ตอนที่ 453 เจ้าของตัวจริง

The Legendary Mechanic

ตอนที่ 453 เจ้าของตัวจริง

 

ปากของหานเซี่ยวขด ก่อนที่จะบอกให้เฉินซิ่งรู้ เขาก็ได้ซื้อพิษพิเศษจากดาวอื่นและเคลือบล งบนรูปปั้น ตราบเท่าที่พลังจิตของทุกคนสัมผัสกับพิษ พวกเขาจะได้รับความเสียหายและลดความ ทนทานทางจิตลง มันมีประสิทธิภาพต่อเอสเปอร์ จอมเวทย์และผู้ใช้พลังจิต

 

ไม่เพียงเฉินซึ่งจะได้รับบาดเจ็บจากหานเซียว แต่เขายังดูดซับพลังงานทั้งหมดจากรูปปั้น ซึ่งทําให้จิตเขาอ่อนแอและตอนนี้เขาก็ติดพิษด้วย ด้วยปัจจัยทั้งหมดเหล่านี้ ความทนทานเขาจึงลดลงมากดังนั้นจิตใจเขาจึงแตกสลาย

 

เฉินซิ่งคือเกรดB แต่ผู้ใช้พลังจิตมักบางเหมือนกระดาษอยู่แล้วดังนั้นหานเชี่ยวจึงไม่กล้าใช้เจตจํานงค์แห่งเพลิงเขากลัวว่าหากเขาโชคดีหรืออาจโชคร้ายเขาคงฆ่าเฉินซิ่งไป

 

เลือดไหลออกจากปากและจมูกของเฉินซิ่งเฉินซิ่งเสียความสามารถต่อต้านเขาจ้องหานเดี่ยวด้วยใบหน้าเกลียดชัง

 

ชั่วครู่หนึ่ง การแสดงออกของเฉินซิ่งดูสงบมาก แต่นั่นก็สั้นจนเหมือนตาฝาด

 

“ทําไมแกถึงทําแบบนี้?”เฉินซิ่งกัดฟัน” หรือแกยอมรับงานลอบสังหารฉัน?”

 

หานเชี่ยวตอบเฉินซิ่งด้วยการคว้าผมเขาและกระแทกมันกับพื้นทําให้เขาหมดสติ

 

การอธิบายคืองานของพวกวายร้าย

 

“เฒ่าเฮอลัส กลับมาและถอยกัน!”

 

“ขอบคุณ ตอนนี้ฉันยุ่งอยู่หน่อย…”เสียงรําคาญของเฮอลัสดังจากนอกประตูเขาขวางคลื่นทหารไว้ด้านนอก ดังนั้นการต่อสู้ด้านนอกจึงรุนแรงขึ้น

 

หานเชี่ยวคว้าชุดของเฉินซิ่งและโยนเขาให้พี่น้องโวลก้าจากนั้นก็เล็งมือไปยังกําแพงโรงแรมและปล่อยลําแสงพลังสูงสุด

 

บูม!

 

คลื่นพลังสีเทาระเบิดผ่านกําแพง อิฐกระจายไปทั่วและอากาศก็เต็มไปด้วยกลิ่นฉุนของฝุ่นรูขนาดใหญ่ปรากฏบนกําแพงโรงแรมพื้นคือด้านใต้ร้อยเมตรและประมาณร้อยเมตรด้านล่างพวกเขาก็คือรถที่โฉบไปมา

 

หานเซียวคว้าโอกาสและกระโดดลงไปกระแทกผ่านหลังคารถลอยฟ้าและลงบนที่นั่งพอดีคนขับกลัวแต่ก่อนจะได้พูดหานเชี่ยวก็เตะเขาออกไปและโยนเขาไปยังเบาะหลัง

 

หานเชี่ยวรีบนั่งบนที่นั่งคนขับและคว้าพวงมาลัย เขารู้สึกถึงความคุ้นเคยทันทีวินาทีต่อมารถก็บินขึ้นและเบี่ยงจากเส้นทางเดิมหยุดนอกรูในกําแพงโรงแรม

 

“ออกมา!” หานเซี่ยวกล่าวพลางเปิดประตู

 

ผู้คนเบียดเสียดกันเข้ามา ก่อนเฮอลัสจะได้เข้า สัญญาณเตือนภัยก็ดังขึ้นหานเซี่ยวมองกระจกหลังและเห็นขบวนรถตํารวจกําลังบินโฉบมา

 

นี่คือโรงแรมระดับสูง ดังนั้นจึงมีตํารวจสายตรวจมากมายอยู่ใกล้ๆความโกลาหลเกิดขึ้นและโรงแรมก็ได้แจ้งสถานการณ์ให้พวกเขารับรู้

 

หานเซี่ยวไม่กล้ารอต่อ เขาควบคุมรถให้ขับหนีและตะโกน”กระโดดเร็ว!”

