ณ สถานที่พำนักของกลุ่มซวนซงและภูเขาซูยู
อาจารย์ของทั้งสองกลุ่มตอนนี้มีความอิดโรย ผู้เฒ่ารู้สึกเหนื่อยกับการล้างแค้นให้กับกลุ่มไทชิ เพราะที่นั่นตอนนี้ถูกล้อมรอบไปด้วยเหล่าทหารหลายสิบนาย แม้ว่าจุดแข็งของผู้เฒ่าจะแข็งแกร่งแต่พวกเขามีจำนวนมากกว่า ท้ายที่สุดแล้วเมื่อเทียบกันก็ถือว่าสูสี
หลังจากดู๋เหยาสร้างเรื่องอื้อฉาวไว้และพวกผองของเขาต้องการที่จะจัดการเรื่องอื้อฉาวเหล่านี้ด้วยการปราบปรามผู้ฝึกฝนแต่มันไม่สามารถกำจัดทุกคนเพื่อปิดปากได้ ท้ายสุดในฐานะนักบวชพวกเขาก็ควรจะป้องกันกลุ่มของตัวเองเช่นกัน
“เอาพวกท่าน! เพื่อเป็นการปกป้องผลประโยชน์ส่วนตัวของเขาและจิตใจที่บิดเบี้ยวของดู๋เหยาที่ได้ก่อข้อผิดพลาดครั้งใหญ่ ตอนนี้เขาตายแล้วและผู้สมคบคิดของเขาก็ถูกฆ่าตายตาม ข้าหวังว่าพวกเจ้าจะสามารถทิ้งเรื่องทั้งหมดนี้เพื่อเริ่มใหม่ได้” ผู้นำกองทัพเอ่ย
“สถานการณ์ตอนนี้เป็นอย่างไร?” อาจารย์ทั้งสองกลุ่มมองหน้ากันดูเหมือนพวกเขาจะเริ่มปวดหัว ลแก้แค้น? พวกเขาจะขอบคุณมากถ้าตอนนี้ทุกอย่างดีขึ้นตามลำดับและทำให้พวกเขาหายเหนื่อยโดยไม่ต้องมีผู้บาดเจ็บเสียที
…
[ชานมถั่วแดง 6 คริสตัล/ถ้วย]
ฟางฉีมองดูการแนะนำในส่วนหน้าอินเทอร์เฟชซึ่งมีรายละเอียดเขียนไว้เกี่ยวกับถั่วแดงในชานมเป็นพืนทางจิตวิญญาณคุณภาพสูงเป็นพืชที่มีโปรตีนสูงพร้อมกลิ่นหอมเฉพาะตัว ผงชาที่ถูกบดจากใบชาดำที่ได้รับการปลูกจากยอดเขาสูงผลิตด้วยวิธีที่ประณีตมากมาย ..
มันมีคำอธิบายอย่างละเอียดเกี่ยวกับนมผงและผลิตภัณฑ์ที่มีกระบวนการผลิตอย่างพิถีพิถัน สำหรับน้ำที่นำมาใช้ทำยาเป็นน้ำจากน้ำพุหินไหลผ่านจากภูเขาลึกน้ำมากลั่นพิเศษและน้ำนี้ก็ถูกนำมาใช้ทำโค้กและสไปร์ทเช่นกัน
ขณะที่อ่านคำอธิบายที่มีมากกว่าสิบบรรทัดฟางฉีเกิดข้อสงสัยว่ามันเป็นเพียงแค่ชานมแต่ทำไมดูยอดเยี่ยมขนาดนั้น?
…
เมืองครึ่งนั้นมืดมนและหนาวเย็นหิมะของที่นี่มาไวกว่าจิวหัวในฤดูหนาวเสียอีก
เมื่อฟางฉีเปิดร้านในตอนเช้าหิมะด้านนอกก็พัดผ่านเข้ามาเล็กน้อย หิมะเยอะจนสูงถึงตาตุ่ม
นักรบและเหล่าผู้ฝึกฝนสามารถต้านทานความเยือกเย็นได้อย่างรุนแรงโดยการหมุนเวียนพลังภายในร่างกายของพวกเขา เสื้อผ้าทางจิตวิญญาณระดับสูงบางชุดมีสาระจิตวิญญาณที่สามารถปรับอุณหภูมิได้ สำหรับผู้ฝึกฝนฤดูหนาวไม่ได้ทำให้พวกเขาได้รับผลกระทบสักเท่าไร
ซูโมจัดการหิมะบนถนนหน้าร้านด้วยเทคนิคดาบของเขา แม้จะมีหิมะตกหนักแต่ไหนแต่ธุรกิจในร้านยังคงปกติเหมือนเดิม ขณะเดียวกันลูกค้าที่เป็นนักรบเพิ่มขึ้นแม้ว่าที่เมืองครึ่งจะมีนักรบน้อยจนแทบนับคนได้ก็ตาม
ปีศาจดำและกองกำลังอื่นๆ อย่างหยวนเฮงก็กำลังเปิดรับสมัครนักรบ เนื่องจากนาหลันฮงวูเกือบจัดการกับกลุ่มไทชิด้วยดาบระดับยี่สิบสามได้อย่างร้ายกาจ พวกเขาเลยตั้งใจที่จะปั้นนักรบขึ้นมาด้วยความตั้งใจ
ผู้ฝึกฝนในเมืองครึ่งเคยดูถูกคนกลุมนี้ แต่ตอนนี้พวกเขากลับให้ความสำคัญอย่างมาก อย่างน้อยๆ ตอนนี้พวกเขาก็ได้ตระหนักถึงศักยภาพของนักรบ
ผู้เล่นที่อาศัยอยู่ในเมืองครึ่งเช่น รวนหนิง, ซียื่อรวมไปถึงหนิงไป่และคนในเมืองชั้นในมาถึงร้านเร็วมากในวันนี้ ตอนนี้ผู้เล่นที่มีประสบการณ์บางคนเองแม้พวกเขาจะมีประสบการณ์แล้วแต่พวกเขาก็ยังมาเร็วเนื่องจากได้ดูการถ่ายทอดสดแล้วต้องการที่จะเชี่ยวชาญมากกว่าเดิม
“หืม?” พวกเขากระพริบตาและมองขึ้นไปยังบรรไดชั้นสอง
“นี่เจ้าของร้านผ้าสมของเจ้าตกมาหรือเปล่า?”
