ตอนที่ 355: เสือขาวสุดแกร่ง
จากที่เห็น เจี้ยนเฉินอดไม่ได้ที่จะสงสัยการมองเห็นของตัวเอง นี่คือสัตว์อสูรระดับ 6 ที่บาดเจ็บซึ่งความแข็งแกร่งในตอนนี้พอ ๆ กับสัตว์อสูรระดับ 5 จริง ๆ ? ไม่ว่าจะมองอย่างไรมันก็ไม่น่าจะใช่
ตอนนี้เขาและชายอีกนับร้อยจ้องมองไปที่เสืออย่างใจจดใจจ่อพร้อมกับความรู้สึกสงสัยแบบเดียวกัน แม้ว่าจะมีเซียนปฐพี 20 คนก็ตาม พวกเขาก็ไม่อาจสู้กับสัตว์อสูรระดับ 6 ได้
สิ่งที่เห็นด้านหน้าของเขานั้นตรงข้ามกับความคิดของพวกเขาทั้งหมด ขนของเสือยังคงเป็นสีขาวบริสุทธิ์โดยไม่มีรอยเลือดแม้แต่น้อย แต่รอบตัวของมันมีศพหลายร้อยศพรวมทั้งเซียนปฐพีอีกด้วย จากที่จะสามารถฆ่าคนได้มากขนาดนี้โดยที่ตัวมันเองไม่เปื้อนเลือดนั้น นี่ไม่ใช่สิ่งที่สัตว์อสูรระดับ 6 ที่บาดเจ็บจะสามารถทำได้
ดูเหมือนว่าข้อมูลที่ได้จะไม่ตรงกัน แม้ว่านี่จะเป็นสัตว์อสูรระดับ 6 แต่มันก็ไม่ได้รับบาดเจ็บใด ๆ เจี้ยนเฉินพูดกับตัวเอง
สามารถเห็นลูกเสือขาวที่ยาวกว่าครึ่งเมตรได้ขณะที่มันเดินออกจากถ้ำที่อยู่ด้านหลัง ด้วยขนที่ขาวราวกับปุยนุ่น มันดูเหมือนกับว่าลูกเสือตัวนี้เพิ่งจะเกิด เพราะว่าตาของมันยังไม่ได้ลืมขึ้นมา มันคลานออกมาจากถ้ำด้วยความพยายามอย่างมาก มันพยายามเดินต่อไปด้วยแขนขาที่สั่นเทาทั้งสี่ของมัน
สิ่งที่แปลกประหลาดที่สุดมีเพียงอย่างเดียวเกี่ยวกับลูกเสือตัวนี้ก็คือมันมีปีกอยู่คู่หนึ่งบนหลัง นี่คือสิ่งที่สัตว์อสูรทั่วไปไม่อาจจะมี ตรงนี้ทุกคนสามารถเห็นมันได้ในทันที
ดูนั่น ! ลูกสัตว์อสูรระดับ 6 คุณพระ มันมีปีก ! นั่นหมายความว่าลูกสัตว์ตัวนี้จะบินได้หลังจากที่มันโตขึ้น
จู่ ๆ ก็มีลูกสัตว์อสูรระดับ 6 ปรากฎกาย ทำไมแปลกขนาดนี้…..
นี่คือลูกสัตว์ที่เพิ่งเกิด หากเราสามารถเอามันเลี้ยงดูได้ เมื่อมันโตขึ้นมันจะต้องเชื่อฟังอย่างไม่ต้องสงสัย พร้อมกับพลังมหาศาลของมัน !
ลูกสัตว์อสูรระดับ 6 มันมีค่าแค่ไหน !
