ในช่วงเวลานี้ ในกรงขังระดับวีไอพีซึ่งมีพื้นที่กว้างใหญ่กว่ากรงขังอื่นๆอย่างมาก ข้างในกรงขังนี้มีภาพเงาหนึ่งที่กำลังกินอาหารอย่างตะกละตะกลาม

ภาพเงานี้ดูเหมือนว่าเป็นเด็กสาวอายุ5-6ขวบ สวมใส่เสื้อผ้าแบบโกธิก กำลังกินอาหารอย่างตะกละตะกลาม กระเพาะของเธอเหมือนกับว่าจะเป็นหลุมลึกที่ไร้ที่สิ้นสุด อาหารที่อยู่รอบๆหายไปด้วยความเร็วที่สามารถมองเห็นได้

เห็นได้ชัดว่าเธอนั้นเป็นทาส ทว่าร่างกายกลับไม่มีโซ่ตรวนอยู่ เพราะว่าพวกมันได้ถูกเธอกินเข้าไปแล้ว ผู้คนของตระกูลเฟเธอร์เหล่านี้ก็ไม่ต้องการที่จะสิ้นเปลืองเงินไปกับโซ่ตรวนอีก จึงไม่กล้าที่จะคล้อยโซ่กับเด็กสาวคนนี้อีกครั้ง เกรงกลัวว่าจะกลายเป็นอาหารของเธออีก

หลังจากไม่กี่ลมหายใจ อาหารที่อยู่รอบๆก็ถูกเธอกินเข้าไปจนหมด อาหารหายไป2-3ตัน

“ฟู้ หิวจริงๆ”

ท้องของเด็กสาวตัวน้อยส่งเสียงดังออกมา จ่อก จ่อก เธอยังคงรู้สึกหิว เพราะว่าสำหรับเธออาหารเหล่านี้เป็นได้เพียงแค่อาหารว่างเท่านั้น ไม่ได้ถือว่าเป็นอาหารจานหลัก

“ทหาร พวกเจ้าไปอยู่ที่ไหนกัน อาหาร ไหนล่ะอาหาร ทำไมถึงไม่นำอาหารมาให้ข้าอีก? พวกเจ้ากำลังจะทำให้ทาสคนนี้หิวโหยจนตายไป รู้หรือไม่ว่าข้ามีคุณค่ามากแค่ไหน นี่คือการดูแลปฏิบัติที่เจ้ามีต่อทาสผู้ทรงเกียรติหรือ?” เด็กสาวตัวน้อยตะโกนเสียงดังออกมา เหมือนกับว่าที่นี่ไม่ใช่คุก แต่เป็นร้านอาหาร

อย่างไรก็ตาม ทหารที่อยู่รอบๆต่างก็เอาหูไปนาเอาตาไปไร่ เหมือนกับว่าไม่ได้ยินอะไรทั้งสิ้น พวกเขาต่างก็รู้สึกบดบึ้งอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ นี่มีไหนที่เป็นทาส เห็นได้ชัดว่าเป็นเจ้านายของพวกเขา

อาหารสำรองหลายปีของฐานแห่งนี้ถูกเจ้านี่กินเข้าไปจนหมด หลังจากนี้พวกเขาจะเอาอาหารไหนกินกันอีก

เด็กสาวก็ตะโกนออกมาอีกครั้ง ทว่าก็ยังคงไม่มีใครให้ความสนใจเธอ ท้ายที่สุดเธอก็นอนลงไปกับพื้นด้วยความหิวโหย

“หิวเหลือเกินไป ตระกูลเฟเธอร์เหล่านี้ยากจนเกินไป ไม่มีอาหารให้ข้ากิน ดูเหมือนว่าจะต้องมองหาบุคคลโง่เขลาคนต่อไป” เด็กหญิงตัวน้อยก็ได้ลูบท้องของตนเอง ตัดสินใจที่จะตามหาบุคคลที่ร่ำรวยคนอื่นเพื่อกลายเป็นตั๋วอาหารระยะยาวของตนเอง เพราะหากอยู่ที่นี่ต่อไปนั้น บางทีเธอก็อาจจะต้องหิวโหยจนตายไปจริงๆ