“อ่า .. ข้าหนาวมาก!” ขณะนี้เสียงหอนลอยมาจากชั้นสองลงมาชั้นหนึ่ง กองผ้าห่มขนาดใหญ่สั่นเทิ่มอยู่ที่ราวบรรได “เมื่อไรเราจะไป .. ที่เมืองจิวหัว เมื่อไร!?”
ดวงตาสีแดงคู่หนึ่งโผล่ออกมาจากผ้าห่มและจ้องมองหน้าฟางฉีอย่างมีความหวัง
ใบหน้าของฟางฉีดูขรึม “นั่นเจ้ากำลังทำอยู่ในผ้านวมของโมน้อย เจ้าไม่สามารถต้านความเยือกเย็นด้วยพลังของเจ้าหรือ?”
“ข้า ข้า .. ฮือ!” มันสูดลมเข้าร่างกาย
จากนั้นฟางฉีก็พบว่าแถบพลังงานเทเลพอร์ตเติบโตขึ้นอีกครั้ง
“…”
เขาเตะมันขึ้นไปชั้นบนและพูดว่า “เจ้าปีศาจเจ้าไม่เคยตายใช่มั้ย? ใช้ความเย็นเสริมสร้างพลังงานในร่างกายสิว้อย!”
หลังจากนั้นเสียงตะโกนจากลูกค้าดังมา “นี่เจ้าของ ชานมถั่วแดงคืออะไรหรอ?”
“เครื่องดื่มใหม่” ฟางฉีหยิบถ้วยออกมาแล้วเทลงในแก้วในไม่ช้ากลิ่นอันเข้มข้นของนมผสมกับชาจางๆ ก็แทรกซึมอยู่ในอากาส
“กลิ่นมันหอมมาก!” ดวงตาของหนิงไป่เบิกวกว้างเธอเลียริมฝีปากเบาๆ “นี่อาหารของเจ้าอร่อยอยู่เสมอ หากข้ายังอยู่ที่นี่ต่อไปเงินของข้าต้องหมดลงแน่ ช่วยขายมันให้น้อยลงหน่อยได้มั้ย”
“เจ้าหมดเงินเพราะอาหาร? คนจนทำอะไรบ้างละ?” ฟางฉีตอบไร้เยื่อใย
“หึ! ไม่สนุกเลย” เธอกลอกตาใส่ฟางฉี “ข้าจะกินถ้วยหนึ่ง!”
“หนึ่งด้วยของข้าด้วย!”
พวกเขานั่งจิบชานมกลิ่นหอมของมันโชยไปทั่วร้าน ความอ่อนนุ่มในรสชาตนั่นแปลกใหม่ทำให้หัวใจเต้น
“อร่อยมาก!” ซียื่อรู้สึกชื่นชอบ เธอจิบชานมอีกครั้งแล้วนั่งบนโซฟา
“ช่างอบอุ่นและนุ่มละมุน เมื่อเทียบกับรสชาติของโค้กแล้วอันนี้ดูเอ้อระเหยชวนใช้เวลามากกว่า”
“จริงหรอ? มันนุ่มนวลงั้นหรอ?” กองผ้าห่มมองผู้คนที่กำลังชื่นชมชานมถั่วแดงด้วยสายตาอดอยาก
“เจ้ามีเงินหรือเปล่า? ถ้าไปมีก็ไปจากตรงนี้” ฟางฉีเหยียด
“ใคร? .. ใครบอกว่าข้าไม่มีเงินละ ฟู่ว!” จากนั้นเงินสองสาม .. หก คริสตัลหกก้อนถูกว่างอย่างเป็นระเบียบบนเคาน์เตอร์
“เจ้ายังมีคริสตัลอยู่กับตัวหรอ? ทำไมข้าถึงวไม่เห็นรู้” ฟางฉีลากก้อนเมฆลอยไปที่ผ้าห่มและเขย่าเขาราวกับว่ากำลังเขย่ากระปุกออมสิน แต่ไม่มีคริสตัลออกมา
“ไม่มีแล้ว ไม่มีแล้ว! แล้วเจ้าก็ไม่สามารถเอาผลึกใดๆ ออกไปจากข้าได้ด้วย!” เสียงพูดโวยวาย
ในไม่ช้าร่างที่ซ่อนอยู่ในเมฆและถูกห่มด้วยผ้านวมก็นั่งลงบนโซฟาและจิบชานม เขาร้องออกมา “ว้าว! มันอบอุ่นและนุ่มนวลจริงๆ ฮ่าๆ ข้าอบมัน”
ลูกค้าทุกคนที่กำลังจิบชานมรู้สึกพูดไม่ออกเมื่อได้ลิ้มรส
“เจ้าของร้าน เดวิลเมครายสามคืออะไรหรอ?” สำหรับตอนนี้ที่ร้านมีรายการใหม่เพิ่มถึงสองอย่างในเวลาเดียวกัน