 

เฮอลัสกรีดเปิดทางด้วยหลังดาบและกวาดทหารออกไปจากนั้นก็รีบหันมาและวิ่งมายังรูบนกําแพงด้วยการก้าวที่ทําให้พื้นแตกเขาข้ามเกือบร้อยเมตรในอากาศเหมือนบินได้และกระโดดเข้ารถจากรูที่หานเชี่ยวระเบิดก่อนหน้า

 

“เกือบไป เกือบไป”

 

เฮอลัสยังไม่ฟื้นตัวจากการต่อสู้ดุเดือดก่อนหน้าทันใดนั้นเขาก็รู้สึกว่าเขานั่งอยู่บนบางสิ่งที่นุ่มนวลเขาก้มมองและมันกลับกลายเป็นว่าเขากําลังนั่งบนหน้าของคนแปลกหน้า เขาถามด้วยน้ําเสียงแปลกใจ”นี้ใครกัน?”

 

“คนขับที่ใจดีให้รถเรา…เห้ย!อย่าไปนั่งบนหน้าเขาสิทําความขอบคุณหน่อย”

 

เมื่อเห็นทุกคนมากันครบ หานเซี่ยวก็เหยียบคันเร่งและพุ่งไปข้างหน้าเหมือนแรด

 

ไม่เพียงแต่รถตํารวจจะไล่ตามมา แต่ยังมีด้านหน้าด้วยแต่ทว่าขณะที่พวกเขาอยู่ในอากาศมันไม่ได้มีแค่ข้างหน้าและหลังให้ไป ดังนั้นมันจึงไม่มีทางหยุดพวกเขาได้

 

ความปั่นป่วนทําให้คนในรถรู้สึกเหมือนพวกเขากําลังนั่งอยู่ในกระป๋องปลาที่สั่นสะเทือนอย่างรุนแรงเฮอลัสอยากถามหานเซี่ยวว่าทําไมถึงทําแบบนี้ แต่เขาก็ไม่มีทางเลือกนอกจากต้องเก็บมันไว้ก่อนเขากลัวว่าเขาอาจอ้วกออกมาหากเปิดปาก

 

อโรเชียเปลี่ยนเป็นรูปแบบพลังงานและรู้สึกดีขึ้น

 

ซิลเวีย ผู้หมดสติจากคลื่นพลังจิตก่อนหน้าค่อยๆตื่นขึ้นโลกตรงหน้าเธอหมุนอย่างบ้าคลั่งทําให้เธอคิดว่าเธอมีอาการสั่นสะเทือนในเวลาไม่ถึง30วินที่หลังเธอตื่น เธอก็รู้สึกคลื่นไส้และอาเจียน พร้อมหมดสติไปอีกครั้ง

 

“หยุดรถเดี๋ยวนี้ ไม่งั้นเราจะยิง!” เสียงประกาศจากลําโพงบนรถตํารวจดังขึ้น

 

หานเซี่ยวคว้าพวงมาลัย รถเขาชนเข้ากับท้ายรถตํารวจคันนั้นตรงๆรถตํารวจหมุนอย่างรวดเร็วในอากาศเหมือนใบพัด และเสียงตะโกนก็ดังออกมา

 

หานเชี่ยวรู้สึกไร้ความกดดันเมื่อเผชิญกับกองกําลังสมัครเล่นแบบนี้เขาดาวน์โหลดแผนที่ของเมืองทั้งเมืองจากฐานข้อมูลชุดจักรกล และผู้ช่วยปัญญาประดิษฐ์ก็รีบวางแผนเส้นทางและแสดงมันบนหน้าจอวิเคราะห์

 

หลังผ่านไปกว่าสิบนาที เขาก็รีบกําจัดผู้ไล่ตามทั้งหมดรถลอยจอดที่ช่องว่างระหว่างอาคารสองหลัง

 

อ้วก!

 

เฮอลัสเกาะหน้าต่างรถและอ้วกสักพักก่อนจะรู้สึกดีขึ้นเขาหายใจแรงจ้องหานเซี่ยวและกล่าวด้วยน้ําเสียงเกรี้ยวกราด” หัวหน้าที่ที่รักตอนนี้นายมีเวลาอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นให้ขี้ข้าบ้างรึยัง?”

