บทที่ 116 ข้าเชื่อมั่นในตัวเขา ! (ปลาย)
ขณะนั้นเองที่คู่ชายหญิงรุดตามมาถึง เมื่อพวกเขาเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นก็ถึงกับชะงักงันไปเล็กน้อย
ไม่นานนักก่อนที่เยี่ยฉวนจะค่อยขยับลุกขึ้นยืน โลหิตทะลักออกจากปาก สายตาของชายหนุ่มจ้องเขม็งที่เป่ยเฉิน “ข้าได้มอบคัมภีร์ยุทธ์ชั้นยอดขั้นปฐพีให้แล้ว ทำไมจึงยังต้องการกำจัดข้าอีก ?”
หญิงสาวชะงักด้วยความสับสน
ทว่าชายหญิงคู่นั้นต่างหันขวับมาเขม้นมองที่นางเป็นตาเดียว แววตาไม่เป็นมิตรส่องประกายวาบ !
ที่มุมปากมีโลหิตไหลอยู่ไม่ขาดสาย ทว่าสายตายังคงจับจ้องไปยังเป่ยเฉินแววตาบ่งบอกว่าไม่ชอบใจ “เจ้าเป็นผู้หญิงร้ายกาจ รับปากกับข้าว่าหากส่งคัมภีร์ยุทธ์ชั้นยอดขั้นปฐพีให้เจ้าแล้ว จะเลิกยุ่งกับข้า แต่ไม่คิด เลยว่าเจ้ายังตามมาสังหารเพื่อเก็บเรื่องนี้เป็นความลับ… เจ้ามันใจคอโหดเหี้ยม !”
อีกฝ่ายหรี่ตามอง เริ่มอึดอัดไม่สบายใจ “คิดจะเล่นลูกไม้อะไรอีก ?”
นางกล่าวพลางวาดมือไปทางคนสองคนที่ยืนใกล้ “เจ้าคิดหรือว่าพวกเขาจะเชื่อในสิ่งที่เจ้าพูด ?”
ตอนนั้นคู่ชายหญิงต่างมองหน้ากันและหันกลับมามองเยี่ยฉวน ชายหนุ่มเห็นเช่นนั้น เขาพลันปลดเสื้อที่สวมออก…
สตรีในชุดขาวดำคิ้วขมวดเข้าหากันทันควัน
ชายหนุ่มกล่าวเสียงดัง “พวกเจ้าเห็นอะไรไหม ? สิ่งล้ำค่าหาได้อยู่กับข้าไม่…”
ก่อนจะชี้นิ้วตรงไปที่เป่ยเฉิน “แล้วเจ้าเล่า ? เจ้ากล้าเปิดเผยวงแหวนสัมภาระในมือของเจ้าต่อหน้า ทุกคนหรือไม่ ? กล้าไหม ?”
คราวนี้ทั้งสองคนหันไปทางเป่ยเฉินเป็นตาเดียว หรือควรบอกว่ามองที่วงแหวนสัมภาระซึ่งสวมที่นิ้วมือของนางจึงถูกต้อง
แววตาของเป่ยเฉินมองตรงมาที่เยี่ยฉวนราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ นางแทบอยากจะพุ่งเข้าเด็ด วิญญาณของเขาลงไปเสียเดี๋ยวนั้น “เจ้าเป็นถึงยอดผู้ฝึกกระบี่ ยังทำเรื่องที่น่าอับอายเช่นนี้ เจ้ามันงี่เง่าสิ้นดี ข้าว่าน่าจะเรียกว่ายอดคนงี่เง่าจึงจะเหมาะสม !!!”
สิ้นเสียง แรงผลักดันแห่งชี่ทะยานออกจากร่างกายของนาง พุ่งตรงไปยังเยี่ยฉวนหมายปะทะเต็มกำลัง
ชายหนุ่มเบิกตากว้างตื่นตระหนก ขณะนั้นเองชายและหญิงในชุดขาวดำพลันเคลื่อนไหว ทั้งคู่ปลด ปล่อยออกพลังชี่พุ่งเข้าสกัดพร้อมกับทำลายแรงผลักดันแห่งพลังชี่ซึ่งพุ่งออกจากเป่ยเฉินทันควัน !
เมื่อเห็นว่าคู่ชายหญิงออกต้านทานพลังปะทะ เยี่ยฉวนค่อยพ่นลมหายใจอย่างโล่งอก !
ฝั่งเป่ยเฉิน สายตาแน่วแน่จ้องที่คู่ชายหญิง “พวกเจ้าโง่เง่าอะไรเช่นนี้ ? เชื่อสิ่งที่มันหลอกลวงเสียได้ !”
ฝ่ายชายหันมามองเยี่ยฉวนซึ่งยังมีคราบโลหิตที่มุมปาก “อย่างไรก็ตามเขาเป็นผู้ฝึกกระบี่ ย่อมไม่ โกหก…”
ว่าแล้วคนผู้นั้นพลันหันมาทางวงแหวนสัมภาระของเป่ยเฉิน “เพื่อเป็นการพิสูจน์ว่าใครพูดจริงใครพูด เท็จ เจ้าจงนำวงแหวนสัมภาระออกมาให้พวกเราดู”
ได้ยินเช่นนั้น หญิงสาวจึงมีท่าทีอ่อนลง
“พวกมันเพียงต้องการให้ข้าเปิดเผยวงแหวนสัมภาระเท่านั้นหรือ ?”
