ณ หุบเขาลับแห่งหนึ่งภายในดาวรังอสูร

ในขณะที่เซี่ยปิงกำลังเก็บตัวบ่มเพาะนั้น สมาชิกของกลุ่มโจรสลัดผ้าคาดหัวสีแดงสามคนก็กำลังวางแผนกันอยู่ พวกเขามีชื่อว่าเต๋ายี เต๋าซานและเต๋าเอ้อ พวกเขาเป็นที่รู้จักกันในฉายาสามพี่น้องตระกูลเต๋า พวกเขาเป็นแฝดสาม

“พี่ใหญ่ พวกเราควรจะเดินทางออกไปจากดาวรังอสูรในตอนนี้หรือไม่? ที่นี่อันตรายเกินไป เจ้าลูกศิษย์สายตรงที่โหดเหี้ยมของนิกายฟ้าดินนั่นยังคงไล่ล่าตามหาพวกเราภายในดาวรังอสูรอยู่ หากพวกเราถูกเจ้าบัดซบนั่นจับได้ล่ะก็ พวกเราจะต้องตาย”

“เหอะ ไม่ต้องกังวลไป ระยะเวลาหลายวันนี้ข้าได้สังเกตการณ์การเคลื่อนไหวในดาวรังอสูรและค้นพบว่าการสำรวจค้นหาของพวกเขาซบเซาลงไปมาก การที่ไม่ได้เบาะแสใดๆเป็นระยะเวลานานนั้น เชื่อว่าพวกเขาก็คงจะยอมตัดใจไป ยิ่งไปกว่านั้นนี่ก็เป็นดาวเคราะห์ค้าขายที่รุ่งเรือง ทุกๆวันมียานอวกาศนับไม่ถ้วนที่เข้ามาทำธุรกรรมต่างๆ การที่จะปิดกั้นดาวดวงนี้ต่อไป พวกเขาก็คงจะไม่สามารถรับมือกับความสูญเสียได้ มันจะกระทบเศรษฐกิจของดาวดวงนี้”

“สมกับเป็นพี่ใหญ่ ช่างเป็นยอดฝีมือที่ฉลาดหลักแหลม ทว่าทำไมพวกเราถึงไม่เคยได้ยินข่าวของเจ้าหยางปู๋ตงนั่นมาก่อน ก่อนหน้านี้ก็คิดว่าเขาเป็นเพียงแค่ลูกศิษย์สายตรงธรรมดาทั่วไปเท่านั้น สามารถที่จะบดขยี้ได้อย่างง่ายดาย ไม่คาดคิดว่าแท้ที่จริงแล้วเขาจะเป็นพยัคฆ์ดุร้ายที่น่าสะพรึงกลัว”

“บัดซบ ข้าไม่อยากยอมรับเรื่องนี้ นี่คือพลังอำนาจที่แท้จริงของลูกศิษย์สายตรงของนิกายฟ้าดินหรือ? พวกเรายอดฝีมือในระดับแกนทองกว่าสิบคนที่ร่วมมือกัน อีกทั้งยังจัดตั้งกับดักขึ้นมา ไม่คาดคิดว่าจะถูกเขาอัดกลับมาจนมีสภาพเป็นเหมือนกับสุนัขข้างถนนเช่นนี้ หากพวกเราไม่หลบหนีออกมาอย่างรวดเร็ว บางทีก็อาจจะเดินตามรอยเท้าคนอื่นๆไปแล้ว ถูกสังหารไปจนหมดสิ้น แกนทองก็ถูกฝ่ายตรงข้ามยึดครองไป”

“เป็นจริงอย่างที่ว่า เจ้าบัดซบนั่นเพียงคนเดียวเป็นเหมือนกับกองทัพนับพัน ทำไมความแตกต่างถึงได้มีมากมายเช่นนี้?”

