เมื่อเห็นเด็กหญิงปรากฏตัวขึ้นมา สมาชิกของตระกูลเฟเธอร์ที่อยู่รอบๆต่างก็มีสีหน้าที่แปลกประหลาด พวกเขาต่างก็ล่วงรู้ทันทีว่าเจ้านี่ก็คือเด็กสาวของเผ่าพันธุ์เทาเที่ย ต่อให้จะกลายเป็นเถ้าถ่านพวกเขาก็ยังจดจำได้
พวกเขาก็นึกขึ้นได้ว่าแรกเริ่มเดิมทีเจ้าเด็กสาวคนนี้ก็หลอกลวงพวกเขาด้วยท่าทางที่น่ารักน่าชังเช่นนี้ ส่งผลให้พวกเขาโง่เขลาให้ที่พักพิงแก่ฝ่ายตรงข้าม ท้ายที่สุดฝันร้ายก็มาเยือน ทำให้ตระกูลเฟเธอร์ของพวกเขาเผชิญกับความสูญเสียที่ร้ายแรง
เงินส่วนใหญ่ที่พวกเขาได้มาในหลายวันนี้ต่างก็หายเข้าไปในท้องของเด็กสาวคนนี้ ทำให้ผู้คนของตระกูลเฟเธอร์หนักอกหนักใจกันอย่างมาก ทรัพย์สินทั้งหมดของพวกเขาเกือบที่จะถูกกลืนกินโดยเด็กหญิงคนนี้
ตอนนี้เมื่อพวกเขาเห็นว่าเจ้าตัวตนแห่งปัญหานี้เดินเข้ามา อีกทั้งก็ยังได้เข้าไปเกาะติดกับเจ้าลูกศิษย์สายตรงของนิกายฟ้าดินที่ชั่วร้ายคนนี้นั้น พวกเขาก็รู้สึกมีความสุขอย่างมาก ทว่าพวกเขาก็ไม่ได้ยิ้มออกมา ไม่อย่างนั้นฝ่ายตรงข้ามอาจจะค้นพบได้ว่ามีเรื่องไม่ชอบมาพากลบางอย่าง
“รับเลี้ยงเจ้า?”
เซี่ยปิงก็มีสีหน้าที่งุนงงเล็กน้อย สัญชาตญาณของเขากำลังบ่งบอกว่ามีบางอย่างผิดปกติกับเด็กสาวคนนี้ ที่นี่คือสถานที่กักขังทาส มีที่ไหนที่ทาสเด็กหญิงคนนี้จะมีอิสระในการเดินไปไหนมาไหนเช่นนี้ได้
ยิ่งไปกว่านั้นพลังอำนาจของเด็กหญิงคนนี้ก็ดูเหมือนว่าจะไม่ได้ธรรมดาเลย อันที่จริงไม่รู้ว่ามีพลังอำนาจที่น่าสะพรึงกลัวแค่ไหนที่หลบซ่อนอยู่ หากไม่ใช่เป็นเพราะว่าร่างกายของเขาแข็งแกร่งอย่างยิ่งนั้น คาดการณ์ได้ว่าทันทีที่เจ้าเด็กนี่วิ่งเข้ามาเกาะขาของเขานั้น เขาก็คงจะกระเด็นล้มลงไปกับพื้นโดยตรง
สามารถที่จะจินตนาการได้ ร่างกายขนาดเล็กของเจ้าเด็กนี่แอบแฝงไปด้วยพลังอำนาจของอสูรศักดิ์สิทธิ์
แน่นอนว่าเด็กสาวคนนี้ก็น่ารักน่าชังอย่างมาก ดวงตาโตที่ใสซื่อบริสุทธิ์ ริมผีปากบาง จมูกที่เล็ก เนื้อหนังเป็นเหมือนกับครีม ใบหน้าที่งดงาม ดูเหมือนกับเป็นสิ่งที่กำเนิดขึ้นมาจากปาฏิหาริย์ก็ว่าได้
แม้แต่รูปร่างของเธอก็เซ็กซี่เช่นกัน เห็นได้ชัดว่าเป็นเด็กหญิงที่มีอายุประมาณ5-6ขวบ ทว่ากลับมีสัดส่วนโค้งเว้าที่เหนือกว่าผู้ใหญ่บางคนเสียอีก หากผู้หญิงคนอื่นๆได้เข้ามาเห็น จะต้องรู้สึกอิจฉาอย่างแน่นอน คิดว่าสวรรค์ไม่ยุติธรรม
