บทที่ 735 นายหญิงของตระกูล / บทที่ 736 สร้างอิทธิพล

แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี

บทที่ 735 นายหญิงของตระกูล

แต่ไม่รอให้พวกสืออีเปิดปาก หม่าปิงที่ออกไปก่อนหน้านี้กลับมาใหม่อีกครั้ง

หม่าปิงเพิ่งเข้ามาในห้องของโรงแรม พอเห็นพวกนักเลงที่ถูกอัดนอนกองกับพื้น สีหน้าก็ดำคล้ำ ตอนเงยหน้ามองสามีภรรยาวัยกลางคนที่อวดบารมี สีหน้ายิ่งบิดเบี้ยวถึงขีดสุด

“น้องโจวชั่นยอดเยี่ยมจริงๆ มีผู้ช่วยขนาดนี้” หม่าปิงมองชายวัยกลางคน หัวเราะเสียงเย็น

พอเห็นหม่าปิง สามีภรรยาวัยกลางคนก็ตกใจ ความยโสบนใบหน้าหายไปอย่างไร้ร่องรอย

หม่าปิงคนนี้มีกลุ่มอิทธิพลใหญ่ที่สุดในเมือง H นอกจากนี้ยังเป็นรุ่นน้องของสวี่อี้ที่เป็นหัวหน้าพวกเขาด้วย

เพียงแต่ว่า ทำไมหม่าปิงคนนี้ถึงโผล่มาที่นี่?

หรือว่าหม่าปิงกับคนพวกนี้จะมีความเกี่ยวข้องกัน…

“อ้าว พี่หม่า!” ชายวัยกลางคนไม่ทันใคร่ครวญดู ใบหน้าผุดยิ้ม เดินเข้าไปหา ล้วงบุหรี่มวนหนึ่งออกจากอกเสื้อแล้วยื่นให้หม่าปิง

“ฮ่าๆ” หม่าปิงหัวเราะเสียงเย็น มองบุหรี่ที่ชายวัยกลางคนส่งมาให้ ส่ายหน้าเบาๆ ชนิดที่สังเกตไม่เห็น “ไม่เอาดีกว่าๆ ตอนนี้น้องโจวหน้าใหญ่เกินไป ฉันไม่กล้ารับบุหรี่ไว้”

“พี่หม่า…พูดอะไรกันครับ…เข้าใจผิดอะไรรึเปล่า…คนพวกนี้เป็นคนรู้จักของพี่หม่าเหรอ” พอเห็นสีหน้าของหม่าปิง ชายวัยกลางคนรู้สึกไม่ดี ก่อนหน้านี้แม้เขาจะไม่เคยคุยกับหม่าปิง แต่ก็เคยเจอกันโดยบังเอิญ ถึงหม่าปิงจะไม่รู้จักเขา แต่ก็ไม่เคยให้เกียรติเขาขนาดนี้

“แกไม่ใช่คนของสวี่อี้หรอกเหรอ ทำไม…แกถึงไม่รู้จักคุณหนูคนนี้ล่ะ?” หม่าปิงเอ่ยอย่างเย็นชา

“เอ่อ…คนคนนี้คือ…” ชายวัยกลางคนใจเต้นระทึก จากนั้นมองเยี่ยหวันหวั่น ดวงตาปรากฏความสงสัยและความเคร่งเครียดทันที

“น้องโจว แกน่าจะรู้ว่าสวี่อี้ลูกพี่ของพวกแกเป็นใครใช่ไหม?” หม่าปิงเหลือบมองชายวัยกลางคนแวบหนึ่ง

“ทราบครับ…ทราบดี…ลูกพี่สวี่เป็นคนของตระกูลซือประเทศ Z ผมต้องรู้อยู่แล้ว…” ชายวัยกลางคนเอ่ยด้วยความระมัดระวัง

“ในเมื่อรู้ งั้นตอนนี้แกทำอะไรอยู่?” หม่าปิงแค่นเสียงหยัน ก่อนจะมองเยี่ยหวันหวั่น พูดกับชายวัยกลางคนคนนั้นว่า “คุณหนูที่อยู่ตรงหน้าคุณคนนี้เป็นนายหญิง…ของตระกูลนั้น”

“อะไรนะ?” ชายวัยกลางคนอึ้งอยู่กับที่ในชั่วพริบตา

รอจนเขาได้สติกลับมาแล้วมองเยี่ยหวันหวั่นที่เยือกเย็นดุจน้ำแข้ง ม่านตาก็หดตัวลงทันที

เมื่อครู่หม่าปิงว่าอะไรนะ…

ผู้หญิงคนนี้เป็น…นายหญิง…ตระกูลซือ?!

