ตอนที่ 89 เสียสละไอคิวของฉัน

The rise of the white lotus

ตอนที่ 89 เสียสละไอคิวของฉัน

 

หลังจากอีธานลู่วางสายไป รอยยิ้มกว้างก็เพิ่มขึ้นทั่วใบหน้าของเขา ความกล้าหาญและความเมินเฉยต่ออารมณ์ของเขาได้รับประโยชน์มหาศาลสําหรับเขาแล้ว ตอนนี้เขามีเหตุผลที่จะออกไปไหนมาไหนกับเธอแล้ว

 

ตัวตนที่ไม่เคยเป็นมาก่อนกับการยื่นข้อเสนอนั้นให้เธอ ภาพทุกอย่างที่ถูกย้อนในจิตใจเขาและหัวใจที่แสนโง่เขลา

 

“ นายน้อย”

 

ทันใดนั้นลิริคเจียงก็กลับเข้ามา เพราะมีเรื่องให้มารายงานต่ออีธานลู่ ทันทีที่เขาเห็นเจ้านายของเขายิ้มแย้ม ลิริคก็ผงะเล็กน้อย

 

“… เอ่อ” ชั่ววินาทีที่เขาคิดว่าห้องทํางานของอีธานมีประกายวิบวับและดอกไม้ปลิวว่อนจากออร่าของเจ้านายของเขา เขาก็ต้องกระพริบตาสองสามครั้งเพื่อดูว่ามันเป็นเพียงแค่จินตนาการจากรอยยิ้มที่เหมือนฤดูใบไม้ผลิของอีธานลู่หรือเรื่องจริงกันแน่

 

“โอ้ ลิริคมีอะไรเหรอ?” เมื่อได้ยินเสียงผู้ช่วยของเขา อีธานลู่ก็หันกลับมาพร้อมกับรอยยิ้มเต็มริมฝีปาก

 

จากท่าทางที่เห็น อีธานลู่ดูเหมือนว่าเขาจะสดชื่นขึ้นและพร้อมที่จะทํางานเหมือนคนทั่วไปแล้ว ไม่มีร่องรอยเกี่ยวกับสีหน้าเหนื่อยล้าของเขาก่อนหน้านี้แม้แต่น้อย ราวกับว่าเขาไม่เคยรู้สึกทุกข์ใจมาก่อนหน้านี้

 

“ เอ่อ นายน้อยครับ…สบายดีใช่ไหมครับเนี่ย?” ด้วยความระมัดระวัง ลิริคเจียงเดินเข้าไปข้างในห้องอย่างช้าๆ และเว้นระยะหลายช่วงตัวห่างจากโต๊ะทํางานของอีธานลู่

 

อีธานลู่เป็นคนร่าเริงและซุกซนอยู่เสมอ อย่างไรก็ตาม การกระทําของเขาก่อนหน้านี้เป็นสัญญาณบ่งบอกว่าเขาไม่ได้อยู่ในอารมณ์ที่จะเล่นเหมือนปกติ นอกจากนี้ ด้วยท่าทางเช่นนั้นเขาคงล้มเลิกทํางานในวันนี้แล้วแน่ หรือไม่ก็ไม่กลับมาทํางานในตระกูลลู่ที่แสนเหน็ดเหนื่อยอีก

 

แต่ตอนนี้เจ้านายของเขากําลังยิ้มราวกับว่าเขาแทบจะไม่เหน็ดเหนื่อยแบบก่อนหน้านี้ เกิดอะไรขึ้นตอนเขาไม่อยู่กัน?

 

” แน่นอนอยู่แล้วว่าฉันสบายดี! แล้วนายล่ะ? นายดูไม่ดีนะจากที่ฉันเห็น ” เมื่อมองไปที่ผู้ช่วยที่ไว้ใจได้ของเขา ด้วยความตกใจ อีธานแสดงความคิดเห็นอย่างตรงไปตรงมาเกี่ยวกับท่าทางของลิริค

 

ในมุมมองของอีธาน ผู้ช่วยของเขานับวันยิ่งแปลกขึ้นทุกที ด้วยสไตล์แต่งตัวที่ล้าสมัยของเขาและทรงผมปาดข้างสุดเห่ยนั่น และลิริคเป็นคนบ้างานมากเกินไปจนเขาไม่เคยมีแฟนเลย! จะเป็นอย่างไร? หากเขาไม่เคยรู้สึกถึงมีผีเสื้อบินอยู่ในท้อง?

