ตอนที่ 945 ไม่จบไม่สิ้น

Elixir Supplier

945 ไม่จบไม่สิ้น

“หรือว่าจะมีพิษ?”

“ใช่ ระวังไว้ก่อนดีกว่านะครับ”

“ดูเสื้อผ้าที่พวกเขาใส่สิ” หลู่ซิ่วเฟิงชี้ไปที่ชายที่นอนอยู่บนพื้น

“ใช่ พวกเขาเป็นคนจากหุบเขาพันโอสถ

พวกเขาใส่ผ้าทอมือทําให้สามารถจดจําได้ง่าย

“เหมือนจะเป็นแบบนั้นจริงด้วย!”

สถานที่โดยรอบถูกปิดกั้นการเข้าออกร่างผู้เสียชีวิตและผู้ที่ได้รับบาดเจ็บถูกพาไปโรงพยาบาลและแยกตัวจากคนไข้คนอื่นๆแพทย์พบพิษที่อยู่บนตัวของชายที่ได้รับบาดเจ็บผลการตรวจออกมาในเวลาไม่นานและตัวอย่างถูกส่งต่อไปให้ทางปักกิ่ง

หยางกวนเฟิงกับหลู่ซิ่วเฟิงนั่งดื่มและสูบบุหรี่อยู่ด้วยกันภายในร้านอาหารแห่งหนึ่งทั้งสองต่างขมวดคิ้วมุ่นหลู่ซิ่วเฟิงไม่ได้มีท่าทีผ่อนคลายอีกต่อไป

“คนจากหุบเขาพันโอสถอย่างนั้นเหรอ?”

“อย่างน้อย นั่นก็เป็นสิ่งที่เราบอกได้จากเสื้อผ้าที่พวกเขาใส่”

“พวกเขาบ้าไปแล้วเหรอ?”หยางกวนเฟิงถาม เขาไม่เข้าใจอะไรเลยคนพวกนั้นคิดอะไรกันอยู่?ทําไมถึงต้องเป็นตอนนี้?ในขณะที่คนอื่นๆต่างระวังตัวกันอยู่แล้วทําไมพวกเขาถึงได้เสี่ยง

ท่าเรื่องแบบนี้ด้วย?

“ไม่ว่าจะมองยังไง มันก็เหมือนการจัดฉาก”

“ลองสืบดูก็รู้แล้วทางเขตกําลังทําการสํารวจสํามะโนครัวอยู่ไม่ใช่เหรอ? ในเมื่อต้นเหตุมันอยู่ที่หุบเขาพันโอสถเราก็ต้องลองเอาไปเทียบกับข้อมูลที่มีอยู่ดู”

“ได้”

ทั้งสองพกบัตรประจําตัวไว้กับตัวด้วย

ในวันที่เกิดเหตุพวกเขาค้นเจอบัตรประจําตัวของคนทั้งสองพวกเขาเป็นคนจากหุบเขาพันโอสถและใช้แซ่เอี่ยว

“มันเป็นคดีที่เกี่ยวเนื่องกันจริงๆด้วย!”

“แล้วคนที่ถูกพิษสิบกว่าคนนั้นเป็นยังไงบ้าง?”

“ตอนนี้ตายไปหกคนแล้ว ส่วนคนอื่นก็อยู่ในอาการโคม่า”

“เฮ้อ เราต้องหาทางไขคดีนี้ให้ได้เร็วที่สุด”หลู่ซิ่วเฟิงพูด“ถ้าคนที่เหลือตายก็มีแต่จะทําให้เรื่องแย่ลงกว่าเดิม”

พวกเขาต่างวิตกกังวลผู้ว่าเขตอู่ซานเอาแต่ทําหน้าเหมือนคนที่ถูกไฟลนก้นอยู่ตลอดเวลาบรรดาเจ้าหน้าที่รัฐของทั้งเขตและเมืองต่างอยู่ในอาการหวั่นวิตกกันถ้วนหน้า

ไม่มีใครรู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นมีผู้เสียชีวิตเกือบ 30 คนภายในระยะเวลาสั้นๆความจริงข้อนี้แสดงให้เห็นถึงความร้ายแรงของคดีนี้ได้เป็นอย่างดี

ภายในหุบเขาพันโอสถที่ห่างออกไปเมี่ยวซีเหอดูประหลาดใจกับข่าวที่เขาได้รับ“ผู้น่า”

“เป็นฝีมือของเที่ยวเทียนชวน”เมี่ยวซีเหอถอนหายใจ“ฉันประเมินเขาต่ําเกินไปไม่มีอะไรที่เขาไม่กล้าทํา เขายินดีทําทุกอย่างเพื่อการแก้แค้น!”