“ความแตกต่างระหว่างบุคคลช่างมีมากเกินไปจริงๆ ทั้งๆที่ทุกๆคนก็เป็นยอดฝีมือในระดับแกนทองเหมือนกัน ทว่าเจ้าเด็กนั่นกลับเหนือธรรมชาติอย่างไม่น่าเชื่อ ช่างไม่สมเหตุสมผลเอาซะเลย”

สมาชิกของกลุ่มโจรสลัดผ้าคาดหัวสีแดงทั้งสามคนต่างก็กัดฟันพูดออกมา พวกเขารู้สึกผิดหวังอย่างมากกับความล้มเหลวในครั้งนี้ อีกทั้งยังคงหวาดผวากับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โชคดีที่พวกเขาหลบหนีออกมาได้อย่างรวดเร็ว ไม่อย่างนั้นจะต้องตายไปด้วยน้ำมือของเจ้าเด็กนั่นอย่างแน่นอน

“พี่ใหญ่ หากตอนนี้พวกเราหลบหนีออกไป ภารกิจที่ท่านผู้นำมอบหมายให้ก็จะล้มเหลวไม่ใช่หรือ พวกเราจะทำอย่างไรกับแกนดาวนั่น? ท่านผู้นำจะต้องเดือดระอุอย่างแน่นอนหากว่าพวกเรากลับไปมือเปล่า” เต๋าซานพูดออกมาอย่างหวาดกลัวเล็กน้อย

ภารกิจในครั้งนี้ของพวกเขาก็คือการนำแกนดาวกลับไปอย่างปลอดภัย ทว่าในตอนนี้กลับล้มเหลว อีกทั้งพวกพ้องในระดับแกนทองก็ตายไปหลายคน เผชิญกับความสูญเสียที่ไม่เคยพบไม่เคยเจอมาก่อน

หากผู้นำกลุ่มโจรสลัดผ้าคาดหัวสีแดงเดือดระอุขึ้นมา บางทีพวกเขาก็อาจจะเผชิญกับหายนะได้

“ล้มเหลวก็คือล้มเหลว ไม่มีทางที่จะแก้ไขความผิดพลาดได้ ทว่านี่ไม่ใช่เป็นการที่พวกเราไม่ได้พยายามอย่างถึงที่สุด แต่เป็นเพราะว่าศัตรูทรงอำนาจเกินไป”

เต๋ายีพูดออกมา “ยิ่งไปกว่านั้นครั้งนี้สมาชิกระดับสูงของพวกเราก็ตายไปถึงสี่คน ทำให้กองกำลังระดับสูงของกลุ่มโจรสลัดผ้าคาดหัวสีแดงของพวกเราสูญเสียไปอย่างมาก พวกเราในฐานะยอดฝีมือในระดับแกนทองสามคน พวกเราถือว่าเป็นกองกำลังที่สำคัญอย่างถึงที่สุด ควรที่จะรักษาชีวิตของตนเองไว้ก่อน ข้าเชื่อว่าท่านผู้นำก็คงจะเข้าใจพวกเราและไม่ลงโทษพวกเรากับเหตุการณ์ครั้งนี้”

เขาพูดออกมาอย่างมั่นใจ

“ใช่ หลังจากที่รอให้ได้กลับไป จะต้องให้ท่านผู้นำเคลื่อนไหวออกมาด้วยตนเอง นำกองทัพบุกเข้ามาที่นี่ สังหารเจ้าหยางปู๋ตงบัดซบนั่น ทำให้เขารู้ซึ้งถึงความร้ายกาจของพวกเรากลุ่มโจรสลัดผ้าคาดหัวสีแดง”

เต๋าเอ้อกัดฟันอย่างแน่น สาบานว่าจะต้องล้างแค้นให้ได้

“ใช่ ทว่าแกนดาวนั่นเป็นสมบัติที่ท่านผู้นำโหยหาอย่างถึงที่สุด การที่เจ้าหยางปู๋ตงนั่นได้ครอบครองสมบัตินี้ไป มันก็เป็นเหมือนกับคำกล่าวที่ว่า คนย่อมไร้ความผิด แต่ผิดที่ถือครองหยก เขาจะต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย”