วินาทีนี้ ห้วงความคิดของชายวัยกลางคนว่างเปล่า ฟ้าดินหมุนติ้ว ร่างอ่อนระทวย โซเซล้มลงกับพื้น

ถ้าหากผู้หญิงคนนี้เป็นนายหญิงตระกูลซือตามคำพูดของหม่าปิงจริง ถ้าอย่างนั้นคนฝึกวิชาต่อสู้สิบกว่าคนที่คุ้มครองเธออยู่…ก็คือบอดี้การ์ดลับของตระกูลซือแล้ว

ไม่น่าล่ะแต่ละคนถึงได้ฝีมือดีนัก นักเลงหลายสิบคนสู้พวกเขาไม่ได้เลย

ชายวัยกลางคนรู้สึกว่าเหงื่อกาฬหลั่งไหลออกมา เดิมทีเขาไม่เข้าใจว่าทำไมนายหญิงตระกูลซือถึงมาที่เมือง H ในพม่า ก่อนจะเกิดเรื่องเขาก็ไม่ได้รับโทรศัพท์ของสวี่อี้ด้วย…

นอกจากนี้ ด้วยฐานะนายหญิงของตระกูลซือแล้ว ต่อให้มาพม่าจริงๆ ก็สมควรเหมาเครื่องบินมาสิ…

ทำไมถึงนั่งเครื่องบินลำเดียวกันกับพวกเขา?!

“นายหญิงตระกูลซืออะไรกัน หม่าปิง คุณบอกว่าเป็นก็เป็นเหรอ ทำไมพวกเราต้องเชื่อคุณด้วย!” หญิงวัยกลางคนกรีดร้อง

“ไอ้พวกเฮงซวย!” หม่าปิงลืมตาขึ้นอย่างโมโห ตวัดมือตบหน้าหญิงวัยกลางคน

การตบนี้ส่งหญิงวัยกลางคนล้มกลิ้งไปบนพื้นทันที

————————————————

บทที่ 736 สร้างอิทธิพล

พอเห็นสามีตัวเองนั่งนิ่งอยู่กับพื้น หญิงวัยกลางคนก็ผลักใส่ทีหนึ่ง “แกเป็นผู้ชายรึเปล่าเนี่ย เมียถูกคนอื่นตบแบบนี้ ยังมัวนั่งบื้ออะไรอยู่อีก!”

“นังบ้านี่!” ชายวัยกลางคนได้สติกลับมา ตวาดไปทีหนึ่ง และต่อยหญิงวัยกลางคนจนลงไปนอนกองกับพื้น

“เหอะๆ…” หม่าปิงจ้องชายวัยกลางคน “ตอนนี้น้องโจวยิ่งใหญ่ไม่เลวนี่ เส้นใหญ่มากเลยสินะ แม้แต่นายหญิงตระกูลซือยังกล้าล่วงเกิน ต่อจากนี้แกเป็นพี่ฉัน ให้ฉันเป็นน้องเองดีไหม”

ได้ยินดังนั้น ชายวัยกลางคนก็หลั่งเหงื่อเย็นๆ ออกมา ต่อให้ทุบตีเขาให้ตายยังไงเขาก็ไม่รู้ว่าผู้หญิงคนนี้คือนายหญิงตระกูลซือ!

ถ้าหากรู้ ต่อให้มอบความกล้าให้เขามากขนาดไหน เขาก็ไม่กล้าล่วงเกิน!

“คุณหนูเยี่ย! คุณหนูเยี่ยผมไม่รู้…คุณหนูเยี่ยอภัยให้ด้วยเถอะ ถ้าผมรู้สถานะของคุณ ต่อให้คุณมอบความกล้าให้ผม ผมก็ไม่กล้าอยู่ดี…”

ชายวัยกลางคนพุ่งไปคุกเข่าตรงหน้าเยี่ยหวันหวั่น เอ่ยละล่ำละลักขณะหวาดกลัว

“ไสหัวไป!”

