ตอนที่ 197 ค่ำคืนสุขสันต์

Dual Cultivation ร่วมเรียงเคียงเซียน

“ท่านคิดว่าอย่างไรกับยานี้เปรียบเทียบกับครั้งที่แล้ว” หวังชูเหรินถามซูหยางขณะที่เธอยื่นส่งโอสถมังกรเพลิงให้กับเขาอย่างง่ายๆ สิ่งที่นิกายดอกบัวเพลิงถือเป็นสมบัติล้ำค่า

 

ซูหยางเหลือบมองเม็ดยาเพียงสองวินาทีก่อนที่จะพูดว่า “ดีขึ้นเล็กน้อย แต่มันยังไม่ดีพอ”

 

“อย่างนั้นรึ…”

 

หวังชูเหรินรู้สึกมั่นใจในยาเม็ดใหม่นี้ แต่อนิจจา มันยังไม่เพียงพอที่จะทำให้เขายอมรับ แม้ว่าเธอไม่ได้แสดงออกมา หวังชูเหรินก็ต้องการที่จะช่วยเขาปรุงยานั้นอย่างแท้จริง เพราะนี่เป็นเพียงวิธีเดียวที่เธอสามารถตอบแทนเขาจากทุกสิ่งที่ได้มอบกับเธอ แม้ว่าจะเป็นเพียงแค่เล็กน้อย

 

“อย่างไรก็ตาม ข้าสามารถบอกได้ว่าเจ้าได้เข้าใจการบรรยายของข้าได้จริง ดังนั้นเจ้าน่าจะถึงจุดนั้นได้หลังจากฝึกฝนต่อไปอีกสักหน่อย” ซูหยางกล่าวต่อ

 

“จริงรึ เช่นนั้นเราจะรออะไรอีก เรารีบอบรมต่อกันเถอะ” หวังชูเหรินไม่ได้รู้สึกกระตือรือล้นกับการอบรมมาเป็นเวลาหลายปีแล้ว นี่เป็นความรู้สึกที่สดใหม่สำหรับเธอ

 

ซูหยางพยักหน้าและเริ่มบรรยายรอบใหม่ในทันที

 

สำหรับการบรรยายครั้งที่สอง ในเมื่อหวังชูเหรินได้รู้จุดอ่อนของตนเองแล้ว ซูหยางจึงเจาะลึกลงไปในวิชาของเธอ อธิบายความลับทั้งหมดของมันและวิธีนำไปใช้ให้เป็นประโยชน์อย่างเหมาะสม สร้างความทึ่งให้กับหวังชูเหริน ซึ่งไม่เคยคิดว่าช่างมีเคล็ดลับมากมายในวิชาที่เธอคิดว่าได้มาถึงขีดจำกัดแล้ว

 

การบรรยายเพียงใช้เวลาไปสองชั่วโมงในครั้งนี้ แต่สิ่งที่หวังชูเหรินเรียนรู้จากสองชั่วโมงนี้ได้เกินกว่าสิ่งที่เธอได้เรียนรู้มาตลอดชีวิต

 

หลังจากบรรยาย ซูหยางได้กล่าวกับเธอ “เจ้าสามารถฝึกฝนต่อด้วยตัวเองในตอนนี้ ข้าจักกลับมาในวันพรุ่งนี้เพื่อดูความก้าวหน้าของเจ้า และหวังว่าข้าสามารถยอมรับให้เจ้าปรุงยานั้นโดยไม่กังวลว่าเจ้าจะล้มเหลว”

 

“ท่านจะไปไหน นี่ก็เกือบเที่ยงคืนแล้ว ดังนั้นท่านอาจจะถูกสั่งหยุดจากคนในนิกายถ้าพวกเขาพบท่านเดินเตร็ดเตร่ ถ้าท่านต้องการ ข้าสามารถจัดที่พักให้ท่านที่นี่” หวังชูเหรินกล่าวกับเขา

 

“ข้าไม่เป็นไรหรอก” เขาตอบกลับอย่างรวดเร็ว “และข้าก็มีที่จะไปในใจอยู่แล้ว”

 

“อย่างนั้นรึ… เช่นนั้นข้าก็มิรบกวนท่านต่อไปแล้ว”

 

ซูหยางออกจากที่พักของหวังชูเหริน ปล่อยให้เธอฝึกฝนวิชาต่อไปเพียงผู้เดียว

 

สองสามวินาทีต่อมา เขาก็สำแดงท่าร่างก้าวเก้าดาราและลับหายไปในยามค่ำคืน

 

 

 

 

ภายในที่พักของตนเอง จางซิวยิงนอนลงบนเตียงด้วยดวงตาเบิกโพลง สายตาเธอเหม่อมองไปนอกหน้าต่างไปยังดวงดาวเต็มฟ้าด้วยความรู้สึกสับสน

 

“เขาจำข้าได้จริงๆ…” เธอคิดถึงช่วงเวลาที่อยู่กับซูหยางภายในโรงประมูลดอกบัวเพลิง

 

เมื่อซูหยางจากไปวันนั้น เธอมั่นใจว่าเขาต้องลืมเธอหลังผ่านช่วงเวลาหนึ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาถึงท่าทางไม่แยแสต่อเธอในช่วงเวลานั้น

 

อย่างไรก็ตามความคาดหมายของเธอก็ยังคงเป็นเพียงแค่จินตนาการ เมื่อซูหยางกลายเป็นคนเข้าถึงง่าย เป็นมิตรมากกว่าเดิม เธอได้พบเขาอีกครั้งและยิ่งในรูปแบบนี้ซึ่งเกินกว่าสิ่งที่เธอเคยร้องขอ ดังนั้นจึงเป็นเหตุให้เธอยังคงตื่นตัวเพราะว่าตื่นเต้นเกินไป