ท้องของเธอก็ส่งเสียงร้องออกมาเหมือนกับเป็นเสียงกลองที่ดั่งสนั่น

“น้องสาวคนนี้น่าสะพรึงกลัวจริงๆ ท้ายที่สุดแล้วเธอเป็นปีศาจอะไรกัน ทำไมถึงกินได้มากมายเช่นนี้?” หญิงสาวของเผ่าพันธุ์หูกระต่ายที่อยู่ในกรงขังใกล้ๆก็มองเด็กหญิงของเผ่าพันธุ์เทาเที่ยด้วยสีหน้าที่ตื่นตระหนกเล็กน้อย

ทาสหญิงสาวจำนวนมากก็แตกตื่นกันอย่างมาก ถึงแม้ว่าทุกๆคนจะเป็นทาสเหมือนกัน ทว่าเห็นได้ชัดว่าเด็กสาวของเผ่าพันธุ์เทาเที่ยคนนี้แตกต่างออกไป เธอทำตัวเหมือนกับเป็นเจ้านายของคนเหล่านี้ก็ว่าได้

“ไม่จำเป็นที่ต้องเกรงกลัว พี่สาวคนนี้จะปกป้องเจ้าอย่างแน่นอน เจ้าไม่ให้ปีศาจใดๆทำร้ายเจ้าได้” หญิงสาวของเผ่าพันธุ์เทวดาก็พูดปลอบโยนขึ้นมา ร่างกายของเธอมีปีกสีขาวคู่หนึ่งซึ่งเปล่งแสงศักดิ์สิทธิ์ที่ส่องสว่างออกมา

“มองอะไรของพวกเจ้า เชื่อเถอะว่าถ้ายังไม่เลิกมอง ข้าจะกินพวกเจ้าในทันที”

เด็กหญิงของเผ่าพันธุ์เทาเที่ยก็ได้แยกเขี้ยวออกมา

“ไม่นะ!!”

ทันใดนั้นทาสหญิงสาวจำนวนมากก็หวาดกลัวจนร้องไห้ หลบซ่อนอยู่ในมุมของกรงขังตนเองพร้อมกับร่างกายที่สั่นเทาอย่างไม่หยุดหย่อน

“เหอะ”

เด็กสาวของเผ่าพันธุ์เทาเที่ยก็เปล่งเสียงออกมาในลำคอ ไม่ได้สนใจกลุ่มของทาสหญิงสาวเหล่านี้อีก เธอได้นอนลงไปที่พื้น พ่อของเธอเคยบอกกับเธอว่าหากรู้สึกหิวโหยจนทนไม่ไหว ก็ให้ข่มตานอน การนอนจะสามารถช่วยให้ลืมความรู้สึกหิวโหยไปได้

…………

ข้างนอกฐานของตระกูลเฟเธอร์

วิซ!

ภาพเงาของนักวิทยายุทธสองคนได้ปรากฏตัวขึ้นมาในสถานที่แห่งนี้ พวกเขานั้นก็คือเซี่ยปิงและต้วนเฉินลุ่ยนั่นเอง

“ที่นี่คือสถานที่ที่ตระกูลเฟเธอร์กักขังทาสไว้หรือ? ช่างเป็นสถานที่บาปจริงๆ มันจะต้องถูกทำลายนับตั้งแต่วันนี้ ดาวรังอสูรจะไม่อนุญาตให้มีพฤติกรรมที่ชั่วร้ายเช่นนี้เกิดขึ้นมาได้”

เซี่ยปิงพูดออกมาอย่างเยือกเย็น

ต้วนเฉินลุ่ยก็มีสีหน้าที่มืดมนเหมือนกับถ่าน เขาต้องการที่จะใช้ทุกวิถีทางเพื่อที่จะขัดขวางเซี่ยปิง ทว่าตอนนี้ดูเหมือนว่าจะไม่สามารถทำอะไรได้ แม้แต่การที่เขาจะต้องการรายงานคนอื่นๆก็ไม่มีโอกาส

เพราะว่าความเร็วในการตัดสินใจของเจ้านี่รวดเร็วเกินไปจริงๆ เป็นการเคลื่อนไหวที่เหนือความคาดหมาย ไม่แม้แต่จะระดมพลกองกำลังด้วยซ้ำ ซึ่งแน่นอนว่าการที่ต้องการจะปล่อยข่าวนี้ออกไปก็เป็นเรื่องที่ยากอย่างมาก

“หยุดเดี๋ยวนี้!”

