[ติดตามข่าวสารได้ที่เพจ : จักรพรรดิ์เทพมังกร]
บทที่ 562 : พ่อตาช็อค!
“พ่อคะ.. หนูเป็นภรรยาของหลิงหยุนแล้วค่ะ!” หลิงเมิ่งหานตอบอย่างมั่นใจหลังจากที่ได้ตัดสินใจแน่วแน่แล้ว
ตอนนี้หลินเจิ้งกังเป็นผู้บังคับบัญชาของกองทัพ และเคยเป็นถึงผู้บังคับบัญชาของหน่วยพิเศษ หลินเมิ่งหานจึงไม่จำเป็นต้องเป็นห่วงว่าพ่อซึ่งเย็นชาไร้ความรู้สึกของเธอจะตกใจจนช็อค
แต่ถึงกระนั้นหลินเมิ่งหานเองก็นับว่าประเมินสภาวะจิตใจของหลินเจิ้งกังผิดไปมากทีเดียว
“อะไรนะ?!”
หลังจากที่หลินเจิ้งกังได้ฟังคำตอบของลูกสาว เขาก็กระเด้งขึ้นจากโซฟาทันที ไม่ต่างจากแมวที่ถูกเหยียบหาง!
หลินเจิ้งกังนั้นรักลูกสาวสุดหัวใจ ตั้งแต่เล็กจนโตเขาจะใส่ใจในเรื่องรายละเอียดของลูกสาวมากกว่าแม่ของเธอเสียอีก
เมื่อได้ฟังคำพูดและเห็นสีหน้าท่าทางของหลินเมิ่งหาน หลินเจิ้งกังก็ไม่สามารถทนต่อไปได้อีก เขาเริ่มรู้สึกเครียดมากขึ้น และจู่ๆก็นิ่งเงียบไป!
‘ไม่ใช่ใครที่ใหนแน่.. จะต้องเป็นเจ้าเด็กหนุ่มหลิงหยุนนั่นอย่างแน่นอน แกกล้ามากที่มายุ่งกับลูกสาวสุดที่รักของฉัน!’
ใบหน้าของหลินเจิ้งกังเริ่มเปลี่ยนเป็นสีเขียว กล้ามเนื้อตา และริมฝีปากกระตุกรุนแรง ตอนนี้หลินเจิ้งกังแทบกระอักเลือด!
เขาโกรธมากที่หลิงหยุนกล้าทำเช่นนี้ หลินเจิ้งกังเอามือแตะที่ปืนพร้อมกับร้องถามขึ้นทันที!
“หลิงหยุนมันอยู่ที่ใหน? โทรเรียกมันมาเดี๋ยวนี้!”
หลินเจิ้งกังเดินเอามือไขว้หลังกลับไปกลับมาในห้องรับแขกอยู่หลายรอบ เขาเดินไปสั่งหลินเมิ่งหานไม่ต่างจากผู้บังคับบัญชาที่กำลังออกคำสั่งกับทหารด้วยกัน
หลินเจิ้งกังคิดว่าเขาจะต้องจัดการกับลูกสาวอย่างแน่นอน แต่ก็ถึงอย่างไรก็ต้องจัดการกับหลิงหยุนก่อน!
“พ่อคะ.. ตอนนี้หลิงหยุนไม่ว่างมาพบพ่อจริงๆ พ่ออยากรู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับเขาก็ถามมาได้เลย หนูจะเป็นคนตอบพ่อเอง” หลินเมิ่งหานเห็นพ่อของตนกำลังโกรธมาก จึงได้แต่ตอบกลับไปด้วยเสียงที่เบาราวกับกระซิบ
“ไม่มีเวลา? มันมีอะไรยุ่งมากมายจนกับถึงกล้าขัดคำสั่งของฉัน? หลิงหยุนมันคิดว่ามันเป็นใคร?”
หลินเจิ้งกังร้องตะโกนใส่หน้าหลินเมิ่งหาน และยื่นคำขาดว่าคืนนี้เขาต้องพบหลิงหยุนให้ได้!
