วันถัดมา
⁠⁠⁠⁠⁠⁠⁠
ถึงแม้ว่าชูหยุนเยว่จะไม่ได้นอนมาทั้งคืน
แต่เธอก็ยังไปที่บริษัทฮัวจือดีตั้งแต่เช้าตรู่เหมือนเคย
และเนื่องจากเมื่อวานนี้ได้ปล่อยข้อมูลของน้ำหอมฉ่ายหง ไปตามโรงงาน เครือข่าย และแพลตฟอร์มทีวี… ต่างๆมากมายแล้ว
วันนี้จึงต้องมีเรื่องมากมายให้เธอจัดการอย่างแน่นอน
ซึ่งในตอนนี้ หลินฟานก็กำลังมุ่งหน้าไปยังมหาวิทยาลัยเจียงเป่ย
และเมื่อหลินฟานมาถึงยังที่จอดรถ เขาก็เพ่งความสนใจไปที่ระบบเป็นสิ่งแรก
ฉันจะเปิด 5 ซองแดงสีเงินเลยดีไหมนะ?
ซองแดงสีเงิน 5 ซองนี้ ได้มาจากการที่เขาจัดงานวันเกิดให้กับคุณปู่
ซึ่งเมื่อวาน หลินฟานก็ยังไม่มีเวลาว่างที่จะเปิดเลย แต่ตอนนี้เขามีเวลาว่างแล้ว
“เปิดเลย!” หลินฟานพูดเบาๆ
【ติ๊ง! ยินดีด้วย คุณได้รับบัตรคืนเงิน 10 เท่า 】
【ติ๊ง! ยินดีด้วย คุณได้รับ 200,000 หยวนแล้ว 】
【ติ๊ง! ยินดีด้วย คุณได้รับการ์ดเพิ่มทักษะสองเท่า 】
【ติ๊ง! ยินดีด้วย คุณได้รับ 500,000 หยวน 】
【ติ๊ง! ยินดีด้วย คุณได้รับ 300,000 หยวน 】
จากนั้นหลินฟานก็พยักหน้าด้วยความรู้สึกที่ค่อนข้างพอใจ
แต่สำหรับเรื่องเงินที่ได้รับกับบัตรคืนเงินจำนวนสิบเท่านั้น เขาไม่ได้สนใจอะไรเลย
เขาสนใจแค่การ์ดเพิ่มทักษะสองเท่า เพราะมันมีประโยชน์อย่างมาก
และหลินฟานก็เคยใช้มาแล้วหลายครั้งด้วย เขาจึงรู้ถึงความสำคัญของมัน
จากนั้นหลินฟานก็ค่อยๆเดินไปที่ห้องเรียน
ซึ่งชั้นเรียนในคาบนี้เป็นชั้นเรียนของศาสตราจารย์เฒ่า และเมื่อหลินฟานได้ยินเสียงของศาสตราจารย์เฒ่าเพียงไม่กี่คำเท่านั้น เขาก็ผล็อยหลับไปอย่างทันที

ชูหยุนเยว่ใช้เวลานานพอสมควร กว่าจะเสร็จสิ้นการประมวลผลของงานต่างๆ
ซึ่งในตอนนี้ เธอก็กำลังรินกาแฟลงแก้ว และจากนั้นก็ทำการจิบกาแฟช้าๆ กาแฟมีความหอมกรุ่นเป็นอย่างมาก ดวงตาที่สวยงามของเธอก็มองออกไปยังทิวทัศน์ที่ห่างไกล
หลังจากนั้นไม่นาน ชูหยุนเยว่ก็หยิบโทรศัพท์มือถือของเธอออกมา พร้อมกับเลื่อนหารายชื่อที่เม็มไว้ในโทรศัพท์ของเธอ
ชูหยุนเยว่จ้องไปที่ชื่อ ‘คุณความรัก’
และหลังจากที่ชูหยุนเยว่ลังเลอยู่นาน เธอก็กดไปที่ปุ่มโทรออก
ผ่านไปซักพัก อีกฝ่ายก็รับสาย
ชูหยุนเยว่พูด ” หลังจากที่เธอได้บอกฉันว่ามีผู้ชายที่เธอชอบแล้ว ตั้งแต่นั้น ฉันก็ทุ่มเทพลังทั้งหมดให้กับบริษัทฮัวจือดีมาตลอดเลย”
“ฉันคิดว่า ถ้าทุ่มเทให้กับการทำงานก็จะไปถึงความฝันได้อย่างรวดเร็ว…”
“แต่ความจริงไม่ใช่อย่างนั้นเลย ระหว่างทางนั้นเต็มไปด้วยอุปสรรคที่โหดร้ายมากมาย”
“ในตอนแรก น้ำหอมเหลียนซินมีข้อผิดพลาดมากมายเกี่ยวกับกลิ่นของมัน ถึงตอนหลังมันจะถูกปรับปรุงจนดีแล้ว แต่กลับมีคนทรยศปรากฏตัวขึ้นภายในบริษัทของฉันอีก…”
จากนั้นเสียงแห่งความห่วงใยก็ดังขึ้นมาจากโทรศัพท์ว่า “หยุนเยว่ ตอนนี้เธอโอเคไหม”
ถ้าเกิดว่าหลินฟานได้ยินเสียงนี้ เขาจะต้องประหลาดใจและตะโกนออกมาว่า: อาจารย์ เทียนเถียน!