บางคนที่ค้นพบเซี่ยปิงและต้วนเฉินลุ่ยอย่างรวดเร็ว ตะโกนเสียงดังออกมาทันที “ที่นี่คือสถานที่ที่สำคัญของตระกูลเฟเธอร์ บุคคลภายนอกไม่สามารถเข้ามาได้ ไม่เช่นนั้นพวกเราก็จะทำการสังหารโดยที่ไร้ความปราณี”

ซู่ ซู่ ซู่!!!

หลังจากที่พูดจบ ระบบอาวุธของฐานแห่งนี้ก็ได้เริ่มต้นทำงานทันที ปืนใหญ่เลเซอร์ ปืนกลและอาวุธอื่นๆต่างก็เล็งมาข้างนอก เหมือนกับว่าเมื่อใดที่เซี่ยปิงและต้วนเฉินลุ่ยก้าวเข้ามาแม้แต่ก้าวเดียว จะต้องเปิดฉากยิงสังหารทันที

“ไม่นะ! เจ้านี่คือหยางปู๋ตงผู้ปกครองคนใหม่ของดาวรังอสูร ทำไมเขาถึงเดินทางมาที่ฐานของตระกูลเฟเธอร์กัน?” ส่วนลึกของฐาน บุคคลที่รับผิดชอบดูแลสถานที่แห่งนี้ก็ได้มองเห็นสถานการณ์ภายนอกผ่านทางจอมอนิเตอร์ทันที พวกเขานั้นก็คือเจ้าหน้าที่ระดับสูงของตระกูลเฟเธอร์ แน่นอนต้องได้รับรู้ข่าวเกี่ยวกับดาวรังอสูรในช่วงเวลาที่ผ่านมานี้

โดยเฉพาะรูปลักษณ์ของเซี่ยปิงนั้น เจ้าหน้าที่ระดับสูงเกือบทั้งหมดของดาวรังอสูรต่างก็เคยเห็นรูปลักษณ์ของเขา จะต้องจดจำได้ทันทีที่เห็น

“ดูเหมือนว่าเจ้านี่จะไม่ได้มาดี”

กลุ่มของสมาชิกตระกูลเฟเธอร์ต่างก็มีสีหน้าที่จริงจังขึ้นมา พวกเขาต่างก็ล่วงรู้ถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวาน เซี่ยปิงได้ทำลายแก๊งของยักษ์กุ๊กไปอย่างง่ายดาย ผู้นำของแก๊งตายไปพร้อมกับลูกน้องคนอื่นๆ

ในช่วงเวลานี้การที่เจ้าวิญญาณชั่วร้ายนี่เดินทางมาที่ฐานของตระกูลเฟเธอร์นั้น เป็นไปอย่างไรที่พวกเขาจะไม่รู้สึกกังวล

“ข้าคือหยางปู๋ตงผู้ปกครองของดาวรังอสูร ที่มาในครั้งนี้เป็นเพราะว่าข้ากำลังสงสัยว่าพวกเจ้ากำลังแอบลักลอบทำเรื่องที่ผิดกฎหมายอยู่ ทำการค้าทาสและกิจกรรมที่ผิดกฎหมายอื่นๆ” เซี่ยปิงถ่ายทอดคำสั่งออกไปทันที “รีบเปิดประตูของฐานแห่งนี้เพื่อที่ข้าจะได้เข้าไปตรวจสอบทันที ข้าจะเข้าไปทำการสำรวจอย่างละเอียด หากพวกเจ้ากล้าที่จะละเมิดคำสั่งของข้านั้น จะต้องถูกสังหารโดยที่ไร้ความปราณี อย่าหาว่าข้าไม่เตือนพวกเจ้าก่อน”

อะไรนะ?!

