203 : เจสันคนนี้มีกําลังมากพอแต่เขาระวังตัวมากเกินไป!

เป็นมหาเศรษฐีระดับพระเจ้าด้วยระบบลงชื่อ

เป็นมหาเศรษฐีระดับพระเจ้าด้วยระบบลงชื่อ ตอนที่ 203 : เจสันคนนี้มีกําลังมากพอแต่เขาระวังตัวมากเกิ…

ตอนที่ 203 : เจสันคนนี้มีกําลังมากพอแต่เขาระวังตัวมากเกินไป!

 

ตอนนี้สติของเจสันนั้นแทบจะไม่เหลือชิ้นที่แล้ว!

เอ้าเมื่อมองไปที่สํานักงานในตอนนี้เขานั้นรู้สึกว่ามันไม่น่าพอใจเลยสักนิดในสายตาของเขา

ที! แม้แต่อาคารและสํานักงานแห่งนี้ก็ยังเป็นของเจียงเฉิน!

 

แถมยังต้องจ่ายค่าเช่ามากถึง 3 เท่า!

และพอเข้าไปซื้อหุ้นของจื่อหยวนกรุ๊ปก็กลายเป็นว่ามันมีเจียงเฉินเป็นผู้ถือหุ้นอีก!

 

แถมยังต้องเสียเงินไปฟรีๆอีก 3 เท่าจากที่ควรจะเป็น!

 

3 เท่าแล้วก็ 3 เท่าทุกที่ที่เขาไปเขานั้นต้องเสียเงินพอเที่ยงเชิญ

ทุกๆครั้ง!

 

เจสันที่พยายามอย่างถึงขีดสุดกลับต้องเสียเงิน 700 ล้านในชั่วพริบตา!

 

แถมการเข้าซื้อหุ้นของจื่อหยวนกรุ๊ปก็ยังล้มเหลว!

 

“ท่านประธาน

 

เจนนิเฟอร์เดินเข้ามาด้วยความตกใจ

 

ห้องทํางานของเจสันนั้นถูกทําลายจนเละไปหมด

“ฉันไม่เชื่อ!” เจสันคํารามออกมาด้วยดวงตาที่เปรียบเป็นสีแดง

 

“ในประเทศจีนมีบริษัทดีๆมากมายนับพันแห่ง ฉันไม่เชื่อว่ามันจะมีเจียงเฉินเป็นผู้ถือหุ้นไปทั้งหมด!”

 

“เราจะมุ่งไปที่เป้าหมายต่อไปกัน!”

ภายใต้การนําของเจสันบริษัทกองทุนแอตแลนติกก็ได้เปลี่ยนไปสู่เป้าหมายใหม่อย่างรวดเร็ว

 

และคราวนี้พวกเขานั้นก็เล็งเป้าไปที่โรงแรมผาง

 

โนงแรมผาง นั้นมีทําเลที่ยอดเยี่ยม แล้วก็มี แขกเข้ามามากมายไม่เว้นแต่ละวันแม้แต่ประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกาก็ยังเคยเข้ามาพักอยู่ที่ชั้นบนสุดของโรงแรม

 

โรงแรมแห่งนี้มีชื่อเสียงมากในฝั่งประเทศตะวันตก

 

และคราวนี้เจสันก็ตั้งใจที่จะจัดการมันอย่างระมัดระวัง

เขาจะไม่ยอมให้พบเจอกับจบเหมือนเดิมอีกแน่

 

เจสันคนนี้มีกําลังมากพอก็จริงแต่เขาก็ระมัดระวังตัวมากเกินไป!

 

เขานั้นจ้างบริษัทสืบสวนหลายแห่งเพื่อทําการตรวจสอบภูมิหลังของโรงแรมผางภู่อย่างละเอียดถี่ถ้วน และให้พวกเขาตรวจสอบรายชื่อผู้ถือหุ้นของโรงแรมทั้งหมด

 

และเขาก็พบว่าหนึ่งในชื่อของผู้ถือหุ้นรายใหญ่นั้นมีเจียงเฉิงอยู่

เจสันนั้นโมโหจนทนไม่ไหว

พลิกโต๊ะ! (0

 

ทําไมเจียงเฉินคนนี้ถึงได้อยู่ทุกๆที่แบบนี้!

