“ทักษะระเบิดเลือดลม!”

เมื่อเห็นว่าผู้นำตระกูลใต้ดินทั้งสี่คนถูกกลืนกินเข้าไปนั้น สมาชิกของกลุ่มโจรสลัดผ้าคาดหัวสีแดงที่หลงเหลืออยู่ก็หวาดกลัวจนฉี่ราด พวกเขาแสดงทักษะการหลบหนีของกลุ่มโจรสลัดผ้าคาดหัวสีแดงออกมาทันที ทักษะระเบิดเลือดลม!

แต่ละคนต่างก็แผดเผาเลือดลมภายในร่างกายของตนเอง ทั่วทั้งร่างกายเปล่งประกายไปด้วยแสงสีแดง เปลี่ยนกลายเป็นลำแสงอย่างกะทันหัน พุ่งข้ามผ่านระยะทางหลายพันกิโลเมตรอย่างฉับพลัน หายไปจากสายตาของผู้คน

“หลบหนีรึ?”

เซี่ยปิงหรี่ตามอง เขาเห็นสมาชิกของกลุ่มโจรสลัดผ้าคาดหัวสีแดงที่หลบหนีออกไป ทว่ากลับไม่ได้ไล่ล่าตามไป เพียงแค่แสดงรอยยิ้มออกมา มองดูด้วยสายตาที่ล้ำลึกอย่างมาก

ถึงแม้ว่าทักษะระเบิดเลือดลมนี่จะเป็นทักษะการหลบหนีที่ยอดเยี่ยมจริงๆ ทว่าหากเขาคิดที่จะไล่ตามไปจริงๆนั้น สมาชิกของกลุ่มโจรสลัดผ้าคาดหัวสีแดงทั้งสามคนก็ไม่สามารถที่จะหลบหนีไปจากเงื้อมมือของเขาได้ เป็นเพียงแค่ลูกไก่ในกำมือ แต่การที่จะสังหารพวกเขาในตอนนี้จะไปมีประโยชน์อะไร?

ควรที่จะปล่อยให้ทั้งสามคนหลบหนีออกไปก่อน เมื่อถึงเวลาที่พวกเขาบินออกไปจากดาวรังอสูรนั้น เซี่ยปิงก็จะแกะรอยตามไปอีกครั้ง สามารถที่จะตามหารังที่แท้จริงของกลุ่มโจรสลัดผ้าคาดหัวสีแดงได้และจัดการกับกลุ่มโจรสลัดจักรวาลนี้ภายในคราวเดียว

เมื่อเห็นคนเหล่านี้ที่จากไปแล้ว เซี่ยปิงก็ไม่ได้ให้ความสนใจอีก เขาหันกลับไปมองยอดฝีมือของตระกูลใต้ดินที่หลงเหลืออยู่ คนเหล่านี้ก็รู้ว่าตนเองไม่มีทางที่จะหลบหนีไปได้ พวกเขายืนอยู่ที่จุดเดิม ร่างกายหนาวสั่น เหมือนกับกำลังรอรับโทษ

“พวกเจ้าต้องการที่จะตาย..หรือว่าต้องการที่จะมีชีวิตอยู่?”

เซี่ยปิงมองกลุ่มคนเหล่านี้ด้วยสายตาที่ดูถูก

กลุ่มของผู้คนโลกใต้ดินเหล่านี้ก็เป็นกลุ่มคนที่มีไหวพริบดี เมื่อได้ยินคำเหล่านี้ พวกเขาก็รู้ว่าตนเองยังมีโอกาสที่จะรอดชีวิตออกไปได้ แต่ละคนต่างก็คุกเข่าลงไปกับพื้นและตะโกนออกมาอย่างบ้าคลั่ง “ท่านหยาง พวกเราขอยอมจำนน”

ถึงแม้ว่าพวกเขาจะเป็นผู้คนของตระกูลใต้ดิน ทว่ามันก็ไม่ได้บ่งบอกว่าพวกเขาจะจงรักภักดีกับตระกูลอย่างถึงที่สุด ท้ายที่สุดแล้วพวกเขาก็เป็นเพียงองค์กรนักเลงอยู่วันยังค่ำ

หากมีพลังอำนาจก็ดีไป แต่ถ้าหากสูญเสียพลังอำนาจไปนั้น พวกเขาก็พร้อมที่จะเปลี่ยนฝ่ายในทันที

