กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ บทที่ 635
อัครเสนาบดีกู้มีสัญชาตญาณไม่ดีเท่าไรนัก

ในที่สุด กู้ชูหน่วนก็ยื่นมือออกมาและชี้ไปยังกู้ชูอวิ๋นที่ยืนอยู่อย่างเชื่อฟังน่าเอ็นดูอย่างเยือกเย็น “ข้าต้องการนาง”

กู้ชูอวิ๋นดูเหมือนจะรู้ว่ากู้ชูหน่วนมาเพื่อจะหาเรื่องนาง นางจึงไม่ได้มีสีหน้าแปลกใจเท่าไรนัก

แต่ฮูหยินใหญ่กลับตกใจไม่น้อยและรีบกล่าวว่า “พระชายาหาน ไม่ทราบว่าอวิ๋นเอ๋อร์ทำอะไรให้ท่านโกรธเคือง เหตุใดท่านถึงโมโหเช่นนี้”

“ข้าเกลียดขี้หน้าของนาง พอหรือไม่?”

“เอ่อ……”

นับเป็นเหตุผลบ้าบออะไร?

ฮูหยินใหญ่ส่งสายตาขอร้องไปยังอัครเสนาบดีกู้

หากเป็นเมื่อก่อน นางสามารถจัดการอบรมสั่งสอนกู้ชูหน่วนเด็กสารเลวคนนั้นได้ แต่ตอนนี้ นางเป็นถึงภรรยาที่รักใคร่โปรดปรานของเทพแห่งสงคราม หากทำให้นางขุ่นเคือง เช่นนั้นก็เป็นการทำให้เทพแห่งสงครามขุ่นเคืองไปด้วย นางจะกล้าทำเช่นนั้นได้อย่างไร

ในขณะที่อัครเสนาบดีลังเลใจว่าจะพูดออกไปเช่นไรดี เสียงหัวเราะตักเตือนของกู้ชูหน่วนได้ดังขึ้น “อัครเสนาบดีกู้ ดูเหมือนท่านต้องการจะขัดขวาง”

“เอ่อ……ถึงอย่างไรนางก็เป็นพี่สาวของเจ้า……”

“เกรงว่าอัครเสนาบดีพูดผิดไปหรือไม่ ท่านแม่ของข้าให้กำเนิดข้าเพียงคนเดียว ข้าไม่มีพี่ชาย ไม่มีพี่สาว นางถือเป็นพี่สาวของข้าได้อย่างไร”

สีหน้าของอัครเสนาบดีกู้เปลี่ยนไป

นางพูดเช่นนี้ เพราะต้องการยอมรับเพียงแม่ ไม่ยอมรับพ่อ และตัดสินใจจะมีเรื่องกับเขาให้ได้อย่างนั้นหรือ?

สายตาที่เยือกเย็นไร้ความปรานีของเยี่ยจิ่งหานมองไปยังอัครเสนาบดีกู้ ราวกับรอให้อัครเสนาบดีพูดขึ้น

ลูกน้องของเขาทุกคนล้วนต่างชักดาบออกมา เพียงแค่อัครเสนาบดีพูดขัดขวางขึ้นมา พวกเขาก็จะทำให้จวนอัครเสนาบดีต้องนองไปด้วยเลือด

เมื่อกู้ชูอวิ๋นเห็นเช่นนี้ นางจึงค่อยๆ เดินออกมา น้ำเสียงอ่อนโยนและนอบน้อมกล่าวออกมาว่า “ท่านพ่อ ท่านแม่ พวกท่านไม่ต้องเป็นกังวลเจ้าค่ะ คาดว่าพระชายาหานคงต้องมีธุระสำคัญกับข้า ข้าจะรีบไปรีบกลับเจ้าค่ะ”

“อวิ๋นเอ๋อร์……พระชายาหาน ข้าขอร้องล่ะ หากอวิ๋นเอ๋อร์ทำอะไรผิดไป ข้าขอโทษแทนนาง เจ้าเห็นแก่ที่นางเป็นพี่สาวของเจ้า ปล่อยนางไปเถอะนะ”

“ดูเหมือนว่าคนที่ต้องการขัดขวางจะเป็นฮูหยินใหญ่สินะ” กู้ชูหน่วนกล่าวขึ้นอย่างเย็นชา

ทันใดนั้นทหารองครักษ์ก็ยกดาบขึ้นไปวางบนคอของฮูหยินใหญ่

กู้ชูอวิ๋นกล่าวขึ้นอย่างโมโห “กู้ชูหน่วน คนที่เจ้าต้องการคือข้า ปล่อยท่านแม่ของข้าเดี๋ยวนี้”

“ชิงเฟิงเป็นคนซื่อบื้อ แต่ดาบของเขามักไม่มีตาดู พี่รอง ข้าคิดว่าท่านควรจะรีบออกไปจากที่นี่จะดีเสียกว่า เพื่อจะได้ไม่ส่งผลกระทบไปที่ชิงเฟิง หากดาบของเขาพลั้งเผลอไปจะว่าอย่างไร?”

กู้ชูอวิ๋นถอนหายใจและจ้องมองไปยังกู้ชูหน่วน จากนั้นจังหันหลังเดินออกไป

หลังจากที่นางถูกคุมตัวออกไป มุมปากของกู้ชูหน่วนก็แสดงสีหน้าไม่แยแสและเดินตามออกไป

ฮูหยินใหญ่เดินไปมาด้วยความร้อนใจกระวนกระวาย “นายท่าน อวิ๋นเอ๋อร์ถูกควบคุมตัวไปเช่นนี้ เหตุใดท่านถึงไม่ออกหน้าช่วยเหลือนางเลย กู้ชูหน่วนมีจิตใจโหดเหี้ยมอำมหิต นางและอวิ๋นเอ๋อร์ไม่เคยดีกันมาก่อน หาก……หาก……ฮือๆ…….”

“เจ้าคิดว่าข้าไม่อยากช่วยนางหรืออย่างไร? กู้ชูหน่วนตอนนี้ไม่เหมือนกู้ชูหน่วนคนเก่าในอดีตแล้ว ข้าจะทำอะไรได้”

“เช่นนั้นตอนนี้ควรทำเช่นไรดี?”

“พ่อบ้านๆ เจ้ารีบส่งคนไปตรวจสอบว่าเหตุใดกู้ชูหน่วนถึงได้มีปัญหากับคุณหนูรอง”

“ขอรับ……”

ภายในจวนหานอ๋อง กู้ชูหน่วนและเยี่ยจิ่งหานนั่งลงกันคนละฝั่ง ข้างๆ นั้นคือสายลับของหออันดับหนึ่งในใต้หล้าและสายลับของหอเทียนหวั่งที่กลับมารายงาน

“นายท่าน วันที่แม่ทัพใหญ่เซี่ยวถูกทำร้ายในวันนั้น กู้ชูอวิ๋นอยู่ในห้องโดยที่นางไม่ได้ออกไปไหนเลย”

“ก่อนหน้าวันที่แม่ทัพใหญ่เซี่ยวจะถูกวางยาพิษหนึ่งวัน กู้ชูอวิ๋นได้มาหาแม่ทัพใหญ่เซี่ยว พวกเขาเกิดการทะเลาะวิวาทกัน และจากนั้นกู้ชูอวิ๋นก็ถูกแม่ทัพใหญ่เซี่ยวไล่ออกไป”

“ส่วนเรื่องที่แม่ทัพใหญ่ถูกวางยาพิษนั้น เป็นยาพิษสูตรลับของท่าน นอกจากท่านแล้ว ไม่มีใครเข้าใจยาพิษตัวนี้อีก แต่……ครึ่งเดือนก่อนหน้านี้ ร้านยานอกเมืองหลวงแห่งหนึ่งได้มีคนซื้อสมุนไพรที่มีพิษร้ายแรงเหล่านี้ไปในวันนั้น”

