ตอนที่ 265 เจ้าเทพ

Mars เจ้าสงครามครองโลก

ปรมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่แห่งบู๊ตายแล้ว!

ปรมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่ที่อายุน้อยที่สุดในเจียงหนานตายแล้ว!!

ปรมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่ที่อนาคตไกลที่สุดในเจียงหนานตายแล้ว!!!

ดาราแอคชั่นที่มีพลังต่อสู้เก่งที่สุดและมีชื่อเสียงที่สุดในวงการบันเทิง ถูกต่อยตายไปแล้วในหมัดเดียว!!

ทุกคนล้วนเหมือนจะลืมไปแล้วว่าพูดจาอย่างไร สายตาเหลือแต่ความหวาดกลัว!

“มึงรนหาที่ตาย!!!”

ทันใดนั้นเอง เสียงตะคอกเสียงหนึ่ง เหมือนเป็นสายฟ้าฟาด ดังขึ้นบนท้องฟ้า!

หลี่เสี่ยวเซิง รองหัวหน้าสมาคมบู๊เจียงหนาน เอามือตบโต๊ะลุกขึ้น แล้วก็กระโดดขึ้นไปบนเวทีประลอง!

“สมควรถูกฆ่า!!”

ปรมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่อีกคน เป็นหัวหน้าสมาคมบู๊เจียงหนาน ชื่อว่าจ้าวโจงฉี โมโหหืดขึ้นคอ ไม่สนใจฐานะตนเอง กระโดดขึ้นไปบนเวทีประลองเหมือนกัน!

พวกเขาต้องการจะฆ่าเย่เซิ่งเทียน!

“มึงกล้าฆ่าปรมาจารย์หานงั้นรึ!!!”

โจวอู่หวาดกลัวไม่สบายใจ เขามีลางสังหรณ์ไม่ค่อยดี เริ่มกลัวแล้ว

เย่เซิ่งเทียนน่ากลัวมาก!

เขาไม่กล้าอยู่ต่อไปแล้ว ที่นี่มันไม่ใช่ที่ปลอดภัย

ปรมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่หนึ่งคนได้ตายไปแล้ว จะต้องดึงดูดจุดสนใจของเจ้าเทพมาแน่

คืนนี้ วุ่นวายใหญ่แล้ว!

จะต้องรีบออกไปจากที่นี่!

คนอื่นจะเป็นตายร้ายดีอย่างไร ก็ไม่เกี่ยวกับตนเองแล้ว ตนเองจะต้องรีบออกไป

ไม่แน่ว่า เจ้าเทพอาจจะส่งคนมาแล้ว!

เรื่องใหญ่แบบนี้ เจ้าเทพจะไม่ให้ความสนใจได้อย่างไร!

โจวอู่คิดถึงจุดนี้ แล้วก็แอบไปบอกโจวเทียนฉีและโจวหมินหมินที่กำลังตกใจอึ้งอยู่ ว่าให้รีบหนีออกไปจากที่นี่

“ศิษย์พี่ใหญ่!!”

คนของสำนักพลังบวก ร้องไห้ระงม

“ปรมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่จ้าว ปรมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่หลี่ ช่วยแก้แค้นให้กับศิษย์พี่ใหญ่ของพวกเราด้วย!!”

วุ่นวายหมดแล้ว!

เหตุการณ์วุ่นวายหมดแล้ว!

จากการตายของหานเฟิง มีคนโมโห มีคนหวาดกลัว มีคนตกใจจนร้องออกมา

“เย่เซิ่งเทียน มึงมันสมควรตาย!มึงรู้ไหม หานเฟิงเป็นอัจฉริยะในโลกบู๊แห่งเจียงหนาน ที่มีพลังจนอาจจะได้เป็นถึงพญาบู๊!!มึงรู้ไหมว่าพญาบู๊มันหมายถึงอะไร!!”

หลี่เสี่ยวเซิงกัดฟัน ใบหน้าร้ายๆ น้ำเสียงผุดออกมาตามซอกฟันของเขา!

“หานเฟิงฆ่ามึง นั่นเป็นบุญของมึง!!แต่มึงกล้าสู้กลับ!มึงกล้าฆ่าเขาตาย!!”

“กูจะเอา ชีวิตมึง!!”

จ้าวโจงฉีตะคอกพูดว่า “เย่เซิ่งเทียน คุกเข่าลงเลยมึง ไปโขกหัวให้กับหานเฟิง โขกหัวให้กับโลกบู๊แห่งเจียงหนานเพื่อยอมรับผิด ไปยอมรับผิดกับทุกคนในโลกบู๊แห่งเจียงหนาน”

“เดิมทีมึงนั้นก็มีความผิดอยู่ก่อนแล้ว หานเฟิงลงมือกับมึง นั่นก็เป็นเรื่องที่ถูกต้องแล้ว!มึงฆ่าหยวนปินตาย มึงก็มีโทษถึงตายแล้ว ยังไม่รู้ความผิดตนเองอีก!!”

เย่เซิ่งเทียนพูดนิ่งๆ “ไอ้กระจอกคนหนึ่ง ตายก็ตายไปแล้ว ขยะสองตัวอย่างพวกมึง ยังจะกล้ามาเห่าตรงหน้ากูอีก”

ทันใดนั้นเอง เสียงของเย่เซิ่งเทียนก็ดังขึ้น สายตาเย็นชาถึงที่สุด ตวาดพูดว่า “ใครให้ความกล้ากับมึงขนาดนี้วะ!!!คุกเข่าลง!!!”

จ้าวโจงฉีกับหลี่เสี่ยวเซิงก็ผงะในใจ พวกเขากลับไม่กล้าที่จะมองเย่เซิ่งเทียนตรงๆ !

บรรยากาศที่น่ากลัว ทำเอาพวกเขาต้องถอยหลังไปหลายก้าว

“จ้าวโจงฉี หลี่เสี่ยวเซิง หมาสองตัวอย่างพวกมึงกล้านักนะ ยังไม่คุกเข่าลงอีก!!!”

ในตอนนี้เอง ชายแบกดาบยาวเล่มหนึ่งเดินเข้ามา

พอชายคนนี้ปรากฏตัวออกมา ก็ทำให้จ้าวโจงฉีและหลี่เสี่ยวเซิงหนังตากระตุกอย่างแรง!

กลิ่นคาวเลือดบนตัวฝั่งตรงข้าม มันเหม็นจนได้กลิ่นจากที่ไกลๆ

เหมือนกับคลานขึ้นมาจากกองภูเขาศพ!

บรรยากาศที่รุนแรง เหมือนมีภูเขาลูกใหญ่ มาทับทุกคนไว้จนหายใจไม่สะดวก

หลี่เสี่ยวเซิงก็พบว่า ขาตนเองนั้นจะอ่อนแรงไป!

นี่มันต้องฆ่าคนมากมายเท่าไร ถึงจะมีพลังอาฆาตที่รุนแรงและน่ากลัวแบบนี้ได้!

“มึง เป็นใคร!”

จ้าวโจงฉีสีหน้าเปลี่ยน แล้วถามออกมาโดยสัญชาตญาณ

“มึงไม่คู่ควรรู้ชื่อกูหรอก”

ชายสะพายดาบก็เดินมาตรงหน้าเย่เซิ่งเทียน แล้วนั่งชันเข่าลงพื้น

เสียงพูดดังว่าเหมือนฟ้าร้อง พูดว่า ” ราชาปรับอุดรเฉินเทียนป้า ฉายาจอมคลั่งดาบ สวัสดีเจ้าเทพครับ!”