บทที่ 150 สอบถาม

รักหวานอมเปรี้ยว

ในขณะที่เปปเปอร์ยังไม่สามารถแยกแยะได้ว่าเป็นเสียงของส้มเปรี้ยว ไม่แน่ใจว่าตอนนี้เป็นความจริงหรือความฝัน เสียงของส้มเปรี้ยวก็ดังขึ้นอีกครั้งว่า “เปปเปอร์คะ คุณเปิดประตูหน่อยสิคะ ฮือๆๆ……”

ได้ยินเสียงร้องไห้ของส้มเปรี้ยว ดวงตาของเปปเปอร์ก็หรี่ลงและมั่นใจว่าไม่ใช่ความฝัน

เขาเปิดผ้าห่มออกและลุกไปจากเตียง เปิดไฟเดินไปยังประตู

ทันทีที่ประตูเปิดออก เปปเปอร์ก็พบว่าผู้หญิงที่อยู่ด้านนอกประตูเนื้อตัวผมเผ้าผมเลอะ เสื้อผ้าสกปรกเปรอะเปื้อน เขาอดไม่ได้ที่จะผงะและขมวดคิ้วขึ้น “ส้มเปรี้ยว?”

“เปปเปอร์คะ……” ส้มเปรี้ยวเงยหน้าขึ้นมองเขาด้วยน้ำตาคลอเบ้า

เปปเปอร์เพิ่งเห็นว่ามีบาดแผลบนใบหน้าของเธอด้วย สีหน้าของเขาก็ดูมืดมนลง “เกิดเรื่องอะไรขึ้น?”

ส้มเปรี้ยวได้ยินคำถามของเขาก็เม้มปากแล้วร้องไห้เสียงดังกว่าเดิม ทำท่าจะพุ่งเข้าไปในอ้อมแขนของเขา

เมื่อเห็นดังนั้นเปปเปอร์ก็ก้าวถอยหลังหลบเธอโดยไม่รู้ตัว

ส้มเปรี้ยวจึงพลาดท่า เธอร้องไห้มองเขาอย่างขมขื่น “เปปเปอร์คะ คุณหลบฉันเหรอ?”

“แค่กๆ” เปปเปอร์รู้ว่าปฏิกิริยาของเขาเมื่อครู่ทำร้ายเธอ ดังนั้นจึงกระแอมออกมาและอธิบายว่า “ขอโทษทีครับคุณก็รู้ว่าผมเป็นโรครักสะอาด”

“ฉันรู้ แต่……”

“เอาละส้มเปรี้ยว ไหนบอกผมมาสิว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?” เปปเปอร์ขัดจังหวะเธอ

ส้มเปรี้ยวเม้มปากแล้วตอบว่า “ฉันถูกคนจับคลุมใส่กระสอบแล้วทำร้าย”

เมื่อได้ยินว่ามีคนจับเธอใส่กระสอบ ปฏิกิริยาแรกของเปปเปอร์ก็คือจะหัวเราะออกมา

อันที่จริง เขาหัวเราะออกมาแล้ว แต่กระตุกแค่ตรงมุมปากเท่านั้น ไม่วายที่ส้มเปรี้ยวยังเห็น “เปปเปอร์!”ส้มเปรี้ยวกระทืบเท้าอย่างโกรธจัด “ฉันถูกทำร้ายนะคะ คุณยังมาหัวเราะเยาะฉันอีก!”

“ขอโทษครับ” เปปเปอร์กระแอมอีกครั้ง เก็บการขำเอาไว้แล้วถามเสียงเข้มว่า “ใครเป็นคนทำ?”

