ตอนที่ 227

Crazy Leveling System

CLS ตอนที่ 227: ถล่ม

 

หลังจากอี้เทียนหยุนเลื่อนเข้าสู่ระดับก่อแกนวิญญาณขั้นที่ 9 แล้วเขาก็ทำการดูดกลืนพลังวิญญาณต่อไป รอบๆ ห้องลับเริ่มใสขึ้นทีละน้อย แต่เขาไม่รับรู้อะไร ยังคงดูดกลืนต่อไปอย่างบ้าคลั่ง

 

นอกจากดูดกลืนแล้ว ยังเป็นดูดกลืนอย่างบ้าคลั่งไม่ยอมหยุด

 

ในสมองของเขามีเพียงความคิดเดียว นั่นก็คือเลื่อนระดับ!

 

ขณะที่เขากำลังดูดกลืนพลังวิญญาณอย่างเมามันอยู่นั้น ด้านบนตอนนี้กำลังโกลาหลอย่างหนัก พากันตรวจหาปัญหาอย่างบ้าคลั่ง แต่ไม่ว่าจะหายังไงก็หาไม่เจอ พลังวิญญาณที่หนาแน่นค่อยๆ หายไปอย่างต่อเนื่องไม่ยอมหยุด ราวกับกำลังมีใครกำลังดูดกลืนมันอย่างบ้าคลั่งอย่างไงอย่างงั้น ทำให้พลังวิญญาณในสระเทียนหลิงยี่ค่อยๆ ลดน้อยลง เพียงแค่ใช้ตาเปล่าก็สามารถเห็นได้ถึงน้ำในสระที่ใสกระจ่าง

 

“แท้จริงแล้วมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ หรือว่าพลังวิญญาณจะรั่วไหล?” ผู้อาวุโสหยุนขมวดคิ้วมุ่น พวกเขาตรวจดูทั้งด้านในด้านนอกโดยไม่เว้น แต่ก็ไม่พบว่าปัญหาเกิดจากอะไร

 

ยามทั้งหมดถูกส่งออกไป ตรวจหาทุกซอกทุกมุม กระทั่งใบไม้ทุกใบในสระเทียนหลิงยี่ยังถูกตรวจ แต่ก็ไม่เจอจุดที่เป็นปัญหา นี่ทำให้เขารู้สึกเลวร้ายมาก ถ้าเจ้าตำหนักหลี่มา แล้วเขาจะแก้ตัวยังไง?

 

ขณะที่เขาเพิ่งจะคิด หลี่เทียนหงก็มาถึง เขาเดินเข้ามาจากด้านนอก และเมื่อเห็นสระเทียนหลิงยี่ที่อีกไม่นานก็กลายเป็นน้ำใส ก็ขมวดคิ้วแล้วพูดขึ้นว่า “นี่ตกลงแล้วมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ทำไมพลังวิญญาณที่หนาแน่นถึงได้ลดลงถึงระดับนี้”

 

“เจ้า เจ้าตำหนักหลี่….. เรื่องนี้ข้าก็ไม่รู้เช่นกัน พวกเราป้องกันอย่างดีแล้ว ไม่มีใครเข้าไปอย่างแน่นอน กระทั่งตอนตรวจสอบก็ไม่พบร่องรอยของใครสักคน แต่พลังวิญญาณก็ยังคงลดลงอย่างต่อเนื่อง ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่” ผู้อาวุโสหยุนปาดเหงื่อ หวังว่าเจ้าตำหนักหลี่จะไม่โทษเขา

 