“ใครเป็นคนซื้อได้ตรวจสอบชัดเจนแล้วหรือไม่?” กู้ชูหน่วนหรี่ตาลงเพื่อถาม

“ตรวจสอบแล้วขอรับ เป็นประชาชนคนหนึ่งที่มีประวัติภูมิหลังดี อีกอย่างได้ซื้อไปคนละตัวยาสมุนไพร ในบรรดาพวกเขา มีคนหนึ่งถูกพิษของงู จำเป็นต้องใช้พิษเพื่อขับพิษ และมีคนที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส จึงจำเป็นต้องใช้ตัวยาเหล่านั้นในการรักษา”

นิ้วมือของกู้ชูหน่วนเคาะลงไปยังโต๊ะ

ใช้พิษเพื่อขับพิษก็ยังพอมีเหตุผล

เจ็บป่วยแต่กลับต้องการตัวยาเหล่านั้น? ยาสมุนไพรเหล่านั้นล้วนเป็นยาที่ให้ฤทธิ์เป็นพิษ โดยปกติแล้วมักขายไม่ออกเลยด้วยซ้ำ

อีกทั้งเพียงในระยะเวลาสั้นๆ กลับมาคนซื้อยากี่ชนิดเหล่านั้นที่ไม่เคยมีใครต้องการ ต่อให้แยกกันซื้อก็นับเป็นเรื่องที่น่าสงสัยอย่างมาก

“เฝ้าจับตาดูคนเหล่านั้นอย่างใกล้ชิด ตรวจสอบอย่างละเอียดว่ามีคนสั่งให้พวกเขาซื้ออยู่เบื้องหลังหรือไม่”

“ขอรับ”

“กู้ชูอวิ๋นยังไม่รับสารภาพหรือ?”

“ยัง นางปิดปากเงียบ ไม่ยอมพูดอะไรเลย”

“ไม่ยอมพูดออกมาใช่หรือไม่ เช่นนั้นกู้ชูหน่วนไม่กลัวมากที่สุดก็คือมีคนปากแข็ง”

ชิงเฟิงและเจี้ยงเสวี่ยที่คอยปรนนิบัติอยู่ข้างๆ รู้สึกเย็นที่แผ่นหลัง

พระชายาของพวกเขาจะกลายเป็นปีศาจอีกแล้ว

ชิวเอ๋อร์ดึงกระโปรงของกู้ชูหน่วนและกระซิบเบาๆ “คุณหนู ท่านสงสัยว่าคุณหนูรองเป็นคนที่อยู่เบื้องหลังการฆ่าสังหารแม่ทัพใหญ่เซี่ยว เช่นนั้นเหตุใดถึงไม่ตรวจสอบอย่างลับๆ เจ้าคะ ตอนนี้……ตอนนี้จับกุมมาอย่างเปิดเผย หากนายท่านเข้าไปฟ้องร้องต่อฝ่าบาท หรือหากคุณหนูรองไม่ยอมรับ เช่นนั้นควรทำเช่นไรเจ้าคะ?”

“ข้าทำอะไรไป ข้ามีเหตุผลของข้า”

สิ่งที่ชิวเอ๋อร์พูดออกไป นางมีหรือจะไม่เคยคิดไว้ แต่เช่นนี้จะกลายเป็นถูกกระทำเกินไป

พวกเขารอได้ แต่นางไม่สามารถรอต่อไปได้

นางจำเป็นต้องแย่งชิงไข่มุกมังกรกลับคืนมา เวลาของท่านพี่เฉินเฟยมีไม่มากแล้วและแค้นของแม่ทัพใหญ่ก็ต้องชำระล้างแค้น เผ่าหยกก็ไม่สามารถรอได้อีกต่อไป นางไม่มีเวลาเสียเวลาไปกับพวกนางอีกแล้ว