แต่หลินเมิ่งหานกลับตอบไปว่า.. “พ่อคะ.. หลิงหยุนยุ่งเกินกว่าที่จะทำตามคำสั่งของพ่อได้จริงๆ แม้แต่หนูยังยากที่จะได้พบกับเขา อย่าว่าแต่พ่อเลย..”
“อีกอย่าง.. พรุ่งนี้เป็นวันเปิดคลินิกของเขา คืนนี้ก็ต้องยุ่งมากเป็นธรรมดา..” หลินเมิ่งหานไม่กล้ายืนสบตากับพ่อของเธอ จึงไดแต่ยืนก้มหน้าพูดแทน
“เปิดคลีนิค? ก็คงเป็นแค่คลีนิคเล็กๆ มันจะยุ่งกว่าการฝึกกองกำลังทหารห้าหมื่นนายของฉันหรือยังไง? คลินิคเล็กๆนั่นเทียบกับกองกำลังทหารของฉันได้งั้นเหรอ?”
หลินเจิ้งกังร้องตะโกนเสียงดังด้วยความโมโห เขาเดินกลับไปกลับมาอีกครั้ง และในที่สุดก็กลับไปนั่งลงที่โซฟาดังเดิม
“เดี๋ยวนะ.. หลิงหยุนที่แกพูดถึงเมื่อครู่ ใช่เด็กผู้ชายคนเดียวกับที่เคยช่วยแกไว้เมื่อครั้งก่อนมั๊ย?”
เมื่อครั้งที่หลินเมิ่งหานถูกคนของบริษัทชิงหยุนโปรดักชั่นวางยานั้น หลิงหยุนเป็นคนที่เข้าไปช่วยเธอไว้ และด้วยความโกรธ หลิงหยุนได้จัดการผู้ชายทั้งสิบกว่าคนจนกลายเป็นหมัน เรื่องนี้หลินเจิ้งกังเองก็รู้ดี
ดังนั้น.. เขาจึงรู้สึกมีความประทับใจในตัวหลิงหยุนอยู่ไม่น้อย!
จะเป็นใครไปได้ล่ะ! ก็หลิงหยุนคนเดียวกับที่ช่วยชีวิตของเธอไว้ถึงสองครั้ง แต่ก็เป็นคนที่ได้ความบริสุทธิ์ของเธอไปครอบครองด้วย..
ทุกครั้งที่หลินเมิ่งหานคิดถึงเรื่องนี้ เธอก็จะรู้สึกภูมิใจและมีความสุขอย่างบอกไม่ถูก ในสายของหลินเมิ่งหานนั้น หลิยหยุนไม่เหมือนคนทั่วไป แต่พิเศษกว่าคนอื่นๆหลายสิบเท่า
“แล้วแกไปทำเรื่องอะไรแบบนี้ แกไม่คิดที่จะให้ครอบครัวยินยอมก่อนหรือยังไง?” หลินเจิ้งกังถามเสียงเบา
ในยุคสมัยนี้.. ไม่ใช่ว่าหลินเจิ้งกังจะไม่เคยได้ยิน หรือไม่สามารถยอมรับได้กับการที่หนุ่มสาวจะอยู่ด้วยกันก่อนเข้าพิธีแต่งงาน แน่นอนว่าเขาสามารถเข้าใจในเรื่องนี้ได้ แต่เมื่อเรื่องนี้เกิดขึ้นกับลูกสาวของตนเอง และตระกูลหลิน ลูกสาวที่เขาเลี้ยงดูมาอย่างยากลำบาก แต่สุดท้ายต้องกลายไปเป็นของคนอื่น ถึงอย่างไรเขาก็ยังคงเป็นพ่อหัวโบราณ จึงยากที่จะระงับความโกรธได้
“มันช่วยชีวิตแกก็จริง แต่มันก็ทำคนบาดเจ็บมากมาย! ฉันอุตส่าห์ใช้อิทธิพลปกปิดเรื่องนี้ให้กับมัน เพื่อช่วยชีวิตของมันไว้!”
หลินเจิ้งกังเป็นทหาร เขาเองก็ฆ่าคนในสนามรบมามากมายเช่นกัน เขาเคยชื่นชมในความกล้าหาญของหลิงหยุน และชื่นชอบในความแข็งแกร่งที่หลิงหยุนแสดงออกมา แต่การที่หลิงหยุนนอนกับลูกสาวของเขา ทำให้ความชื่นชมเหล่านี้มลายหายไปในทันที
“อีกอย่าง.. แกก็ให้เงินสิบล้านซึ่งเป็นเงินของครอบครัวกับมัน เพื่อเป็นการตอบแทนที่มันได้ช่วยชีวิตของแกไว้แล้วนี่!”
หลินเจิ้งกังรู้สึกว่าเขาได้ตอบแทนความช่วยเหลือของหลิงหยุนไปแล้วด้วยเงินจำนวนนั้น แต่กลับคิดไม่ถึงว่าลูกสาวของตนเองจะมามีอะไรกับหลิงหยุนอีก
“เงินส่วนเงิน.. ความรู้สึกส่วนความรู้สึก..” หลินเมิ่งหานตอบเสียงเบา “หนูชอบเขา!”
ประโยคสุดท้ายไม่ต่างจากการตบหน้าหลินเจิ้งกัง เพราะเป็นการอธิบายทุกอย่างได้แจ่มแจ้งชัดเจน
“อีกอย่าง.. หนูก็ไม่ใช่เด็กๆแล้ว ลูกสาวเพื่อนๆพ่อที่อยู่ในกรม เปลี่ยนสามีมากี่คนแล้วก็ไม่รู้..”
หลินเจิ้งกังไม่รู้จะทำอย่างไรดี?! เขาเข้าใจอารมณ์ความรู้สึกของลูกสาวตัวเองดี ความรู้สึกของหลินเมิ่งหานในเวลานี้ ต่อให้เอาช้างมาฉุดก็ยากที่จะกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้
“ถ้าอย่างนั้น.. แกก็เรียกมันให้มาพบฉัน ฉันต้องการคุยกับมัน จะได้รู้ว่ามันคิดยังไง และวางแผนอนาคตไว้อย่างไรบ้าง?”
แม้หลินเจิ้งกังโกรธมาก แต่ก็ยังเชื่อมั่นว่าลูกสาวของเธอต้องเลือกผู้ชายที่มีวิสัยทัศน์กว้างไกล เพราะเขาก็เป็นคนอบรมสั่งสอนหลินเมิ่งหานมาด้วยตัวเอง
หลังจากที่เริ่มทำใจยอมรับความจริงได้ หลินเจิ้งกังจึงตัองการพูดคุยกับหลิงหยุน และอย่างน้อยเขาก็ต้องได้ตบหน้าหลิงหยุนสักฉาดเพื่อระบายอารมณ์โกรธทั้งหมดออกไปเสียก่อน
“พ่อคะ.. คืนนี้ยังไงหลิงหยุนก็มาไม่ได้จริงๆ! ถ้าพ่ออยากเจอเขา ก็ตามหนูไปร่วมยินดีกับเขาในพิธีเปิดคลีนิควันพรุ่งนี้สิคะ..”
หลินเมิ่งหานเห็นว่าไฟโทสะของพ่อเธอยังคงคุกรุ่นอยู่มาก และดูเหมือนจะไม่ลดลงง่ายๆ เธอจึงใช้การออดอ้อนด้วยการเดินเข้าไปใกล้ร่างของหลินเจิ้งกัง พร้อมกับยื่นมือไปกอดแขนของเขาไว้อย่างเอาใจ
“ไร้สาระ! ฉันบอกให้แกโทรหามัน แกกลับบอกว่ามันไม่ว่าง ไม่เพียงแกไม่โทรหามันตามที่ฉันสั่ง แต่กลับจะให้ฉันไปแสดงความยินดีกับมันในวันพรุ่งนี้อีกนี่นะ?”
หลินเจิ้งกังรีบส่ายหน้าพร้อมกับคิดในใจว่า ยังไม่ทันได้แต่งงานกัน ลูกสาวของเขาก็เริ่มเข้าข้างคนอื่นเสียแล้ว
ครั้งแรกที่พบกัน.. หลิงหยุนไม่เพียงไม่จอดรถลงมาทักทายเขา แต่กลับเลี้ยวรถขับพาลูกสาวของเขาหนีไป หลินเจิ้งกังได้แต่นั่งเจ็บใจรอคอยการกลับมาของทั้งคู่อยู่ตลอดทั้งบ่าย
ตอนนี้จะให้คนแก่อย่างเขาเป็นฝ่ายไปแสดงความยินดีกับว่าที่ลูกเขยในอนาคตก่อนงั้นเหรอ? ฝันไปเถอะ!
ฉันเป็นถึงผู้บัญชาการกองทัพ!
“พ่อคะ.. อย่าดูถูกคลินิคของหลิงหยุนนะคะ ทักษะทางด้านการแพทย์ของเขาล้ำลึกไม่ธรรมดาเลย..”
“ครั้งที่หนูโดนยาพวกนั้น หลิงหยุนก็ใช้วิชาฝังเข็มช่วยขับพิษของยาออกจากร่างกายให้ โดยไม่ต้องใช้ยาอะไรเลย..”
เมื่อพูดถึงเรื่องนี้.. จู่ๆหลินเจิ้งกังก็นึกขึ้นมาได้ เขาหันไปมองลูกสาวตัวแสบ แล้วก็ร้องตะโกนออกมาอย่างโมโห
“เมิ่งหาน.. แล้วนี่แกกลับมาที่บ้านได้ยังไง? ”
ระยะห่างระหว่างสองคนนั้นราวสามเมตรได้ ทันทีที่หลินเมิ่งหานได้ยินคำถามของพ่อเธอ เธอก็รีบเปลี่ยนหัวข้อทันที
ใบหน้าสวยงามของหลินเมิ่งหานพยักเพยิดพร้อมกับพูดกับหลินเจิ้งกังว่า “พ่อคะ.. พ่อร้อนมั๊ยคะ? ไปอยู่ห้องแอร์เย็นๆกันดีกว่าค่ะ”
คืนนี้อุณหภูมิในจิงฉูสูงถึงสามสิบองศาซึ่งนับว่าร้อนมาก หลินเจิ้งกังมัวแต่โมโหจนลืมเรื่องนี้ไป เมื่อลูกสาวร้องเตือนขึ้น เขาจึงรู้สึกร้อนขึ้นมาทันที
“ร้อนสิ.. แกรีบไปเปิดแอร์เร็วเข้า!”
หลินเมิ่งหานยิ้มพร้อมกับพูดขึ้นว่า “ไม่ต้องใช้แอร์หรอกค่ะ..”
จู่ๆหลินเมิ่งหานก็เดินไปนั่งที่โซฟา และเริ่มใช้วิชาพลังเย็น..
ความเย็นยะเยือกค่อยๆถูกปลดปล่อยออกจากเรือนร่างบอบบางของหลินเมิ่งหาน และค่อยๆกระจายไปทั่วบ้าน เพียงไม่นานอากาศภายในบ้านก็เริ่มเย็นลง และอุณหภูมิก็เริ่มดิ่งลงทันที
หลินเจิ้งกังมองไปรอบๆห้อง และเห็นหมอกสีขาวที่ค่อยๆเกิดขึ้นภายในห้องด้วยความตกตะลึง!
ไม่ช้า.. หลินเจิ้งกังจึงสัมผัสได้ว่าความร้อนเมื่อครู่ได้เปลี่ยนเป็นความเย็น และจากเย็นก็กลายเป็นเย็นมากขึ้น แม้แต่ชุดเครื่องแบบทหารที่เขาสวมอยู่ ยังไม่สามารถต้านทานความเย็นยะเยือกภายในห้องได้
“หยุด!”