การประกาศออกมาเช่นนี้ มันก็เป็นการแสดงถึงการที่กลุ่มอิทธิพลใต้ดินทั่วทั้งดาวรังอสูรได้ยอมจำนนต่อเขา เพราะว่าถึงอย่างไรการที่ผู้นำของพวกเขาถูกสังหารไปและเจ้าหน้าที่ระดับสูงส่วนใหญ่ตายไปนั้น ก็ไม่มีใครที่จะสามารถต่อกรกับเซี่ยปิงได้อีก

“ขอแสดงความยินดีกับศิษย์น้องหยาง ขอแสดงความยินดีกับศิษย์น้องหยางที่หลอมรวมอำนาจของดาวรังอสูรให้เป็นหนึ่งเดียวได้”

วิซ ในตอนนี้ต้วนเฉินลุ่ยก็ปรากฏตัวขึ้นมาอย่างกะทันหัน เดินมาถึงตรงหน้าเซี่ยปิง แสดงท่าทางที่ยินดี มีสีหน้าที่ประจบประแจง เป็นเหมือนกับลูกสมุนก็ว่าได้

ในความเป็นจริงเขาก็ได้เห็นภาพที่เซี่ยปิงสังหารยอดฝีมือในระดับแกนทองกว่าสิบคนได้เหมือนกับการหั่นผักหั่นปลาเช่นกัน เขาก็รู้สึกขนลุกชันขึ้นมา ปรารถนาที่จะหลบหนีออกไปจากดาวรังอสูรในทันทีและไม่กลับมาอีก

ทว่าเมื่อครุ่นคิดอย่างรอบคอบนั้น หากเซี่ยปิงมีอำนาจปกครองดาวเคราะห์ดวงนี้จริงๆและถ่ายทอดคำสั่งออกมานั้น ไม่ว่ายานอวกาศใดๆก็จะไม่สามารถบินออกไปจากดาวเคราะห์ดวงนี้ได้ จากนั้นเขาจะหลบหนีไปที่ไหนได้อีก

สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือว่าเขาคิดว่าการกระทำของตนเองยังไม่ได้ถูกเปิดโปงออกมา ฝ่ายตรงข้ามยังไม่รู้ว่าเขาได้ร่วมมือกับกลุ่มอิทธิพลใต้ดิน อีกทั้งด้วยสถานะศิษย์นอกของนิกายฟ้าดินนั้น ฝ่ายตรงข้ามก็คงจะไม่ลงมือทำร้ายเขาเช่นกัน

ยิ่งไปกว่านั้นตอนนี้ฝ่ายตรงข้ามก็ได้หลอมรวมอำนาจของดาวรังอสูรให้เป็นหนึ่งเดียวแล้ว ตนเองที่อยู่ที่นี่ก็เป็นเหมือนกับผู้มีอำนาจอันดับสอง บางทีในอนาคตอาจจะได้รับผลประโยชน์ที่มากกว่าในตอนนี้เสียอีก อยู่ภายใต้เพียงแค่เซี่ยปิงคนเดียว

ดังนั้นเขาจึงได้ปรากฏตัวขึ้นมาอย่างกะทันหัน ต้องการที่จะแสดงความยินดีกับเซี่ยปิง หวังว่าจะสามารถสร้างความประทับใจที่ดีให้กับเซี่ยปิงได้

“ศิษย์พี่ต้วน ตอนนี้ท่านยังกล้าโผล่หน้าออกมาอีกหรือ การที่ทรยศหักหลังข้า ท่านคิดว่าท่านจะมีชีวิตอยู่ได้อีกหรือ?” เซี่ยปิงชำเลืองมองด้วยหางตา มองต้วนเฉินลุ่ยด้วยสายตาที่ดูถูก

เมื่อเห็นสายตานี้ ต้วนเฉินลุ่ยก็รู้สึกเหมือนกับวิญญาณของตนเองออกจากร่างทันที เหมือนกับตกลงไปอยู่ในถ้ำน้ำแข็ง ถูกเปิดโปงแล้ว เรื่องที่ตนเองได้ทรยศเซี่ยปิงได้ถูกเปิดโปงออกมาจริงๆ ไม่สามารถที่จะปิดบังความจริงไปจากฝ่ายตรงข้ามได้

“ศิษย์น้องเซี่ย….”

