ตอนที่ 939 เกือบตาย

Elixir Supplier

939 เกือบตาย

ในช่วงนี้เมื่อไหร่ก็ตามที่เขาทําการวินิจฉัยโรคหวังเย้ามักจะใช้แค่การมองเท่านั้นส่วนใหญ่เขาไม่จําเป็นต้องจับชีพจรของคนไข้เพื่อดูว่ามีความผิดปกติที่ตรงไหนด้วยซ้ํา

“อาจารย์สุดยอดไปเลย!”พันจวินรู้สึกประทับใจเมื่อได้ยินแบบนั้น

นั่นเป็นคนไข้เพียงคนเดียวที่มาคลินิกในช่วงบ่ายเมื่อถึงเวลาปิดคลินิกพันจวินก็เตรียมตัวกลับ

“ขับรถระวังด้วยนะครับ” หวังเย้าพูด

“อาจารย์ไม่ต้องออกมาส่งหรอก ข้างนอกมันหนาว”

พันจวินขึ้นนั่งบนรถและขับออกไปไม่นานเจี๋ยจื้อจายก็มาที่คลินิก

“สวัสดีครับ เนียนเชิง”

“หนาวขนาดนี้ ทําไมถึงออกมาข้างนอกล่ะ?”

“ไม่มีอะไรหยุดผมได้หรอกครับ”เจี๋ยจื้อจายพูดด้วยรอยยิ้ม

มันเป็นความจริงที่ว่า การฝึกฝนก็ทําให้คนเสพติดได้เหมือนกัน

“คุณไปเถอะ”

หวังเย้าปิดประตูคลินิกและกลับบ้าน

ท้องฟ้าเริ่มมืดลง หนึ่งวันค่อยๆผ่านพ้นไปหลังจากนั้นอากาศก็เริ่มเย็นลงเรื่อยๆอีกหนึ่งเดือนก็จะเข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิ

ทางเหนือหนาวเย็น ในขณะที่ยูนนานใต้ยังคงมีแดดออกและอากาศเย็นสบาย แม้จะมีหิมะตกก็ตามทีในหุบเขาพันโอสถสามารถมองเห็นต้นไม้เขียวขจีได้ทุกฤดูกาล

“เสี่ยวเหอเป็นยังไงบ้าง?”เมี่ยวซีเหอถาม

“จนถึงตอนนี้ก็ยังปกติดีครับเราได้ใช้วิธีการและทําการทดลองตามวิธีการที่อาจารย์สั่งการมาแล้ว”

“ดีมากไม่จําเป็นต้องรีบร้อนเสี่ยวเหอเป็นเด็กดี”เมี่ยวซีเหอพูด

“ครับอาจารย์

“แล้วการสืบสวนเรื่องที่เกิดขึ้นไปถึงไหนแล้ว?”

“ตอนนี้เราพอจะยืนยันได้บ้างแล้วครับ”

“ดี เรื่องนี้ก็ไม่จําเป็นต้องรีบร้อนเกินไปเหมือนกันนะ”

“เข้าใจแล้วครับ”

เงาขนาดมหึมาว่ายผ่านไปในทะเลสาบข้างหุบเขา

ชายคนหนึ่งเดินกลับไปกลับมาอยู่ที่ข้างทะเลสาบดูคล้ายกับกําลังรอใครบางคนอยู่หลังจากผ่านไปได้สักพักเขาก็กลับบ้านไป

หลู่ซิ่วเฟิงที่อยู่ในเขตที่ห่างออกไปไกลร้อยกว่าไมล์ได้รับข้อความสั้นๆข้อความหนึ่ง

“นี่ ดูสิคนคนนั้นส่งข้อความมาล่ะ”

“โอ้ อะไรเหรอ?โอ๊ยผมยังปวดหัวไม่หายเลย!”หยางกวนเฟิงนวดขมับของตัวเอง“เป็นอะไรไป?ผมไม่เห็นคุณจะดื่มเยอะเท่าไหร่เลยนี่”
กั๋วเจิ้งเหอเชิญพวกเขาไปทานอาหารในค่ำวันนั้นหัวหน้าของกรมตํารวจก็ไปด้วยเช่นเดียวกันแล้วพวกเขาก็ดื่มกันเยอะมาก

“คุณยังกล้าพูดว่าไม่เยอะอยู่เหรอ?”หยางกวนเฟิงพูด“ที่ผมดื่มไปเมื่อคืนมันหลายลิตรเลยนะนานมากแล้วที่ผมดื่มเยอะขนาดนั้น”

“เอาเถอะ กลับมาที่เรื่องงานกันก่อน เขาว่าอะไรบ้าง?”