“ใช่ หากรับเลี้ยงข้า ข้าสามารถทำได้ทุกอย่าง แลกกับอาหารให้ข้ากิน ข้อดีของข้าก็มีมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเสียงอันไพเราะหรือร่างกายที่นุ่มนวลง่ายต่อการกดลง” เด็กสาวของเผ่าพันธุ์เทาเที่ยนี้ก็กระพริบตาโตอย่างต่อเนื่อง มีสีหน้าที่ใสซื่อบริสุทธิ์
เธอกำลังอวดข้อดีของตัวเองอย่างรีบร้อน ในฐานะเผ่าพันธุ์เทาเที่ยนั้น ร่างกายของเธอก็มีความสามารถที่เหนือจินตนาการอยู่ นอกจากการที่มีกระเพราะที่สามารถกลืนกินทุกสิ่งทุกอย่างได้นั้น ดวงตาของเธอก็สามารถที่จะมองหาสมบัติได้เช่นกัน
ด้วยดวงตาทั้งสองนี้ เธอก็สามารถที่จะตามหาอาหารที่ลึกลับและล้ำค่ามากมายเพื่อเติมเต็มท้องของเธอ นี่คือดวงตาของเทาเที่ย
ในสายตาของเธอนั้น ยิ่งเป็นสิ่งที่มีความล้ำค่าเพียงใด แสงที่ส่องออกมาจากสิ่งนั้นก็จะยิ่งสว่างมากเท่านั้น หากเป็นผู้คนปกติธรรมดานั้นก็จะมีแสงสว่างที่มีขนาดเทียบเท่ากับหิ่งห้อยเพียงเท่านั้น หากร้ายกาจขึ้นมาหน่อย ก็จะมีแสงขนาดเท่ากับเปลวไฟของเทียน
ทว่าชายตรงหน้านี้กลับแตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง มีแสงสว่างที่เหนือธรรมชาติจนน่าสะพรึงกลัวส่องออกมา ไม่ใช่เพียงแค่ปกคลุมไปทั่วทั้งดาวรังอสูรเท่านั้น ทว่าก็ยังแผ่กระจายออกไปอย่างบ้าคลั่ง ดูเหมือนว่าไร้ขอบเขต
ทั้งชีวิตนี้เธอไม่เคยเห็นความสว่างของใครบางคนที่เหนือธรรมชาติจนถึงขั้นนี้มาก่อน แม้แต่เซนต์ก็ไม่ได้มีมากไปกว่านี้
สามารถที่จะจินตนาการได้ ชายคนนี้จะต้องเป็นเศรษฐีที่ร่ำรวย ยิ่งไปกว่านั้นก็ต้องร่ำรวยจนถึงขั้นที่ตระกูลเฟเธอร์นี้ก็ไม่สามารถที่จะเทียบด้วยแม้แต่น้อย เปรียบเสมือนกับความแตกต่างของแสงจากหิ่งห้อยและแสงจากดวงอาทิตย์
หากสามารถที่จะเกาะแข้งเกาะขาของเศรษฐีที่ร่ำรวยคนนี้ได้ จากนั้นเธอจะต้องกังวลว่าตนเองจะไม่ได้กินจนอิ่มท้องอีกหรือ?!
“หา?!”
เซี่ยปิงก็ตกตะลึงเล็กน้อย เขาเหมือนกับจะไม่เข้าใจว่าเจ้าเด็กสาวคนนี้กำลังพูดอะไรออกมา
ทว่าไม่ทันรอให้เขาได้พูดอะไร เด็กสาวคนนี้ก็ดูเหมือนว่าจะร้อนรีบ คว้านิ้วชี้ของมือขวาเขามาทันที จากนั้นก็กัดอย่างรุนแรง ทำให้เลือดไหลออกมา
จากนั้นก็เห็นเพียงแค่ว่าเธอกำลังสวดมนต์ในภาษาโบราณบางอย่าง “เต๋าที่ยิ่งใหญ่เป็นเครื่องรับรอง สวรรค์เป็นสักขีพยาน ข้าในนามทันเมิงลู่จากเผ่าพันธุ์เทาเที่ย ขอแต่งตั้งให้คนนี้เป็นผู้ปกครองของข้าด้วยความสมัครใจ ไมว่าจะร่ำรวยหรือยากจน ไม่ว่าจะเจ็บไข้ได้ป่วยหรือมีสุขภาพที่ดี ไม่ว่าจะตกต่ำหรือตายไป ข้าจะติดตามคนๆนี้ไปตลอดกาล แม้แต่ความตายก็ไม่สามารถพรากเราจากกันไปได้”
ปัง!