แปลกจริงที่เขาไม่ได้รู้สึกโมโหเลยที่เห็นส้มเปรี้ยวถูกทำร้าย

“คุณมายมิ้นท์กับพรรคพวกนะสิคะ พวกเขาให้ปีโป้หลอกฉันออกมาจากห้อง แล้วพวกเขาก็ทำให้ฉันสลบก่อนจะจับฉันใส่กระสอบ พาฉันไปที่สนามแข่งข้างนอกนั่น ทั้งต่อยทั้งเตะฉัน เปปเปอร์คะ ดูนี่สิคะ ฉันเจ็บไปทั้งตัวเลย”

ส้มเปรี้ยวยกแขนเสื้อขึ้นเพื่อให้เขาเห็นรอยฟกช้ำขนาดน้อยใหญ่ “ทั้งหมดนี้เป็นฝีมือของพวกเขา แล้วก็น้ำที่สาดมาอีกด้วย เปปเปอร์คะ คุณต้องจัดการให้ฉันนะคะ พวกเขาทำเกินไปแล้วจริงๆ”

เมื่อมองไปที่บาดแผลตรงแขนของส้มเปรี้ยว เปปเปอร์ก็ยังคงไม่รู้สึกโกรธอะไร น้ำเสียงของเขาดูเย็นชาเล็กน้อย “ผมรู้แล้วครับ คุณกลับไปอาบน้ำล้างตัวก่อนเถอะ ผมจะไปหาปีโป้”

“ค่ะ” ส้มเปรี้ยวพยักหน้าแล้วเดินกลับห้องไปช้าๆ

เปปเปอร์มองขึ้นไปที่ชั้นบนแล้วเดินขึ้นไป

“ปีโป้ ออกมา!” เขายืนอยู่หน้าห้องของปีโป้แล้วเคาะประตูด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึก

ปีโป้เปิดประตูออกมา วินาทีที่เห็นเขา ความรู้สึกผิดชอบชั่วดีก็ผ่านแวบเข้ามาในดวงตา แต่ก็หายไปอย่างรวดเร็ว เขาหาวและแสร้งทำเป็นง่วง “อ้าวพี่ ทำอะไรอยู่?”

“ส้มเปรี้ยวถูกทำร้าย แกเข้าร่วมด้วยหรือเปล่า?” เปปเปอร์จ้องไปที่ปีโป้ด้วยดวงตาลึกล้ำ

ปีโป้เป็นคนที่ปิดบังอะไรไม่เก่งนัก เมื่อเปปเปอร์จ้องมองมาอย่างเฉียบขาด เขาก็เผยความรู้สึกในใจออกไปทันทีและพูดไม่ออก

ใบหน้าของเปปเปอร์มืดมนขึ้นกว่าเดิม “เก่งจริง เรื่องแบบนี้ยังทำไปได้”

“เธอสมควรโดนแล้ว ใครใช้ให้เธอทำร้ายพี่มายมิ้นท์ล่ะ” ปีโป้พึมพำ

เปปเปอร์ขมวดคิ้ว “ทำร้ายเธอเพราะเรื่องเมื่อกลางวัน?”

“ใช่แล้วไง?” ปีโป้กระซิบ

เปปเปอร์มองเขาอย่างเย็นชาครู่หนึ่ง “ฉันจะไม่ให้เงินค่าขนมแกสามเดือนต่อจากนี้ หวังว่าแกจะไปคิดไตร่ตรองดูเองนะ”

หลังจากพูดเปปเปอร์จบก็ไม่สนใจเสียงคร่ำครวญของปีโป้ เขาเดินไปเคาะประตูห้องทามทอย

ไม่นานต่อมา ทุกคนบนชั้นสามก็ออกมายืนอยู่ตรงทางเดิน

ทุกคนมองหน้ากันและรู้ว่าเปปเปอร์อยู่ตรงนี้ได้ยังไง ส้มเปรี้ยวคงจะได้สติขึ้นและไปฟ้องเปปเปอร์แน่ๆ ดังนั้นเปปเปอร์จึงได้มาถามพวกเขาถึงความจริง