“เขารู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ กลัวว่าจะถูกจับได้”

“ถูกจับได้? แล้วเขาคิดจะทํายังไงต่อไป?”หยางกวนเฟิงรีบถาม

ชายคนนั้นเป็นคนในหุบเขาและเคยส่งข้อความให้กับพวกเขามาก่อนเขาก็คือ“สายลับ”ที่ยังไม่มีใครรู้ตัวตนที่แท้จริงของเขา

“เขาตั้งใจจะออกมาจากหุบเขา และอยากให้เราคิดหาวิธีที่จะทําให้เขาปลอดภัย”“เขาแน่ใจแล้วเหรอที่จะทําแบบนั้นน่ะ?”หยางกวนเฟิงถามออกไปในขณะที่ยังคงนวดขมับของตัวเองอยู่แล้วจากนั้นก็จุดบุหรี่สูบ“การออกมาจากหมู่บ้านเป็นเรื่องง่ายแต่ปัญหาคือตัวตนของเขาข้อมูลที่เขาให้มาก็ไม่สามารถยืนยันอะไรได้เลย แถมยังเอาไปใช้งานอะไรไม่ได้เราคงต้องคิดหาวิธีอื่นดู”

ชายวัยประมาณสามสิบกําลังสูบบุหรี่อยู่ภายในบ้านหลังหนึ่งที่ตั้งอยู่ภายในหุบเขาเขากําลังมองออกไปนอกหน้าต่าง

“มันเป็นหมู่บ้านที่ดีน่าเสียดายที่ฉันต้องไปจากที่นี่”เขาพูดกับตัวเองมันเป็นเวลากลางดึกแสงจันทร์ดูคล้ายสายน้ำภายในหมู่บ้านเงียบสงัดชายคนนั้นปรากฏตัวขึ้นในหมู่บ้านและแอบขึ้นไปบนเขาอย่างเงียบเชียบเขามุ่งหน้าไปด้านหนึ่งของภูเขาและเห็นคนคนหนึ่งยืนอยู่ใต้ต้นไม้ไม่ไกลจากตรงที่เขาอยู่คล้ายกับกําลังรอใครบางคน

“เฉิงถางดึกขนาดนี้แล้วนายจะไปที่ไหน?”เสียงของชายคนหนึ่งดังขึ้นมา

“ฉันนอนไม่หลับน่ะลุงก็เลยว่าจะออกมาเดินเล่นสักหน่อย”

“ถ้านอนไม่หลับ นายก็ไม่เห็นต้องออกมาไกลถึงภูเขาเลยนี่”ชายที่ยืนอยู่ใต้ต้นไม้พูด “นายคิดจะออกไปจากหมู่บ้านเหรอ?ดูเหมือนนายจะเอาข้าวของติดมือมาด้วยฉันไม่คิดเลยว่าคนคนนั้นจะเป็นนาย”

“ทาไม?”

“ทําไมเหรอ? เลิกเสแสร้งได้แล้วพ่อแม่ของฉันตายได้ยังไง?”

“แก็สพิษ”

“แก็สพิษ เหอะ? อย่ามาทําให้ฉันหัวเราะหน่อยเลยแก็สพิษอะไรถึงได้ร้ายแรงจนถึงขนาดเมี่ยวซีเหอก็ยังท่าอะไรไม่ได้?”

“แกกล้าพูดชื่อของผู้นําออกมาเลยเหรอ!”น้ำเสียงของชายคนนั้นเย็นเฉียบ

“ผู้นํา? ผู้นําอะไร?เขามันก็แค่คนชั่วที่หาประโยชน์ใส่ตัวเองก็เท่านั้น”เมี่ยวเฉิงถางตอบกลับ

ไปด้วยความโมโห

“มันจะมากเกินไปแล้วนะ!”

มีเสียงหนึ่งดังมาจากด้านหลังของเมี่ยวเฉิงถาง“ปล่อยให้เขาพูดไปเถอะ”

เมี่ยวเฉิงถางตัวสั่นสะท้านขึ้นมาในทันทีเขารู้สึกเย็นยะเยือกไปจนถึงกระดูกราวกับเขาเข้าไป

อยู่ภายในถ้ําน้ำแข็ง

เขาค่อยๆหันกลับไปมองใบหน้าที่คุ้นเคยเมี่ยวซีเหอ

เมื่อครู่ที่เขาเผชิญหน้ากับอีกคนเขายังคงสามารถควบคุมความกลัวเอาไว้ได้แต่เมื่อเดี่ยวซี

เหอโผล่ออกมาเขาก็แทบจะไม่สามารถต่อต้านอีกฝ่ายได้เลยชายคนนี้เป็นเหมือนเทพเจ้าของคนในหมู่บ้าน

“กลับไปกับฉัน เฉิงถาง”

“กลับไปให้โดนลงโทษน่ะเหรอ?จะใช้พิษหรือว่าแมลงล่ะ?”เมี่ยวเฉิงถางยิ้มเยาะเขาไม่มีความมั่นใจว่าจะสามารถหลุดรอดไปจากเงื้อมมือของสองคนนี้ได้แต่เขาก็ไม่มีทางกลับไปที่หมู่บ้านเช่นเดียวกันเขารู้ดีว่าหากเขากลับไปแล้วจะต้องเผชิญหน้ากับการลงโทษที่โหดร้ายขนาดไหน

“แกฆ่าพ่อแม่ฉัน แล้วทําเหมือนฉันเป็นคนโง่คิดว่าฉันไม่รู้อะไรเลยอย่างนั้นเหรอ?”

“พ่อแม่ของนายตายจากแก็สพิษ”เมี่ยวซีเหอพูด

“เมี่ยวซีเหอ แกได้ยินที่ตัวเองพูดรึเปล่า?มีพิษอะไรในโลกบ้างที่แกจัดการไม่ได้?”“ฉันไปถึงที่นั่นช้าเกินไปพิษได้เข้าสู่หัวใจของพวกเขาไปแล้วมันสายเกินกว่าที่ฉันจะทําอะไรได้”

“แล้วเรื่องเห็ดหลินจือหยกขาวล่ะ?”

“นายรู้เรื่องนั้นได้ยังไง?”หลังจากเงียบไปสักพักเมี่ยวซีเหอก็ถามออกไป

“ทําไมฉันจะไม่รู้?เห็ดหลินจือหยกขาวเป็นหนึ่งในสมุนไพรวิเศษของเขตเมี่ยวเพราะแบบนั้น

แกถึงได้ฆ่าพ่อกับแม่ของฉันใช่ไหมล่ะ?”

“เรื่องมันไม่ได้เป็นอย่างที่นายคิด” เมี่ยวซีเหอพูด

“อ๋อ แล้วเรื่องมันเป็นยังไงล่ะ?”

วูบ มีบางอย่างลอยขึ้นไปบนอากาศ

บูม!บูม! เกิดการระเบิดขึ้น

ออกไป!

มีเสียงคารามดังมาจากความมืด
เมี่ยวเฉิงถางรีบวิ่งไปตามทางที่เสียงนั้นดังขึ้นเขาวิ่งจนสุดแรงเกิด

ฟุบบบบบ!เกิดประกายไฟขึ้นในความมืดกระสุนถูกสาดออกไปทั่วทุกทิศไม่ว่าจะเป็นต้นไม้

หรือโขดหินต่างก็โดนลูกหลงไปด้วย

บูม!เกิดเสียงระเบิดขึ้นในค่ำคืนนั้น

“เกิดอะไรขึ้น?”แสงไฟภายในหมู่บ้านถูกจุดขึ้นทุกคนต่างเดินออกมาจากบ้านและมองหาที่มาของเสียงซึ่งมันดังมาจากภูเขาที่อยู่ไม่ไกลจากหมู่บ้าน

“นายมาได้ยังไง?”

