ตอนที่ 933 ฉีและโลหิตไหลเวียนไม่แก่ไม่ตาย

Elixir Supplier

933 ฉีและโลหิตไหลเวียนไม่แก่ไม่ตาย

“ชมเกินไปแล้ว” เมี่ยวซีเหอพูด

“ตอนนี้ นายก็มาถึงจุดนี้แล้ว แล้วยังจะเอากล้วยไม้สีเลือดมาทําอะไรอีก?” หวูซานถามอยู่ๆเขาก็นึกขึ้นมาได้ เขาถาม “หรือว่านายอยากจะกลับไปเป็นหนุ่มอีกครั้งและมีชีวิตอมตะ?” “ฉันรู้สึกว่าฉันมาถึงจุดสูงสุดแล้ว” เมี้ยวซีเหอพูด“ฉันไปข้างหน้าหรือก้าวหน้ากว่านี้ไม่ได้อีกแล้วฉันอยู่จุดนี้มาถึงหกปีตลอดหกปีที่ผ่านมา ฉันพยายามอยู่หลายครั้งแต่ก็ไม่เคยสําเร็จเลยฉันยังคงยืนอยู่ที่จุดเดิมพอตอนนี้กล้วยไม้สีเลือดปรากฏออกมามันได้มอบโอกาสครั้งใหม่ให้กับฉันฉันอยากจะดูว่าฉันจะสามารถก้าวไปไกลกว่านี้ได้อีกไหม”

พูด

“การก้าวไปข้างหน้าในความหมายของนายคืออะไร?” หวูซานถาม

“เพื่อให้พลังฉีและโลหิตไหลเวียนไร้ที่สิ้นสุด และกลายเป็นอมตะไม่แก่ไม่เฒ่า”เมี่ยวซีเหอฮาฮาฮา! หวูซานหัวเราะ

“นั่นก็แค่การเป็นอมตะและเป็นหนุ่มตลอดกาลไม่ใช่เหรอ เดี๋ยวซีเหอ? นายกล้ามากนะที่คิดฝันถึงเรื่องนี้น่ะ!”

“ถ้าฉันคิดฝันถึงเรื่องนี้ไม่ได้ แล้วฉันจะมีชีวิตต่อไปเพื่ออะไรล่ะ?” เมี่ยวซีเหอตอบกลับไปหลังจากที่จิบชา

“การสกัดร่างกายด้วยยาเป็นความลับที่หุบเขาพันโอสถเก็บรักษาเอาไว้มาโดยตลอด”หวูซานพูด “มันสามารถกลั้นผิวหนังภายนอกและเพิ่มจุดเดือดของอวัยวะภายในครั้งสุดท้ายที่เจอนายก็ผ่านมานานถึง 20 ปีนายไม่เปลี่ยนไปเลยสักนิดนายยังเอาตัวเองไปทดลองด้วยใช่ไหม?”“มันเป็นเกียรติสําหรับฉันที่ได้รับคําสั่งสอนจากอาจารย์ เมื่อครั้งที่อยู่ในหุบเขาพันโอสถหลังจากกลับออกมา ฉันก็ศึกษาเรื่องนั้น ฉันพยายามมาตลอดหลายปีแล้วมันก็เห็นผล แต่ก็ยังห่างไกลจากระดับที่นายอยู่ฤทธิ์ของยาซึมเข้าสู่วิญญาณและไขกระดูกของนายไปแล้วคนแรกที่ท่า

เรื่องนี้ในหุบเขาพันโอสถคงไปไม่ถึงขั้นนั้นเลยใช่ไหม?”

ถาม

“ฉันที่เป็นคนรุ่นหลังจะไปเข้าใจความต้องการของคนรุ่นก่อนได้ยังไง จริงไหม?” เมี่ยวซีเหอ

“ฉันขอคิดดูก่อน” หวูซานเงียบไปก่อนจะพูดขึ้นมาว่า “นายกลั่นร่างกายตัวเองด้วยยา ยาได้ เข้าสู่วิญญาณและไขกระดูกของนาย ครึ่งหนึ่งคือพิษและอีกครั้งคือยาส่วนกล้วยไม้สีเลือดคือยาวิเศษ มันมีความบริสุทธิ์สูงมันต่อต้านเลือดในตัวนายใช่ไหม?”