 

เขาโกรธมาก กระบวนการเก็บรางวัลปกติกลับกลายเป็นการถูกทั้งเมืองไล่ล่า นอกจากนี้ พวกเขายังลักพาตัวดาราดัง

 

หากมันเป็นผู้หญิง มันคงไม่เป็นไร แต่มันคือผู้ชาย!นายคิดทําอะไรกันแน่หัวหน้า!

 

หานเซี่ยวเปลี่ยนตําแหน่งเขาและมองเบาะหลังชี้ไปยังหัวเฉินซิ่งที่เลอะคราบเลือด”เป้าหมายฉันคือเขา เขาไม่ได้ง่ายอย่างที่เห็น”

 

“..ขอบคุณที่เตือน ฉันไม่รู้เลยว่าผู้ใช้พลังจิตระดับBเป็นพวกเก่ง!”เฮอลัสกัดฟัน

 

ด้วยความกังวลที่เขียนอยู่ทั่วใบหน้า โวลก้าคนสุดท้องกล่าว”เขาเป็นดาราดังมากเราจะต้องถูกตํารวจท้องถิ่นไล่ล่าและอาจถูกรายงานไปยังกรมตํารวจของพันธมิตรฟีเล็นใหม่นี่จะทําลายชื่อเสียงทหารรับจ้างเรา นอกจากนี้ ระบบดาราฝนคือเขตแดนของพันธมิตรฟีเล็นใหม่ เราควรทํายังไงกัน?”

 

“ไม่ต้องห่วง” หานเยี่ยวมองเฉินซิ่งและกล่าว” ชายคนนั้นจะพูดให้เราและตราบเท่าที่เขาทําเราก็จะไม่เป็นไร”

 

“นายจะข่มขู่เขา?ฉันคิดว่ามันคงไม่ได้ผลนะ” เฮอลัสแสดงสีหน้าสงสัย

 

“ข่มขู่ ไม่จําเป็นหรอก” หานเชี่ยวยิ้ม”เขาจะเลือกช่วยเรา”

 

เมื่อเขาพูด เขาก็ดึงเฉินซิ่งออกมาและโยนเขาไปยังที่นั่งผู้โดยสารหลังไตร่ตรอง เขาก็หยิบเอาทิชชูออกมาและปาดเลือดบนหน้าเฉินซิ่ง

 

หน้าของเฉินซึ่งเต็มไปด้วยรอยฟกช้ํา หน้าตาละเอียดอ่อนของเขาในช่วงการแสดงกลับหายไป

 

“ก่อนหน้านี้ฉันใช้พลังไปมาก เห้อ เขาเป็นหนุ่มหล่อนะช่างน่าสงสาร…”

 

หานเซี่ยวถอนหายใจอย่างเห็นอกเห็นใจ

 

เหี้ย เหี้ย เพี้ย!

 

เนื่องจากหน้าเขาเละเทะอยู่แล้ว หานเชี่ยวจึงให้บริการตบเขาเป็นการปลุก

 

ขนตาของเฉินซิงขยับ และเขาก็ค่อยๆลืมตา รูม่านตาเขาค่อยๆจดจ่อและนั่งตัวตรง

 

อารมณ์ของเขาเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงหากก่อนหน้าเขาเป็นเหมือนผู้หญิงทรงเสน่ห์ ตอนนี้เขาก็เหมือนผู้ชายแข็งแกร่งเขาหันไปมองหานเซี่ยวและยิ้มสงบไม่มีวี่แววว่าจะโกรธ

 

“สวัสดี ฉันเพิ่งได้เห็นหน้านาย แม้นายอาจโจมตีฉันเพื่อลักพาตัวแต่ฉันก็ยังอยาก ขอบคุณนายที่ให้โอกาสฉันได้ออกมาสูดอากาศบริสุทธิ์”

 

ไม่เหมือนกับน้ําเสียงที่เป็นผู้หญิงก่อนหน้า เสียงเขาอ่อนโยนและลึกซึ้งมันเกือบเหมือนว่าเขาเป็นคนละคน

 

“คะ-คุณ..”เฮอลัสสับสน

 

เฉินซึ่งพยักหน้าและยิ้มเบาๆ

 

“ยินดีที่ได้รู้จัก ชื่อของฉันคือเอเดรี้ยน เคลวินซิน เฟย์ดินนายสามารถเรียกฉันว่าเฟย์ดินได้นายไม่ต้องแปลกใจ ฉันเป็นเจ้าของร่างนี้จริงๆ เฉินซึ่งที่นายเจอจะอธิบายไงดีนะ…เธอคือแขกที่ไม่ค่อยจะเป็นมิตรนัก”