เมื่อได้ยินเช่นนี้ ผู้คนของตระกูลเฟเธอร์ต่างก็จ้องมองด้วยสีหน้าที่ตกตะลึง พวกเขานั้นอาละวาดอยู่ในดาวรังอสูรแห่งนี้มาเป็นระยะเวลานานหลายร้อยปี ไม่เคยเห็นใครที่จะกล้าเข้ามาตรวจสอบฐานของพวกเขา บอกว่าพวกเขากำลังแอบลักลอบทำเรื่องที่ผิดกฎหมาย ต้องการที่จะจับพวกเขา นี่มันช่างเป็นเรื่องที่เหนือความคาดหมายจริงๆ เป็นเหตุการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

“บัดซบ เจ้าหยางปู๋ตงนี่ต้องการที่จะจัดการกับตระกูลเฟเธอร์ของพวกเราจริงๆ”

“ข้าบอกไปแล้วว่าเขาไม่ได้มาดี พวกเจ้าก็ไม่เชื่อข้า”

“เจ้าเด็กนี่ต้องการที่จะทำอะไรกัน ต้องการที่จะตรวจสอบฐานของตระกูลเฟเธอร์ของพวกเรารึ? ช่างเป็นความคิดที่เพ้อฝันจริงๆ”

“บอกว่าพวกเราแอบลักลอบทำเรื่องที่ผิดกฎหมาย ต้องการที่จะจับพวกเรา นี่มันตลกสิ้นดี หากไม่ทำการค้าทาส ในอนาคตตระกูลเฟเธอร์ของพวกเราจะหารายได้มาจากที่ไหนกัน จะต้องอยู่อย่างไม่มีอะไรกินหรือ?”

“เจ้าหยางปู๋ตงนี่ต้องการที่จะทำลายชีวิตของพวกเรา จะต้องกำจัดเขา ปล่อยให้เขายโสโอหังต่อไปไม่ได้”

“ใช่ สังหารเขาที่นี่ ให้ความตายยุติปัญหาทุกอย่าง”

“รังแกใครไม่รังแก ต้องการที่จะมารังแกตระกูลเฟเธอร์ของพวกเรา เขาคิดจริงๆหรือว่าตระกูลเฟเธอร์ของพวกเราจะเป็นเหมือนกับกลุ่มของยักษ์กุ๊กที่โง่เขลาเหล่านั้น ต้องการที่จะบดขยี้ก็สามารถที่จะบดขยี้ได้ทุกเมื่อหรือ?”

“เปิดฉากยิงออกไปทันที กำจัดเจ้าเด็กนี่ซะ”

เจ้าหน้าที่ระดับสูงแต่ละคนของตระกูลเฟเธอร์ต่างก็ส่งเสียงตะโกนออกมาอย่างโมโห ไม่สามารถที่จะยับยั้งความโมโหของตนเองได้ ไม่คาดคิดว่าจะมีใครบางคนที่ต้องการรุกรานเข้ามาและตรวจสอบฐานของพวกเขาตระกูลเฟเธอร์ นี่มันเป็นการที่ต้องการจะทำลายชีวิตของพวกเขา มีที่ไหนที่จะสามารถอดทนอดกลั้นได้

หล่ง หล่ง หล่ง~

อาวุธทั่วทั้งฐานก็เริ่มต้นทำงานทันที ปืนใหญ่เลเซอร์กว่าพันกระบอกได้เล็งไปที่เซี่ยปิง ในขณะเดียวกันก็ปะทุแสงเลเซอร์ออกมา แอบแฝงไปด้วยพลังการเจาะทะลวงที่ทรงพลัง เพียงพอที่จะทะลวงผ่านแผ่นดิน ทำให้ภูเขาหายไปในพริบตา มีพลังอำนาจที่ยิ่งใหญ่

เลเซอร์นับหมื่นที่ถูกยิงออกมานั้น เชื่อมโยงกันกลายเป็นเหมือนกับตาข่ายแห่งความตายขนาดใหญ่ก็ว่าได้ ปิดกั้นเส้นทางหลบหนีทั้งหมด

“จบกัน เจ้าคนเสียสตินี่ ข้าได้เตือนเจ้าแล้วว่าห้ามท้าทายตระกูลเฟเธอร์ ตอนนี้จบสิ้นกัน บีบบังคับให้อีกฝ่ายต้องลงมือเช่นนี้ เจ้าเด็กนี่จะต้องถูกสังหารไปจริงๆ”

ต้วนเฉินลุ่ยก็มีสีหน้าที่ซีดเผือด เขารู้สึกได้ถึงอันตรายที่ยิ่งใหญ่ หากถูกเลเซอร์เหล่านี้โจมตีเข้ามา ทั่วทั้งร่างกายจะต้องกลายเป็นรังผึ้งอย่างกะทันหัน ตายไปอย่างน่าอนาถ