เมื่อเห็นลูกสัตว์ตัวน้อย ๆ ทุกคนก็เริ่มรู้สึกตื่นเต้นทันที เปลวไฟแห่งความตื่นเต้นปรากฏอยู่ในสายตาของพวกเขา ความโลภได้เอาชนะพวกเขา ขณะที่พวกเขากำลังมองดูลูกสัตว์และบางคนก็เริ่มถูมือพร้อมกับจินตนาการถึงความมั่งคั่งที่จะได้รับเมื่อลูกสัตว์ตัวนี้อยู่ในมือของพวกเขา
ความตื่นเต้นจากฝูงชนได้ทำให้แม่เสือลืมตาทั้งสองขึ้นมาอย่างช้า ๆ พร้อมกับคำรามด้วยเสียงที่ทรงพลังราวกับกำลังจะขู่ว่ามันจะกุดหัวใครก็ตามที่มาแตะต้องลูกของมัน มันใช้อุ้งมือรั้งลูกของมันขณะเดียวกันมันก็มีอารมณ์มากมายในสายตาของมันเช่น ความรัก, ความเศร้า, ความเจ็บปวดและการลาจาก แต่ทุกคนไม่ได้สังเกตเห็น
ยกเว้นเจี้ยนเฉินที่กำลังนั่งอยู่บนกิ่งไม้ที่ได้เห็น ทันใดนั้นเขาก็เห็นได้อย่างชัดเจนถึงความน่ากลัวของธรรมชาติ อย่างไรก็ตามมันไม่ได้ซ่อนความอ่อนแอของมัน ทำให้เจี้ยนเฉินเข้าใจว่าเสือตัวนี้อยู่ในความสิ้นหวังเพียงใด
ลูกเสือพยายามที่จะหลบหนีออกจากอุ้งมือของแม่มันขณะที่พยายามยกหัวออกจากขนของแม่มัน แต่สุดท้ายลูกเสือก็ยังถูกอุ้งมือของแม่มันกวาดเข้าไปอย่างต่อเนื่องจนต้องส่งเสียงร้องออกมา
ในสายตาแม่เสือ ยังคงแววตาที่เปี่ยมไปด้วยความรักใคร่โดยไม่มีความโมโหแต่อย่างใด ภายใต้สายตาที่อ่อนโยนของแม่เสือเต็มไปด้วยความเจ็บปวดจนทำให้มันต้องกระพริบตาเพื่อกลั้นน้ำตาเอาไว้
ทุกคนมองเห็นความเจ็บปวดของแม่เสือที่แสดงออกมาอย่างไม่อยากจะเชื่อ ไม่มีใครสักคนเดียวที่จะเชื่อในสิ่งที่พวกเขาเห็นเพราะอารมณ์ของแม่เสือตัวนี้ได้แสดงออกมานั้นเต็มเปี่ยมเกินกว่าที่พวกเขาจะคิดได้ว่ามันมาจากสัตว์อสูร
ทันใดนั้นกลุ่มคนนับร้อยได้วิ่งเข้ามาเป็นแถวพร้อมกับกั้นไว้เป็นทางพร้อมกับพูดว่า ออกไปให้พ้น ทุกคนออกไปให้พ้นทาง ! ตระกูลมู่หยวนของเราได้มาถึงแล้ว หลีกทางให้เราด้วย !
ทันทีที่ทุกคนได้ยินชื่อ มู่หยวน พวกเขาก็ตกใจก่อนที่จะหลีกทางให้ตระกูลนั้น
กลุ่มคนเหล่านี้มาจากตระกูลมู่หยวน ทุกคนต่างก็สวมชุดสีดำและเหาะไปด้านหน้าโดยไม่มีใครมาขวางทาง
ผู้อาวุโสไป่ ดูนั่น ! มันคือลูกสัตว์อสูรระดับ 6 สวรรค์ มันมีปีกอีกด้วย ! คนในตระกูลมู่หยวนอุทานออกมาด้วยความตกใจ
เมื่อได้ยินข้อมูลเหล่านี้ ชายวัยกลางคนอีกคนที่อยู่ข้าง ๆ ก็ยิ้มออกมาอย่างพึงพอใจ หลังจากที่เขาได้เห็นซากศพที่อยู่ห่างจากเสือเขาก็เปลี่ยนเป็นจริงจัง ระวังตัวด้วย สัตว์อสูรระดับ 6 ตัวนี้ไม่ได้บาดเจ็บ แม้ว่ามันจะไม่แข็งแกร่งนักหลังจากที่ให้กำเนิด แต่เราก็ยังไม่แข็งแกร่งพอที่จะเอาชนะมันได้
