องค์ชายวายร้ายอยากเป็นพ่อ บทที่ 366 อวิ๋นหลัวฉวนได้รับบาดเจ็บสาหัส
อวิ๋นหลัวฉวนนอนอยู่บนเตียงและได้ยินเสียงร้อนรนนอกประตู นางไม่ได้สนใจตอนนี้นางรู้สึกไม่สบาย
ออกไปไม่ได้ก็ไร้ความหมาย
ขณะที่ตงเอ๋อร์ตะโกนเสียงดังว่าไม่ดีแล้วนั้น อวิ๋นหลัวฉวนลุกขึ้นมาจวินฉูฉู่ก็คว้าตัวแม่นมเว่ยเอาไว้แล้ว มีดเล่มหนึ่งวางแนวนอนอยู่บนคอของแม่นมเว่ย
อวิ๋นหลัวฉวนลุกขึ้นลงจากเตียง นางไม่ได้สวมรองเท้า
เมื่อเห็นจวินฉูฉู่จับตัวแม่นมเว่ยเอาไว้พร้อมเดินเข้ามา อวิ๋นหลัวฉวนก็ตระหนกตกใจ: “จวินฉูฉู่ เจ้าช่างบังอาจยิ่งนักกล้าทำร้ายแม่นมเว่ย รีบปล่อยคนโดยเร็วจะไว้ชีวิตให้ท่านไม่ตาย!”
อวิ๋นหลัวฉวนท่าทางดังแม่ทัพ หยิบกระบี่เล่มหนึ่งมาชี้ไปยังจวินฉูฉู่
จวินฉูฉู่หัวเราะและใช้แรงในมือกดมีด: “นี่คือสิ่งที่เรียนรู้จากเจ้าไม่ใช่หรือ?”
“หากวันนี้เจ้าให้ความร่วมมือดีทุกอย่างก็พูดง่าย หากไม่ยอมนางก็จะตายในเงื้อมมือของข้า” จวินฉูฉู่ใช้แรงในมือทำให้คอของแม่นมเว่ยเกิดเลือดไหล
อวิ๋นหลัวฉวนคำราม: “เจ้าบ้าไปแล้วหรือ?”
“ข้าบ้าไปแล้ว ฉีเฟยอวิ๋นผู้หนึ่งทำให้ข้าเป็นบ้า เพิ่มเจ้ามาอีกคนข้านั้นบ้าไปแล้วจริงๆ ไม่มีพวกเจ้าข้าจะเป็นเช่นในวันนี้ได้เยี่ยงไร?
ข้าจะสังหารพวกเจ้า รอเจ้าตายแล้วข้าจะไปหาฉีเฟยอวิ๋น ข้าจะให้พวกเจ้าถูกฝังเป็นเพื่อนข้า”
“ปล่อยแม่นมเว่ยซะ ข้าจะเป็นตัวประกันให้กับเจ้า” อวิ๋นหลัวฉวนไม่อยากกล่าวเรื่องไร้สาระ
จวินฉูฉู่หัวเราะเบาๆ: “เจ้าแขวนคอตนเองตอนนี้ข้าจะปล่อยแม่นมเว่ยไป”
“จวินฉูฉู่หากเจ้าทำร้ายแม่นมเว่ย ข้าจะไม่ปล่อยเจ้า” อวิ๋นหลัวฉวนถือกระบี่เดินไปทางด้านจวินฉูฉู่
จวินฉูฉู่นั้นไม่ได้มีเรี่ยวแรงมากนัก นางต้องรีบจัดการให้จบ
เห็นอวิ๋นหลัวฉวนถือกระบี่ในมือซ้ายจวินฉูฉู่ผลักแม่นมเว่ยออกไป อวิ๋นหลัวฉวนเข้าไปปกป้องแม่นมเว่ย จวินฉูฉู่แทงดาบหนึ่งทำให้แขนซ้ายของอวิ๋นหลัวฉวนได้รับบาดเจ็บ
อวิ๋นหลัวฉวนรู้สึกเจ็บปวด นางผลักแม่นมเว่ยออกไปด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยแรงสังหาร: “จวินฉูฉู่วันนี้ข้าจะให้เจ้าตายอยู่ในเงื้อมมือของข้า”