หลังจากที่พูดจบ ก็เหมือนกับมีเสียงของเต๋าที่ยิ่งใหญ่ดังขึ้นมาก็ว่าได้ ทำปฏิกิริยาตอบสนองกับโลก ค่ายกลสัญญาโบราณที่ลึกลับซับซ้อนได้ปรากฏขึ้นมา แสงสีทองได้ส่องสว่างออกมา ปกคลุมพื้นที่ในระยะนับสิบกิโลเมตร
ในอากาศลางๆ เหมือนกับว่ามีภาษาโกลาหลโบราณที่ปรากฏขึ้นมา เหมือนกับว่าจะเป็นสักขีพยานให้กับสิ่งนี้
อะไรกัน?!
ไม่ทันรอให้เซี่ยปิงได้ตอบสนองอะไร ค่ายกลโบราณที่ลึกลับนี้ก็ลดขนาดลงอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็จารึกลงบนหลังมือข้างขวาของเขา นี่คือลวดลายสีดำที่แปลกประหลาดและลึกลับ เหมือนกับว่าจะดำรงอยู่ไปตลอดกาลก็ว่าได้
ทว่าในช่วงเวลานี้บนหน้าผากของเด็กสาวคนนี้ก็มีรูนสัญญาที่ปรากฏขึ้นมาเช่นกัน เป็นรูนสีทองดำ
“นี่มัน!”
สัญชาตญาณของเซี่ยปิงก็สัมผัสได้ทันทีที่สัญญานี้ปรากฏขึ้น ความสัมพันธ์ของเขาและเด็กสาวคนนี้ถูกดึงเข้าหากันอย่างกะทันหัน ราวกับว่าคุ้นเคยใกล้ชิดกันมานานแล้วก็ว่าได้ สามารถที่จะสัมผัสได้ถึงอารมณ์ภายในส่วนลึกของจิตวิญญาณฝ่ายตรงข้าม จิตใจสะท้อนถึงกันและกัน
ปัง!
ทันทีที่สัญญานี้ร่างขึ้นมา เขาก็สัมผัสได้ถึงพลังงานสีดำที่มีความทรงอำนาจ ความลึกลับและความโบราณที่ถ่ายทอดออกมาจากเด็กสาวคนนี้ จากนั้นก็หลั่งไหลเข้าไปในส่วนลึกของพื้นที่ราชวังสีม่วงของเขาอย่างกะทันหัน
พลังงานสีดำเหล่านี้รวมตัวกันอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็ควบแน่นกลายเป็นรูนสีดำ ส่วนลึกของรูนนี้เหมือนกับว่าเป็นหลุมดำโบราณก็ว่าได้ สร้างพลังดูดกลืนที่น่าสะพรึงกลัวขึ้นมา
“การกลืนกินของพระเจ้า!”
เซี่ยปิงก็ล่วงรู้ได้อย่างกะทันหันถึงสถานะที่แท้จริงของเด็กสาวคนนี้ นี่คือเทาเที่ยอสูรศักดิ์สิทธิ์ในตำนาน เป็นสิ่งมีชีวิตที่ได้รับความหวงแหนจากสวรรค์และโลก ทว่ารูนนี้ก็คือความสามารถศักดิ์สิทธิ์ทางสายเลือด—การกลืนกินของพระเจ้าที่เผ่าพันธุ์เทาเที่ยมีไว้ในการครอบครองแต่เพียงผู้เดียว
เมื่อใดที่แสดงความสามารถศักดิ์สิทธิ์นี้ออกมา มันจะเป็นเหมือนกับการกลืนกินสวรรค์และเขมือบแผ่นดิน ไม่มีสิ่งใดที่จะไม่ถูกกลืนกินเข้ามา สามารถที่จะดูดกลืนทุกสรรพสิ่งของโลก จากนั้นก็กลั่นกรองและแปรเปลี่ยนให้กลายเป็นพลังงานที่บริสุทธิ์สำหรับตนเอง
ครั้งหนึ่งก็เคยมีเซนต์อธรรมคนหนึ่งที่คิดจะคิดค้นทักษะวิทยายุทธขึ้นมาโดยที่จำลองการกลืนกินของพระเจ้านี้ ทว่าเขาก็ต้องล้มเหลวอย่างไม่เป็นท่า พลังอำนาจของมันไม่มีทางที่จะเทียบได้กับความสามารถศักดิ์สิทธิ์ทางสายเลือดของเผ่าพันธุ์เทาเที่ยได้
เดิมทีนี่ก็เป็นความสามารถที่เผ่าพันธุ์เทาเที่ยครอบครองไว้แต่เพียงผู้เดียว ทว่าหลังจากที่ได้ทำสัญญากับคนอื่นนั้น พวกเขาก็สามารถที่จะมอบความสามารถศักดิ์สิทธิ์นี้ให้กับผู้ทำสัญญาได้ ช่วยให้ฝ่ายตรงข้ามถือครองความสามารถของเผ่าพันธุ์เทาเที่ยได้
เซี่ยปิงยื่นมือออกไปโดยสัญชาตญาณ ฝ่ามือข้างขวามีหลุมดำขนาดเล็กปรากฏขึ้นมาทันที ส่วนลึกของหลุมดำไหลเวียนอย่างช้าๆเหมือนกับเป็นความโกลาหล จากนั้นมือของเขาก็ได้ตบออกไป ระเบิดใส่ที่พื้น
ตึบ!