ตอบ

“แล้วตอนนี้พวกเราจะทํายังไงกันดีครับ?”

“รอไปก่อน ฉันมั่นใจว่าหยางกวนเฟิงกับคนอื่นๆต้องติดต่อมาหาเราเร็วๆนี้แน่”เมี่ยวซีเหอ

“แล้วเรื่องของเสี่ยวเหอล่ะ?”เขาถาม

“เขาดูปกติดีครับ เราเลยเพิ่มตัวยาเข้าไปอีก”

“ดีมาก ต้องปลอดภัยไว้ก่อนจําเรื่องนี้เอาไว้ให้ดีล่ะ”เมี่ยวซีเหอพูด

“ครับ ผู้นํา”

“เมี่ยวเทียนชวนสมกับที่มีพรสวรรค์สูง”เมี่ยวซีเหอถอนหายใจ“น่าเสียดายจริงๆ”

เขตอู่ซานที่ตั้งอยู่ด้านนอกหุบเขา

“คุณได้ติดต่อคนในหุบเขารึยัง?”หยางกวนเฟิงถาม

“อืม ผมติดต่อพวกเขาไปแล้วพวกเขาน่าจะกําลังเดินทางออกมากันอยู่”หลู่ซิ่วเฟิงพูด“ดีติดต่อไปหาพวกเขาก่อนที่จะทําอะไรถือเป็นการดีที่สุด”

ไม่ว่าผู้ที่ลงมือจะเป็นใครสิ่งสําคัญในเวลานี้ก็คือการรักษาเหยื่อที่เหลืออยู่ในรอดชีวิตเพื่อป้องกันไม่ให้สถานการณ์แย่ลงไปกว่านี้

วัยหกมาที่เขตอู่ซานหลังจากที่พวกเขามาเจอหน้ากันแล้วพวกเขาก็พากันเดินทางเข้าเมืองเพื่อคนจากหุบเขาพันโอสถเดินทางมาถึงอย่างรวดเร็วเมี่ยวชิงเฟิงพาเมี่ยวฉางหงกับชายชราใน

ดูอาการของเหยื่อที่ยังอยู่ในอาการโคม่า

คนจากหุบเขาพันโอสถได้นํายาติดตัวมาด้วยหลังจากตรวจดูอาการแล้วเดี๋ยวฉางหงกับชายชราก็ลงมือรักษาคนไข้ในทันทีใช้เวลาไม่ถึงหนึ่งชั่วโมงยาที่ให้ไปก็เริ่มแสดงผลและสามารถรักษาชีวิตเหยื่อเอาไว้ได้

แพทย์พยาบาลต่างพากันโล่งอกพวกเขาต่างตกอยู่ภายใต้ความกดดันเพราะตั้งแต่ที่ถูกส่งตัวมาถึงที่โรงพยาบาลก็มีคนเสียชีวิตไปแล้วสามคน ถ้าจํานวนผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเรื่อยๆคนที่ต้องรับความผิดนั้นก็คือพวกเขาเมื่อเหยื่อที่เหลืออยู่ยังมีชีวิตเหล่าผู้นําที่คอยติดตามคดีอย่างใกล้ชิดต่างพากันโล่งใจเมื่อได้รับทราบข่าวนี้ อย่างน้อยมันก็หมายถึงจํานวนของผู้เสียชีวิตที่ไม่ได้เพิ่มขึ้นอีกมันช่วยไม่ให้สถานการณ์เลวร้ายลงกว่าเดิมได้

ตอนนี้พวกเขาจึงหันไปให้ความสําคัญกับการไขคดีแทนพวกเขาต้องหาให้ได้ว่าเป็นฝีมือของใครเป็นฝีมือของคนคนเดียวหรือว่าทํากันเป็นกลุ่มคนที่ท่าต้องบ้ามากที่สร้างคดีร้ายแรงขึ้น

ภายในช่วงเวลาสั้นๆแบบนี้พวกเขาสังหารคนไปแล้วมากมาย

เพื่อเป็นการแสดงความขอบคุณหลู่ซิ่วเฟิงกับหยางกวนเฟิงก็ได้พาเมี่ยวชิงเฟิงกับคนของเขาไปเลี้ยงข้าว

“ขอบคุณพวกคุณที่ช่วยไม่ให้สถานการณ์แย่ลงไปกว่านี้รวมไปถึงเรื่องการช่วยชีวิตเหยื่อแต่ละคนด้วยนะครับ”

“เกรงใจเกินไปแล้วล่ะครับ”เมี่ยวชิงเฟิงพูด“ผมรู้ดีว่า ตอนนี้ทุกอย่างต่างก็ชี้มาทางพวกเราทั้งที่มันไม่ได้เกี่ยวกับพวกเราเลยสักนิด”

“แล้วสองคนนั้นล่ะครับ?”

