บทที่ 1237 เทพธิดามังกร

Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1237 เทพธิดามังกร

แปลโดย iPAT

ผู้ใช้วิญญาณเคราหนาไม่เข้าใจอารมณ์ของฟางหยวน

ในฐานะนักเดินทางต่างโลก ความสามารถพิเศษของผู้ใช้วิญญาณเหนือกว่ามนุษย์ธรรมดามาก การเปลี่ยนจากมนุษย์ธรรมดาเป็นยอดมนุษย์ แน่นอนว่าฟางหยวนย่อมรู้สึกตื่นเต้นและกระตือรือร้น

“นอกจากนี้พรสวรรค์ของข้ายังอยู่ในนภาที่สามเท่านั้น แล้วข้าจะไม่ทำงานหนักได้อย่างไร?” ฟางหยวนหัวเราะ

“ท่านลุงเชิญทำธุระของท่าน ข้าจะฝึกฝนต่อไป” ฟางหยวนกล่าวอีกครั้ง

ผู้ใช้วิญญาณเคราหนาหัวเราะและส่ายศีรษะอย่างมีชั้นเชิง

เขามองฟางหยวนฝึกฝนอยู่ห่างๆและพึมพำ “แม้เจ้าจะทำงานหนัก พรสวรรค์ของเจ้าก็อยู่ในนภาที่สามเท่านั้น…ความจริงที่โหดร้ายจะทำร้ายเจ้าและดับไฟแห่งความกระตือรือร้นของเจ้า ความล้มเหลวจะหยุดความตื่นเต้นของเจ้า แล้วเจ้าจะทำงานหนักเช่นนี้ได้นานเท่าใด?”

อีกมุมหนึ่งของอาณาจักรแห่งความฝัน ฟางหยวนตัวจริงจับกิ่งไม้ที่ถูกตัดขาดโดยดาบแสงจันทร์

“ไม่เลว ทรัพยากรบนเส้นทางแห่งความฝันชิ้นนี้ค่อนข้างดี หากข้าโชคดี ข้าสามารถใช้มันหลอมรวมวิญญาณระดับมนุษย์บนเส้นทางแห่งความฝันได้มากกว่าสิบดวง”

เขาเผยรอยยิ้มบางขณะที่ดวงตาส่องประกายราวกับดวงดาวบนท้องฟ้าที่มืดมิด

…..

ถ้ำสวรรค์ไป่เซียง

การหลอมรวมวิญญาณมนุษย์เปลี่ยนเป็นมังกรดำเนินมาถึงช่วงเวลาสุดท้ายที่สำคัญที่สุด

“อดทนไว้ ท่านไม่สามารถเสียสมาธิ นายน้อย ท่านทำได้ ท่านจะประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน!” จิตวิญญาณสวรรค์ไป่เซียงตะโกน

ค่ายกลวิญญาณปล่อยเสาแสงขึ้นสู่ท้องฟ้าโดยมีร่างอันคลุมเครือของคนผู้หนึ่งยืนอยู่ตรงกลาง

มันคือไป่หนิงปิง

ใบหน้าและร่างกายของเขาหลอมละลายราวกับเทียนที่ถูกความร้อน

เส้นผมของเขาไหม้ไปหมดแล้ว ดวงตาของเขาบอด กระทั่งมือและขายังถูกหลอมรวมเป็นหนึ่ง

ไป่หนิงปิงไม่เหมือนมนุษย์อีกต่อไป

เขาเผชิญหน้ากับความเจ็บปวดที่รุนแรงมาหลายสัปดาห์

แรกเริ่มเขากรีดร้องด้วยความเจ็บปวด แต่หลังจากนั้นเขาถูกบังคับให้รักษาชีวิตมาจนถึงเวลานี้

เขาทำได้เพียงกัดฟันและอดทนเท่านั้น

ต่อมาไม่ว่าจะเป็นฟันหรือลิ้นของเขาก็หลอมละลายภายใต้เปลวเพลิงที่บ้าคลั่ง

ตอนนี้เขากลายเป็นเสามนุษย์ที่ดูน่าสยดสยองมาก

แต่จิตวิญญาณสวรรค์ไป่เซียงยังสัมผัสได้ถึงความมุ่งมั่นของไป่หนิงปิง

มันเป็นความมุ่งมั่นที่แข็งแกร่งราวกับเหล็กกล้าและทำให้เขาสงบลง กระทั่งจิตวิญญาณสวรรค์ไป่เซียงก็ยังรู้สึกพูดไม่ออก