เต๋าซานก็เห็นด้วยเช่นกัน

“ลืมมันไปเถอะ อย่าพูดจาไร้สาระมากมาย พวกเรารีบหลบหนีออกไปโดนยานอวกาศเถอะ หากช้าแม้เพียงเล็กน้อย บางทีอาจจะเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นได้” เต๋ายีพูดออกมาทันที บอกให้น้องชายทั้งสองคนของตนเองเร่งความเร็วในการเคลื่อนไหวออกไป

วิซ!

ทั้งสามคนก็เคลื่อนไหวออกไปทันที วิ่งออกไปสู่หุบเขาที่ห่างไกลแห่งหนึ่ง ซึ่งที่นั่นก็คือที่ที่ยานอวกาศของกลุ่มโจรสลัดผ้าคาดหัวสีแดงจอดอยู่

ยานอวกาศลำนี้เป็นยานอวกาศที่กลุ่มโจรสลัดผ้าคาดหัวสีแดงได้ทิ้งไว้ในดาวรังอสูรเพื่อใช้ในยามฉุกเฉิน ถือว่าเป็นเส้นทางหลบหนีสุดท้าย ไม่คาดคิดว่าจะได้ใช้มันในตอนนี้ แต่ละคนต่างก็เข้าไปนั่งภายในยานอวกาศ

ดิ้ง ดิ้ง!!

ทว่าเมื่อพวกเขาต้องการที่จะบินออกไป ทันใดนั้นเครื่องมือสื่อสารของยานอวกาศก็ดังขึ้นมา

“ท่านผู้นำติดต่อมา”

เมื่อเห็นสัญญาการสื่อสารนี้ เต๋ายีก็มีสีหน้าที่เปลี่ยนไปอย่างมาก เขากัดฟันอย่างแน่นและครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ทว่าในที่สุดเขาก็เชื่อมต่อการสื่อสาร ทันใดนั้นภาพเสมือนจริงก็ปรากฏขึ้นมา ชายวัยกลางคนที่มีตาเดียว สวมใส่ชุดสีดำและจมูกแหลมได้ปรากฏขึ้นมาต่อหน้าพวกเขา

ชายตาเดียวคนนี้ก็คือผู้นำของกลุ่มโจรสลัดผ้าคาดหัวสีแดง—อู๋อัน

เห็นเพียงแค่ว่าเมื่อภาพฉายเสมือนจริงของชายคนนี้ปรากฏขึ้นมา ความกดดันที่เต็มเปี่ยมก็กดทับลงมา ยานอวกาศสั่นสะเทือน แม้แต่ภาพฉายเสมือนจริงนี้ก็สั่นสะเทือนเช่นกัน อีกทั้งก็ยังมีออร่าที่ทรงอำนาจแผ่ออกมา ผสมผสานเข้ากับโลก

ทันใดนั้นสามพี่น้องตระกูลเต๋าก็มีเหงื่อเย็นผุดออกมาที่หน้าผาก ตื่นตระหนกอย่างมาก พวกเขาล่วงรู้ว่าผู้นำของตนเองนั้นทั้งโหดเหี้ยมและทรงอำนาจแค่ไหน

“อันที่จริงเกิดเรื่องอะไรขึ้น? ทำไมพวกเจ้าถึงไม่รายงานความคืบหน้าในระยะเวลาหลายวันที่ผ่านมานี้? เจ้าอย่าบอกนะว่าภารกิจล้มเหลว ทำไมภารกิจถึงล้มเหลวได้?!” อู๋อันพูดออกมาอย่างเยือกเย็น “เจ้าต้องการที่จะทรยศหักหลังกลุ่มโจรสลัดผ้าคาดหัวสีแดง ต้องการที่จะครอบครองแกนดาวไว้แต่เพียงผู้เดียวหรือ?”