เยี่ยจิ่งหานหมุนพู่กันขนหมาป่าอย่างเบื่อหน่ายและปล่อยให้กู้ชูหน่วนตัดสินใจ และปล่อยให้นางทำทุกอย่าง

ภายในห้องลับ

กู้ชูอวิ๋นถูกมัดมือมัดเท้าด้วยเชือกขนาดใหญ่ และมีคนจำนวนหนึ่งคอยจักจี้รักแร้และฝ่าเท้าของนาง ทำให้กู้ชูอวิ๋นรู้สึกจักจี้

เพียงแต่ท่ามกลางเสียงหัวเราะนั้น เต็มไปด้วยความเจ็บปวดไม่สิ้นสุด

“กู้ชูหน่วน เจ้ากล้าจริงก็ออกมาสิ ข้าไม่ได้ฆ่าแม่ทัพใหญ่เซี่ยว อา……ฮ่าๆๆ……จักจี้จะตายแล้ว หยุดเดี๋ยวนี้ รีบหยุดทำเดี๋ยวนี้”

กู้ชูหน่วนและเยี่ยจิ่งหานเดินมาที่ห้องลับพร้อมกัน ทั้งสองนั่งลงบนเก้าอี้ตัวยาวและมองไปยังกู้ชูอวิ๋นที่หัวเราะและร้องไห้ทนไม่ได้กับการถูกจักจี้

ชิงเฟิงรู้สึกเกร็ง

วิธีการทรมานคนอื่นของพระชายาช่างเก่งกาจเลิศล้ำเหลือเกิน

ดูกู้ชูอวิ๋นที่เป็นหญิงสาวอ่อนโยนน่าทะนุถนอมเช่นนี้ ยังถูกนางทรมานเช่นนี้ได้

“กู้ชูหน่วน เจ้ารีบปล่อยข้าเดี๋ยวนี้ อ่า……ปล่อยข้าเดี๋ยวนี้……หยุดจักจี้ได้แล้ว……”

กู้ชูหน่วนถูกเสียงขอร้องและเสียงหัวเราะร้องไห้ของนางทำให้ปวดหู จากนั้นจึงพูดขึ้นอย่างเกียจคร้าน “พอได้แล้ว หยุดเดี๋ยวนี้”

คำพูดหยุด ทำให้กู้ชูอวิ๋นที่ดูเคร่งเครียดรู้สึกผ่อนคลายขึ้น จากนั้นนางจึงค้นพบว่านางร้องไห้จนน้ำตาไหลออกมา

รูปลักษณ์อันสง่างามของหญิงสาวในตระกูลสูงศักดิ์ของนาง ซึ่งเคยยึดถือมาในอดีตก็พังทลายลงเช่นกัน

“พี่รอง วันนั้นที่เจ้าไปจวนแม่ทัพ ได้พูดอะไรกับท่านแม่ทัพใหญ่เซี่ยวกันแน่?”

“ไม่ได้พูดอะไร ก็แค่พูดไปเรื่อยเปื่อย ไม่รู้ว่าทำไมวันนั้นท่านแม่ทัพใหญ่อารมณ์ไม่ค่อยดีนัก ข้าก็บังเอิญไปทำแจกันแตกหนึ่งอัน จากนั้นท่านแม่ทัพใหญ่ก็ไล่ข้าออกมา”

กู้ชูหน่วนหัวเราะอย่างเย็นชา

เหตุผลนี้ คิดว่านางเป็นเด็กอายุสามขวบหรืออย่างไร?

ท่านแม่ทัพใหญ่เซี่ยวเป็นคนเช่นไร มีหรือที่เขาจะโกรธและดุด่านางเพียงเพราะทำแจกันตกแตก?

“ข้าเป็นคนชอบใช้ยาพิษและก็ชอบศึกษาเกี่ยวกับยาพิษ และช่วงนี้ก็ชื่นชอบการจับงูพิษแมลงมีพิษกลับมาเล่น”