แดนนิรมิตเทพ บทที่ 525
เมื่อเห็นบอดี้การ์ดนอนร้องโหยหวนอยู่บนพื้น ทุกคนต่างตกตะลึงจนอ้าปากค้าง!

ยอดฝีมือ!

เจ้าเด็กคนนี้เป็นยอดฝีมือที่ปกปิดได้ลึกจริง ๆ!

อานซื่อเฉิงตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นสีหน้าเต็มไปด้วยความประหลาดใจ!

มีความตกใจปรากฏอยู่ในดวงตาของชายชราแขนเดียว แค่เขาสะบัดมือก็สามารถทำให้บอดี้การ์ดพวกนั้นกระเด็นออกไป แม้แต่เขาก็ทำไม่ได้

“เจ้าหนู นึกไม่ถึงว่าแกก็เป็นนักบู๊ด้วย ปกปิดได้ลึกมาก แม้แต่ฉันก็ยังมองพลาดไป!”

กงซุนจื่อยิงตกตะลึงเล็กน้อย มองเฉินโม่และกล่าวเยาะเย้ยว่า “มิน่าแกถึงกล้าทำให้ฉันอับอาย ที่แท้นี่ก็คือที่พึ่งพาอาศัยของแก แต่น่าเสียดายถึงแม้ว่าแกจะเป็นนักบู๊ แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าอาจารย์อาของฉันแล้ว แกก็เป็นเพียงมดตัวหนึ่งเท่านั้น”

“วันนี้แกหนีออกไปจากที่นี่ไม่ได้หรอก!”

เฉินโม่กล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “หนี? ทำไมผมต้องหนีด้วย? การที่ผมมาที่นี่ก็เพื่อมาหาพวกคุณ”

กงซุนจั่วเสวียนมองเฉินโม่ด้วยสีหน้าเคร่งขรึม เขารู้สึกว่าเฉินโม่มีความมั่นใจมากเกินไป ซึ่งไม่สอดคล้องกับอายุของเขา

“ถ้าเด็กหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าไม่ใช่คนโง่เขลาที่จองหอง แสดงว่าเขามีความแข็งแกร่งเพียงพอที่จะทำให้เขาจองหองจนไม่เห็นใครอยู่ในสายตา!”

สีหน้าของกงซุนจั่วเสวียนเคร่งขรึม และถามด้วยความเย็นชาว่า “เจ้าหนู แกเป็นใครกันแน่? ทำไมแกถึงเข้ามายุ่งเรื่องของตระกูลกงซุน?”

เฉินโม่ยิ้มด้วยความหยอกล้อ มองกงซุนจั่วเสวียนแล้วกล่าวว่า “ฉันเป็นใคร? แกพูดอยู่ตลอดเวลาว่าจะแก้แค้นฉัน แต่กลับไม่รู้ว่าฉันเป็นใคร?”

“ฉันเป็นคนที่สร้างน้ำชีวิตขึ้นมาเอง”

หลังจากกล่าวจบ เฉินโม่มองกงซุนจั่วเสวียนที่สีหน้าเต็มไปด้วยความตกใจ ด้วยรอยยิ้มที่เหมือนจะยิ้มแต่ไม่ยิ้ม

กงซุนจั่วเสวียนอุทานออกมาด้วยความไม่อยากจะเชื่อ “แกก็คือเฉินไต้ซือ!”

“เป็นไปได้ยังไง? เฉินไต้ซือเป็นนักเรียนมัธยมปลายเหรอ!”

กงซุนจั่วเสวียนรู้เพียงแค่ชื่อของเฉินไต้ซือเท่านั้น แต่ไม่เคยเห็นรูปร่างหน้าตาของเฉินไต้ซือ ตระกูลจินแห่งฮ่านหยางไม่เคยบอกตระกูลกงซุนเกี่ยวกับอายุของเฉินไต้ซือ มีเพียงกงซุนหลีคนเดียวเท่านั้นที่เคยเห็นหน้าเฉินไต้ซือ แต่เขาถูกความแค้นครอบงำจนสติแตก และไม่ได้บอกอายุของเฉินไต้ซือให้กงซุนจั่วเสวียนทราบเช่นกัน

