เป็นมหาเศรษฐีระดับพระเจ้าด้วยระบบลงชื่อ ตอนที่ 200 : ถนนลื่นในสังคมที่มีดมิดนั้นซับซ้อนมาก
วันถัดมา
อาคารศูนย์กลางทางการเงินชั้นที่ 24
ออฟฟิสที่สวยงามและมีพื้นที่กว่า 3,000 ตารางเมตร!
เจสันนําลูกน้องเข้ามาทํางานตั้งแต่เช้าตรู่!
เจียงเฉินพาอันนิ่งมาที่อาคารศูนย์กลางทางการเงิน
“สามีฉันคิดเรื่องนี้มาตั้งนานแล้วแต่ฉันก็ยังไม่เข้าใจซักทีว่าทําไม”
อันนิ่งทําหน้าสงสัย “เราต้องมาแสดงความยินดีกับเขาด้วยมันจะไม่ทําให้อีกฝ่ายยิ่งหยิ่งยโสไปมากกว่านี้หรอ?”
เจียงเฉินยิ้ม “ผมก็อยากให้เป็นอย่างนั้น”
อันนิ่งมองไปที่เจียงเฉินอย่างคาดหวังสมองน้อยๆของเธอนั้นไม่เข้าใจว่าทําไมความคิดของเจียงเฉินนั้นลึกซึ้งเกินไป!
เธอนั้นเดาไม่ถูกเลย!
ทั้งสองขึ้นนมาถึงชั้นที่ 24
เจสันที่ได้ยินว่าทั้งสองมาถึงแล้วเขาก็นําลูกน้องออกมาต้อนรับทันที
“ฮ่าๆ พวกเธอมาจริงๆด้วย!”
เจสันนอนถึงจด “ยินดีต้อนรับ! ยินดีต้อนรับ”
เจสันยิ้มจนถึงหู “ยินดีต้อนรับ! ยินดีต้อนรับ!”
อันฉิงสูดอากาศเย็นเข้า
ขณะที่เจสันเดินนําทั้งสองเขาก็แนะนําพื้นที่รอบๆ “ดูสิชั้นที่ 24นี้มีหน้าต่างที่สูงตั้งแต่พื้นจรดเพดาน! งดงามมาก!!”
“พวกเราสามารคมองเห็นวิวได้ทั่วจากที่นี่!”
“และส่วนของค่าเช่าพวกเธอจะต้องคิดไม่ถึงแน่นอน!”
เจสันโอ้อวดออกมาก่อนจะมองไปที่เจียงเฉินด้วยความภาคภูมิใจ “หนึ่งตารางเมตรเช่าหนึ่งวันอยู่ที่ 48 ดอลลาร์! ราคานั้นมาก! แม้แต่เมืองโตเกียวฮ่องกงก็ยังไม่สูงถึงขนาดนี้!”
“เป็นยังไงบ้างล่ะ?”
เจสันมองไปทางเจียงเฉิน!
แม้ว่าจะเป็นราคาที่ถูกโก่งเขาก็ยังเอามาโอ้อวด!
“48 ดอลลาร์ต่อเมตรต่อวัน…”
อันฉิงประหลาดใจ
เธอนั้นก็เป็นคนในเมืองหลวงและแน่นอนว่าเธอนั้นจะต้องพอรู้ราคาค่าเช่าที่บนถนนศูนย์กลางทางการเงิน
เจสันคนนี้เขาคิดอะไรของเขากันแน่?!
ค่าใช้จ่าย 336 หยวนต่อตารางเมตรต่อวันและอาคารทั้งชั้นก็จะตก 300 ล้านหยวนต่อปี?!
นี่สมองเขายังดีอยู่ใช่ไหม?
เป็นไปได้ยังไงที่เขายอมรับราคาค่าเช่าที่สูงขนาดนี้?
มองดดูด้วยสายตาราวกับกําลังมองคนปัญญาอ่อน.jpg
ถ้ายังคิดจะโอ้อวดอยู่แบบนี้บริษัทของตัวเองก็ไม่พ้นที่จะต้องขาดทุนแน่!
เจสันมองมาที่เจียงเฉินอย่างดูถูก “เป็นยังไงบ้างล่ะ? ที่นี้นายจะยอมแพ้ได้รึยัง? นายเห็นถึงความต่างชั้นของเรารึยังล่ะ?!”