ต้วนเฉินลุ่ยก็ต้องการที่จะพูดแก้ตัวออกมา ทว่าไม่ทันรอให้เขาได้พูดอะไรอีก เซี่ยปิงก็ใช้ฝ่ามือตบออกไป ระเบิดไปที่ร่างของเขา ตึบ ทั่วทั้งร่างกายของเขาระเบิดออกมา ตายไปโดยที่ไร้หลุมฝังศพ

“โง่เขลาสิ้นดี คนที่เอนลู่ไปตามใครก็ได้ กลายเป็นคนทรยศบัดซบ คิดว่าตนเองจะสามารถมีชีวิตอยู่ต่อได้อีกหรือ? ช่างเป็นความฝันลมๆแล้งๆจริงๆ” เซี่ยปิงมองซากศพของต้วนเฉินลุ่ยอย่างดูถูกเหยียดหยาม ไม่ได้แสดงความสงสารแต่อย่างใด

………….

หลังจากนั้นหนึ่งวัน ระดับชั้นอำนาจของทั่วทั้งดาวรังอสูรก็ได้เปลี่ยนแปลงไปราวกับพลิกฟ้าพลิกแผ่นดิน กลุ่มอิทธิพลใต้ดินทั้งหมดได้สลายตัวไปและหลอมรวมกลายเป็นหนึ่งเดียวอย่างสมบูรณ์ ไม่มีใครกล้าที่จะต่อต้านการปกครองของเซี่ยปิงอีกต่อไป

แม้แต่ในตัวของเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกลุ่มอิทธิพลใต้ดินเหล่านี้ก็มีชิปทาสที่ถูกติดตั้งไว้ กลายเป็นทาสของเซี่ยปิง สิ่งนี้ทำให้พวกบุคคลบ้าระห่ำของโลกใต้ดินกลายเป็นทาสของเขาอย่างสมบูรณ์ แม้ว่าพวกเขาจะคัดค้านในตอนแรก ปฏิเสธที่จะฝังชิบทาสในร่างกายตนเอง พวกเขาก็ไม่มีทางเลือก

เพราะว่าถึงอย่างไรเซี่ยปิงก็ดำเนินการตามหลักเหตุผลและหลักกฎหมาย สมาชิกของกลุ่มโลกใต้ดินจำนวนมากทำการปิดล้อมเขาก่อนและต้องการที่จะลอบสังหารเขา นี่เป็นความผิดที่ร้ายแรง ตอนนี้การที่กลายมาเป็นทาสของเขาแทนที่จะถูกประหารไปนั้น ก็ถือว่าเป็นการแสดงความเมตตามากแล้ว

แน่นอนว่ายอดฝีมือบางคนที่จงรักภักดีต่อตระกูลก็ต่อต้านขัดขืนการปกครองของเซี่ยปิง ทว่าทันทีที่คนเหล่านี้เริ่มการก่อกบฏนั้น พวกเขาก็ถูกเซี่ยปิงสังหารไปอย่างรวดเร็ว

อีกทั้งก็มีบางคนที่พึ่งพาอาศัยการที่ตนเองมีอายุมาก วางมาดใหญ่โต คิดว่าตำแหน่งของตนเองสำคัญ รวมกลุ่มกันเพื่อขับไล่เซี่ยปิง ทว่าพวกเขาก็ถูกเซี่ยปิงกำจัดไปเช่นกัน มันไม่มีประโยชน์ใดที่จะเก็บสุนัขที่ไม่เชื่อฟังไว้ ถึงอย่างไรคนเหล่านี้ก็สามารถทดแทนได้เสมอ

ทว่าในช่วงเวลานี้สมบัติที่เก็บสั่งสมมานานของตระกูลใต้ดินส่วนใหญ่ก็กำลังถูกขนย้ายมาที่คฤหาสน์ของเซี่ยปิงอย่างบ้าคลั่ง

นอกจากนี้เซี่ยปิงก็ยังได้ละทิ้งคฤหาสน์ก่อนหน้านี้ไป เขาได้ย้ายสำนักงานใหญ่มาอยู่ในที่ที่เคยเป็นคฤหาสน์หลักของตระกูลเมเดลลิน นี่คือสถานที่ที่หรูหราที่สุดของดาวรังอสูร สะดวกครบเครื่องไปด้วยทุกอย่าง

“เยี่ยมมาก”

เมื่อเห็นสมบัติที่ถูกขนส่งมาอย่างต่อเนื่องนั้น เซี่ยปิงก็ตื่นเต้นอย่างมาก สมกับเป็นตระกูลใต้ดินที่ดำเนินการอยู่ในดาวรังอสูรมานานหลายร้อยปี ยิ่งไปกว่านั้นดาวดวงนี้ก็เป็นศูนย์กลางยุทธศาสตร์ ทำให้พวกเขาร่ำรวยอย่างเหลือล้น