 

“ข้าสงสัยว่าข้าจักได้พบกับเขาอีกหรือไม่”

 

เพียงแค่เธอพึมพัมคำพูดเหล่านั้น เธอก็ได้ยินใครบางคนเคาะประตูบ้านเธอ

 

“นั่นใคร”

 

จางซิวยิงตรงไปเปิดประตู

 

“ซ-ซูหยาง”

 

เมื่อเธอเห็นซูหยางยืนต่อหน้า เธอนิ่งอึ้งสิ้นเชิง

 

“ท-ท่านมาทำอะไรที่นี่ เกิดอะไรขึ้นกับผู้อาวุโสหวัง” เธอถามเขา

 

“ข้ากำลังรอให้เธอทำบางสิ่งให้เสร็จ ดังนั้นข้าจึงมาที่นี่เพื่อฆ่าเวลา ข้ามารบกวนหรือไม่” เขาพูด

 

“บ้าไปแล้ว ยิ่งกว่ายินดีต้อนรับสำหรับท่านที่นี่” จางซิวยิงยอมให้ซูหยางเข้าไปด้านในอย่างรวดเร็วโดยไม่สนใจกฏของนิกายเกี่ยวกับแขกหลังเที่ยงคืน

 

ครั้นเมื่อซูหยางอยู่ภายในบ้านของเธอแล้ว จางซิวยิงถอนใจ “โชคดีที่ข้าได้เป็นศิษย์ในและมีบ้านของตนเองในตอนนี้”

 

เธอนึกไม่ออกว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้าเพื่อนร่วมบ้านคนเก่าอยู่ที่นี่และเห็นเธอนำเอาชายอื่นเข้ามาในบ้านดึกดื่นเที่ยงคืน

 

“ว่าไปแล้ว อะไรพาท่านมาที่นี่ในเวลานี้” จางซิวยิงถามเขา หัวใจเธอเต้นเร็วกว่าปกติเล็กน้อย ราวกับว่าเธอคาดหวังในบางสิ่ง

 

“เจ้ายังจำได้หรือไม่ที่ข้าพูดกับเจ้าในเช้าวันนี้” เขากล่าวพร้อมรอยยิ้มบนใบหน้า

 

“ช-ช-ช-ช-เช้า ว-ว-ว-วันนี้” เห็นชัดว่าจางซิวยิงจำได้ แต่เธอคิดว่าเขาพูดถ้อยคำเหล่านั้นเพียงเพื่อยั่วยุศิษย์เหล่านั้นและไม่คิดว่าเขาจะหมายความอย่างนั้นจริงๆ

 

“ท-ท่านคงมิได้พูดเล่นใช่ไหม” เธอถามเขาด้วยหัวใจที่เต้นรัวแรงราวกับกลองศึก

 

“อะไรกัน เจ้าคิดว่าข้าเพียงพูดเล่นหรอกรึ”

 

จางซิวยิงพยักหน้าเชื่องช้า

 

ซูหยางยิ้มและเริ่มตรงเข้าไปหาเธอ

 

“เจ้ายังคงคิดว่าข้าพูดเล่นอยู่หรือไม่ตอนนี้” เขากระซิบข้างหูเธอครั้นเมื่อดึงเธอเข้ามาในอ้อมแขน

 

จางซิวยิงส่ายหน้าและพึมพัมด้วยเสียงเหนียมอายว่า “ข้าจักอยู่ในความดูแลของท่านอีกครั้ง…”

 

ไม่นานหลังจากนั้น ครั้นเมื่อจางซิวยิงและซูหยางอยู่ภายในห้องนอน พวกเขาทั้งคู่ปลดเปลื้องเสื้อผ้าและเริ่มสัมผัสความอบอุ่นจากร่างของอีกฝ่าย

 

อย่างไรก็ตามไม่เหมือนกับครั้งแรกที่พวกเขาอยู่ด้วยกันที่โรงประมูลดอกบัวเพลิงซึ่งเป็นเพียงการกระทำข้างเดียว ครั้งนี้ซูหยางกอดจางซิวยิงอย่างหลงไหลและเต็มใจ ปฏิบัติต่อเธอเหมือนกับเธอเป็นหญิงของเขาคนหนึ่ง

 

“อาา…แบบนั้น…”

 

จางซิวยิงเปี่ยมไปด้วยความสนุกสุขสมอย่างสมบูรณ์ขณะที่เธอรับรู้ถึงแท่งหนาของซูหยางเข้าไปในร่างของเธออีกครั้ง

 

ความรู้สึกว่าแท่งหนาของเขาแข็งแกร่งราวกับเหล็ก ความรู้สึกสุขสันต์ที่แผดเผาทำให้ร่างของเธอสั่นสะท้านไปด้วยความพึงพอใจ อีกทั้งกลิ่นเฉพาะจากร่างซูหยางทั้งหมดนี้ทำให้จางซิวยิงนึกถึงช่วงเวลาที่พวกเขาใช้ภายในห้องที่มีแสงริบหรี่ในโรงประมูลดอกบัวเพลิง

 

“ความรู้สึกนี้… ข้าไฝ่ฝันมานานสำหนับสิ่งเหล่านี้นับตั้งแต่วันนั้น…” จางซิวยิงคิดในใจขณะที่เธอครวญครางออกมาจากใจ