“ยอดเยี่ยม!” เมี่ยวซีเหอพูด คําพูดของอีกฝ่ายเข้าเป้าทั้งหมด

“ตอนที่ฉันได้รับการสั่งสอนจากอาจารย์ เขาพูดว่า ยาทุกตัวที่ใช้ในการกลั่นร่างกายจําเป็นต้องมีความเป็นกลางและลดการส่งผลเสียต่อร่างกายให้เหลือน้อยที่สุด”หวูซานพูด“ถ้าดูจากทฤษฎีนี้ ร่างกายของนายไม่น่าจะมีการต่อต้านฤทธิ์ของกล้วยไม้สีเลือดเท่าไหร่แต่เป็นพิษใน

ร่างกายของนายต่างหากที่ทําให้นายหลุดออกจากเส้นทางที่ถูกต้องใช่ไหม?”

“ฉันเดินบนเส้นทางนั้นแต่ฉันก็มาถึงจุดสิ้นสุดของมันแล้ว” เมี่ยวซีเหอพูด“ถ้าฉันอยากก้าวต่อฉันก็ต้องหาเส้นทางอื่นพิษก็คือยาชนิดหนึ่ง และแมลงพิษก็เช่นเดียวกัน”“ตอนนี้นายได้กลายเป็นมนุษย์พิษไปแล้วกล้วยไม้มีสรรพคุณในการล้างพิษด้วยรึเปล่า?” “มีฉันลองดูแล้วมันสามารถขจัดพิษได้ทุกชนิด”เมี้ยวซีเหอตอบ

“การผสานพลังของกล้วยไม้สีเลือดเข้ากับเลือดในร่างกายของนายคงเป็นเรื่องที่ยากมากหวูชานพูด

มีสมุนไพรที่สามารถสร้างความเป็นกลางให้กับยาทุกชนิดหรือไม่? มีเช่นสมุนไพรวิเศษแต่การสร้างความเป็นกลางก็คือการปรับสมดุลของหยินหยางเพื่อที่ฤทธิ์ของยาบางตัวจะไม่รุนแรงจนเกินไปแต่มันเป็นไปไม่ได้ที่จะปรับให้ยาตัวอื่นเข้ากันได้กับพิษเช่นต้นต้วนฉาง “ฉันก็เลยมาหานายยังไงล่ะ”เมี่ยวซีเหอพูด

“นายลองแล้วเหรอ?”หวูซานถาม

“ใช่ แต่ฉันหาไม่สําเร็จ”

“ฉันขอคิดก่อน”หวูซานตอบ

เขาจ้องมองไปที่เลือดในถ้วย หลังจากนั้น เขาก็หันไปมองเมี่ยวซีเหอ

“ความจริงเรื่องนี้มีค่าตอบอยู่สองอย่างมันขึ้นอยู่กับว่านายอยากเลือกค่าตอบไหน”“ทําไมนายถึงพูดแบบนั้น?”เมี่ยวซีเหอถาม

“ทางเลือกก็คือการลบพลังทั้งหมดที่อยู่ภายในร่างกายและเลือดของนายออกไปจนหมดแล้วกินกล้วยไม้สีเลือดเข้าไปหรือง่ายๆก็แค่ยอมแพ้เรื่องกล้วยไม้สีเลือดไปซะ”หวูซานพูด

“ฉันจะลบล้างพลังที่อยู่ภายในตัวของฉัน ทั้งที่มันซึมลึกไปจนถึงไขกระดูกออกไปได้ยังไง?”

“เอาเลือดออกแล้วเติมเลือดเข้าไปใหม่พร้อมกับใช้ยาล้างพิษเข้าช่วย”หวูซานเสนอเมี่ยวซีเหอเงียบไปถ้าหวูซานสามารถคิดวิธีการนี้ได้เขาก็คงคิดได้เหมือนกันแต่ความเสี่ยงนั้นสูงเกินไปมันไม่ได้ง่ายอย่างที่พูดแม้แต่สภาพร่างกายในปัจจุบันของเขาหากผิดพลาดขึ้นมาก็สามารถนําไปสู่การบาดเจ็บร้ายแรงหรือเสียชีวิตได้เลย

“เรามาคิดหาวิธีการอื่นกันดีไหม?”

“ได้ ลองคิดหาวิธีอื่นดู” หวูซานพูด

มันเป็นเรื่องง่ายในการเสนอให้คิดหาวิธีการอื่น แต่กลับยากที่จะทํา เมี่ยวซีเหอรู้ถึงความพยายามที่เขาทุ่มเทลงไปและความเจ็บปวดที่เขาต้องเผชิญมีเพียงการก้าวเข้าสู่ขอบเหวแห่งความตาย เขาถึงจะสามารถเก็บเกี่ยวสิ่งที่มีอยู่ในปัจจุบันได้ในเวลานี้ เขาต้องหาหนทางอื่นหรือไม่ก็ยอมแพ้ไปเขาไม่สามารถตัดสินใจได้เลย

“เมื่อไหร่ก็ตามที่ฤทธิ์ของยาลดลงชีวิตของฉันก็จะเกิดความไม่แน่นอนขึ้น”เมี่ยวซีเหอพูด“เฮ้อความจริงนายไม่เห็นจะต้องรีบเลย” หวูซานพูด“หลังจากที่กลั่นวิญญาณและไขกระดูกแล้วนายก็จะสามารถมีชีวิตอยู่ด้วยร่างกายนี้ไปได้อีก100 กว่าปีโดยไม่มีปัญหา ด้วยเวลาเหลือเฟือขนาดนี้มีหรือจะทําไม่ได้?”

เมี่ยวซีเหอก้มลงมองถ้วยชาในมือของเขา เขารินชาให้กับหวูซาน

“ฉันกังวลมากเกินไป”

“ความเย้ายวนจากกล้วยไม้สีเลือดมันมากเกินไป”หวูซานพูด

“อืม ขอบใจนะ”

“ด้วยความยินดี

ใบไม้บังตาจนมองไม่เห็นภูเขาไท่ซาน

“เอาล่ะ ฉันต้องกลับแล้ว”

“ทําไมถึงรีบกลับล่ะ? ไม่อยู่กินข้าวด้วยกันก่อนเหรอ?”

“ไม่ล่ะ ยังมีเรื่องให้ต้องกลับไปจัดการอยู่”เมี่ยวซีเหอลุกขึ้นและเดินออกไป

หวูซานเดินตามเขาไป

“ถ้ามีเวลาว่างก็กลับไปที่หุบเขาได้นะ”เมี่ยวซีเหอพูด“ฉันยินดีต้อนรับเสมอ”

“ฉันอยู่ที่นี่ก็มีความสุขดีอยู่แล้วล่ะ”หวูวานพูด

เมี่ยวซีเหอพยักหน้าและไม่ได้พูดอะไรอีกเขาหันหลังและเดินจากไปในเวลาไม่นานเขาก็ห่างออกไปไกลแล้วหวูซานเฝ้ามองอีกฝ่ายที่เดินหายลับไปจากทางเดินก่อนจะกลับเข้าไปในอาคารไม้ไผ่ของตนเอง

“ใครกันที่ทําให้ราชายาถึงกับต้องเดินออกมาส่งด้วยตัวเองแบบนี้?”

“ใครจะไปรู้ล่ะ? บางทีอาจจะเป็นญาติก็ได้”

“จิ๊ ดูผู้ชายคนนั้นสิแต่งตัวอย่างกับคนบ้านนอกไม่เหมือนคนในเมืองสักนิดเดียว”“อย่าตัดสินหนังสือแค่จากหน้าปกของมันสิคิดว่า ปกติราชายาแต่งตัวยังไง?เขาก็ใส่เสื้อผ้าอย่างชาวบ้านแถวนี้ไม่ใช่เหรอ?”

“นั่นก็จริง”

“เฮ้อ วันนี้ ราชาจะรักษาคนไหมนะ?”

“วันนี้ เขาอาจจะยอมรักษาก็ได้”

ไม่นาน หลังจากที่หวูซานกลับเข้าไปในอาคารไม้ไผ่ลูกศิษย์ของเขาก็เดินออกมาเขาได้บอกข่าวร้ายกับคนที่รออยู่ด้านนอกเป็นเวลานานว่า “วันนี้เขาไม่รับรักษา!”

“หา ทําไมล่ะ?”

“คงเป็นครั้งแรกที่มาที่นี่สินะการรับคนไข้ของราชายาต้องขึ้นอยู่กับอารมณ์ของเขาด้วยถ้า

เขาไม่อยากรักษาเขาก็จะไม่รักษา”

“ฉันต้องมารอตลอดทั้งวันโดยที่ไม่ได้อะไรเลยงั้นเหรอ?”

