมากองครักษ์มังกร นายเก่งมาก นายไม่เคยทำให้ฉันผิดหวัง”
ชายทั้งสิบสองคนที่อยู่เบื้องหลังอีเว็ตต์นั้นคือสิบสององครักษ์ แต่ละคนเป็นตัวแทนของปีนักษัตรองครักษ์หนู, องครักษ์วัว, องครักษ์เสือ และบรรดาปีนักษัตรที่เหลือ
ท่ามกลางพวกเขามีเพียงองครักษ์หนูและองค์รักษ์วัวเท่านั้นที่อยู่ในระดับปราญช์ยุทธ์ ส่วนคนที่เหลือต่างอยู่ในระดับปรมาจารย์ยุทธ์
สิบสององครักษ์ทุกคนต่างมีความสามารถพิเศษเฉพาะตัวและมีพลังมหาศาล จักรพรรดิโลกใหม่ส่งพวกเขามาปกป้องเจ้าหญิงอีเว็ตต์
“เจ้าหญิง ผมมีบางอย่างที่ยังไม่เข้าใจ” องครักษ์ถามขณะคุกเข่าต่อหน้าอีเวตต์
“พูดมา” อีเว็ตต์กล่าว
องครักษ์หนูเกาศีรษะของเขา “เจ้าหญิง เราจับตัวบรรดาประมุขสำนักเหล่านี้ไว้ได้หมดแล้ว ทำไมเราไม่ฆ่าพวกเขาทิ้งซะให้หมด ทำไมเราจะต้องพาตัวพวกเขามาที่หอคอยดาวปราถนาด้วย?”
อีเวตต์ยิ้ม “จะฆ่าพวกเขาทิ้งไปเพื่ออะไร? มีจอมยุทธระดับสูงมากมายในจักรวาลโลก และเราคงจะไม่สามารถฆ่าพวกเขาทั้งหมดได้ มันไม่ดีกว่าเหรอถ้าเราจะจับเป็นพวกเขามาและปล่อยให้จักรวาลโลกวุ่นวายมากพอจนพวกเขาลุกขึ้นมาเข่นฆ่ากันเอง?”
เธอกล่าวถูกต้อง การจับตัวบรรดาผู้นำมาจะสร้างความโกลาหลในจักรวาลโลกและปล่อยให้พวกเขาเข่นฆ่ากันเอง!
ระหว่างการชุมนุมรวมตัวของเด็กนักเรียนสถาบันหกวิถี อีเว็ตต์ก็ได้มีโอกาสเห็นว่าสำนักประตูสุราลัยนั้นทรงพลังมากขนาดไหน มันช่างน่าเหลือเชื่อ
นั่นคือเหตุการณ์ที่ทำให้เธอเกิดความคิดขึ้นที่จะจับตัวบรรดาบุคคลระดับสูงมา เธอต้องการที่จะทำให้พวกเขาขายขี้หน้า และจัดฉากใส่ร้ายป้ายสีให้กับสำนักประตูสุราลัย เธอต้องการให้ทั้งจักรวาลโลกหาทางแก้แค้นกับสำนักประตูสุราลัย และมันจะส่งผลให้เกิดความหายนะในโลกของพวกเขา!
บรรดาบุคคลระดับสูงทั้งหมดจากโลกใหม่ก็จะสามารถข้ามไปยังดินแดนของพวกเขาเพื่อทำลายจักรวาลโลกทั้งใบได้ ช่างเป็นความคิดที่ล้ำเลิศอะไรเยี่ยงนี้!
“หน้ากากและเสื้อคลุมของฉันอยู่ที่ไหน?” อีเว็ตต์ถาม
องครักษ์มอบเสื้อคลุมสีดำและหน้ากากทองคำให้กับเธอในทันที
เธอได้ยินมาว่าดาร์บี้ผู้ไร้พ่ายจะสวมหน้ากากทองคำทุกครั้งที่เขาปรากฏตัว แม้แต่สมาชิกของสำนักประตูสุราลัยก็ยังไม่เคยเห็นใบหน้าของเขาเลย
อีเว็ตต์ม้วนผมยาวจัดทรงและสวมหน้ากาก เธอมองไปที่องครักษ์มังกรและกล่าวถาม “ฉันดูเป็นยังไงบ้าง? น้ำเสียงของฉันเป็นยังไง? ฉันฟังดูเหมือนดาร์บี้ผู้ไร้พ่ายรึยัง?”