สายตาของเขามีแสงที่หนาวเหน็บส่องประกายออกมา หากสามพี่น้องตระกูลเต๋ากล้าที่จะทรยศหักหลังกลุ่มโจรสลัดผ้าคาดหัวสีแดงจริงๆ จากนั้นต่อให้จะต้องตามล่าไปทั่วทั้งจักรวาล เขาก็ไม่เกี่ยง

เพราะว่าถึงอย่างไร แกนดาวนั้นก็เป็นสิ่งที่ล้ำค่าอย่างมาก มีความสำคัญอย่างมากสำหรับเขา

“ท่านผู้นำ”

ตึบ เต๋ายีคุกเข่าลงไปที่พื้นทันที “พวกเราไม่ได้ทรยศ ไม่เคยมีความคิดที่จะทรยศหักหลังกลุ่มโจรสลัดผ้าคาดหัวสีแดงเลยสักครั้ง ทว่าภารกิจครั้งนี้เกิดเหตุไม่คาดคิดขึ้น พวกเราได้บังเอิญพบกับลูกศิษย์สายตรงของนิกายฟ้าดินคนหนึ่ง ซึ่งเขาได้สังหารคนของพวกเราและผู้นำตระกูลใต้ดินในดาวรังอสูรไปเป็นจำนวนมาก”

เขาได้อธิบายเรื่องที่เกิดขึ้นในระยะเวลาหลายวันนี้ไปอย่างเร่งรีบ บ่งบอกว่านี่ไม่ใช่การที่พวกเขาต้องการครอบครองแกนดาวไว้กับตนเอง

“นี่มันเป็นไปได้อย่างไร?”

อู๋อันขมวดคิ้วเป็นปม “ต่อให้ฝ่ายตรงข้ามจะเป็นลูกศิษย์สายตรงของนิกายฟ้าดิน เขาก็ยังคงเป็นผู้บ่มเพาะในระดับแกนทองเท่านั้น ไม่คาดคิดว่าการที่พวกเจ้ากว่าสิบคนร่วมมือกันนั้น ทว่าเขากลับสังหารพวกเจ้าไปเกือบหมด ที่ผ่านมานี้พวกเจ้าบ่มเพาะกันมาเยี่ยงหมาหรือ?!”

เขาไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ตนเองได้ยิน เขาก็ล่วงรู้ว่าลูกศิษย์สายตรงของนิกายระดับเซนต์นั้นเป็นบุคคลที่แข็งแกร่งอย่างมาก ทว่าความแข็งแกร่งก็มีขีดจำกัดเช่นกัน ไม่มีทางที่จะเอาชนะยอดฝีมือในระดับเดียวกันได้กว่าสิบคน

“ท่านผู้นำ สิ่งที่พวกเราพูดเป็นความจริง หากมีแม้แต่ครึ่งคำที่พวกเราโกหก ขอให้สวรรค์ส่งสายฟ้าผ่าลงมาที่พวกเราห้าครั้ง” เต๋ายีกล่าวคำสาบานต่อหน้าสวรรค์ มีสีหน้าที่จริงจังอย่างมาก “หากท่านยังไม่เชื่อ ก็สามารถที่จะส่งคนมาตรวจสอบเรื่องนี้ได้ ส่งคนเข้ามาที่ดาวรังอสูรเพื่อสืบสวนเรื่องนี้ ที่พวกเราพูดไม่ใช่ถ้อยคำลอยๆ เหตุการณ์เช่นนี้ไม่มีใครที่จะปิดบังได้”

ได้ยินเช่นนี้ อู๋อันก็พยักหน้า เป็นจริงอย่างที่ว่า หากมีเรื่องที่ใหญ่โตเช่นนี้เกิดขึ้นจริงๆ ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะปกปิดข่าว หากเขาส่งคนออกไปสืบสวนก็คงจะได้รู้ความจริง

