บทที่ 121 บริษัทการก่อสร้างสิ้นเหอ(1)
หวังเจิ้งกางกล่าวอย่างรวดเร็ว “คุณเย่ ตอนนี้มันเป็นช่วงเวลาเร่งด่วน แล้วมันเป็นเรื่องยากที่จะเรียกรถแท็กซี่ได้ ถ้าคุณเย่ไม่รังเกียจให้ผมไปส่งคุณนะครับ”
แม้ว่าเซียวชูหรันจะรู้สึกว่าหวังเจิ้งกางแปลกไปนิด แต่เมื่อได้ยินประโยคนี้ เธอกล่าวอย่างเกรงใจว่า “เป็นการรบกวนประธานหวังเกินไปค่ะ”
“ไม่รบกวน ไม่รบกวนเลยสักนิด” ประธานหวังรีบลงจากรถ มาเปิดประตูรถให้ทั้งสองคนด้วยตัวเอง ด้วยความรู้สึกดีใจเป็นอย่างยิ่ง
เมื่อเย่เฉินเห็นเช่นนั้น เขาแตะจมูกแล้วไม่ได้พูดอะไร ในใจเขารู้ดีกว่าหวังเจิ้งกางคงไม่ปล่อยโอกาสที่จะประจบเขาผ่านไปอย่างแน่นอน เมื่อตนเองต้องการใช้เขาอยู่พอดี ดังนั้นจึงไม่มีเหตุผลอะไรที่จะปฏิเสธ
มีคนขับรถอยู่ข้างหน้า หวังเจิ้งกางนั่งอยู่คู่กับคนขับ เขาสนทนาสัพเพเหระกับเย่เฉิน
เมื่ออยู่ในรถ เซียวชูหรันฟังทั้งสองคนสนทนากัน รู้สึกสงสัยอยู่ในใจเป็นอย่างมาก
อย่างน้อยหวังเจิ้งกางก็เป็นคนที่ประสบความสำเร็จในเมืองจินหลิง ตำแหน่งของเขาในแวดวงธุรกิจนั้นสูงกว่านายหญิงใหญ่เซียว เป็นคนมั่นคงหนักแน่น แต่เซียวชูหรันรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่า หวังเจิ้งกางกำลังประจบเย่เฉิน และประจบจนน่าขนลุก
เธอแอบมองเย่เฉินแวบหนึ่ง ก็เห็นว่าหน้าเขาเป็นปกติธรรมชาติ ไม่ได้ต่อต้านอะไร ทำให้เธอรู้สึกแปลกใจ
หากพูดตามหลักแล้ว คนธรรมดาหากอยู่ต่อหน้าหวังเจิ้งกางแล้วจะนอบน้อม และประจบเขา แต่เย่เฉินกลับเฉยเมยจนสามารถกล่าวได้ว่าไม่สนใจหวังเจิ้งกางเสียด้วยซ้ำไป
สิ่งที่น่าทึ่งไปกว่านั้นคือ หวังเจิ้งกางได้มอบคฤหาสน์สุดหรูมูลค่ามากกว่า 100 ล้านให้เย่เฉิน มันแปลกจริง ๆ!