“เช่นนั้นก็ขึ้นอยู่กับว่าเจ้ามีความสามารถนี้หรือไม่” จวินฉูฉู่โจมตีเข้าไป อวิ๋นหลัวฉวนเตะกลางอากาศและทั้งสองก็ต่อสู้กันขึ้น
จวินฉูฉู่เป็นอันตรายถึงชีวิตยิ่งหายใจก็ยิ่งเจ็บหน้าอก แม้ว่ามือทั้งคู่ของอวิ๋นหลัวฉวนจะเจ็บปวดจนทนไม่ไหว แต่นางยังคงถือกระบี่ไว้แน่นหมายเอาชีวิตของจวินฉูฉู่
นางนัันยิ่งต่อสู้ยิ่งกล้าหาญมากขึ้น กระบี่หนึ่งอยู่ใต้คางของจวินฉูฉู่ซึ่งจวินฉูฉู่ได้หยุดลง กระบี่ของอวิ๋นหลัวฉวนนั้นจะทำร้ายคน
มีคนเข้ามาตรงหน้าประตู หนานกงเหยี่ยนเข้าประตูและมองดูคนทั้งสอง
“ท่านอ๋อง……”
ไม่รอให้อวิ๋นหลัวฉวนกล่าวสิ่งใด จวินฉูฉู่ร้องห่มร้องไห้ราวกับสายฝน ร้องออกมาอย่างช่างน่าเวทนายิ่งนัก
หนานกงเหยี่ยนมองไปยังอวิ๋นหลัวฉวน: “ฉวนเอ๋อร์ เจ้าวางกระบี่ลง”
อวิ๋นหลัวฉวนกัดฟันแล้วโยนกระบี่ลงบนพื้น ได้้ใช้เรี่ยวแรงจนหมดแล้ว
นางหันไปมองฝั่งหนึ่ง
จวินฉูฉู่เหลือบมองกระบี่บนพื้น ทันใดนั้นก็ย่อเข่าลงหยิบกระบี่และแทงไปทางอวิ๋นหลัวฉวน
“ฉวนเอ๋อร์……”
อ๋องตวนรีบพุ่งเข้าไปบังอวิ๋นหลัวฉวนเอาไว้ อวิ๋นหลัวฉวนหันหลังกลับมองไปยังจวินฉูฉู่พยายามหลีกเลี่ยงขยับเท้าออกหนึ่งก้าว แต่ฝั่งหนึ่งเป็นแจกันดอกไม้ซึ่งนางปะทะเข้าไปบนนั้นโดยคนนั้นยืนไม่มั่นจึงล้มลงไป
แจกันดอกไม้แตกเป็นเสี่ยงๆ อวิ๋นหลัวฉวนก็ล้มลงไปบนนั้น
อ๋องตวนพุ่งตัวเข้าไปดึงนางไว้ไม่ทันซะแล้ว อวิ๋นหลัวฉวนล้มลงบนนั้นและรู้สึกปวดท้องขึ้นมา
เอื้อมมือออกไปกดเอาไว้ คนนั้นปวดจนกลิ้งอยู่กับพื้นแล้ว
“ฉวนเอ๋อร์” หนานกงเหยี่ยนเห็นว่าจวินฉูฉู่ยังไม่ยอมปล่อยกระบี่จึงเตะจวินฉูฉู่ครั้งหนึ่ง ครั้งนี้จวินฉูฉู่ถูกเตะออกไปกระแทกเข้าตรงมุมหนึ่งของโต๊ะ ปวดหลังมากซะจนทะลุถึงหัวใจ นางแตะไปครั้งหนึ่งใต้ซี่โครงเกิดเลือดไหลออกมามากนัก นางมองไปยังหนานกงเหยี่ยน ดวงตาทั้งคู่จ้องมองด้วยความโกรธพร้อมแววตาเย็นยะเยือก: “หนานกงเหยี่ยนท่านทำเช่นนี้กับข้าได้เช่นไร? ท่านทำเช่นนี้กับข้าได้เช่นไร?”
อวิ๋นหลัวฉวนกอดท้องกลิ้งไปมาอยู่บนพื้นพร้อมทั้งเลือดท่วมทั้งร่าง แต่สิ่งที่หนานกงเหยี่ยนเจ็บปวดดังถูกทิ่มแทงคือของเหลวสีเข้มซึ่งไหลออกมาจากขาทั้งสองข้างของอวิ๋นหลัวฉวน
แม่นมเว่ยกรีดร้องออกมาด้วยความตกใจ: “บาปกรรม บาปกรรม!”