องครักษ์มังกรคุกเข่าและกล่าว “เจ้าหญิง ตอนนี้ท่านดูเหมือนดาร์บี้ผู้ไร้พ่ายแล้ว”
เมื่อเธอได้ยินอย่างนั้น อีเว็ตต์ก็ส่งเสียงกระแอมเบา ๆ เพื่อเตือนสติเขา “ได้โปรดรับรู้ไว้ด้วย ตอนนี้ฉันคือดาร์บี้ผู้ไร้พ่าย นายควรเรียกฉันว่าประมุขสำนัก นายคงไม่อยากจะเปิดเผยตัวตนของเราให้กับพวกเขาได้ล่วงรู้ ในเมื่อพวกเราลักพาตัวพวกเขามาไว้ที่นี่”
องครักษ์มังกรเป็นคนมีไหวพริบ เขาตอบกลับในทันที “ใช่แล้ว ท่านประมุขสำนัก”
อีเว็ตต์พยักหน้าและเดินไปนั่งบนเก้าอี้ เธอยกแขนขึ้น “ดีมาก นำตัวนักโทษออกมา”
อีเว็ตต์รู้สึกตื่นเต้น สิบสององครักษ์ออกเดินทางไปยังหอคอยดาวปรารถนา
ไม่นานนักพวกเขาก็พาตัวนักโทษประมาณ 1,000 คนมาหาอีเว็ตต์
บรรดาบุคคลเหล่านั้นรวมไปถึง แม่ชีแห่งโชคชะตาจากสำนักง้อไบ๊ ท่านประมุขอนันต์จากสำนักเส้าหลิน ท่านประมุขเลอค่าจากสำนักบู๊ตึ๊ง นอกเหนือไปจากนี้พวกเขายังลักพาตัว ท่านประมุขแห่งสำนักวณิพก ท่านประมุขแห่งสำนักหอกระบี่ และปรมาจารย์แห่งเกาะดอกท้อเบ่งบาน พวกเขาทั้งหมดต่างอ่อนกำลังโรยรินเป็นอย่างมาก
พวกเขาไม่ใช่แค่เพียงถูกวางยาพิษจากพิษมลานเท่านั้น แต่กำลังภายในของพวกมันยังถูกปิดกั้นไว้อีกด้วย พวกเขากลายเป็นเหมือนคนธรรมดาปกติทั่วไป แขนและขาของพวกเขาถูกล่ามโซ่ตรวนเหล็ก ไม่มีใครสามารถที่จะหลบหนีออกไปได้
อีเวตต์ตื่นเต้นเมื่อมองดูสภาพพวกเขาทุกคน จากนั้นเธอก็กล่าวด้วยน้ำเสียงทุ่มต่ำ “สวัสดีท่านประมุขสำนักทั้งหลาย ฉันเสียใจที่ได้มาพบกับพวกคุณในสภาพแบบนี้ ฉันคือดาร์บี้ผู้ไร้พ่าย และฉันอยากจะกล่าวขออภัยกับทุกคน”
จากนั้นเธอก็นั่งอยู้บนเก้าอี้ท่าทีเกียจคร้าน เธอดูหยิ่งยโส และไม่มีความอ่อนน้อมเคารพต่อผู้อาวุโสทั้งหลายในที่แห่งนั้น
ทุกคนโกรธจัดเมื่อจ้องเขม็งไปที่อีเว็ตต์
พวกเขาล้วนเป็นบุคคลระดับสูงในยุทธจักร พวกเขาจะถูกปฏิบัติเหมือนกับนักโทษธรรมดาได้อย่างไร นั่นเป็นวิธีที่ดูหมิ่นกันเกินไป!
“ดาร์บี้ผู้ไร้พ่าย!”
ท่านประมุขเลอค่า ก้าวไปข้างหน้าและชี้ไปที่อีเว็ตต์ด้วยความโกรธแค้น “พวกเราทำผิดอะไร พวกคุณจับพวกเรามาทำไม?”