 

เจสันเต็มไปด้วยความไม่เข้าใจ

 

ตกลงแล้วเจียงเฉินนั้นเป็นแค่คนขับรถจริงๆเหรอ?

ตกลงแล้วเจียงเฉินไม่ใช่คนที่ร่ํารวยใช่ไหม?

เจสันคํารามออกมา “อันต่อไป! อันต่อไป! ฉันไม่เชื่อหรอก! ว่าเจียงเฉินจะรวยมากพอขนานั้น!”

 

หลังจากนั้นบริษัทกองทุนแอตแลนติกก็พบกับบริษัทหนึ่งที่กําลังเติบโตในจีน

เป็นบริษัทของท่านประธานหนิวต้าเย่!

 

ตรวจสอบอย่างละเอียดในที่สุดก็พบว่าในบริษัทหนี้ไม่มีเจียงเฉินเป็นผู้ถือหุ้น!

เจสันถอนหายใจอย่างโล่งอก!

 

ในที่สุดก็ไม่มีเจียงเฉินแล้ว!

 

เอ๊ะ!

ทําไมฉันต้องพูดว่าในที่สุดด้วย?

หลังจากที่เขานั้นหลุดพ้นจากคําสาปของจียงเฉิงเจสันก็หลั่งน้ําตาออกมา

 

เจสันจึงทําการนัดกับหนิวต้าเยด้วยความตื่นเต้นเพื่อทานอาหารเย็นกันทันที

 

“คุณหนิวต้าเย่ ผมมีชื่อว่าเจสัน จากบริษัทกองทุนแอตแลนติกหลังจากผมได้ดูการพัฒนาของบริษัทคุณแล้ว ผมก็เลยอยากจะสร้างความร่วมมือทางธุรกิจกับคุณ!”

 

” ยอดเยี่ยม”

ที่โรงแรมเพนนินซูล่าเจสันกับหนิวต้าเยก็ได้มาพบกันและทําการพูดคุยกันทันที

ผลก็คือ เมื่อเริ่มการพูดคุยอาการปวยๆของเจสันกลับมาโดยที่ไม่ได้ตั้งใจ

 

การโอ้อวดของเขาปะทุออกมาอย่างรวดเร็ว!

“หึหึ ตอนที่ผมมาประเทศจีนช่วงแรก สิ่งที่ทําให้ผมแปลกประหลาดใจที่สุดก็คือผู้ชายที่ชื่อเจียงเฉินนั้นคอยพยายามขัดขวางผมตลอด! เขานั้นพยายามสร้างกับดักและอุปสรรคมากมายให้ผมแต่น่าเสียดายที่ครั้งนี้มันไม่ได้ผลอีกแล้ว

 

เจซัดยกแก้วไวน์ขึ้นมาด้วยท่าทางที่ดูพอใจและพูดออกมา “นั่นก็เพราะตอนนี้ผมหาผู้ร่วมงานที่ดีอย่างคุณได้แล้วใช่ไหมครับคุณ

หนิว?”

แต่ใครจะรู้นะ

 

เมื่อหนิวต้าเยได้ยินชื่อของเจียงเฉินรอยยิ้มบนใบหน้าของเขาก็ค่อยๆหายไปทันที

 

เขาวางแก้วน้ําลงและพูดอย่างเข้มขึ้น “คุณเจสันคุณทําให้คุณเจียงขุ่นเคืองมาใช้ไหม?”

“เกิดอะไรขึ้นกัน?”

เจสันรู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดี

หนิวต้าเยู่พูดออกมาอย่างเย็นชา “ผมคงต้องขอโทษด้วยเพราะผมกับเจียงเฉินนั้นเป็นเพื่อนกัน ในเมื่อคุณเป็นศัตรูกับเขาดังนั้นการร่วมมือทางธุรกิจที่พวกเราคุยกันในตอนนี้ก็คงตกลงแล้วยกเลิกแล้ว!”

หลังจากพูดจบหนิวต้าเย่ก็ลุกขึ้นและเดินจากไปทันที

 

กลุ่มผู้บริหารของเขาทุกคนก็ยืนขึ้นและเดินตามออกไป

อีกด้านหนึ่งของโต๊ะว่างปาวไปทันที ไม่เหลือใครแม้แต่คนเดียว

“เจียงเฉินก็เป็นเพื่อนของเขาหรอ?”

“แม่งเอ๊ย! ทําไมถึงต้องมีเขาอยู่ทุกที่!”