ตงเอ๋อร์ก็ตกใจกลัวเช่นกัน นางไม่ได้ไปหาอวิ๋นหลัวฉวน นางหันหลังวิ่งออกไปเลย
หนานกงเหยี่ยนกอดอวิ๋นหลัวฉวนเอาไว้: “ฉวนเอ๋อร์…..”
อวิ๋นหลัวฉวนทนฝืนลืมตามองไปยังหนานกงเหยี่ยน: “ท้อง……ปวดท้อง……”
หนานกงเหยี่ยนใบหน้าซีดเผือด เขากอดเอาไว้แน่นอย่างอกสั่นด้วยเนื้อตัวอันสั่นเทา: “ไม่ปวด ครู่เดียวก็ไม่ปวดแล้ว ข้าจะพาเจ้าไปหานาง นางต้องวิธีแน่……”
หนานกงเหยี่ยนลุกขึ้นเตรียมจากไป จวินฉูฉู่ยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามเขา กระบี่ในมือชี้ไปยังหนานกงเหยี่ยน
หนานกงเหยี่ยนมองไปยังจวินฉูฉู่อย่างเย็นชา: “ข้าจะพาฉวนเอ๋อร์ไปหาฉีเฟยอวิ๋น หลีกไป!”
“หนานกงเหยี่ยน ท่านไม่ละอายใจต่อข้าหรือ?” จวินฉูฉู่ไม่ยอม
หนานกงเหยี่ยนก้าวเท้า กระบี่ชี้ไปตรงหน้าอกของเขาและแทงเข้าไป อวิ๋นหลัวฉวนจับกระบี่เอาไว้ หนานกงเหยี่ยนก้มศีรษะลงด้วยความโกรธ: “ปล่อยมือ!”
อวิ๋นหลัวฉวนยืนกรานในความดื้อดึง นางพยายามใช้แรงคิดจะดึงกระบี่ออก หนานกงเหยี่ยนคำราม: “ปล่อยมือ!”
จวินฉูฉู่กัดฟัน: “หนานกงเหยี่ยนข้าจะให้ท่านตาย!”
ภายใต้เสียงคำรามกระบี่แทงเข้าไป ร่างของหนานกงเหยี่ยนหนักอึ้งลง อวิ๋นหลัวฉวนใช้แรงจับกระบี่เอาไว้คิดจะหยุดรั้ง กระบี่หักออกเกิดเสียงขึ้นมา จวินฉูฉู่ถูกกำลังภายในของอวิ๋นหลัวฉวนจนถอยหลังไปสองก้าว ร่างของหนานกงเหยี่ยนก็ขยับเขยื้อน
แต่เขาไม่ได้ปล่อยมือ ยังคงอุ้มอวิ๋นหลัวฉวนเอาไว้แน่น
ส่วนจวินฉูฉู่กลับมีเลือดพุ่งออกจากปาก
อวิ๋นหลัวฉวนวางมือลงบนร่างอย่างสั่นเทา ไร้ซึ่งเรี่ยวแรงอีกต่อไปแล้วพิงอยู่ขในอ้อมแขนของหนานกงเหยี่ยนและสลบไป
หนานกงเหยี่ยนไม่สนใจผู้อื่นอีกแล้ว อุ้มอวิ๋นหลัวฉวนแล้วต้องการจากไป
เดิมทีจวินฉูฉู่ตั้งใจจะรั้งเอาไว้แต่ไร้ซึ่งเรี่ยวแรง ยืนไม่อยู่จึงล้มลงบนพื้น
หนานกงเหยี่ยนออกประตูไปอย่างรวดเร็ว และด้านหลังคือเสียงคำรามสุดท้ายขอจวินฉูฉู่: “หนานกงเหยี่ยนข้าเกลียดท่าน!”
หนานกงเหยี่ยนหลับตาเอาไว้แน่นแต่ไม่ได้หยุด
เขามองลงไปยังใบหน้าอันซีดเซียวไร้เลือดของอวิ๋นหลัวฉวน: “ม้า!”