 

” คิ คิ คิ ต้องการให้ฉันนัดเดตให้นายมั้ย? ” ด้วยความสงสารชายที่อยู่ตรงหน้าของเขา อีธานสายหัวในขณะที่เขายื่นข้อเสนอจากความดีงามของหัวใจที่ไร้เดียงสา

 

เมื่อกระแอมไอออกมา ลิริคเจียงแทบจะกระอักเลือด ในขณะที่เขาไม่อยากเชื่อสิ่งที่ได้ยินจากนายจ้างที่ไร้ยางอายของเขา เสนอให้เขาอย่างนั้นจริงๆเหรอ? ทําไมเขาถึงอยากเล่นเกมเป็นกามเทพกัน กับคนที่สามารถฉกผู้หญิงได้ทันทีเพียงแค่ขยิบตายั่วยวนเนี่ย?

 

เมื่อลิริคตั้งสติได้เขาก็พูด “ ไม่ล่ะครับ ขอบคุณนายน้อยมาก” เขากล่าวเสริมว่า

 

” นายน้อย ผมกลับมาเพื่อบอกคุณว่าประธานลู่กําลังเดินทางมาที่นี่”

 

ข่าวที่ลิริคเอ่ยออกมาท่ามกลางบรรยากาศครึกครื้นของอีธาน ขณะที่เขาประมวลผลข้อมูลในใจ ขากรรไกรของอีธานก็ค่อยๆหุบลงอย่างช้าๆ ขณะที่ความตื่นตระหนกห่อหุ้มอยู่ในใจของเขา

 

” น- นายบอกว่าคุณปูจะมาเหรอ?..” เขาถามอย่างตะกุกตะกักเพื่อยืนยัน

 

ในขณะเดียวกันห้องทํางานของอีธานก็ถูกเปิดอย่างเข้มงวด โดยกลุ่มชายฉกรรจ์จํานวนมากและมีกล้ามเนื้อใหญ่โต แล้วก็ล่วงล้ำเข้ามาในก้องโดยไม่ได้รับอนุญาต เมื่อบอดี้การ์ดสองเข้ามาในห้องทํางานของเขา ผู้อาวุโสในชุดทักซิโด้ลายทางและไม้เท้าก็ปรากฏตัวขึ้น

 

” หึหึหึ เสร็จฉันล่ะไอ้หลานสารเลว! ในที่สุดฉันก็ทําให้แกจนมุมได้!” เมื่อมองตรงไปที่ใบหน้าที่ตกใจของอีธานชายชราก็เยาะเย้ยอย่างมีชัย

 

แม้จะมีริ้วรอยบนใบหน้าของเขา แต่ไม่ได้ปกปิดรูปลักษณ์ที่มีเสน่ห์ดั้งเดิมไว้ ผมสีดอกเล้าโดยมีผมสีดําแซมเล็กน้อยถูกปัดเสย หนวดเคราน่าชม และดวงตาคมที่มีผ้าปิดตา

 

แม้ว่าอายุจะอยู่ในช่วงกลาง 70 ปีแล้ว แต่เอ็ดเวิร์ดลู่ก็ยังคงเปล่งออร่าที่สง่างาม แต่น่าเกรงขามไว้อยู่ อย่างไรก็ตามวิธีที่เขายิ้มเยาะต่อหลานชายที่กตัญญูของเขา ใคร ๆ ก็บอกได้ว่านั่นคือวันโลกาวินาศของอีธานแล้ว

 

เล็กซี่มองไปที่โทรศัพท์ของเธออย่างช้าๆพร้อมกับสีหน้าตกตะลึง เธอและอีธานเพิ่งกลายเป็นเพื่อนออกกําลังกายแบบนั้นหรือเปล่า? ไม่ใช่ว่าเธอไม่รู้ว่าเธอเป็นคนบ่น แต่ทําไมเธอถึงรู้สึกว่างานของเธอเสร็จสิ้นเพราะอีธาน โดยที่ไม่ต้องออกแรงเลยสักนิด?