ผู้อาวุไป่ มันเป็นลูกสัตว์อสูรระดับ 6 ! ตอนนี้ไม่มีใครสามารถเอามันไปจากเราได้ แต่เมื่อเวลาผ่านไป จะมีคนมามากมาย มันจะทำให้เรามีโอกาสน้อยลงที่จะได้มันมา
ถูกต้อง ผู้อาวุโสไป่ ถ้าเรารีบจัดการตอนนี้ มันจะไม่มีใครกล้ารั้งเรา นี่คือโอกาสของเรา ! ถ้าเรารอ เราก็ไม่อาจได้ลูกเสือตัวนั้นมาได้
ผู้อาวุโสไป่ เรามีเซียนปฐพีมากมายและเซียนผู้เชี่ยวชาญพิเศษกว่า 70 คน ซึ่งมันก็เกินพอที่จะเปิดโอกาสให้เราได้รับลูกสัตว์อสูรระดับ 6 ได้
มีคนสองสามคนพยายามพูดกระซิบโน้มน้าวผู้อาวุโสไป่
ในเวลานี้ผู้อาวุโสไป่ได้ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะพูดว่า ผู้อาวุโสไค เจ้านำเซียนปฐพีไปต่อสู้กับสัตว์อสูรระดับ 6 ข้าจะไปเอาลูกเสือ เมื่อได้แล้วเราจะถอยออกมาทันที
ขอรับ ผู้อาวุโสไป่ ! เซียนปฐพีต่างก็พยักหน้าอย่างตื่นเต้น หากพวกเขานำลูกสัตว์อสูรระดับ 6 กลับมาได้ มันจะมีประโยชน์อย่างมากต่อตระกูลของพวกเขา
หลังจากตอบโต้กันอยู่พักหนึ่ง พวกเขาก็ได้พูดคุยเกี่ยวกับแผนการก่อนที่ตระกูลมู่หยวนจะให้เซียนปฐพีแต่ละคนใช้อาวุธเซียนของพวกเขาและวิ่งเข้าไปหาสัตว์อสูรระดับ 6 ผู้อาวุโสไป่ยืนอยู่ที่เดิมขณะที่เขาเพ่งสมาธิไปยังกลุ่มแรกที่ได้ออกไปดึงดูดความสนใจของเสือ ก่อนที่เขาจะบินเข้าไปหาลูกเสือด้วยความเร็วอย่างไม่น่าเชื่อ
เช่นเดียวกันที่ตระกูลโม่หยวนทำการเคลื่อนไหว ตระกูลอื่น ๆ ที่ทรงพลังต่างก็กระโดดเข้าไปแก่งแย่งลูกเสือ
เมื่อรู้ถึงความตั้งใจของทุกคนที่อยู่รอบ ๆ ตัวของเขา ผู้อาวุโสไป่ก็ตะโกนออกมาอย่างเยือกเย็น หากใครก็ตามที่กล้าจะมาลองดีและทำลายโอกาสนี้ของตระกูลไป่ของเรา เราจะไม่มีการอภัยให้อย่างแน่นอน ! ลูกเสือระดับ 6 ตัวนี้ไม่ใช่สิ่งที่ทุกคนจะสามารถนำไปได้ ทุกคนควรจะระวังหากมาแย่งลูกเสือของเรา ไม่ว่าใครก็ตามต้องคิดว่าจะรับผลของความเกรี้ยวโกรธของเราได้หรือไม่
เมื่อฝูงชนได้ยินคำขู่ของผู้อาวุโสไป่ หลายคนก็หยุดและเริ่มถอนหายใจ ในใจของพวกเขาพยายามเลิกแก่งแย่งลูกเสือกับตระกูลมู่หยวน อย่างแรกเลยเขาไม่อาจรุกรานตระกูลมู่หยวนที่มีเซียนปฐพีมากกว่าโหลและเซียนผู้เชี่ยวชาญมากมาย ด้วยพลังขนาดนี้ทำให้พวกเขาเกิดความกลัว