หลังจากที่เดินเยี่ยมชมชั้นที่ 24 (อาคารของฉันนี่ดูดีจริงๆ) เขาพยักหน้าแล้วพูดออกมา “ใช่ฉันเห็นแล้ว!”
“ฮ่าฮ่าฮ่า ในเมื่อนายเห็นแล้วทําไมยังไม่ไปจากอันฉิงอีกล่ะ?!”
เจสันดูหยิ่งผยอง
ของ
และในเวลานี้เอง
จ้าวคังก็เดินเข้ามาพร้อมกับกลุ่มผู้บริหารอสังหาริมทรัพย์
เจสันพูดออกมาอย่างภาคภูมิใจ “ดูสินี่คือผู้จัดการของอาคารแห่งนี้”
“คุณคงจะมาที่นี่เพื่อเซ็นสัญญาใช้ไหม? เจ้าของอาคารลงนามมาแล้วรึยัง? แล้วการชําระเงินล่วงหน้าของเราเข้าบัญชีของคุณแล้วใช่ไหม?”
เจสันยื่นมืออกไปและยิ้มย่างมีความสุข
แต่ใครจะรู้
จ้าวคังกลับเดินตรงไปหาเจียงเฉินก่อนจะก้มหัวให้
“คุณเจียง!”
เจสัน “???”
รอยยิ้มของเขาค่อยๆแข็งค้าง!
เจียงเฉินคนนี้ไม่ใช่แค่คนขับตีตี้หรอ?
ทําไมผู้จัดการอาคารแบบเขาถึงต้องก้มหัวให้?
ทันใดนั้นเจสันก็รับรู้ได้ถึงลางสังหรณ์ที่ไม่ดีนัก
จ้าวคังมอบสัญญาทั้งสองฉบับให้เจียงเฉินด้วยความเคารพ
“คุณเจียง! เราได้ทําการทําข้อตกลงกับคุณเจสันแล้วและในตอนนี้พวกเขาเพียงต้องการคลายเซ็นของคุณเท่านั้น!”
เกิดความเงียบขึ้นมาทันที!
ดวงตาของอันฉิงเบิกกว้างเธอเอามือมาปิดปากของตัวเองด้วยความไม่อยากจะเชื่อ!
เจสันมองไปที่เจียงเฉินด้วยความตกตะลึง!
ในหัวของเขาเต็มไปด้วยความคิดที่ตีกันไปมา
“ทําไม มันเป็นไปได้ยังไงกัน?”
เจสันคําราม ”เขาจะเซ็นมันได้ยังไง”
จ้าวคังตอบ “แน่นอนว่าเขาต้องเซ็นได้ ก็ในเมื่อคุณเจียงเป็นเจ้าของอาคารของเรา!”
เจียงเฉินเซ็นสัญญาแล้วส่งเอกสารให้เจสันด้วยรอยยิ้ม
“ยินดีต้อนรับคุณเจสัน! บริษัทของคุณจะตั้งอยู่บนชั้นที่ 24 ของเรา!และมันจะเป็นของคุณไปตลอดทั้งปีไปจนถึงปีหน้า!”
เจียงเฉินยิ้ม
เจสันอึ้ง!
“อะไรนะ!
เขา เขา เขา
เจ้าของอาคารระดับ 5A หลังนี้?
ฉัน ฉัน ฉันจ่ายให้เขามากถึง 3 เท่าของราคาปกติ :
เพื่อเช่าอาคารของเขา?!
เจสันสติแตก!!
อันฉิงเองก็ไม่อยากจะเชื่อเธอมองไปที่เจียงเฉิน!
ก่อนที่เธอนั้นจะไปต่างประเทศเธอนั้นไม่รู้แม้แต่น้อยว่าเจียงเฉิน เองก็เป็นเจ้าของอาคารนี้
เดิมที่เธอนั้นคิดว่าวันนี้จะเป็นวันที่เจสันนั้นเอาแต่โอ้อวด
แต่ตอนนี้เรื่องทั้งหมดกลับพลิกไปอีกด้าน!
เจสันทุ่มเงินจ่ายด้วยราคาที่มากกว่าปกติถึง 3 เท่าเพื่อเช่าพื้นที่สํานักงานระดับ 5A ในอาคารศูนย์กลางทางการเงินและคนที่เป็นเจ้าของอาคารนั้นก็คือ….
เจียงเฉิน!!
ท้ายที่สุดใครกันแน่ที่เป็นคนรวยตัวจริง?!