ชูหยุนเยว่ยิ้มและพูด “ไม่ต้องกังวลหรอกนะ ฉันโอเคดี …!”
“หยุนเยว่ ตอนนี้เธออยู่ที่ไหน ฉันจะไปหาเดี๋ยวนี้” หูเทียนพูด
หูเทียนคิดว่าชูหยุนเยว่นั้นยังคงเสียใจกับเรื่องความสัมพันธ์ของพวกเธออยู่ นั่นเป็นสาเหตุที่คำพูดของเธอดูผิดปกติอย่างมาก จนหูเทียนคิดไปเองว่าชูหยุนเยว่อาจจะคิดสิ้นฆ่าตัวตาย
แต่ก็ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจที่หูเทียนจะคิดอย่างนั้น
เพราะหูเทียนเพิ่งบอกกับชูหยุนเยว่ไปไม่นานนี้ ว่าเธอมีผู้ชายคนหนึ่งที่ชอบแล้ว ซึ่งเรื่องนี้ทำให้ชูหยุนเยว่ต้องสูญเสียความรักไป
และบริษัทของชูหยุนเยว่ก็เกิดเรื่องใหญ่ขึ้นมาอีก
อาจกล่าวได้ว่าเธอพบกับความล้มเหลวครั้งใหญ่ทั้งในเรื่องความรักและเรื่องการเป็นประธานบริษัท
เมื่อชูหยุนเยว่ได้ยินเสียงที่เต็มไปด้วยความกังวลของหูเทียน เธอก็ยิ้มออกมาก่อนจะพูดว่า “อย่ากังวลเลย ฉันยังพูดไม่จบ”
“โชคดีที่มีผู้ชายคนหนึ่งปรากฏตัวขึ้นมาในเวลานั้น เขาช่วยตามหาคนที่ทรยศบริษัท และยังช่วยสร้างน้ำหอมที่สามารถแซงหน้าแบรนด์ชั้นนำระดับโลกให้อีก!”
“บางที อีกไม่นาน เธออาจจะได้เห็นชื่อฮัวจือดีกลายเป็นแบรนด์น้ำหอมจีนแนวหน้าระดับนานาชาติแบรนด์แรก!”
เมื่อชูหยุนเยว่พูดถึงเรื่องนี้ เสียงของเธอก็สูงขึ้นเล็กน้อยอย่างไม่ได้ตั้งใจ
เห็นได้ชัดว่าเธอมีความสุขมากจริงๆ
และหลังจากที่เงียบไปครู่หนึ่ง เธอก็พูดว่า “คราวที่แล้ว หลังจากที่เธอบอกว่าเธอเจอผู้ชายที่ชอบ ฉันก็รู้สึกแปลกใจมากเลยนะ เพราะเราทั้งคู่ก็ต่างเกลียดผู้ชายมากเหมือนกัน”
“แต่ตอนนี้ ฉันว่าฉันเข้าใจความรู้สึกของเธอแล้วล่ะ”
ซึ่งเมื่อหูเทียนได้ยินสิ่งที่ชูหยุนเยว่พูด เธอก็มั่นใจแล้ว ว่าชูหยุนเยว่ไม่ได้เสียใจอะไร
หูเทียนอดไม่ได้ที่จะรู้สึกมีความสุขอย่างจริงใจต่อชูหยุนเยว่ และพูดว่า “ดูเหมือนว่าเธอจะชอบผู้ชายคนที่ช่วยเธอค้นหาคนทรยศในบริษัท และช่วยคิดค้นน้ำหอมชั้นนำระดับโลกใช่มั้ย?”
“ใช่” ชูหยุนเยว่พูด
“ยินดีด้วยนะ ที่เธอได้พบรักครั้งใหม่แล้ว ว่าแต่ฉันเคยพบดับเขามาก่อนหรือเปล่า” หูเทียนถาม
“ไม่เคย…” ฉู่หยุนเยว่พูดต่อ“แต่เขาก็เป็นนักศึกษาในมหาวิทยาลัยเจียงเป่ยของเธอนะ!”