หน้าประตูมีคนนำม้ามาตัวหนึ่ง หนานกงเหยี่ยนพุ่งกายขึ้นม้าและนั่งลงอย่างมั่นคง ขาทั้งคู่หนีบระหว่างท้องม้าแล้วตะโกนว่า: “ไป!”
ม้าพยศคุ้นเคยกับคำสั่งของเจ้านายมาตั้งนานแล้ว ส่ายหัวม้าหนึ่งทีและควบม้าพุ่งออกไปราวกับพายุลูกธนูอันแหลมคม
พ่อบ้านอาวุโสยืนอยู่ตรงหน้าจวนอ๋องเย่ เขากำลังจะออกไปจัดการซื้อของใช้บางสิ่ง เห็นม้าพยศตรงข้ามก็ตกใจขึ้น ไม่รู้ว่าเป็นม้าพยศที่ดีของตระกูลใด รู้ว่าช่วงกลางวันบนถนนเต็มไปด้วยผู้คนก็ยังต้องส่งเสียงเปิดทาง ไม่ใช่ม้าธรรมดาๆ
เมื่อมองอย่างละเอียดถี่ถ้วนปรากฏว่าเป็นอ๋องตวนอุ้มผู้ที่เลือดมท่วมร่างผู้หนึ่งนั่งอยู่บนหลังม้า
ขณะกล่าวนั้นชักช้าในเวลานั้นรวดเร็ว พริบตาเดียวม้าก็มาถึงตรงหน้า พ่อบ้านอาวุโสตกใจจนถอยหลังล้มนั่งหกคะเมน
ม้าหยุดลงร่างของอ๋องตวนก็อยู่บนพื้น พ่อบ้านอาวุโสตกใจจนนิ่ง ปกติรู้เพียงว่าทักษะของอ๋องตวนนั้นเก่งกาจนัก แต่ไม่รู้ว่าอ๋องตวนมีกำลังภายในที่ลึกล้ำเช่นนี้
หนานกงเหยี่ยนอุ้มอวิ๋นหลัวฉวนเข้าไปในจวนอ๋องเย่ เข้าประตูไปก็เดินพุ่งตรงไปยังสวนดอกกล้วยไม้ เข้าประตูมาถึงได้รู้ว่าฉีเฟยอวิ๋นไม่ได้อยู่ในลานเรือน
พ่อบ้านอาวุโสวิ่งเข้าไปอย่างเร่งรีบ ตกใจจนตัวสั่นเทา
“อ๋องตวน พระชายาไปจวนท่านแม่ทัพแล้ว”
หนานกงเหยี่ยนก็ไม่ได้ถามสิ่งใด ออกมาก็ขึ้นหลังม้าแล้วตรงดิ่งไปยังจวนท่านแม่ทัพเพื่อไปหาฉีเฟยอวิ๋น
ขณะที่ฉีเฟยอวิ๋นถูกปลุกให้ตื่นก็ได้ยินเสียงตะโกนของหนานกงเหยี่ยนที่ด้านนอก ออกมาเห็นอวิ๋นหลัวฉวนเข้าก็ตกใจแทบแย่เช่นกัน
“เร็วเข้า เข้าไป”
ฉีเฟยอวิ๋นรีบหลีกออกและบอกหนานกงเหยี่ยนให้เข้าประตูมา แล้วนางก็เดินตามเข้าไป
หนานกงเย่ก็ไม่คิดว่าจะเห็นอวิ๋นหลัวฉวนเป็นเช่นนี้ ลุกขึ้นเดินออกจากเก้าอี้ไปยังฝั่งหนึ่ง อวิ๋นหลัวฉวนถูกวางลงบนเตียง ฉีเฟยอวิ๋นรีบให้การรักษาแก่นางทันที สถานการณ์ของนางย่ำแย่ยิ่งนัก
“พวกท่านออกไป”
ฉีเฟยอวิ๋นไปหยิบมีดเล่มหนึ่ง เมื่อเห็นว่าฉีเฟยอวิ๋นกำลังจะกรีดเลือดตนเองหนานกงเย่ก็ก้าวเดินไม่กี่ก้าวไปยังตรงหน้าของฉีเฟยอวิ๋นและจับมือของนางเอาไว้เลย ห้ามไม่ให้นางกระทำพลการ