“นี่เปปเปอร์ กลางดึกกลางดื่นไม่หลับไม่นอน มาปลุกพวกเราแบบนี้เพื่ออะไร?!” ทามทอยบิดขี้เกียจแล้วเหยียดตัวออกไปพิงกรอบประตู เอ่ยถามอย่างเกียจคร้าน

“นั่นสิ บ้าหรือไง?” ลาเต้ทำหน้าบึ้ง

มายมิ้นท์ก็เอนตัวพิงไปที่ประตู ดวงตาของเธอปิดลงเล็กน้อยราวกับว่ากำลังจะหลับอีกครั้ง

เปปเปอร์มองดูเธออยู่สองวินาที เขายังจำความฝันเมื่อครู่ได้ ดวงตาดูมืดลงจากนั้นรีบละสายตาไปทางอื่นอย่างรวดเร็ว พูดขึ้นอย่างเย็นชาว่า “พวกคุณจะอธิบายเรื่องส้มเปรี้ยวถูกทำร้ายยังไง?”

“อะไรนะ!? ส้มเปรี้ยวถูกทำร้าย?” ลาเต้รู้สึกประหลาดใจมาก จากนั้นเขาก็ปรบมือหัวเราะออกมา “สุดยอดมาก ใครเป็นคนทำ? ทำได้ดีมาก ผมจะต้องให้รางวัลสักหน่อย”

“อุ๊บ!” มายมิ้นท์หัวเราะทั้งที่ยังหลับตา

ใบหน้าของเปปเปอร์ดูไม่น่ามอง “พวกคุณแกล้งทำเป็นโง่เหรอ?”

“พวกเราแสร้งทำเป็นโง่อะไร?” ลาเต้เหยียดมือออก “ทำไมล่ะครับ? ประธานเปปเปอร์ไม่ได้กำลังควรสงสัยว่าเราทำร้ายคุณส้มเปรี้ยวอยู่ใช่ไหม?”

“ฉันดูจากสีหน้าของเปปเปอร์ ดูเหมือนว่าเขาจะคิดอย่างนั้นนะ” ชาหวานพูดแล้วหาว

“เปปเปอร์ คุณทำไม่ถูกนะ เรานอนอยู่ในห้องของพวกเราดีๆ จะไปทำร้ายส้มเปรี้ยวได้ยังไง? อีกอย่าง เราจะไปทำร้ายเธอทำไม?” ทามทอยก็ดูง่วงมากเช่นกัน

เปปเปอร์มองดูคนเหล่านี้ที่ไม่ยอมรับผิด ริมฝีปากบางของเขาก็เยือกเย็นขึ้นเล็กน้อย “ปีโป้ยอมรับหมดแล้ว พวกคุณยังต้องการจะเล่นละครต่ออีกไหม?”

“อ้าว! เขายอมรับมันก็เป็นเรื่องของเขาสิ เกี่ยวอะไรกับเราล่ะ? ทำไมเราถึงต้องยอมรับในสิ่งที่ไม่ได้ทำ?” ลาเต้พูดแล้วมองปีโป้ด้วยท่าทางเฉยเมย

เจ้าเด็กคนนี้ถูกจับได้ง่ายเหลือเกิน ไร้ประโยชน์สิ้นดี

ปีโป้สังเกตเห็นสายตาของเขาจึงก้มศีรษะลงโดยรู้ว่าเขาผิด

เขาเองก็ไม่อยากถูกจับได้รวดเร็วแบบนี้หรอก แต่เขาโกหกไม่เก่งจริงๆ อีกอย่างเขาก็กลัวพี่ใหญ่คนนี้มาก

แค่พี่ใหญ่จ้องมองมาที่เขา เขาก็ทำอะไรไม่ถูกแล้ว

เมื่อรู้ว่าลาเต้กำลังเล่นโกง เปปเปอร์ก็ชำเลืองมองเขาอย่างเย็นชา จากนั้นจึงหันไปมองมายมิ้นท์ “คุณก็ไม่ยอมรับเหรอ? การที่พวกคุณทำร้ายส้มเปรี้ยวแบบนี้เพราะต้องการแก้แค้นเรื่องเมื่อตอนกลางวันใช่ไหม?”