วินาทีต่อมา ที่พื้นก็กลายเป็นหลุมลึกที่มีเส้นผ่าศูนย์กลาง10เมตรทันที ดิน ทรายและเศษหินรอบๆต่างก็หายไป ถูกดูดกลืนเขาไปโดยหลุมดำนี้อย่างหมดจด เปลี่ยนกลายเป็นความว่างเปล่า
ในเวลาเดียวกันเขาก็รู้สึกว่าสิ่งที่ถูกดูดกลืนเหล่านี้ได้ถูกกลั่นกรองกลายเป็นพลังงานที่ถ่ายทอดเข้ามาสู่ร่างกายของเขา ทำให้พลังอำนาจภายในร่างกายของเขาเพิ่มขึ้นมาเล็กน้อย พลังเวทมนตร์ก็เพิ่มขึ้นมาเช่นกัน
“ช่างเป็นความสามารถศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ในด้ามมืดจริงๆ”
เซี่ยปิงก็ตกใจอย่างมาก เขาล่วงรู้ทันทีว่าทำไมในอดีตถึงได้มีเซนต์อธรรมที่ต้องการจะคิดค้นการกลืนกินของพระเจ้านี้ขึ้นมา นี่คือความสามารถศักดิ์สิทธิ์ที่น่าสะพรึงกลัวอย่างมาก ไม่ใช่แค่สามารถกลืนกินทุกสิ่งทุกอย่างเท่านั้น ทว่าก็ยังสามารถที่จะกลั่นกรองพลังงานของสิ่งเหล่านี้ให้กลายเป็นพลังงานให้กับตนเองได้
ด้วยความสามารถศักดิ์สิทธิ์นี้ คาดการณ์ได้ว่าจะทำให้บุคคลนั้นๆกลายเป็นยักษ์ปีศาจได้ กลืนกินทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อขยายร่างกายและเสริมสร้างพลังอำนาจของตนเอง ทำการฆ่าฟันที่ไร้ที่สิ้นสุดเพื่อทำให้ตนเองแข็งแกร่งมากขึ้นเรื่อยๆ
“ไม่นะ! หลงกลแล้ว!”
เซี่ยปิงก็กัดมุมปาก เขานึกถึงเด็กสาวคนนี้อย่างกะทันหัน เจ้านี่มาจากเผ่าพันธุ์เทาเที่ย ถึงแม้ว่าความสามารถศักดิ์สิทธิ์นี้จะทรงอำนาจอย่างมาก ทว่าการที่ต้องการจะเลี้ยงดูเผ่าพันธุ์เทาเที่ยนั้น มันจะเป็นเรื่องที่เรียบง่ายหรือ?! ผู้คนปกติธรรมดาไม่สามารถที่จะเลี้ยงดูได้อย่างแน่นอน
ครั้งหนึ่งในอดีตก็เคยมีตระกูลเซนต์ที่พยายามที่จะเลี้ยงดูเทาเที่ย ทว่าไม่นานหลังจากนั้น ความมั่งคั่งทั่วทั้งตระกูลก็หายไปอย่างรวดเร็ว เข้าสู่สภาวะล้มละลาย ไม่ว่าจะมีความมั่งคั่งที่มากมายแค่ไหน ก็ไม่สามารถรองรับความอยากอาหารของเทาเที่ยได้
คาดการณ์ได้ว่าภายในจักรวาลนั้น ไม่มีวิธีการใดที่จะทำลายตระกูลได้ดีที่สุดเท่ากับการรับเลี้ยงเทาเที่ยเข้ามา