“กลัวว่าเส้นชีพจรวิญญาณที่อยู่ใต้ดินจะมีปัญหา ตอนที่ก่อตั้งตำหนักซิงเฉินขึ้นก็มีชีพจรวิญญาณนี้อยู่แล้ว จึงได้ตัดสินใจสร้างที่นี่ไว้ดูดซับพลังวิญญาณ คิดว่าสักวันมันจะต้องถูกผลาญจนหมด แต่ไม่คิดว่าจะเป็นตอนนี้ เหมือนกับว่าเส้นชีพจรวิญญาณกำลังพังทลาย ทำให้พลังวิญญาณถูกสูบออกไป” หลี่เทียนหงส่ายหัว จากนั้นก็พูดว่า “เอาล่ะ ไม่ต้องไปสนใจเรื่องนี้แล้ว เก็บสมุนไพรวิญญาณที่อยู่ที่นี่ให้หมด หลังจากนี้ไม่ต้องมีคนเฝ้าที่นี่อีก”

 

หลี่เทียนหงตัดใจ มองลงไปยังสระเทียนหลิงยี่ที่ใสราวกับน้ำเปล่า นี่มันไม่ใช่สระพลังวิญญาณแล้ว แต่เป็นแค่สระน้ำธรรมดาเท่านั้น

 

“รับทราบ…..” ผู้อาวุโสหยุนส่ายหัวอย่างหมดหนทาง จากนั้นก็หันไปมองยังสระเทียนหลิงยี่ ดูเหมือนเจ้าตำหนักหลี่จะตัดใจแล้ว ในเมื่อใช้การไม่ได้แล้ว จะสนใจไปทำไมกัน

 

บางทีอาจจะมีสักวันที่มันฟื้นฟูกลับคืนมา ถ้าถึงตอนนั้น พวกเขาก็ค่อยกลับมาใช้ใหม่ แต่ถ้าไม่ ก็คงเป็นได้แค่สระว่ายน้ำธรรมดาเท่านั้น

 

นี่เป็นเรื่องน่าเสียดายอย่างมาก กลัวว่าเส้นชีพจรวิญญาณของที่นี่ยากจะฟื้นกลับคืนมา

 

มาดูทางฝั่งห้องลับกันบ้าง อี้เทียนหยุนในตอนนี้กำลังดูดกลืนพลังวิญญาณอย่างบ้าคลั่ง เคล็ดวิชาดูดกลืนทั้งสามถูกเปิดออก ราวกับพายุขนาดยักษ์ ดูดกลืนพลังทุกอย่างรอบๆ เข้ามาอย่างบ้าคลั่ง ยิ่งในห้องลับด้วยแล้ว ไม่จำเป็นต้องเปิดประตูด้วยซ้ำ ก็สามารถมองเห็นโลงศพผลึกน้ำที่ตั้งอยู่ได้ในทันที

 

สามารถจินตนาการได้เลยว่าพลังในการดูดกลืนของอี้เทียนหยุนนั้นน่าสะพรึงขนาดไหน ถ้าเป็นอย่างนี้ต่อไป ที่นี่จะต้องถูกดูดกลืนจนไม่มีอะไรเหลืออย่างแน่นอน ส่วนเส้นชีพจรที่ฝังอยู่ใต้ดินอะไรนั่น จะว่าฟื้นฟูได้ก็ฟื้นฟูได้ เพียงแต่ไม่รู้ว่าต้องใช้เวลากี่หลายร้อยปี บางทีอาจจเป็นพันปีถึงจะพอฟื้นฟูกลับมาได้นิดหน่อย

 

“แกรก!”

 

ในตอนนี้เอง ห้องลับก็เริ่มปรากฏรอยร้าว พร้อมกับรอยแตกที่กระจายออกไปทุกทิศทาง ราวกับใยแมงมุม เมื่อรอยร้าวกระจายออกไปจนสุด ก็ก่อให้เกิดปฏิกิริยา ห้องลับพังทลายลงมาเสียงดัง “เปรี้ยง” ก่อให้เกิดฝุ่นฟุ้งตลบ!