มายมิ้นท์เงยหน้าขึ้น ตอนนี้อาการง่วงนอนหายไปจากดวงตาของเธอ เธอได้แต่มองมาทางเขาอย่างสงบและไร้อารมณ์ใด “คุณมีหลักฐานอะไร?”

เมื่อเห็นดวงตาที่ไม่แยแสของเธอ เปปเปอร์ก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย เขารู้สึกหงุดหงิดมาก

เขาไม่ชอบที่เธอมองเขาแบบนี้

แต่ถามว่าเป็นเพราะอะไร เขาก็บอกไม่ได้เหมือนกัน

“ถูกต้อง คุณมีหลักฐานอะไรที่จะพิสูจน์ว่าส้มเปรี้ยวถูกเราทำร้าย?” ลาเต้พูดพร้อมกับเอามือกอดอก

“บาดแผลบนร่างกายฉันที่ไงคือหลักฐาน” ทันใดนั้นเสียงของส้มเปรี้ยวก็ดังขึ้น

ทุกคนจึงหันไปมอง

ส้มเปรี้ยวอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้ว

เมื่อทุกคนเห็นใบหน้าของเธอสีม่วงเขียวเป็นจ้ำๆ พวกเขาก็อดหัวเราะไม่ได้

ตอนนี้ใบหน้าของส้มเปรี้ยวไม่น่ามองเอาเสียเลย “หัวเราะอะไรกัน!”

“ไม่มีอะไรครับ พวกเราไม่ได้หัวเราะที่หน้าคุณส้มเปรี้ยวบวมเป่งเหมือนหัวหมูหรอกนะครับ ฮ่าๆ!” ทามทอยเอามือกุมท้องของตัวเอง เขาหัวเราะจนน้ำตาแทบไหลออกมา

เมื่อคนอื่นได้ยินดังนั้นก็หัวเราะขึ้นอีกครั้ง

แม้ว่ามายมิ้นท์จะไม่ได้หัวเราะจนเกินจริงเหมือนที่พวกเขาทำ แต่มุมปากและดวงตาของเธอก็แสดงออกได้ว่าอารมณ์ของเธอดีมากในตอนนี้

“พวกแก……พวกแก……” ส้มเปรี้ยวมุดตัวเข้าไปในอ้อมอกของเปปเปอร์เพื่อหลีกเลี่ยงความอับอาย “เปปเปอร์คะ พวกเขาทำเกินไปแล้วนะคะ!”

เปปเปอร์เหลือบตามองทุกคนอย่างเย็นชาและตะโกนด้วยเสียงต่ำทุ้มว่า “เงียบได้แล้ว!”

ทุกคนจึงหยุดหัวเราะลง

“ขอโทษนะเปปเปอร์ คือว่าคุณส้มเปรี้ยวเธอ……แค่กๆ แบบว่า พวกเราอดขำไม่ได้จริงๆ” ทามทอยยกมือขึ้นโบกไปมาแล้วพูดอย่างมีมารยาท แต่ที่จริงเขาไม่ได้รู้สึกอย่างนั้นเลย

ลาเต้ยังพูดต่ออีกว่า “คุณส้มเปรี้ยวบอกว่าบาดแผลบนร่างกายของคุณเป็นข้อพิสูจน์ว่าพวกเราทำร้ายคุณใช่ไหม?”

“ใช่!” ส้มเปรี้ยวผละออกมาจากอ้อมแขนของเปปเปอร์และพยักหน้า

มายมิ้นท์หัวเราะเยาะขึ้น “ขอโทษนะคะคุณส้มเปรี้ยว บาดแผลบนเรือนร่างของคุณไม่สามารถใช้เป็นหลักฐานได้!”