“พวกเขาเป็นคนจากหุบเขาของเราครับ” เดี่ยวชิงเฟิงยอมรับ

พวกเขาไปดูหน้าคนทั้งสองที่คนหนึ่งเสียชีวิตและอีกคนได้รับบาดเจ็บก่อนที่พวกเขาจะเดินทางไปรักษาเหยื่อเดี่ยวชิงเฟิงยืนยันตัวตนของคนทั้งสองได้ทันทีว่าพวกเขาเป็นคนของหุบเขา

“คุณเคยบอกไม่ใช่เหรอครับ ว่าคนในหุบเขาไม่ค่อยออกมาข้างนอก? แล้วทําไมพวกเขาสองคนถึงมาอยู่ที่นี่ได้ล่ะครับ? ทําไมพวกเขาถึงมาอยู่ในที่เดียวกันด้วย?”

“บอกตามตรงนะครับ พวกเขาได้รับหน้าที่ให้ออกมาสืบเรื่องที่เกิดขึ้นในช่วงนี้”เมี่ยวชิงเฟิง

พูด “โดยเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวกับเมี่ยวชิงชานและเมี่ยวเฉิงถาง”

“เมี่ยวเฉิงถาง? เขาเป็นใครเหรอครับ?”หลู่ซิ่วเฟิงถาม เขาจงใจถามออกไปเพราะพวกเขาได้ติดต่อกับเมี่ยวเฉิงถางมาระยะหนึ่งแล้ว

“เป็นคนที่หนีออกไปจากหุบเขาของเราครับ”เดี่ยวชิงเฟิงตอบ

“หนี? ทําไมเขาต้องหนีด้วยล่ะครับ?”หยางกวนเฟิงถาม

“เขาทําผิดกฎของหมู่บ้านอย่างร้ายแรงและเอาของที่ไม่ใช่ของเขาไปด้วย”เมี่ยวชิงเฟิงพูด
“ของอะไรเหรอครับ?”

“เป็นสมุนไพรในหุบเขาที่สามารถใช้รักษาและช่วยชีวิตคนได้ ทั้งยังสามารถนําไปทําร้ายและฆ่าคนได้ด้วยครับ”เดี่ยวชิงเฟิงตอบ

“มีพิษแบบนั้นอยู่ด้วยเหรอครับ?”

“ใช่ครับ” เที่ยวชิงเฟิงตอบ

หลู่ซิ่วเฟิงกับหยางกวนเฟิงหันมองหน้ากันเมื่อพวกเขาได้ยินแบบนั้นคดีนี้ซับซ้อนมากขึ้นเรื่อยๆ

“หาไมเขาต้องท่าแบบนั้นด้วยล่ะครับ?”

“เรื่องนั้นผมก็ไม่แน่ใจเหมือนกันครับ” เมี่ยวชิงเฟิงส่ายหน้า

“เขาอาจจะไม่พอใจหุบเขาของเราอยู่ก็ได้

“หรือเขาจะไม่พอใจผู้นําครับ?”หลู่ซิ่วเฟิงถามในขณะที่ทานอาหารไปด้วย
เดี่ยวชิงเฟิงเงียบไปครู่หนึ่ง

“ก็อาจจะเป็นไปได้ครับ”

“เฮ้อ มันเกิดอะไรขึ้นกับหุบเขาของพวกคุณกันแน่?” หลู่ซิ่วเฟิงถาม“ส่วนคนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดนี้ผมมั่นใจว่ามันมีส่วนเกี่ยวข้องกับหุบเขาของพวกคุณอย่างมากเลยล่ะพวกคุณคงจะปฏิเสธเรื่องนี้ไม่ได้หรอก”