บอดี้การ์ดลับคนหนึ่งเตะชายวัยกลางคนออกไปด้านข้าง

“ทำชื่อของตระกูลซือเสื่อมเสีย มาโอ้อวดอำนาจที่นี่ กล้าจนแม้แต่ประตูของคุณหนูเย่ยังกล้าถีบ?” บอดี้การ์ดลับอีกคนหนึ่งมองชายวัยกลางคนพลางหัวเราะหยัน

“เอาแบบนี้แล้วกัน เดี๋ยวผมจะจัดการคนพวกนี้ให้เอง ยังมีกากเดนพวกนี้ด้วย” หม่าปิงกวาดมองนักเลงที่เงียบเป็นเป่าสากหลายสิบคน

“รบกวนด้วยค่ะ” เยี่ยหวันหวั่นพยักหน้าเล็กน้อย ในใจกลับหัวเราะไม่ออกร้องไห้ไม่ได้

คิดไม่ถึงว่าเพิ่งถึงเมือง H ก็จะเจอเรื่องแบบนี้เข้า นอกจากนี้อีกฝ่ายยังเป็นลูกน้องของสวี่อี้ด้วย…

“คุณหนูเยี่ย คุณเกรงใจไปแล้ว ต้องโทษผมที่เจอช้าไปเอง” หม่าปิงถอนหายใจ จากนั้นโบกมือไปทางประตู

ชายชุดดำสิบกว่าคนเดินเข้ามา นำตัวสามีภรรยาและนักเลงหนุ่มเหล่านั้นออกไป

ตอนที่สามีภรรยาคู่นั้นถูกลากออกไปก็ยังวิงวอนอย่างต่อเนื่อง

ทว่าเสียงนั้นค่อยๆ เบาลงเพราะพวกเขาถูกฉุดลากออกไปไกลแล้ว

หลังจากจัดการเสือกระดาษที่อวดอ้างบารมีคู่นี้ได้ หม่าปิงก็ให้ทางโรงแรมเปลี่ยนห้องใหม่ให้เยี่ยหวันหวั่น นอกจากนี้ยังแจ้งผู้จัดการโรงแรมด้วย

ถึงอย่างไรการที่ชายวัยกลางคนเจอห้องของเยี่ยหวันหวั่นได้ จะต้องเป็นเพราะสืบข่าวมาจากทางในโรงแรมแน่ ถ้าผู้จัดการโรงแรมคนนี้ไม่รู้หนักเบาแบบนี้ก็เอาไว้ไม่ได้

รอจนทุกอย่างจัดการเรียบร้อย เรื่องนี้ถึงค่อยจบลง

เยี่ยหวันหวั่นมองทิวทัศน์ของเมือง H ผ่านกระจกในห้องของโรงแรม

หลังจากผ่านเรื่องในวันนี้ไป เยี่ยหวันหวั่นก็รู้สึกได้ถึงความสำคัญของกำลังคนของตัวเองมากขึ้น เธอไม่สามารถพึ่งชื่อตระกูลซือได้ตลอดไป

มีแต่อำนาจของตัวเองเท่านั้นจึงจะเป็นแต้มต่อที่ดีที่สุดของเธอ

ถ้าหากเธอมีกลุ่มอิทธิพลของตัวเองได้บ้างล่ะก็…

ทันใดนั้น ดวงตาเยี่ยหวันหวั่นเป็นประกายคล้ายนึกอะไรออก

เธอพอจะจำได้ว่าในชาติก่อนหลังจากเธอมาถึงเมือง H ของประเทศพม่าแล้ว แม้ว่าจะไม่ได้เคลื่อนไหวคนเดียว แต่เธอก็ได้ฟังข้อมูลเกี่ยวกับเมือง H บางส่วนจากปากของบอดี้การ์ดลับเหล่านั้น

ในชาติที่แล้ว ว่ากันว่าที่นอกเมืองมีกลุ่มกบฏกลุ่มหนึ่งขัดแย้งกับกลุ่มอิทธิพลท้องถิ่น สุดท้ายถูกฆ่าทิ้งหมด

ถ้าคิดจะสร้างกลุ่มอิทธิพลของตัวเอง นี่ดูเหมือนเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีมาก ถ้าหากเธอช่วยกลุ่มกบฏกลุ่มนั้นไว้ก็จะสามารถใช้งานได้…

สองตาเยี่ยหวันหวั่นเป็นประกายเล็กน้อย จากนั้นเธอหารายชื่อในโทรศัพท์แล้วกดโทรหาเบอร์หนึ่ง

……………………………………………………..