พรูด-

เจสันกระอักเลือดออกมา

เจนนิเฟอร์รีบวิ่งเข้ามา “ท่านประธานคะ ท่านประธาน!!”

ถูกนําตัวส่งโรงพยาบาล

 

ในเวลานี้เองที่สํานักงานใหญ่ของบริษัทกองทุนแอตแลนติก

 

ในเวลานี้สํานักงานใหญ่กองทุนแอตแลนติก

คณะกรรมการของบริษัทกําลังทําการประชุมกัน

 

“เจสันเขาอยู่ที่ไหนกัน ทําไมถึงยังไม่เข้ามาสักที”

 

ประธานบริษัทนั้นเป็นชายชราผมขาวใบหน้าของเขาในตอนนี้เต็มไปด้วยความมืดมนและน่ากลัวอย่างมาก

 

“รายงานค่ะ เจสันเพิ่งถูกส่งตัวเข้าโรงพยาบาลเพื่อเข้ารับการรักษาเนื่องจากมีปัญหาทางร่างกาย และเขาไม่สามารถเข้าร่วมการประชุมในครั้งนี้ได้”

 

เจนนิเฟอร์รายงานออกมา

 

“งั้นก็ไม่ต้องรอเขา!”

 

ประธานบริษัทพูดออกมาด้วยความเด็ดขาด “แค่หลังจากการประชุมครั้งนี้เขาจะต้องหาย!”

 

คณะกรรมการตกตะลึง–

ประธานบริษัทพูดออกมาอย่างเย็นชาเมื่อเร็วๆนี้ทางสํานักงานใหญ่ของที่นี่ได้พบข่าวเชิงลบจํานวนมากที่เกี่ยวกับบริษัทกองทุน แอตแลนติกสาขาประเทศจีน!”

เขากดเปิดหน้าเว็บ…

 

มีสื่อจํานวนมากออกมาโจมตีเจสันและบริษัทกองทุนแอตแลน

ชายชราผมขาว กดเล่นวีดีโอ

ในวิดีโอนั้นเป็นเจสันที่กําลังต่อว่าชาวจีนในที่สาธารณะ

 

และยังมีฉากในห้องน้ําด้วย ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เค้านั้นพูดออกมาว่า “เวลาของฉันเพียง 1 นาทีก็มีค่าหลายแสนแล้ว”

 

และภายในช่องความคิดเห็นก็มีคําต่อว่าของชาวจีนอยู่เป็นจํานวนมาก!

“บริษัทกองทุนแอตแลนติกมันจะเกินไปแล้วนะ!”

“ใครกล้าร่วมมือการบริษัทนี้ฉันจะถือว่ามันเป็นกบฏ!”

 

“คิดจะมาหาเงินในจีนแต่ทําแบบนี้เก็บของแล้วกลับบ้านไปดีกว่าไป!”

 

“ออกจากประเทศของพวกเรา พา

นแบบแก!”

ใบหน้าของประธานบริษัทเต็มไปด้วยความมืดมนและเขาก็เปิดสมุดสรุปการสํารวจจากบริษัทที่ปรึกษาขึ้นมา

“ชื่อเสียงของแบรนด์บริษัทแอตแลนติกในจีนของเรานั้นลดลงจนถึงขีดต่ําสุดในช่วงเวลาเพียงแค่หนึ่งเดือนที่ผ่านมา!”

“มากกว่า 93% ของผู้ทําไปสํารวจในจีนบอกเป็นเสียงตรงกันว่าด้วยพฤติกรรมที่ยิงของเจสัน ทําให้พวกเขานั้น ไม่ชอบบริษัทของเราแม้แต่น้อย!”

ประธานบริษัทโกรธจัดเขาทุบโต๊ะเสียงดัง“มันจะมากเกินไปแล้ว

 

“เงินของพวกเรา!”

 

“เขาทําพวกเราสูญเสียเงินเป็นจํานวนมาก!”

“สมองเขากระทบกระเทือนหรือยังไงกัน?!”

 

“เพียงแค่เช่าอาคารสํานักงานเขานั้นก็ใช้เงินไป 200 ล้านหยวน!”

 

“และด้วยคําพูดที่ไม่เหมาะสมของเขานําไปสู่การทําผิดสัญญาและทําให้สัญญานั้นกลายเป็นโมฆะ และยังต้องสูญเงินประกันไปอีก 100 ล้านดอลลาร์!”