“จริงหรอ?” หูเทียนรู้สึกประหลาดใจทันที
เพราะถ้าเป็นไปตามคำพูดของชุหยุนเหว่ บุคคลนี้จะต้องมีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับน้ำหอมเป็นอย่างมาก
มิเช่นนั้นจะเป็นไปไม่ได้เลย ที่จะสามารถคิดค้นน้ำหอมที่เทียบเท่ากับแบรนด์ชั้นนำระดับโลกได้
และส่วนใหญ่ผู้ที่เชี่ยวชาญด้านน้ำหอมก็มักจะมีอายุไม่ต่ำกว่า 30 ปี
นักศึกษามหาวิทยาลัยเจียงเป่ยคนนี้มีอายุเท่าไหร่กัน
“จริงสิ! ฉันก็แปลกใจเหมือนกันในตอนที่รู้ว่าเขายังเรียนอยู่ เขามีชื่อว่า หลินฟาน เธอเคยเห็นเขาหรือเปล่าล่ะ” ชูหยุนเยว่กล่าว
“ห้ะ หลินฟาน” หูเทียนตะโกน

เนื่องจากบ่ายวันนี้ไม่มีเรียน
ดังนั้นทันทีที่หลินฟานรับประทานอาหารกลางวันที่โรงอาหารเสร็จ เขาก็ตรงไปยังชุมชนยี่เกอทันที
“แอ๊ด!”
หลินฟานผลักประตูบ้าน 2501 และพบว่าบรรยากาศภายในบ้านดูแปลกไปจากเดิม
เขาเห็น…
หวงหลิงและฉิวจือเฉียนกำลังนั่งอยู่บนโซฟาในห้องนั่งเล่น กับผู้หญิงและผู้ชายที่อายุประมาณ 50 – 60 ปีอยู่
หลินฟานจึงอดไม่ได้ที่จะถามออกไป “สองคนนี้คือ … ”
หวงหลิงยืนขึ้นอย่างเร่งรีบและพร้อมที่จะพูดอธิบาย
ซึ่งในขณะที่เธอกำลังอธิบายอยู่ว่าคนที่สวมเสื้อเชิ้ตลายสก๊อตมีผมสีขาว ชื่อว่าหวงยี่เผิง
เขาก็ตะโกนขึ้นมา “พวกเราคือพ่อแม่ของหวงหลิง!”
และหลังจากหยุดชั่วคราว เขาก็พูดต่อ “นายคือหลินฟานใช่หรือเปล่า”
“ใช่แล้ว ผมเอง…คุณอาและคุณป้าที่แสนดีมีอะไรหรือเปล่าครับ?” หลินฟานพูด
หวังยี่เผิงพูด “หวงหลิงเองก็โตแล้ว เธอจะมีความรักเราก็ไม่ได้ว่าอะไร แต่นายก็ควรจะมาพบเราบ้างไม่ใช่หรอ?”
หลินฟานกระพริบตาแล้วหันไปมองหวงหลิงราวกับอยากจะถามเธอว่าเกิดอะไรขึ้น
ถัดจากหวังยี่เผิง ป้าที่ชื่อหลี่หมินในชุดสีม่วงก็พูดขึ้น ” ถ้าฉันไม่เห็นเงาสะท้อนจากช้อนในรูปถ่ายรูปนั้น พวกเราสองคนคงจะยังไม่รู้ว่าลูกสาวมีแฟนแล้วหรอก ”
ขณะที่พูด หลี่หมินก็หยิบโทรศัพท์ออกมาแล้วเปิดรูปถ่ายให้ดู
นั่นเป็นครั้งสุดท้ายที่หลินฟานได้พาหวงหลิงกับฉิวจือเฉียนไปที่ร้านอาหารสตาร์ เพื่อทานอาหารเย็น และเพื่อที่จะทำภารกิจให้สำเร็จ
ซึ่งในตอนนั้น หวงหลิงรู้สึกว่าสภาพแวดล้อมกับอาหารของร้านสตาร์นั้นดีมาก เธอจึงหยิบโทรศัพท์ออกมามาถ่ายรูปมากมาย แล้วเธอก็ได้ส่งให้เพื่อนดูด้วย
และในหมู่รูปภาพที่ถ่ายพวกนั้นก็มีหลินฟานติดอยู่ด้วย
อย่างไรก็ตาม ช้อนของภาพนี้สะท้อนฉากออกมาได้ยังไง!
เมื่อหวงหลิงได้ยินคำพูดที่พ่อแม่ของเธอถามหลินฟาน หน้าของเธอก็แดงราวกับมะเขือเทศทันที
ถ้าหลินฟานกับตัวเขาเองเป็นเพียงแค่เพื่อนกัน แน่นอนว่าคงไม่มีปัญหา
แต่คำตอบคือ…ไม่ใช่!
ซึ่งหลังจากที่หลินฟานได้เห็นภาพ เขาก็เข้าใจทันที
ดังนั้นเขาจึงเปิดปากของเขาและพูดว่า “ลุงกับป้า นี่เป็นความผิดของฉันเอง ฉันควรไปที่บ้านกับหวงหลิงโดยเร็วที่สุด เพื่อไปแนะนำตัวกับพวกคุณให้รู้จัก”
เมื่อหวงหลิงได้ยินคำพูดเหล่านี้ น้ำตาของเธอก็ไหลรินออกมาทันที
หวงยี่เผิงกับหลี่หมินเองก็พยักหน้าพึงพอใจ
“ไม่เลว”