“เราปฏิเสธไม่ได้จริงๆนั่นล่ะครับ”เมี่ยวชิงเฟิงตอบ

ก่อนที่เขาจะมาที่นี่เดี๋ยวซีเหอได้บอกกล่าวหลายสิ่งหลายอย่างกับเดี่ยวชิงเฟิงความเกี่ยวของของพวกเขากับคดีที่เกิดขึ้น หรือความเป็นไปได้ของเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นเห็นได้ชัดว่าพวกเขาไม่สามารถปฏิเสธได้เลยแทนที่จะหาข้ออ้างเพื่อบอกว่าพวกเขาไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องทั้งหมดมันจะดีกว่าหากยอมรับมันไปตรงๆ

“จิ๊ แล้วมันเป็นฝีมือของใครกันแน่? พวกเขาทําไปเพื่ออะไร?พวกคุณพอจะบอกอะไรได้บ้างไหมครับ?”

“คนที่พวกเราสงสัยก็คือ เมี่ยวชิงชาน,เมี่ยวเฉิงถางและเมี่ยวเทียนชวน เป็นไปได้มากว่าเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดจะเป็นฝีมือของพวกเขาสามคนและมีโอกาสสูงมากที่พวกเขาจะรวมกลุ่มกันพวกเขาต่างมีเกลียดชังและต่อต้านหุบเขาแต่พวกเขาก็ไม่สามารถลงมือแก้แค้นด้วยตัวเองได้

พวกเขาก็เลยอาจจะวางแผนอะไรบางอย่างเอาไว้ก็ได้ครับ”

“อืม เป็นการวิเคราะห์ที่น่าสนใจดี” หลู่ซิ่วเฟิงพยักหน้า เขาก็คิดไปในทางเดียวกันยิ่งสืบไปเรื่อยๆเรื่องก็ยิ่งเกินกว่าที่จะควบคุมได้ในเวลาเดียวกันมันก็ยิ่งชัดเจนขึ้นมากว่าเรื่องทั้งหมดมีความเกี่ยวข้องกับหุบเขาพันโอสถ นั่นเป็นความจริงแท้แน่นอนเมี่ยวซีเหอไม่มีแรงจูงใจที่จะทําเรื่องเหล่านั้นในทางกลับกันคนที่เกลียดชังเขากลับมีแรงจูงใจสูงมากที่จะสร้างสถานการณ์เหล่านี้ขึ้นมา ทั้งหมดอาจจะเป็นแค่การจัดฉากเพื่อเป็นการบังคับให้เหล่าผู้มีอํานาจหันเหความสนใจไปที่หมู่บ้านที่หลบซ่อนตัวอยู่ในป่าลึกและเมี่ยวซีเหอขั้นตอนต่อไปก็คือการทําให้เมี่ยวซีเหอกลายเป็นผู้ต้องสงสัยเพื่อที่เขาจะได้ตกลงไปในหลุมพรางที่พวกเขาสร้างขึ้นมา แต่อีกเรื่องหนึ่งก็คือไม่รู้ว่าอะไรที่ทําให้คนเหล่านั้นเกลียดชังหุบเขาพันโอสถได้มากขนาดนี้

การวางแผนเป็นเหมือนกับการเล่นหมากรุกแต่คนลงมือกลับล้ำเส้นโดยการมองชีวิตผู้คนเป็นเหมือนผักปลาการฆ่าคนสําหรับเขาไม่ต่างจากการฆ่ามดคนแบบนั้นสมควรได้รับโทษที่สาสม

“เหยื่อพวกนั้นปลอดภัยแล้ว แต่เรื่องคดีนี้ยังอีกยาวไกล”หยางกวนเฟิงพูด “ช่วยบอกกับผู้นําของพวกคุณด้วยว่าเราต้องการความร่วมมือจากพวกคุณเพื่อจัดการกับคนร้าย”เขาพูดด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ โดยไม่เปิดโอกาสให้อีกฝ่ายได้ปฏิเสธ“ครับผู้นําบอกกับเราแล้วว่าให้ร่วมมือกับความคุณอย่างเต็มความสามารถ”เดี่ยวชิงเฟิงพูด“เราจะทําสุดความสามารถเพื่อช่วยพวกคุณจับตัวคนร้ายให้ได้โดยเร็วที่สุดเราต้องการหยุดพวก

เขาจากการทําเรื่องเลวร้ายเหล่านั้นและเพื่อป้องกันไม่ให้หุบเขาของเราต้องแปดเปื้อนไปมากกว่านี้ด้วยครับ”

“ดี เราขอขอบคุณพวกคุณล่วงหน้า”