เดิมทีจิตวิญญาณสวรรค์ไป่เซียงไม่คิดว่าไป่หนิงปิงจะประสบความสำเร็จ เนื่องจากสถานการณ์ของไป่หนิงปิงเลวร้ายเกินไป

การหลอมรวมวิญญาณทุกครั้งมีโอกาสล้มเหลวโดยเฉพาะการหลอมรวมวิญญาณมนุษย์เปลี่ยนเป็นมังกร ผู้หลอมรวมจำเป็นต้องเตรียมตัวและเตรียมใจรับความเสี่ยงนี้มาอย่างเพียงพอ

“ตูม!”

เสียงระเบิดดังขึ้น

เสาแสงเปลี่ยนเป็นมังกรเพลิงสีแดงบินขึ้นสู่ท้องฟ้าก่อนจะบินกลับลงมาและหลอมรวมกับร่างกายของไป่หนิงปิง

ก้อนเนื้อสีแดงระเบิดออกมาจากภายในและทำให้ไป่หนิงปิงกำเนิดใหม่!

“สำเร็จ! สำเร็จแล้ว!” จิตวิญญาณสวรรค์ไป่เซียงจ้องมองด้วยดวงตาเบิกกว้าง

ภายใต้แสงสว่างไป่หนิงปิงเงยหน้าคำรามขึ้นสู่ท้องฟ้า

นางกล่าว “มังกรทะยานร่างขึ้นสู่ท้องฟ้า วันนี้ข้าสามารถทะยานขึ้นสู่อิสรภาพที่แท้จริง”

เสียงของนางก้องกังวาลราวกับมังกร

จิตวิญญาณสวรรค์ไป่เซียงคุกเข่าลงบนพื้นและกล่าว “ขอแสดงความยินดีกับชีวิตใหม่ของนายท่าน ท่านกลายเป็นผู้อมตะที่แท้จริงแล้ว!”

ไป่หนิงปิงเดินออกมา ตอนนี้ผิวของนางไม่ได้ขาวราวหิมะอีกต่อไป นางแตกต่างจากก่อนหน้าเป็นอย่างมาก อย่างไรก็ตามความงามของนางกลับเหนือกว่าตัวตนในอดีตของนางไปอีกมาก

ดวงตามังกรสีฟ้าของนางส่องประกายเย็นชาอย่างที่สุด

แต่ในเวลาต่อมาความตกใจก็ปรากฏในดวงตามังกรของนาง “หือ เกิดสิ่งใดขึ้น ข้ากลายเป็นผู้อมตะแล้ว ข้ามีมิติช่องว่างที่แท้จริง แต่เหตุใดข้าถึงกลายเป็นผู้หญิง?”

“นี่…” จิตวิญญาณสวรรค์ไป่เซียงครุ่นคิดก่อนอธิบาย “วิธีการหลอมรวมวิญญาณมนุษย์เปลี่ยนเป็นมังกรใช้ร่างกายของผู้อมตะเป็นวัสดุในการหลอมรวม ผลลัพธ์จะแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ร่างกายของนายท่านเคยมีร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลง ดูเหมือนมันจะส่งผลต่อร่างกายของนายท่านและทำให้นายท่านกลายเป็นมนุษย์มังกรเพศหญิง”

ไป่หนิงปิง “…”

นางตระหนักว่าร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งข้อมูลและข้อตกลงพันธมิตรทั้งหมดของนางหายไป แต่ร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลงส่งผลกระทบต่อการร่างกายของนาง ดังคำกล่าวของจิตวิญญาณสวรรค์ไป่เซียง วิธีการหลอมรวมวิญญาณมนุษย์เปลี่ยนเป็นมังกรไม่สามารถควบคุมขณะที่วัสดุในการหลอมรวมจะส่งอิทธิพลอย่างมากต่อผลลัพธ์

ไป่หนิงปิงขมวดคิ้ว

นี่เป็นเหมือนคำสาป

คำสาปร่างหญิงของนางเริ่มขึ้นตั้งแต่ภูเขาชิงเหมา

หลังจากครุ่นคิด ไป่หนิงปิงถาม “ข้าจะกลับเป็นผู้ชายได้อย่างไร?”