เห็นได้ชัดว่าเจสันในตอนนี้ก็แค่แกะอ้วนที่กําลังถูกเชือดและผู้ที่จะเชือดมันก็ไม่ใช่ใครนอกจากเจียงเฉิน!
อันฉงนั้นก็เป็นถึงดีไซเนอร์สาวที่มีไอคิวสูงเธอนั้นย่อมต้องเข้าใจแผนของเจียงเฉินในทันทีเธอมองไปที่เขาแล้วหัวเราะออกมา
“นายนี่ก็นะ! ไม่บอกอะไรฉันสักคํา! ทําให้ฉันกังวลแทบแย่!”
เธมองเขาด้วยตาที่เป็นประกาย
และในที่สุดเจสันก็เริ่มมีปฏิกริยาตอบสนอง!
เขานั้นทั้งรู้สึกเศร้าและโกรธเขาชี้นิ้วไปที่เจียงเฉิน “แก แก แกรู้ว่าฉันต้องการที่จะโอ้อวดต่อหน้าอันฉิง แกก็เลยตั้งใจหลอกฉันงั้นสินะ! ฉันจะฉีกสัญญาทิ้ง! เอาเงินค่าเช่าของฉันคืนมาเดี๋ยวนี้!”
เจสันคิดว่าเขานั้นกลายเป็นแกะอ้วนนั้นไม่เป็นไรแต่เขานั้นจะไม่ยอมเป็นแกะอ้วนของเจียงเฉินเด็ดขาด!
แต่ทุกอย่างนั้นก็เป็นไปแล้ว
โดนตบหน้า!
โกรธจนปอดแทบระเบิด!
เจียงเฉินยิ้มและไม่ได้พูดอะไรแต่จ้าวคังที่อยู่ข้างๆเขานั้นมีท่าทีที่เคร่งขรึมขึ้นมา!
“คุณเจสัน! เกรงว่าเราจะทําอย่างนั้นไม่ได้! เพราะในสัญญานั้นมีการลงนามเอาไว้อย่างชัดเจนแล้วว่าจะต้องไม่มีการฉีกสัญญาในระยะเวลา 1 ปีนี้ หากทําการฉีกสัญญาเงินประกันค่าเช่านั้นคุณจะไม่มีสิทธิ์ได้รับคืน!”
จ้าวคังพูดออกมาด้วยความโกรธ “คุณจะยกเลิกสัญญาก็ได้ไม่เป็นไรแต่เงินค่าเช่า 1 ปีมูลค่ารวม 367 ล้านหยวนนั้นคุณไม่สามารถนํากลับไปได้และถ้าคุณตัดสินใจที่จะออกไปจากที่นี่คุณก็สามารถไปได้ทุกเมื่อ!”
เจสันโกรธจนตาขาวทันที!
กระอักเลือดออกมา!
เขานั้นไม่เคยคิดมาก่อนว่าเจียงเฉินจะใช้อันนิ่งหลอกเขาได้ขนาด
เมื่อคืนนี้ด้วยความที่เขานั้นอยากโอ้อวดและคิดในใจว่ายังไงเขาก็ต้องเช่าที่นี่อยู่ดีดังนั้นเขาก็เลยไม่ได้ใส่ใจอะไรมาก แต่วันนี้เขา นั้นก็รู้แล้วว่า
ถนนลื่นในสังคมที่มืดมิดนั้นซับซ้อนมาก!
เจียงเฉินคนนี้วางแผนได้เก่งจริงๆ!
เมื่อเห็นเจสันกระอักเลือดออกมาอันฉิงก็หัวเราะออกมาจนเธอปวดท้อง
“ไม่คิดเลยว่าสามีของฉันจะน่าดึงขนาดนี้ ”
อันฉิงกอดแขนของเจียงเฉินก่อนจะพูดกับเจสันด้วยท่าทางราวกับเธอนั้นเป็นเถ้าแก่เนี้ย “เอาล่ะจากนี้ไปนายก็จ่ายค่าเช่าให้ตรงตามเวลาแล้วก็อย่าทําอะไรไม่ดีล่ะ เข้าใจไหม?”
ใบหน้าของเจสันดูหมดอาลัยตาอยาก
การโอ้อวดของเขานั้นกลับเป็นเจียงเฉินที่เอาไปใช้ประโยชน์และยังได้ประโยชน์จากเขาไปร่วมๆ 200 ล้าน!
เรื่องนี้ยังไงก็ห้ามหลุดออกไปเด็ดขาดเพราะถ้ามันหลุดออกไมันจะเป็นเรื่องใหญ่ทันทีและคณะกรรมการบริษัทจะต้องไม่เอาเขาไว้แน่!