อย่างไรก็ตาม เซียวชูหรันเคยได้ยินมานานแล้วว่าหวังเจิ้นกางเป็นคนที่เชื่อเรื่องไสยศาสตร์ วันที่5 และ15ของทุกเดือน เขาจะจุดธูปบูชาเทพเจ้าที่บ้าน ซึ่งพอดีว่าเย่เฉินกำลังศึกษาเรื่องลึกลับพวกนี้ คิดว่าที่หวังเจิ้นกางปฏิบัติอย่างสุภาพกับ เย่เฉิน ก็คงจะด้วยเหตุนี้
แต่เรื่องความเชื่อไสยศาสตร์พวกนี้ เธอไม่เชื่ออย่างแน่นอน
สิบนาทีต่อมา รถได้มาหยุดที่ประตูของบริษัทการก่อสร้างสิ้นเหอ
เมื่อรถได้จอดสนิทแล้ว หวังเจิ้งกางรีบลงจากรถ และเปิดประตูรถให้ทั้งสองคนด้วยตัวเอง
เซียวชูหรันรีบกล่าว “ขอบคุณประธานหวัง” จากนั้นก็เดินตามเย่เฉินเข้าไปบริษัทการก่อสร้างสิ้นเหอ
“อาจารย์เย่ ผมจะรอพวกคุณอยู่ตรงนี้” หวังเจิ้งกางกล่าว
เย่เฉินพยักหน้าให้เขา และกล่าวว่า “ขอบคุณที่ส่งพวกเรามาที่นี่ แต่คุณไม่ต้องรอแล้ว เพราะผมก็ไม่รู้ว่าจะออกมาอีกทีเมื่อไหร่ คุณกลับไปก่อนเถอะ”
“ไม่เป็นไรครับ เพราะว่าวันนี้ผมไม่มีธุระอะไรอยู่แล้ว”
หวังเจิ้งกางพยักหน้าและยิ้ม “ช่วงนี้ธุรกิจของตระกูลหวังไม่ราบรื่น ทำให้ผมกังวลจริง ๆ หากมีเวลาผมอยากรบกวนปรึกษาคุณ”
เย่เฉินยิ้มและกล่าวว่า “คุณเกิดปีระกาใช่ไหม?ไท่สุ่ยปีนี้ ปีระกาชงกับปีจอ เมื่อทั้งสองต่อสู้กันก็ต้องบาดเจ็บ คุณไปซื้อสมุนไพรบางอย่างเช่นอ้ายฉ่าว เม็ดโคกกระสุน โกศเขมา และโป่งรากสน แช่อาบหลายครั้ง ทำให้ตุ่มพุพองหาย แล้วก็จะทำให้โชคลาภดีขึ้น ความอับชื้นภายในเกิดจากความชั่วร้าย และเมื่อความชั่วร้ายรุกราน ไม่เพียงแต่ส่งผลกระทบต่อร่างกาย ยังส่งผลต่อดวงด้วย”
เมื่อได้ยินประโยคนี้ หวังเจิ้งกางตกตะลึง จนตาแทบถลนออกมา
เมื่อเย่เฉินกล่าวจบ ก็หันหลังเดินไป
หวังเจิ้งกางรู้สึกตื่นตระหนกตกใจ พึมพำแล้วกล่าวว่า “พระเจ้า อาจารย์เย่นี่เป็นคนเก่งจริง ๆ! ที่สามารถรู้ว่าที่ต้นขาของผมมีตุ่มพุพอง แม้กระทั่งภรรยาของผมก็ไม่รู้ด้วยซ้ำ!”
สีหน้าเขาแสดงถึงความเคารพ เขาโค้งคำนับอย่างสุดต่อแผ่นหลังของเย่เฉิน
ดูเหมือนว่าที่เขามาพึ่งเย่เฉินนั้น มันมาถูกทางแล้วล่ะ
สีหน้าหวังเจิ้งกางรู้สึกพอใจ และกล่าวอย่างเย็นชา “ ท่านฉิน คุณอย่าคิดว่าคุณมีความสัมพันธ์ที่ดีกับคุณเย่ แล้วจะโชคดีน่ะ! ผมอาศัยประจบประแจงเขา ก็ไม่ด้อยไปกว่าคุณ!”
เย่เฉินเดินเข้าไปในโถง และส่งเซียวชูหรันเข้าไปในห้องสัมภาษณ์
เซียวชูหรันเดินเข้าไปในห้องสัมภาษณ์ ข้างในมีผู้มาสัมภาษณ์หลายคน เธอกำลังรอคิวอยู่
เย่เฉินอยู่ว่าง ๆ เลยเดินไปรอบ ๆ ห้องโถง เขามองไปที่ชั้นล่างจากหน้าต่าง เขาส่ายหัวทันที เมื่อเห็นว่าหวังเจิ้งกางยังคงรออยู่
ตระกูลหวังนับถือเขาเหมือนบรรพบุรุษ ไม่รู้จะทำยังไงจริง ๆ
ในออฟฟิศ