เชื่อว่าสามพี่น้องตระกูลเต๋านี่คงจะไม่มีความกล้าหาญเช่นนั้น ไม่มีความกล้าที่จะลงทุนโกหกเขาถึงขั้นนั้น ทว่าหากเรื่องนี้เป็นความจริง พลังอำนาจของเจ้าลูกศิษย์สายตรงของนิกายฟ้าดินคนนั้นก็ถือว่าน่าสะพรึงกลัวอย่างมาก

“เอาล่ะ ตอนนี้พวกเจ้ารออยู่ที่ดาวรังอสูรไปก่อน รอให้ข้าได้เดินทางไปที่นั่น”

อู๋อันพูดออกมาอย่างเคร่งขรึม

“อะไรนะ? ท่านผู้นำจะเดินทางมาด้วยตนเองหรือ?!”

สามพี่น้องตระกูลเต๋าต่างก็ตกตะลึง พวกเขาไม่คาดคิดว่าเรื่องนี้จะกระตุ้นให้ผู้นำของตนเองเคลื่อนไหวออกมาเช่นนี้

“แน่นอนว่าข้าต้องไปด้วยตนเอง”

อู๋อันแสยะออกมา “การที่สังหารสมาชิกระดับสูงของข้าไปถึงสี่คน อีกทั้งยังขโมยแกนดาวของข้าไป นี่คือความอาฆาตแค้นที่ไม่มีที่สุดสิ้น ไม่สามารถที่จะอดทนอดกลั้นได้”

บนตัวของเขามีออร่าของจิตสังหารที่น่าสะพรึงกลัวแผ่ออกมา

“ท่านผู้นำ แต่ฝ่ายตรงข้ามเป็นลูกศิษย์สายตรงของนิกายฟ้าดิน!”

สามพี่น้องตระกูลเต๋าจ้องมองอย่างวอกแวก

“ลูกศิษย์สายตรงของนิกายฟ้าดินแล้วอย่างไรกัน? จักรวาลนี้กว้างใหญ่เพียงใดกัน หลังจากที่ข้าสังหารเจ้าเด็กนั่น ข้าจะหลบหนีไปสู่ทางตะวันตกของจักรวาล ต่อให้นิกายฟ้าดินจะมีอิทธิพลมากมาย ทว่าอิทธิพลของพวกเขาจะขยายไปถึงทางตะวันตกของจักรวาลหรือ? ไม่มีใครที่จะมีชีวิตอยู่ได้หลังจากที่ได้แย่งชิงทรัพย์สมบัติของกลุ่มโจรสลัดผ้าคาดหัวสีแดงของข้าไป พวกเจ้ารออยู่ที่ดาวรังอสูร เมื่อข้าเดินทางไปถึง พวกเราจะร่วมมือโจมตีขนาบข้างจากทั้งด้านในและด้านนอก”

อู๋อันได้ตัดสินใจอย่างแน่วแน่ เพราะว่าแกนดาวนั่นมีความสำคัญอย่างมาก เกี่ยวข้องกับการบ่มเพาะในอนาคตของเขา

ตราบใดที่เขาได้ครอบครองแกนดาวมา เขาก็มีโอกาสที่จะเลื่อนขั้นไปในระดับกฎเทวรูปได้ ในอนาคตการที่จะเลื่อนขั้นไปในระดับลงทัณฑ์สายฟ้าก็ยังมีความเป็นไปได้เช่นกัน ใครที่กล้าขัดขวางเส้นทางของเขาอู๋อัน มันผู้นั้นจะต้องตาย!

“รับทราบ ท่านผู้นำ”

สามพี่น้องตระกูลเต๋าก็มีความสุขอย่างมาก ตราบใดที่ผู้นำมาที่นี่ เจ้าเด็กนั่นก็จะต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย