แดนนิรมิตเทพ บทที่ 513
ดวงตาของพิธีกรเป็นประกาย ใบหน้าที่สวยแสดงความประหลาดใจ และกล่าวว่า “ถูกต้อง ตามคำอธิบายของผู้ที่เก็บมา เขาเก็บดอกหญ้าต้นนี้อยู่ที่ริมน้ำที่มืดชื้น”
จากนั้นพิธีกรยื่นมือไปสัมผัสกล้วยไม้สะอาดจิตที่อยู่ในกล่องหยก จากนั้นก็ชักมือกลับมาทันที และกล่าวด้วยความประหลาดใจ “มันเย็นจริง ๆ ฉันรู้สึกเหมือนกำลังสัมผัสก้อนน้ำแข็ง!”
หลังจากนั้นพิธีกรหญิงกล่าวด้วยความชื่นชมว่า “คุณผู้หญิงมีความรู้จริง ๆ! คุณเป็นคนแรกที่จำกล้วยไม้น้ำแข็งนี้ได้ ตามกฎแล้ว หากคุณต้องการซื้อกล้วยไม้นี้ คุณแค่จ่ายราคาขั้นต่ำหนึ่งล้านเท่านั้น!”
“และแน่นอนว่า ถ้าคุณไม่สนใจกล้วยไม้น้ำแข็งต้นนี้ คุณก็สามารถให้คนอื่นเริ่มประมูลได้”
เฉินโม่ขมวดคิ้วเล็กน้อย เขานึกไม่ถึงงานตรวจสมบัติจะมีกฎแบบนี้ ถ้าเขารู้แต่แรก เขาจะเป็นคนแรกที่พูดถึงลักษณะของกล้วยไม้สะอาดจิต
ผู้หญิงคนนั้นเงยหน้าขึ้นเล็กน้อยและยิ้มบาง ๆ “หนึ่งล้านสามารถซื้อกล้วยไม้น้ำแข็งได้หนึ่งต้น คุ้มค่า ฉันตกลงซื้อ!”
เฉินโม่อดไม่ได้ที่จะมองเธอด้วยความเสียดาย
พิธีกรกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “ยินดีกับคุณผู้หญิงท่านนี้ด้วย คุณได้รับของล้ำค่าชิ้นแรก!”
นอกจากเฉินโม่แล้ว คนอื่น ๆ ไม่ได้รู้สึกเสียดายที่ผู้หญิงคนนี้เป็นคนที่ได้กล้วยไม้สะอาดจิต
วัตถุดิบยาที่คนในโลกฝึกบู๊สนใจ ต้องเป็นวัตถุดิบยาที่สามารถเสริมความแข็งแกร่งและปรับปรุงพลังบำเพ็ญ พวกเขาจะไม่สนใจกล้วยไม้สะอาดจิตซึ่งเป็นยาที่ทำให้ร่างกายสดชื่นแบบนี้
เดาว่าผู้หญิงที่ซื้อกล้วยไม้สะอาดจิตไปนั้น เป็นเศรษฐีที่ซื้อของไปเรื่อยเปื่อยเท่านั้น คงจะไม่ทราบประโยชน์ที่แท้จริงของมัน
หลังจากนั้น ของล้ำค่าชิ้นที่สองถูกส่งขึ้นไปบนเวที
ของล้ำค่าชิ้นนี้คือโสมอายุกว่าพันปีอย่างแท้จริง คนธรรมดากินเข้าไปแล้วสามารถทำให้ร่างกายแข็งแรง ถ้านักบู๊กินเข้าไปแล้วจะสามารถเสริมความแข็งแกร่งและปรับปรุงพลังบำเพ็ญได้
ทุกคนรู้ว่าเป็นโสมล้ำค่า ดังนั้นหลังจากของล้ำค่าชิ้นนี้ออกมา ทุกคนก็รีบแย่งชิงทันที