 

ในตอนนี้เอง อี้เทียนหยุนก็ได้ลืมตาขึ้นช้าๆ พร้อมกับประกายแสงที่สาดออกมาจากดวงตาทั้งสองข้างของเขา เมื่อเห็นห้องลับถล่มลงมา พร้อมกับมองดูสถานการณ์รอบๆ เขาก็พลันตกตะลึง พร้อมกับพูดขึ้นมาว่า “นี่ข้าเป็นคนทำอย่างงั้นเหรอ? ก็ว่าอยู่ทำไมความเร็วในการดูดกลืนถึงได้ช้าลงมาก ที่แท้ห้องลับก็ตกอยู่ในสภาพนี้แล้ว….. แต่ว่าก็น้อยจริงๆ แบบนี้ไม่มีทางเลื่อนระดับได้อย่างแน่นอน”

 

เขาสามารถจินตนาการได้ว่าที่นี่ถูกดูดซับเป็นเวลานานมากแล้ว สมควรได้เวลาร่วงโรยแล้ว ทั้งยังมาถูกการดูดกลืนที่บ้าคลั่งของเขาเข้าไป ทำให้ที่นี่แห้งสนิท ตอนนี้คงพูดได้แค่ว่า ค่าประสบการณ์ที่เขาต้องการนั้นมหาศาลมาก ทำให้เขาดูดกลืนอย่างตะกละตะกลาม เขาก็คิดว่าที่นี่จะช่วยให้เขาเลื่อนขึ้นสัก 2 ระดับ แต่ใครจะรู้ว่าจะทำให้เขาเลื่อนระดับได้เพียงแค่ระดับเดียวเท่านั้น

 

ถึงจะเหลือ 1 ระดับเหมือนกัน แต่ตอนนี้ก็เหลือน้อยกว่าครึ่งแล้วก่อนที่จะเลื่อนระดับ ถ้าได้แหล่งค่าประสบการณ์ดีๆ เขาจะต้องเลื่อนระดับได้อย่างแน่นอน

 

“เอาไว้ไปเจอเอาหน้างานแล้วกัน”

 

เขาตัดสินใจออกมา จากนั้นก็เปิดหน้าต่างสถานะของตนขึ้น พร้อมกับมองดูค่าสถานะในปัจจุบันของตน

 

ผู้เล่น: อี้เทียนหยุน

เลเวล: เลเวล 39 (ระดับก่อแกนวิญญาณขั้นที่ 9)

ค่าประสบการณ์: 43,218,372/ 50,000,000

ค่าความคลั่ง: 1,873,689

ค่าความดี: 630

ค่าความชั่ว: 2,956

วิชาบ่มเพาะ: เทพอุดรทมิฬ, วิชาลับเทพมังกร, เคล็ดวิชาเซวียนเทียน, เคล็ดวิชากลืนสวรรค์

วิชายุทธ์: มหาเวทดูดดาว, ปีศาจโลหิตทะยานสวรรค์, วิชากระบี่ชิงหยุน, วิชาตัวเบาชิงเซวียน

อาวุธ: หมัดเยือกแข็ง, หอกปีศาจโลหิต, กระบี่ไร้สิ้นสุด, ขวานหุ่นเทียนเสิ้ง, กริชกระดูกมังกรโลหิต

เครื่องสวมใส่: ชุดเกราะเทียนเสิ้ง, ผ้าคลุมเงา, ชุดเกราะหุ่นเทียนเสิ้ง(ระดับจิตวิญญาณขั้นต่ำ), รองเท้าศึกหุ่นเทียนเสิ้ง(ระดับจิตวิญญาณขั้นต่ำ),เกราะอสูรโลหิต

ความสามารถศักดิ์สิทธิ์: โหมดคลั่ง, โชคดี, เทเลพอร์ท

สายเลือด: สายเลือดเทพมังกร

พรสวรรค์: เนตรสวรรค์

เครื่องประดับ: ค้อนหลอมเทวะ, กำไลพลัง, แหวนพลัง, เข็มขัดพลัง, กำไลปีศาจโลหิต

ความชำนาญ: สลักอาคมขั้นพื้นฐาน, หลอมศาสตราขั้นกลาง, กลั่นโอสถขั้นกลาง, ค่ายกลขั้นพื้นฐาน