คณะกรรมการบริษัทพากันอึ้ง!

เจสันคนนี้เพิ่งไปจีนได้นานแค่ไหนเอง?

 

แต่ทําไมเขาถึงได้ทําให้เกิดความเสียหายได้มาขนาดนี้?

 

และทุกอย่างมันก็ชัดเจนมากทั้งหมดนี้เป็นความผิดของเจสันทั้งนั้น!

 

และยิ่งไปกว่านั้นคนในทีมของเขาอย่างเจนนิฟเฟอร์และคนอื่นๆต่างก็ยืนยันว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นเป็นเพราะเจสันทั้งหมด!

 

ผู้ถือหุ้นที่ได้ยินก็พากันกระอักเลือดออกมา!!

เขาพูดต่อ

“ในปีนี้ตลาดของจีนนั้นอาจจะแซงหน้าตลาดของประเทศสหรัฐอเมริกาและกลายเป็นตลาดที่มีการบริโภคมากที่สุดในโลก!”

“สาหรับพวกเราแล้วตลาดนี้เป็นตลาดที่พวกเราไม่อาจยอมแพ้ได้!”

“คนจีนนั้นมีกําลังทรัพย์ที่มาก! และตอนนี้ก็ยังไม่สายเกินไป! ดังนั้นพวกเราไม่สามารถยอมแพ้ได้อย่างเด็ดขาด!”

 

“แต่เจ้าเจสันงี่เง่านั่นกลับฟังทุกอย่าง!”

ประธานบริษัทคนใหม่ถูกส่งมาที่จีนและเริ่มทําการสืบสวนเรื่องนี้ทันทีหลังจากตรวจสอบแล้วเขานั้นก็แทบจะหัวใจวายตาย

เจสันนั้นไม่เพียงแต่จะทําล้มเหลวไปทุกอย่าง แต่กลับยังพยายามไปทําตัวโอ้อวดต่อหน้าเจียงเฉินอยู่ตลอดเวลาอีก!

 

และจนสุดท้ายทุกอย่างก็พังไปหมด!

เขานั้นไม่มีอะไรจะพูดต่อจริงๆ!

ประธานคนใหม่ถูกเจนนิฟเฟอร์นําเข้าไปในโรงพยาบาลทันที

 

ภายในห้องพักผู้ปวย ประธานคนใหม่ที่ถูกส่งมานั้นได้ทําการแจ้งกับเจสันว่าเขานั้นได้ถูกปลดออกจากตําแหน่งเรียบร้อยแล้ว

 

“อะไรนะ?!”

 

เจสันโกรธมากจนทันใดนั้น

 

อาการของเขาก็กลับไปโคม่าอีกครั้ง

 

เพื่อที่จะต่อสู้กับเจียงเฉินและโอ้อวดความมั่งคั่งของเขาตอนนี้ทุกอย่างในมือของเขานั้นได้สูญสลายหายไปแล้ว

 

ใครจะไปรู้กันว่า…คนใหญ่คนโตตัวจริงในเมืองหลวงแห่งนี้จะน่ากลัวได้ถึงขนาดนี้

ดังนั้นเจสันในตอนนี้ก็ไม่เหลืออะไรอีกแล้ว!

ไม่กี่วันต่อมา เจสันก็ออกมาจากโรงพยาบาลด้วยความสิ้นหวัง–

 

สวัสดิการทุกอย่างถูกถอนออกแม้แต่ค่ารักษาพยาบาลก็ยังต้องเป็นเขาที่จ่ายเอง

บ้านที่บริษัทเช่าให้ก็ถูกยึดคืนด้วย

 

เขานั้นเหมือนกับคนหลงทางเดินไปอย่างไร้จุดหมาย

 

แถมยังบังเอิญไปเจอกับโจรอีก

โทรศัพท์มือถือและหนังสือเดินทางของเขาก็ถูกขโมยไปอีก

 

“อีก ฮือ ฮือ ฉันควรทํายังไงดี?”