และตอนนี้เขาทําได้เพียงทนทุกข์ทรมาณและกลืนเลือดของตัวเองกลับไป
“ต่อจากนี้ก็เชิญโอ้อวดให้เต็มที่นะ!”
เจียงเฉินพูดออกมา “ถ้าคุณคิดจะโอ้อวดต่อหน้าผมอีกผมก็ยินดีแน่นอนว่าผมไม่รังเกียจเลยแม้แต่น้อย! อ้อ! แล้วก็เงิน 200 ล้านจากคุณนั้นผมขอบคุณมากจริงๆ!”
หลังจากนั้นเขาก็พาอันฉิงกับจ้าวคังเดินจากไป
เจสันกับลูกน้องถูกทิ้งเอาไว้ข้างหลัง
“ต่อจากนี้ไป ห้ามใครพูดถึงเรื่องนี้อีก!”
เจสันขู่ออกมา “เข้าใจไหม?!”
ลูกน้อง “..”
การโอ้อวดก็ล้มเหลวแถมยังทําให้บริษัทขาดทุนอย่างมหาศาล!
เพียงแค่วันเดียวก็ขาดทุนกว่า 200 ล้าน!
นี่มันมากเกินไปจริงๆ!
เจสันพูดออกมาด้วยความโกรธ “ไม่สิ ตอนนี้พวกเราต้องเริ่มทํางานเพื่อชดเชยความผิดพพลาดครั้งนี้ได้แล้ว!”
ในเวลานี้เองเขานั้นก็อดไม่ได้ที่จะภาคภูมิใจ
โชคดีที่ก่อนหน้านี้เขานั้นได้ทําการหาข้อมูลการตลาดมาบ้างแล้วและเขานั้นก็บริษัทที่ดูดีบางแห่งที่สามารถเข้าไปร่วมลงทุนได้เช่นภัตตาคารจื่อหยวนบริษัทไท่เว่ยและโรงแรมผาง
และด้วยบริษัทไท่เว่ยกรุ๊ปนั้นตั้งอยู่ในอาคารแห่งนี้ดังนั้นเขาจึงตั้งที่นี่ให้เป็นเป้าหมายแรกของเขา!
วินาทีนี้ความมั่นใจของเจสันกลับมาทะยานอีกครั้ง!
ฉัน เจสันคนนี้เป็นสุดยอดของวงการการเงินโลก!
“เจฟฟ์นีย์ นายไปติดต่อคุณลู่ของบริษัทไท่เว่ยกรุ๊ปทันทีและเชิญเขามาทานอาหารค่ํากับฉันคืนนี้ ร้านที่จะไปก็คือ…ตั้งอยู่ที่ซินหลงขี่ว่ากันว่ามันเป็นร้านอาหารมิชลิน 3 ดาวแห่งเดียวในเมืองหลวงอย่างน้อยมันก็น่าจะพอแสดงความจริงใจของฉันได้บ้าง”
เลขาเจนนิเฟอร์เธอเป็นสาวผมบลอนด์เธอนั้นเป็นหญิงสาวที่เก่งภาษาจีนมากที่สุดในทีมแถมยังเป็นคนที่สวยที่สุดเรียกได้ว่าเธอนั้นเป็นดอกไม้งามของทีมนี้เลยทีเดียว
เจนนิเฟอร์ยิ้มออกมาอย่างมีเสน่ห์ “ค่ะ ฉันจะไปเชิญบอสลู่ทัยที่”
เจียงเฉินพาอันนิ่งออกจากอาคารศูนย์กลางทางการเงิน
ตุ๊ดตัด–
โทรศัพท์ดัง
เป็นโจวหมิงเถ้าแก่ของบริษัทหลักทรัพย์กั่วคู่เป็นหัวหน้าของเพื่อนเก่าคนหนึ่งของเขา!
“ฮ่าฮ่าฮ่า น้องเจียง นายนี่สุดยอดจริงๆ! ฉันเพิ่งได้ข่าวมาว่านายไปหลอกล่อบริษัทการเงินระหว่างประเทศขนาดใหญ่ให้พวกเขาจ่ายเงินค่าเช่าสูงถึง 3 เท่าจากปกติและยังได้กําไรมาปีละ 200
ลานหยวน!”
เจียงเฉินรู้สึกประหลาดใจ “คุณรู้เรื่องนี้ได้เร็วขนาดนี้ได้ยังไงกัน?”