หลินเจิ้งกังรีบสั่งให้ลูกสาวหยุด เพราะอีกนิดเดียวเขาก็จะรู้สึกว่าเหมือนเข้าสู่ฤดูหนาวแล้ว
หลินเมิ่งหานขยิบตา และจ้องมองพ่อของเธอด้วยความรู้สึกภาคภูมิใจ ก่อนจะพูดออกไปยิ้มๆ “เป็นไงคะ? มันน่าทึ่งมากใช่มั๊ย?”
หลินเมิ่งหานฝึกวิชาพลังเย็นนี้มาเป็นเดือนแล้ว เธอจึงใช้งานได้คล่องแคล่วมากขึ้น และตอนนี้สิ่งรบกวนเล็กๆน้อยๆก็ไม่มีผลต่อการเดินพลังของเธอแล้ว
หลินเจิ้งกังไม่ตอบ เขาจ้องมองลูกสาว และใจก็เริ่มเต้นรุนแรง..
ในฐานะผู้บังคับบัญชากองทัพของประเทศจีน ความรู้ของหลินเจิ้งกังนั้นนับว่าเหนือกว่าถังเทียนห่าว และหลี่ยี่เฟิง เขารู้ได้ทันทีว่าสิ่งที่ลูกสาวกำลังแสดงให้ดูอยู่นั้นเรียกว่าวรยุทธ ซึ่งเป็นวิชาของบรรดาตระกูลเก่าแก่ที่ลึกลับ!
เหตุใดเจ็ดตระกูลใหญ่จึงได้มีอำนาจ และอิทธิพลมากจนสามารถควบคุมทิศทางของประเทศนี้ได้น่ะหรือ?
นั่นก็เพราะตระกูลใหญ่ทั้งเจ็ด ล้วนแล้วแต่มีตระกูลเก่าแก่ที่ฝึกวรยุทธลี้ลับเหล่านี้ให้การสนับสนุนอยู่นั่นเอง!
ตระกูลหลินเองก็เป็นตระกูลทหารที่ใหญ่โต เป็นตระกูลทหารที่มีชื่อเสียง แต่ต่อให้มีชื่อเสียงเพียงใด ก็ไม่สามารถเทียบได้กับตระกูลใหญ่เหล่านี้
อะไรที่ตระกูลหลินขาดไปอย่างนั้นหรือ? นั่นเพราะคนในตระกูลหลินไม่มีใครฝึกวรยุทธเลยแม้แต่คนเดียว!
แต่ตอนนี้ลูกสาวของเขากำลังแสดงให้เห็นถึงพลังที่ไม่ธรรมดา!
“เมิ่งหาน.. นี่ลูกไปที่ตระกูลเก่าแก่มาหรือยังไง? ใครเป็นคนสอนวรยุทธพวกนี้ให้กับลูก? แล้วอาจารย์ของลูกอยู่ที่ใหน? พาพ่อไปรู้จักเขาหน่อย..”
หลินเจิ้งกังคว้าไหล่ของลูกสาวเขย่า และสัมผัสได้ถึงความเย็นที่ยากจะอธิบายออกมาได้
“พ่อคะ.. จะอาจารย์ที่ใหนกันอีกล่ะคะ! ก็คนที่พ่อเพิ่งจะด่าเขาเมื่อครู่นั่นล่ะ..” หลินเมิ่งหานตอบเสียงเรียบ
“ห๊ะ.. นี่ลูกหมายความว่า.. หลิงหยุน..” หลินเจิ้งกังถึงกับตกใจจนแทบช็อค
หลินเจิ้งกังเข้าใจได้ในทันที.. ไม่เช่นนั้นหลิงหยุนเพียงคนเดียว คงจะไม่สามารถจัดการกับชายฉกรรจ์สิบกว่าคนได้ อีกทั้งยังเตะคนพวกนั้นจนกลายเป็นขันทีไปหมด
หรือหลิงหยุนจะเป็นคนของตระกูลเก่าแก่!?
เพียงแค่เดือนกว่า หลิงหยุนก็สามารถสอนหลินเมิ่งหานให้มีความสามารถได้ถึงเพียงนี้.. นั่นหมายความว่ายังมีสิ่งที่หลิงหยุนต้องรู้อีกมากมายเลยทีเดียว!