สำหรับเฉินโม่แล้ว วัตถุดิบยาดังกล่าวไม่มีประโยชน์อะไรกับเขา เพียงแค่สามารถนำไปเป็นปรุงยาเสริมจิตเท่านั้น
เฉินโม่ไม่ได้ร่วมแข่งขันประมูลด้วย เพราะการแข่งขันประมูลรุนแรงมาก ถึงแม้ว่าโสมพันปีจะล้ำค่า แต่สำหรับโลกบำเพ็ญเซียนแล้วไม่คุ้มค่าที่จะเอ่ยถึง แม้แต่สมุนไพรมากมายบนโลกมีผลมากว่าโสมต้นนี้ เช่นพรุนแดงสามใบที่เฉินโม่ได้มาจากบึงน้ำดำ ซึ่งประสิทธิผลของมันดีกว่าโสมมากมาย เพียงแต่ยาวิเศษที่หายากเหล่านั้นไม่อยู่ในขอบเขตความรู้ของทุกคน และไม่มีใครรู้จักวัตถุดิบยาเหล่านั้น
ของล้ำค่าสามสี่ชิ้นต่อมา เป็นสมุนไพรทั้งหมด นอกจากกล้วยไม้สะอาดจิตที่เป็นชิ้นแรกแล้ว ของล้ำค่าชิ้นอื่น ๆ ล้วนมีผลเสริมความแข็งแรงของร่างกาย ซึ่งยังสู้โสมพันปีไม่ได้ ดังนั้นเฉินโม่ยิ่งไม่สนใจ เพียงแค่เฝ้ามองพวกเขาแย่งชิงกันเท่านั้น
เพียงแค่ผลสุดท้ายนั้นทำให้ทุกคนตกตะลึง สมบัติทั้งหกชิ้นล้วนตกไปเป็นของหญิงสาวที่นั่งโต๊ะหมายเลขหนึ่ง งานตรวจสมบัติของล้ำค่าครั้งนี้ ผู้หญิงคนนั้นใช้เงินไปเกือบหนึ่งร้อยล้าน
แต่เมื่อมองใบหน้าที่ไม่แยแสของเธอ เหมือนเงินหนึ่งร้อยล้านเป็นเพียงเงินเล็กๆน้อยๆเท่านั้น ซึ่งทำให้คนสงสัยว่าตระกูลที่อยู่เบื้องหลังเธอนั้นแข็งแกร่งเพียงใด!
หลังจากงานตรวจสมบัติสิ้นสุดแล้ว เฉินโม่รู้สึกถึงเจตนาฆ่าจากร่างกายของนักบู๊บางคน แต่เมื่อชายชราที่อยู่ข้างผู้หญิงคนนั้นเผยพลังของตนเองออกมาเล็กน้อย เจตนาฆ่าทั้งหมดก็มลายหายไป
พลังบำเพ็ญของชายชราคนนั้นเป็นระดับแดนในชั้นสูงสุด ทำให้นักบู๊ทั้งหมดแอบตกใจ และจากไปด้วยความกลัว
เฉินโม่มองเห็นพลังความแข็งแกร่งของชายชราและผู้หญิงคนนั้นนานแล้ว และไม่ได้รู้สึกแปลกใจ เพียงแต่สงสัยว่าทั้งสองเป็นคนของตระกูลไหน? คนเหล่านั้นเรียกผู้หญิงคนนี้ว่า คุณหนูกงซุน หรือว่าเธอจะเป็นคนของตระกูลกงซุน?
เมื่อคิดถึงตรงนี้เฉินโม่ยิ้มออกมา ถ้าผู้หญิงคนนี้เป็นคนของตระกูลกงซุนเฉินโม่ก็สามารถเดาได้ว่าทำไมตระกูลกงซุนถึงกล้าต่อต้านเขา
บางคนที่อยู่ในห้องโถงเดินเข้าไปแสดงความยินดีกับผู้หญิงคนนั้น