โจวหมิงยิ้ม “เรื่องนี้แพร่กระจายไปทั่วทั้งอาคารแล้ว มีคนในบริษัทกองทุนแอตแลนติกออกมาพูดว่าพวกเขาถูกเอาเปรียบนะ”
แม้แต่เจียงเฉินเองก็ยังไม่คิดว่าเรื่องจะแพร่กระจายได้ไวขนาดนี้
โจวหมิงพูดออกมา “น้องเจียง ฉันต้องขอบคุณสําหรับเรื่องนี้จริงๆกองทุนแอตแลนติกกับบริษัทหลักทรัพย์กั่วคู่ของฉันเราเป็นเหมือนกับศัตรูคู่อาฆาตกัน! เมื่อวานฉันยังกังวลที่พวกเขานั้นย้ายเข้ามาอย่างกระทันหันอยู่เลย แต่พอตอนนี้กับโดนน้องเจียงไล่ต้อนซะอยู่หมัดพวกนั้นก็คงต้องพบกับผลกระทบเชิงลบอย่างเลี่ยงไม่ได้
แน่”
เจียงเฉิน “ฮ่าฮ่าฮ่า…เรื่องแค่นี้เอง!”
โจวหมิง “ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว ฉันว่าจะชวนนายไปทานอาหารค่ําคืนนี้ที่ซินหลงเพื่อตอบแทนนายสักหน่อย”
เจียงเฉิน “ซินหลงจี๋ งั้นสินะ โอเคตามนั้นเลยครับ”
ซินหลงจีนั่นมันก็ร้านของฉันเองใช่ไหม?
วางสายโทรศัพท์
ตอนกลางคืน.
เจียงเฉินขับรถ Tesla มาถึงซินหลงจีตั้งแต่หัวค่ํา
“เถ้าแก่!”
จ้าวหยวนผู้จัดการร้านที่เห็นว่าเป็นใครมาก็รีบออกมาทักทายทันที
เจียงเฉินโบกมือ “วันนี้ฉันมีนัด ไม่ต้องสนใจฉัน”
“ครับ เถ้าแก่” จ้าวหยวนไปจัดห้องส่วนตัวหรูหราชั้นหนึ่งให้กับเจียงเฉินทันที
ไม่นานหลังจากนั้นลู่เว่ยก็มาถึง
หลังจากนั้นเขาก็มองไปรอบๆ แต่ก็ไม่พบคนจากบริษัทกองทุนแอตแลนติกแม้แต่คนเดียว
“แม่งเอ๊ย! นัดฉันไว้ตอน 1 ทุ่มแต่ตอนนี้ 6.50 แล้วทําไมยังไม่มากันซักคนเลย?”
ลู่เว่ยเริ่มรู้สึกประทับใจคนจากกองทุนแอตแลนติกมาก!
และก็บังเอิญที่โจวหมิงนั้นก็มาถึงร้านพอดี
“สวัสดี พี่โจว!”
“น้องลู่”
“นายมาที่นี่ทําไมกัน” สู่เวยถามออกมาอย่างสงสัย
โจวหมิงหัวเราะแล้วพูดออกมา “ฉันมีนัดกับน้องเจียงเพื่อทานอาหารที่นี่ บางทีคนที่นัดกับนายอาจจะยังมาไม่ถึงละมั้ง? ไปเถอะเราเข้าไปดื่มกันก่อนซักสองสามแก้วดีกว่า”
หลังจากนั้นเขาก็ดึงลู่เว่ยเข้าไปในห้องของเจียงเฉินเพื่อทานอาหารกันทันที
จากนั้นทั้งสามคนก็เริ่มคุยกัน
จนถึงเวลา 1 ทุ่มเจสันก็มาถึงซินหลงจอย่างตรงเวลาพร้อมกับเจนนิฟเฟอร์
“ฉันนี่เป็นคนตรงต่อเวลาจริงๆบอก 1 ทุ่มก็มาถึง 1 ทุ่มพอดี!”
เจสันปลื้มปริ่ม!
“ฮะ
”ฮะมะ”
ทันใดนั้นเขาก็เห็นรถที่คุ้นเคย
รถ Tesla!
คันสีแดง!
เลขป้ายทะเบียน 345!
“นี่ไม่ใช่รถของเจียงเฉินใช้ไหม?”
จู่ๆ เจสันก็รู้สึกไม่ดีขึ้นมาทันที!