 

“ เอ่อ มาดาม ออกกําลังกายนี่นับเป็นการกางานมั้ย? ” เล็กซี่ขยับสายตาที่อยากรู้อยากเห็นของเธอไปยังใบหน้าน่าสนใจของชูรู

 

เนื่องจากเล็กซี่และชูรูทั้งคู่สงบใจที่ขุ่นเคืองของพวกเขาก่อนหน้านี้ก็แล้ว ดังนั้นทั้งสองจึงดูเหมือนว่าพวกเขาไม่ได้ทะเลาะกันเมื่อครู่

 

” อืม มันไม่ได้ชู -!” ชูรยิ้มอย่างอ่อนโยนเมื่ออารมณ์ของเธอสดใสขึ้นหลังจากการโทรครั้งนั้น อย่างน้อยเธอก็สามารถพึ่งพาอีธานลู่ได้มากกว่าโฮสต์ของเธอ

 

นอกจากนี้จังหวะของเขาก็ช่างสมบูรณ์แบบ! ดังนั้นชูรูจึงรู้สึกมั่นใจมากขึ้นว่าการรุกรานของอีธานในครั้งนี้จะช่วยได้มากในการทําภารกิจ

 

“ ควรไปสมัครงานกับพ่อฉันดีไหม? ” เนื่องจากนี่เป็นแผนการเริ่มต้นของเล็กซี่ที่ไปรับตําแหน่งในบริษัทตระกูลหยาง

 

ขณะที่เล็กที่ตัดสินใจอยู่นั้นโทรศัพท์ของเธอก็ดังขึ้นอีกครั้ง เมื่อมองไปที่หน้าจอคิ้วของเธอก็ โค้งขึ้นเมื่อเห็นหมายเลขโทรศัพท์ผู้จัดการของเธอที่โทรหาเธอ

 

” ทําไมเธอถึงโทรหาฉัน?” เธอพึมพําด้วยความสงสัย

 

” อืม ใครเหรอชู?”

 

” เป็นผู้จัดการของฉันเอง ” เธอคิดว่าเธอควรรับสาย ตัดสายหรือเพิกเฉยดี จากการที่คิดว่าทําไมอดีตผู้ดูแลของเธอถึงโทรหาเธอ

 

” ย่าาา หยิบมันขึ้นมา ฉันจะสาปแช่งเธอและบรรพบุรุษของเธอเอง” ชูรูกลอกตากับท่าที่ไม่เต็มใจของเล็กซี่ ชูรรู้สึกว่าเมื่อเล็กซี่ตัดสินใจที่จะเปลี่ยนแปลงเพื่อเป็นคนที่ดีขึ้น แต่กลับดูเหมือนว่าเธอจะกลายเป็นคนขี้ขลาดลง ชูรูเอียงหัวเล็กน้อย เธอกล่าวเสริมว่า

 

” ทําไมคุณถึงเป็นคนขี้ขลาดแบบนี้ เพียงแค่รับสายเอง”

 

“ ฉันขี้ขลาดเหรอ? ทําไมพูดแบบนั้นล่ะ” เธอปล่อยให้เสียงโทรศัพท์ดังไม่หยุด เล็กซี่เอียงศีรษะขณะที่เธอมองไปที่ชูรู

 

“ แล้วทําไมคุณต้องลังเลที่จะรับสายล่ะ?” ชูรูทําหน้ามุ่ย

 

” เพราะฉันต้องเสียสละไอคิวของฉันเมื่อคุยกับเธอยังไงล่ะ ฉันจําเป็นต้องจ่ายราคามหาศาลนี้หรือ?ไม่ ไม่คู่ควรเลย ” เล็กซี่ยักไหล่ขณะที่เธอตอบด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง เธอปิดเสียงโทรศัพท์ของเธอโดยไม่สนใจอีกต่อไป