เพียงแค่สมบัติของตระกูลเดียว ก็มีมูลค่าเทียบเท่าได้กับ2-3พันล้านเหรียญจักรวาล มีทั้งหินวิญญาณ สมุนไพรวิญญาณ เม็ดยา วัสดุอื่นๆ สิ่งประดิษฐ์เวทมนตร์และสิ่งอื่นๆอีกนับไม่ถ้วน ล้วนเป็นสิ่งที่ผู้คนนับไม่ถ้วนต่างก็ปรารถนาที่จะได้ครอบครองมา

เมื่อรวมความมั่งคั่งของตระกูลทั้งหมดนั้น อย่างน้อยก็มีมูลค่ามากกว่าสองหมื่นล้านเหรียญจักรวาล

ทว่าสมบัติของตระกูลเมเดลลินนั้นก็มีมากกว่าตระกูลอื่นๆอย่างมหาศาล มีสิ่งประดิษฐ์เวทมนตร์และวัสดุอื่นๆที่หลากหลายนับไม่ถ้วน

เซี่ยปิงคิดว่าการที่มีวัสดุเหล่านี้อยู่ในมือนั้น เขาจะสามารถจัดตั้งค่ายกลยับยั้งขึ้นมาได้มากมาย

“หืมม? สิ่งนี้คืออะไรกัน?”

ภายในกองสมบัติตรงหน้า จู่ๆเซี่ยปิงก็สังเกตเห็นกล่องสีดำกล่องหนึ่งซึ่งถูกปิดผนึกไว้โดยค่ายกลยับยั้งที่ทรงอำนาจบางอย่าง สามารถที่จะปิดบังออร่าของสิ่งของที่บรรจุอยู่ภายในกล่องนี้ได้

“ท่านหยาง”

บุคคลที่เคยเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงของตระกูลเมเดลลินได้พูดออกมาทันที “นี่เป็นสิ่งที่บลันท์ได้มาจากช่องทางลับของเขาและใช้เงินทองมากมายกว่าที่จะครอบครองมาได้ ว่ากันว่านี่เป็นสิ่งที่จะมอบให้กับกลุ่มโจรสลัดผ้าคาดหัวสีแดง”

“ในความจริง การที่สมาชิกของกลุ่มโจรสลัดผ้าคาดหัวสีแดงทั้งเจ็ดคนได้เดินทางมาที่ดาวรังอสูรแห่งนี้นั้น ก็เพราะพวกเขาถูกส่งมาเพื่อรับและคุ้มกันสมบัตินี้ พวกเขาไม่ได้ถูกส่งมาที่นี่เพื่อจัดการกับท่านหยางโดยเฉพาะ”

“มีเรื่องเช่นนี้ด้วยรึ?”

เซี่ยปิงก็รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาเล็กน้อย สมบัติที่ทำให้สมาชิกระดับสูงของกลุ่มโจรสลัดผ้าคาดหัวสีแดงเจ็ดคนเดินทางมาเพื่อคุ้มกันนั้น สามารถที่จะจินตนาการได้ว่ามันมีความล้ำค่ามากแค่ไหน จะต้องเป็นสิ่งที่ประเมินค่าไม่ได้

ตึบ!

เขาลงมือทันที ไหลเวียนพลังเวทมนตร์และถอดรหัสของค่ายกลยับยั้งของกล่องใบนี้

ทันใดนั้นกล่องสีดำก็ถูกเปิดออกมา เผยให้เห็นสิ่งที่อยู่ภายใน

“หืมม? นี่มันอะไรกัน?”

ร่างกายของเซี่ยปิงก็สั่นสะท้านทันที เพราะว่าเมื่อกล่องสีดำนี้เปิดออกมา พลังอำนาจของดวงดาวที่ไร้ขอบเขตก็เอ่อล้นออกมาทันที เป็นเหมือนกับดวงดาวที่กว้างขวางก็ว่าได้ ส่องแสงชั่วนิรันดร์ มีออร่าของความโบราณและความผันผวนแผ่ออกมา

นี่คือลูกแก้ว ซึ่งมีขนาดเท่ากับกำปั้นเท่านั้น

ทว่ามันแอบแฝงไปด้วยพลังอำนาจของดวงดาวที่ไร้ขอบเขต ภายในดูเหมือนว่าจะมีรูนดวงดาวมากมายที่ถูกจารึกไว้ เหมือนกับว่ามีโลกแห่งดวงดาวอยู่ภายใน

“แกนดาว นี่คือแกนดาวในตำนาน” เมื่อเห็นสิ่งนี้ แมวนักปราชญ์ก็อดไม่ได้ที่จะตะโกนออกมา