จิตวิญญาณสวรรค์ไป่เซียงตอบ “นี่เป็นเรื่องง่ายมาก เพียงบ่มเพาะบนเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลง”

ไป่หนิงปิงส่ายศีรษะ “นั่นไม่สามารถแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ ข้ามีสุดยอดกายาน้ำแข็งแห่งความมืด ข้าจะบ่มเพาะบนเส้นทางแห่งหิมะและน้ำแข็งในอนาคต”

จิตวิญญาณสวรรค์ไป่เซียงครุ่นคิดก่อนกล่าว “นายท่าน ท่านกำเนิดใหม่แล้ว ร่างกายของผู้หญิงคือเพศสภาพที่แท้จริงของท่าน แต่หากท่านต้องการเปลี่ยน ท่านต้องตามหาวิญญาณกงล้อหยินหยางและเปลี่ยนมันให้เป็นวิญญาณอมตะกงล้อหยินหยางเพื่อทำให้ท่านเปลี่ยนเป็นผู้ชาย”

ไป่หนิงปิง “…”

ภาพของบางคนปรากฏขึ้นในใจของนางอย่างไม่สามารถควบคุม

“ฟางหยวน เจ้ายังเป็นอุปสรรคของข้าจนถึงตอนนี้ ฮืม!” ไป่หนิงปิงก่นเสียงเย็น

นางรู้ว่าฟางหยวนมีอินทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุด หากนางต้องการวิญญาณกงล้อหยินหยางจากเขา นางต้องวางแผนการอย่างรอบคอบ

…..

ภาคกลาง นิกายคฤหาสน์วิญญาณ

บนท้องฟ้า กลุ่มผู้อมตะมารวมตัวกัน

ผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของนิกายคฤหาสน์วิญญาณกล่าว “ปู้เจิ้งซือ เจ้าต้องปกป้องผู้นำนิกายของเราในการเดินทางไปยังภาคเหนือครั้งนี้ นางเป็นเพียงผู้อมตะเทียมและพึ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะได้ไม่นาน”

ปู้เจิ้งซือเป็นผู้อาวุโสสูงสุดคนหนึ่งของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เขาเป็นผู้อมตะระดับเจ็ดบนเส้นทางแห่งภูตผี เขากล่าวด้วยความมั่นใจ “ตราบเท่าที่ข้ายังมีชีวิตอยู่ ข้ามั่นใจว่านางจะปลอดภัย”

ผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งพยักหน้าและมองไปที่จ้าวเหลียนหยุน “เจ้าต้องคิดทุกอย่างให้รอบคอบ ในการเดินทางครั้งนี้ความปลอดภัยของเจ้าสำคัญที่สุด ปล่อยให้ผู้เชี่ยวชาญจากสิบนิกายโบาณดำเนินการทั้งหมด ด้วยความได้เปรียบของเราในฐานะผู้โจมตี มีโอกาสสูงที่พวกเราจะประสบความสำเร็จ”

จ้าวเหลียนหยุนพยักหน้าด้วยความเข้าใจ

นางโค้งคำนับผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งและซูเฮากับหลี่จุนอิง “ข้าขอลาก่อน”

“อืม ออกเดินทางเถอะ” ผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งโบกมือ

ปู้เจิ้งซือป้องหมัดขึ้นก่อนจะนำจ้าวเหลียนหยุนบินออกไป

“ผู้ใดจะคิดว่าจ้าวเหลียนหยุนจะกลายเป็นผู้นำนิกายของพวกเรา”

“สวรรค์กำลังเล่นตลกกับพวกเรา”

“ข้าสงสัยนักว่านางจะสามารถช่วยหม่าหงหยุนผู้นั้นได้หรือไม่?”

“ในความคิดของข้า มีโอกาสเป็นไปได้สูง หลังจากทั้งหมดนี่คือการรวมตัวของผู้เชี่ยวชาญจากสิบนิกายโบราณของภาคกลาง!”