“เลิกพูดแล้วออกวิ่งได้แล้ว”

อยู่ๆก็มีคนโผล่ออกมาต่อหน้าพวกเขาสองคนหลีกไป!

เกิดประกายไฟขึ้นอีกครั้งกระสุนพุ่งผ่านอากาศราวกับเคียวที่พร้อมกับคร่าทุกสิ่งที่ขวางทาง

“แกยังไม่ตาย!”เสียงของเมี่ยวซีเหอดังขึ้นราวกับเสียงของภูติผี

เขายังคงสาดกระสุนออกไปเรื่อยๆเกิดประกายไฟขึ้นหลายจุดฝุ่นกระจายไปทั่วแม้จะตกอยู่ภายใต้ดงกระสุนแต่เมี่ยวซีเหอก็ยังสามารถปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าของชายที่ถือปืนอยู่ได้เขาซัดใส่ร่างของชายคนนั้นจนปลิวออกไปร่างของเขากระแทกเข้ากับต้นไม้

แค่ก แค่ก เขาไอออกมาเป็นเลือดและยังคงยิงต่อเล็กน้อย เขาถูกกระสุนยิง

เข้าใส่ จากนั้นก็มีระเบิดขึ้นไม่ไกลจากตัวเขา

“ผู้นํา”

เมื่อฝุ่นจางลง เมี่ยวซีเหอก็ยังคงยืนอยู่ที่เดิมโดยไร้รอยขีดข่วน

“ได้เตรียมเข็มเอาไว้แล้วรึยัง?”

เขาหายตัวและปรากฏตัวห่างออกไปไกลหลายฟุต”

“รีบไป!”

ชายสองคนรีบวิ่งเข้าไปในป่า

พวกเขาได้ยินเสียงน้ำไหลเชี่ยวของแม่น้ำสายหนึ่ง

“เชี่ย! มีแม่น้ำอยู่ข้างหน้า!”เมี่ยวเฉิงถางสบถออกมา

มีหน้าผาสูง 10 เมตรอยู่ห่างจากพวกเขาไปประมาณ 9 เมตรมีแม่น้ำไหลเชี่ยวอยู่ใต้หน้าผาพวกเขาหนีไปไหนไม่ได้อีกแล้ว

“เร็วเข้า กระโดดเลย!” เมี่ยวเทียนชวนตะโกนและกระโดดลงไปโดยไม่ลังเล

เมี่ยวเฉงถางเห็นแบบนั้นก็ไม่มีทางเลือกนอกจากต้องกระโดดตามไป

เขาคิดว่า ถึงยังไงเขาก็ต้องตายอยู่ดีการตายแบบนี้อาจจะเร็วกว่าก็ได้ เขากระโดดลงจากหน้าผาและตกลงสู่แม่น้ำที่เชี่ยวกราดคนส่วนใหญ่ในหมู่บ้านต่างว่ายน้ำ

เก่ง เพราะมีแม่น้ำกับทะเลสาบอยู่ไม่ไกลจากหมู่บ้านทําให้หลายคนเรียนว่ายน้ำกันตั้งแต่ยังเด็ก

เมี่ยวเฉงถางจมลงไปในแม่น้ำทันทีที่เขากระโดดลงมา

“ชิงชาน!”เขาได้ยินเสียงตะโกนและเห็นเรือลําหนึ่งลอยมาเชือกเส้นหนึ่งถูกโยนออกมาจาก

เรือเขาจึงจับมันเอาไว้

แฮ่ก!แฮ่ก!เมี้ยวเฉิงถางหายใจเอาอากาศเข้าปอดและไม่สนใจว่าตัวเขาจะเปียกแค่ไหน

เขามองกลับไปด้านหลังและเห็นหลายคนยืนอยู่ที่บริเวณหน้าผา พวกเขาห่างออกไปเรื่อยๆ

“เกือบไปแล้ว!” เขาถอนหายใจโล่งอก

พวกเขาสองคนเกือบตายแล้ว

“ดีที่นายคิดเรื่องนี้เอาไว้แล้ว”