จิปาถะ: เม็ดยาฟื้นฟู 8, กล่องของขวัญเลเวล 41, ชีวิต 1, เม็ดยาโชคร้าย 1, เม็ดยาระเบิด

สมบัติ: เตาหลอมเพลิงม่วงศักดิ์สิทธิ์, หยกโลหิต, แผนที่สมบัติมังกร, มุกหยก, หนังสือบัญชาการ, ปีกฟีนิกซ์

ฉายา: ผู้พิทักษ์, ผู้กอบกู้

เปลวเพลิง: เปลวเพลิงนิรันดร์

 

ค่าความคลั่ง 1.8 ล้าน นี่เป็นค่าความคลั่งที่มากเป็นประวัติศาสตร์ของเขา สามารถเลื่อนระดับได้หลายอย่าง ทำให้เขาไม่ต้องเป็นกังวล เพียงแต่ตอนนี้ยังไม่มีอะไรที่ต้องเลื่อนระดับ เอาไว้ดูความจำเป็นก่อน จากนั้นค่อยเลื่อนระดับยังไม่สาย เพราะหลังจากนี้คงยากที่จะได้มา

 

นี่เป็นโชคดีที่เขากำจัดตระกูลหวังทิ้งไป ทำให้ได้รับค่าความคลั่งมากขนาดนี้ ทั้งยังสิ่งของอีกมาก ซึ่งตอนนี้ถูกเขาขายทิ้งไปหมดแล้ว วิชายุทธ์ระดับปฐพีนั้นขายได้ราคาดีเลยทีเดียว นี่ทำให้เขารู้สึกพึงพอใจอย่างมาก

 

ตอนนี้ถ้าต้องการค่าความคลั่ง การสังหารสัตว์อสูรเป็นวิธีที่เร็วที่สุด นอกจากนี้ค่าประสบการณ์ที่ได้ก็ไม่ใช่น้อยๆ แต่ถ้าใครหน้าไหนไม่มีตาแล้วมาหาเรื่องเขา เขาก็จะยินดีเป็นอย่างมาก พร้อมกับตอบสนองให้ในทันที

 

“เวลาเหลือไม่มากแล้ว สมควรไปรวมตัวกับพวกผู้อาวุโสใหญ่ที่เมืองจู้หลงแล้ว” อี้เทียนหยุนลุกขึ้น จากนั้นก็ออกจากที่นี่ไปอย่างรวดเร็ว บินไปยังเมืองจู้หลง

 

ขณะทีเขาจากมาได้ไม่นาน ข้างบนก็มีเสียงขุดเจาะดังมา อย่างรวดเร็ว รอยเจาะก็ทะลุมายังที่นี่ จากนั้นก็มีคนกลุ่มหนึ่งเดินลงมาจากข้างบน และเมื่อเห็นสถานการณ์ตรงหน้าก็พากันตกใจ ไม่คิดว่าที่นี่จะยังมีห้องลับอยู่ แต่ว่าห้องลับนี้ดูแล้วน่าสยองอยู่บ้าง

 

“ที่นี่มีห้องลับอยู่ด้วย นี่มันเกิดอะไรขึ้นกัน?” ผู้อาวุโสหยุนตกใจ แต่ขณะที่พวกเขาเตรียมจะจากไปนั้น ก็พลันได้ยินพังทลายดังมา ดังนั้นจึงรีบขุดหาทางออกอย่างรวดเร็ว

 

จากสิ่งที่ได้เห็น เหมือนว่าจะไม่มีของสำคัญอยู่ เพราะที่เหลือมีเพียงแต่ขยะที่ใช้การไม่ได้ ทั้งที่นี่ยังไม่มีคน แล้วจะมีความหมายอะไรถ้ายังอยู่ที่นี่ต่อ?

 

เหตุการณ์นี้อี้เทียนหยุนไม่รู้ โชคดีที่เขาจากมาเร็ว ถ้าคนอื่นเห็นเขา มันคงเป็นปัญหาอย่างแน่นอน