ผู้อมตะของนิกายคฤหาสน์วิญญาณสนทนากัน

“ข้าจะไปคุยกับลูกสาวของเรา” เทพธิดาไป่ชิงกล่าวกับฟงจิวเก้อ

ฟงจิวเก้อพยักหน้า

ครั้งนี้เขาต้องการไปภาคเหนือด้วยแต่วังสวรรค์ไม่อนุญาต

ฟงจิวเก้อเป็นอัจฉริยะในตำนานที่ไม่มีผู้ใดเสมอเหมือนในรอบหลายพันปี เขามีความสามารถสูงมาก เขาสามารถต่อสู้กับผู้อมตะระดับแปดด้วยการบ่มเพาะระดับเจ็ด!

ตามตรรกะ เขาเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดที่จะส่งไปภาคเหนือ แต่เขากลับไม่สามารถเข้าร่วมในภารกิจนี้

ฟงจิวเก้อไม่รู้ว่าวังสวรรค์กำลังคิดหรือวางแผนใดอยู่

เมื่อเทพธิดาไป่ชิงพบฟงจินฮวง ฝ่ายหลังกำลังนั่งอยู่ริมทะเลสาบและมองระลอกคลื่นบนผิวน้ำ

เทพธิดาไป่ชิงรู้สึกห่วงใยบุตรสาวเป็นอย่างมาก

นางรู้ว่าบุตรสาวของนางต้องการเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณมาตลอด นางทำงานหนักเพื่อมัน แต่ตอนนี้จ้าวเหลียนหยุนกลับได้รับการยอมรับจากวิญญาณแห่งความรัก นอกจากนั้นนางยังได้รับการสนับสนุนจากวังสวรรค์และกลายเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณในที่สุด

นี่ทำให้ฟงจินฮวงถูกตัดออกจากการแข่งขัน

เทพธิดาไป่ชิงเดินเข้าไปหาฟงจินฮวง “เจ้ายังคิดถึงตำแหน่งผู้นำนิกายอยู่งั้นหรือ?”

“ไม่ ท่านแม่ ข้ากำลังคิดว่าเหตุใดข้าถึงไม่ได้รับการยอมรับจากวิญญาณแห่งความรัก?” ดวงตาของฟงจินฮวงเป็นสีแดงจากการแอบร้องไห้ก่อนหน้านี้

“นั่นเป็นเพราะเจ้าไม่มีความรัก” เทพธิดาไป่ชิงนั่งลงด้านข้างฟงจินฮวงและยกมือขึ้นลูบศีรษะของบุตรสาว

ฟงจินฮวงถาม “เหตุใดข้าถึงไม่มีความรัก? ความรักคือสิ่งใด?”

เทพธิดาไป่ชิงคิดก่อนกล่าว “ความรักแตกต่างจากความรักในครอบครัวและมิตรภาพ มันเป็นความสัมพันธ์รูปแบบหนึ่งเหมือนความรักที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหันระหว่างพ่อกับแม่ของเจ้า ไม่มีผู้ใดสามารถควบคุมหรือบังคับความรัก ทั้งหมดขึ้นอยู่กับคนสองคน”

ฟงจินฮวงส่ายศีรษะ “ข้าไม่ต้องการปล่อยให้โชคชะตานำพาไป นั่นไม่ใช่ข้า ข้าต้องการค้นหาความรักและได้รับการยอมรับจากวิญญาณแห่งความรักเพื่อยึดตำแหน่งผู้นำนิกายกลับมา ท่านแม่คิดว่านี่เป็นไปได้หรือไม่?”

เทพธิดาไป่ชิงยิ้ม นี่เป็นไปไม่ได้แต่เมื่อนางเห็นสายตาที่เต็มไปด้วยความคาดหวังของบุตรสาว ในฐานะมารดา นางจะพูดความจริงออกมาได้อย่างไร

ดังนั้นนางจึงกล่าว “มีโอกาสเป็นไปได้ แต่เจ้าต้องหาคนรักก่อนเป็นอันดับแรกและคนผู้นี้ต้องไม่ใช่พ่อแม่หรือสหายเพศหญิงของเจ้า”