“ถ้ารีบก็ไปที่อื่นเถอะแต่ถ้าไม่รีบก็แค่รอต่อไป”

ภายในถ้วยชามีเลือดสีแดงคล้ําอยู่ภายใน

ภายในอาคารไม้ไผ่มีกล่องและถ้วยชาวางอยู่บนโต๊ะด้านในมีกล้วยไม้สีเลือดแช่แข็งวางอยู่หวูซานเดินไปที่โต๊ะและจ้องมองของสองสิ่งนั้นหลังจากนั้นสักพักเขาก็เอื้อมมือและเอานิ้วจุ่มลงไปในเลือดและนําเข้าปาก

แหวะ! เขารีบบ้วนทิ้งและล้างปากอยู่หลายรอบ

เขาถอนหายใจและคิดเลือดมีแต่พิษ!วิเศษจริงๆเมี่ยวซีเหอ!

สายตาของเขาเลื่อนไปทางกล่องใส่กล้วยไม้สีเลือดเขาหยิบขึ้นมาดอกหนึ่งน่ามันขึ้นมาดม

มันมีกลิ่นหอมเฉพาะตัวที่ทําให้คนรู้สึกผ่อนคลาย

เขาส่งกล้วยไม้สีเลือดเข้าไปในปากและเคี้ยวจนละเอียดเขารู้สึกว่าภายในปากของเขา

กลิ่นที่ทําให้รู้สึกผ่อนคลาย

อบอวลไปด้วยกลิ่นหอมมันให้ความรู้สึกสดชื่น

เป็นของดีจริงๆ!

เขาเคี้ยวอย่างช้าๆลิ้มรสของก้านและใบและกลืนกินดอกของมัน เขานั่งนิ่งและสัมผัสถึงพลังของดอกไม้ที่เข้าไปอยู่ในกระเพาะของเขาแล้วในตอนนี้

ฤทธิ์ของยามีความบริสุทธิ์มันอบอุ่นและชะล้างสิ่งที่อยู่ภายในร่างกาย

เฮ้อหลังจากผ่านไปนานเขาก็ถอนหายใจยาว

น่าเสียดาย

เขาลืมตาและมองออกไปทางหน้าต่าง

ถ้าเมี่ยว เหอเจอกล้วยไม้สีเลือดเร็วกว่านี้บางทีเขาอาจจะสามารถก้าวไปได้ไกลกว่านี้ก็ได้
“อาจารย์”

“มีอะไร?”

เลย!”

“มีคนสร้างปัญอยู่ข้างนอกครับ”

“ปล่อยพวกเขาไป บอกพวกเขาว่าฉันจะไม่รับคนไข้เป็นเวลาหนึ่งอาทิตย์

“ครับ อาจารย์”

“อะไรนะ? เขาเปลี่ยนเป็นหนึ่งอาทิตย์! เขาคิดอะไรอยู่?”

คนที่อยู่ด้านนอก ต่างโวยวายหลังจากที่ได้รู้ข่าว

“เฮ้อ มีความสุขจริงๆ!”หวูซานหัวเราะอยู่ภายในอาคารไม้ไผ่ เขาดูสดชื่นมาก

เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว เพียงพริบตาเดียวก็ใกล้เย็นแล้ว

“มันใกล้จะหมดหน้าหนาวอยู่แล้วแต่ทําไมอากาศยังเป็นแบบนี้อยู่อีกล่ะ?มันไม่เห็นเปลี่ยน

“อีกแค่ไม่กี่วันเท่านั้น!”

ภายในคลินิกแห่งหนึ่งในเขตเหลียนชาน

“เสี่ยวเหมย”

“คุณลุง มีอะไรให้ฉันช่วยคะ?”

“เอ่อ ซุปเสี่ยวเผยหยวนที่ฉันซื้อไปเมื่อสองวันก่อนใกล้จะหมดแล้วน่ะสิช่วยเอามาให้ฉันอีก

สองขวดทีนะ” ชายชราวัยหกสิบบอก

“ได้ค่ะรอเดี๋ยวนะคะคุณลุง”พันเหมยพูด“หลังจากกินยาไปแล้วเป็นยังไงบ้างคะ?”“มันดีมากเลยล่ะฉันรู้สึกสบายขึ้นมากยาที่ทําขึ้นในเขตของเราได้ผลดีจริงๆ”

“ใช่ค่ะ”พันเหมยพูด

ชายชราจากไปเมื่อมีคนอื่นเข้ามาในคลินิกเขามาเพื่อถามหายาตัวเดียวกัน

“ยังมีเหลืออยู่รึเปล่า?”

“มีค่ะ คุณลุงไม่สบายเหรอคะ?”พันเหมยถาม