เหตุใดตระกูลมู่หยวนถึงได้หยิ่งผยองเช่นนี้ ? เจี้ยนเฉินพึมพำอยู่บนยอดต้นไม้
ตระกูลมู่หยวนเป็นตระกูลที่แข็งแกร่งที่สุดในอาณาจักรสโก ความแข็งแกร่งของพวกเขาติดอยู่ในสามอันดับของอาณาจักรและมีรายงานมาว่ามีเซียนปฐพีอย่างน้อย ๆ 50 คนในตระกูลของพวกเขา นอกจากนี้มีเซียนสวรรค์ 3 คนที่คอยดูแลตระกูลนี้อยู่ ผู้นำตระกูลหลานหมิงได้พูดอธิบายให้กับเจี้ยนเฉิน
เซียนสวรรค์ 3 คน ? ฮ่าฮ่า ตระกูลมู่หยวนเป็นตระกูลที่ใครก็ตามไม่อาจแข็งข้อได้ เจี้ยนเฉินหัวเราะขณะที่เขาหันหน้ากลับไปดูเหตุการณ์หลังจากที่เขาได้อยู่ในเมืองทหารรับจ้าง วิสัยทัศน์ของเขาได้เปิดกว้างอย่างมาก เมืองทหารรับจ้างเป็นสัญลักษณ์ของเซียนราชาและมีเซียนผู้คุมกฎมากมายที่มาทำหน้าที่เป็นผู้อาวุโสของเมือง เซียนสวรรค์แค่ 3 คนไม่ใช่สิ่งที่อยู่ในสายตาของเจี้ยนเฉิน
เมื่อเห็นท่าทีของเจี้ยนต่อตระกูลมู่หยวน บรรพชนของตระกูลหลานหมิงก็อดประหลาดใจไม่ได้และพยายามคาดเดาตัวตนของเจี้ยนเฉิน สำหรับเขา การที่เจี้ยนเฉินไม่เกรงกลัวแม้แต่น้อยหลังจากที่ได้ยินว่าตระกูลมู่หยุนมีเซียนสวรรค์ถึง 3 คน เขามีความแข็งแกร่งแค่ไหน?
โฮกกก ! เสียงคำรามจากเสือถูกปลดปล่อยออกมาจากปากของมัน การระเบิดพลังปราณพร้อมกับมีดปราณพุ่งเข้าใส่เซียนปฐพีด้วยความอยากจะให้พวกเขาตายตกตามกัน
เซียนปฐพีหลายคนไม่มีเวลาพอจะตอบสนองต่อลมกรรโชกและถูกลมแทงทะลุอกของพวกเขาทันที พร้อมกับเสียงร้องที่ตะโกนออกมาอย่างน่าสังเวชก่อนที่จะตกพื้นและไม่มีการเคลื่อนไหวใด ๆ เพิ่มเติม
การเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหันทำให้ผู้อาวุโสไป่ที่กำลังมุ่งไปทางลูกเสือต้องชะงัก ขณะที่มองดูเซียนปฐพีกลายเป็นชิ้น ๆ อย่างสยดสยอง ผู้อาวุโสไค, เบนเลย์, ซีกาด พวกเจ้ายังอยู่ดีหรือไม่ ?
เป็นเวลานาน ผู้อาวุโสไคก็ไม่ได้ยินคำตอบ นั่นก็เพราะไม่มีเซียนปฐพีคนไหนรอดและลุกขึ้นมาจากพื้นได้แม้แต่คนเดียว
ใบหน้าของผู้อาวุโสไป่ซีดเซียวทันทีเมื่อเขาหันกลับมามองเสือที่ยาวกว่าสามเมตรอย่างสยองขวัญ
มะ ไม่ มันเป็นไปไม่ได้ ! อาวุโสพึมพำ เขาไม่คิดเลยว่าเสือตัวเดียวจะทำได้ขนาดนี้ แม้ว่ามันจะเป็นสัตว์อสูรระดับ 6 จะสามารถฆ่าเซียนปฐพีมากกว่าโหลได้ บางทีอาจจะเป็นเซียนผู้เชี่ยวชาญพิเศษ แต่มันก็ไม่น่าจะมากขนาดนี้
เจี้ยนเฉินกระโจนจากต้นไม้จ้องมองเสือขาวอย่างหดหู่ นี่คือสัตว์อสูรระดับ 6 ใครกล้าพูดได้ว่ามันอ่อนแอ ?