ดังนั้น กงซุนจั่วเสวียนก็มีความคิดเหมือนคนทั่วไป คิดว่าเฉินไต้ซือเป็นชายชราผมขาว ซึ่งสอดคล้องกับภาพลักษณ์ของคำว่า “ไต้ซือ” ในใจของผู้คน

ชื่อเสียงของเฉินไต้ซือดังก้องไปทั่วฮ่านหยาง ด้วยยุคสมัยที่ข้อมูลข่าวสารเปิดกว้าง คนชั้นสูงของมณฑลซีไห่ส่วนใหญ่จะเคยได้ยินชื่อเสียงของเฉินไต้ซือ แต่ตอนนี้เมื่อเห็นใบหน้าที่แท้จริงของเฉินไต้ซือแล้ว ทำให้พวกเขาตกใจจนอ้าปากค้าง

“เขาคือเฉินไต้ซือ! เป็นเรื่องที่คาดไม่ถึงจริง ๆ!”

“เฉินไต้ซือจะเป็นนักเรียนมัธยมปลาย เขาทำให้ฮ่านหยางสั่นสะเทือนได้อย่างไร? แล้วผู้ทรงอิทธิพลของฮ่านหยางเหล่านั้น ยอมให้นักเรียนมัธยมปลายคนหนึ่งอยู่เหนือพวกเขาได้อย่างไร?”

“ได้ยินว่าแม้แต่ตระกูลจินแห่งฮ่านหยาง ก็ยอมจำนนต่อเฉินไต้ซือแล้ว เฉินไต้ซือคนนี้ต้องมีอะไรพิเศษกว่าคนอื่น!”

“พิเศษกว่าคนอื่น? เขาเป็นเพียงเด็กที่ยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมคนหนึ่งเท่านั้น มีอะไรพิเศษกว่าคนอื่นได้อย่างไร ผมคิดว่าเหล่าผู้ทรงอิทธิพลส่วนใหญ่ของแห่งฮ่านหยางสมองเลอะเลือนไปแล้ว! ถึงได้ถูกเจ้าเด็กคนนี้ทำให้สับสนมึนงง”

กลุ่มคนชั้นสูงของมณฑลซีไห่รู้สึกดูถูกเฉินโม่เล็กน้อย ถ้าไม่ใช่เพราะเมื่อสักครู่ที่เฉินโม่แสดงฝีมือออกมา เกรงว่าคนเหล่านี้คงจะหัวเราะเยาะเสียงดังแล้ว

กงซุนจั่วเสวียนเพิ่งจะมีปฏิกิริยาตอบสนอง เขามองเฉินโม่และกล่าวเยาะเย้ยว่า “เจ้าหนู แกอย่ามาหลอกฉัน เฉินไต้ซือจะเป็นคนอย่างแกได้อย่างไร? บอกมาเถอะว่าแกเป็นใครกันแน่!”

เมื่อเห็นว่ากงซุนจั่วเสวียนเกิดความสงสัย คนที่เหลือต่างก็รู้สึกสงสัยสถานะของเฉินโม่เช่นกัน

“ผมบอกแล้วว่าเขาไม่ใช่เฉินไต้ซือหรอก คุณดูสิ! แม้แต่เจ้าบ้านกงซุนก็ไม่เชื่อ เฉินไต้ซือจะอายุน้อยขนาดนี้ได้อย่างไร!”

“นึกไม่ถึงว่าเจ้าเด็กคนนี้จะกล้าแอบอ้างเป็นเฉินไต้ซือ ช่างน่ารังเกียจจริง ๆ หวังว่าเจ้าบ้านกงซุนจะสอนบทเรียนให้เขาอย่างหนัก!”

แม้แต่อานซื่อเฉิงก็ไม่เชื่อว่าเฉินโม่จะเป็นเฉินไต้ซือ เขายิ้มด้วยความขมขื่นและกล่าวว่า “น้องชาย ถึงแม้ว่าทักษะฝีมือของนายจะไม่เลว แต่ถ้าบอกว่านายคือเฉินไต้ซือที่ชื่อเสียงสั่นสะท้านไปทั่วฮ่านหยาง มันยากที่จะเชื่อจริง ๆ!”