 

เจสันกอดศีรษะและร้องไห้ออกมา

 

ในเวลานี้เองเขานั้นก็หันไปเห็นขอทานที่อยู่ข้างถนน

 

ทันใดนั้นดวงตาของเขานั้นก็เป็นประกาย–

สามวันต่อมาเขานั้นก็นั่งยองๆอยู่ข้างถนนและขอทานพร้อมกับหัวของเขาที่ยุ่งเหยิงและมีป้ายเขียนเอาไว้ข้างหน้า

 

[ผมเจสันคนที่เคยเป็นประธานบริษัทกองทุนแอตแลนติกเคยถือเงินหลายพันล้านดอลลาร์ เงินเดือนต่อปีหลายสิบล้านดอลลาร์แต่ตอนนี้ผมสูญเสียทุกอย่างและต้องมาอยู่อย่างโดดเดี่ยวและไม่สามารถกลับประเทศได้ ได้โปรดทุกๆท่านที่เป็นผู้ใจดีผมขอเงินเพียงไม่กี่ดอลลาร์เพื่อให้ผมไปซื้อแฮมเบอร์เกอร์และซื้อตั๋วเครื่องบิน เพื่อกลับบ้านของผม!]

กลุ่มคนที่ผ่านไปผ่านมาต่างชี้มาที่เขา

“ฉันเคยเห็นพวกต้มตุ้นเป็นขอทานตามท้องถนนมามากมายแต่นี่ครั้งแรกเลยนะที่ฉันเจอนักต้มตุ๋นชาวต่างชาติ!”

“พรูด! คนใหญ่คนโตมีเงินหลายพันล้านจะมาปะปนกับที่แบบนี้จริงๆหรอ?!”

“เอาจริงๆนะ การเสแสร้งแบบนี้มันเก่าไปแล้วแต่คิดไม่ถึงเลยว่าชาวต่างชาติก็ยังจะมาทําแบบนี้!”

“ฉันว่าฉันเคยเห็นเขานะ”

และในเวลานี้เองก็มีชายหนุ่มรูปหล่อขับรถผ่านมา

 

เจียงเฉินที่กําลังนั่งอยู่บนรถ Lamborghini พร้อมกับอันฉิงที่เป็นคนขับ—

 

“เอ๊ะ! หยุดก่อน!”

 

เจียงเฉินเห็นเจสันที่กําลังขอทานอยู่ข้างถนนก็รีบพูดออกมา

อันนิ่งมองเจสันด้วยความมึนงง

คนๆนี้คือเจสันงั้นหรอ?

 

เจียงเฉินกับอันนิ่งลงมาจากรถและเดินเข้าไปหาเจสัน

เจสัน “…”

 

สายลมพัดผ่าน –

ชาวต่างชาติที่เคยถือเงินกว่าพันล้านดอลลาร์และย้ายมาที่จีนเพื่อมาตั้งบริษัทแจ่จอนนี้เขากลับกลายเป็นขอทาน!

 

เมื่อก่อนหากเขานั้นเจอเจียงเฉินก็คงไม่พ้นต้องออกมาโอ้อวดแล้วแต่ตอนนี้เขาได้แต่นั่งนิ่ง!

เจียงเฉินที่เขานั้นเคยเยาะเย้ยว่าเป็นผู้ชายชาวจีนที่อ่อนแอแต่ตอนนี้อีกฝ่ายกลับขับรถซุปเปอร์คาร์ 80 ล้านและก็ยังคว้าหญิงสาวดีไซเนอร์ระดับโลกมาอยู่ในมือ

 

เจสันปิดหน้าของตัวเอง

 

เจียงเฉินถอนหายใจออกมาก่อนจะหยิบเงินออกมา 5,000หยวนแล้วใส่ลงไปในชามของเจสัน

 

“เอาไปกินแมคโดนัลด์ อาบน้ําแล้วก็ซื้อตั๋วเครื่องบินกลับบ้านนะ”

เจสันอึ้ง!

น้ําตาไหลออกมา

 

“เจียงเฉินนายเป็นคนดีจริงๆ! นายเป็นคนมีคุณธรรมจริงๆ!”

น้ําตาไหลออกมา…

พลิกดต๊ะขึ้นมา! (2 +0 -I

 

ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นก็เพราะเจียงเฉิน..ทําไมกัน-

ทําไมฉันพูดขอบคุณเขาออกมาไม่ได้!

 

เจียงเฉินพาอันฉิงเดินออกไปขึ้นรถก่อนจะขับออกไปอย่างช้าๆ—

และวันนี้เจียงเฉินกับอันฉิงก็ใช้เวลาด้วยกันไปตลอดทั้งวัน