“ในโลกยุทธภพ การเปิดเผยดังกล่าวเป็นข้อห้ามสำคัญ !”
“แต่ทว่าการเรียกร้องครั้งนี้ มีความสำคัญยิ่งกว่า !”
หญิงสาวค่อย ๆ ขยับมือขวา คู่ชายหญิงพากันหันไปสนใจต่อนาง พร้อมด้วยท่าทีตื่นตัวเต็มที่ !
ทันใดนั้น เยี่ยฉวนรีบตะโกนให้บุคคลทั้งสามได้ยิน “เวลานี้นางคอยกำลังเสริมจากสถานศึกษาฉางมู่ ข้าเห็นนางส่งสัญญาณให้สถานศึกษาฉางมู่แล้ว อีกไม่นานบรรดาศิษย์ฉางมู่คงจะยกโขยงกันมาช่วยเหลือ ! นางกำลังถ่วงเวลาพวกเจ้า !”
ทั้งคู่ชายหญิงเมื่อได้ยินเช่นนั้นสีหน้าก็จึงแปรเปลี่ยนเย็นชาในฉับพลัน !
“ที่แท้นางเรียกกำลังเสริม จึงคิดถ่วงเวลาพวกเรานี่เอง !”
สายตาจับจ้องไปยังร่างตรงหน้า บังเกิดลมพัดขึ้นอย่างน่าพิศวงพุ่งออกจากร่างของคนทั้งสอง !
ส่วนเป่ยเฉิน หญิงสาวหันมองเยี่ยฉวน ราวกับอยากบอกกับชายหนุ่มว่าถ้าหากสายตาสามารถฆ่าคน ได้ นางคงจะฆ่าอีกฝ่ายให้ตายสักร้อยครั้งพันครั้งทีเดียว !
“ฆ่านาง !”
สิ้นคำ ชายหนุ่มพลันถลันเข้าหาเป่ยเฉินโดยไม่รอช้า
เมื่อเห็นอีกฝ่ายเปิดฉากการต่อสู้ ทั้งสองชายหญิงจึงเลิกลังเล พวกเขาพากันพุ่งทะยานเข้าหาเป่ยเฉิน
เยี่ยฉวนอยู่ด้านหน้า เมื่อประจัญกับเป่ยเฉินจึงถูกนางสกัดกั้นเอาไว้ ทว่าชายหนุ่มไม่ได้ออกต้านทาน แม้แต่น้อย หากแต่กลับพลิกตัวซ้ำหลายตลบจนกระทั่งร่างของเขาย้อนกลับไปยังเนินเขาลูกเดิม ก่อนจะคว้า เอาคัมภีร์ยุทธ์ชั้นยอดขั้นปฐพีที่ซุกไว้ใต้กองใบไม้หนาทึบออกและพลิกตัวต่อไปอีกหลายหน ในชั่วพริบตา ร่าง ของชายหนุ่มพลันหายไปอย่างไร้ร่องรอย
ชายหนุ่มหลบหลีกออกมา ทิ้งเสียงเอะอะของการต่อสู้ไว้เบื้องหลัง
เยี่ยฉวนวิ่งตลุยต่อไป ครานี้เป้าหมายของเขามุ่งหน้าไปยังเมืองชายแดน
หลังจากที่เยี่ยฉวนหายตัวไปไม่นาน เป่ยเฉินพลันลอยตัวผงะถอยออกจากการปะทะคู่ชายหญิง ชั่วคราว สายตาเย็นเยือกจ้องมองคนทั้งคู่ “เจ้าโง่ ลองหันไปถามคนที่อยู่ข้างหลังเจ้าสิ !”
คู่ชายหญิงหันมองหน้าซึ่งกันและกัน ก่อนจะหันหลังมองหาชายผู้หนึ่งซึ่งควรอยู่บริเวณดังกล่าว และ ราวกับพึ่งรู้ตัว สีหน้าของพวกเขาทั้งคู่พลันเปลี่ยนเป็นเหยเกบิดเบี้ยว
โดนหักหลัง !
กลุ่มคนที่อยู่ด้านหลัง พวกเขาหาได้ใส่ใจเยี่ยฉวนนับตั้งแต่ครั้งแรก ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ทันสังเกต เมื่อ เวลาผ่านไปเยี่ยฉวนก็ได้อาศัยจังหวะดังกล่าวหนีห่างไปจนไกลมากแล้ว !
หญิงสาวหันไปยังทิศทางที่ร่างของชายหนุ่มลับกายไป “ผู้ฝึกกระบี่กล้าทำเรื่องน่าอับอาย นี่ทำให้ข้า เห็นสัจธรรมโดยแท้ !”
เสียงคนผู้หนึ่งพูดขึ้นมาว่า “มั่นใจเถิด เขาหนีไม่พ้นแน่ คัมภีร์ยุทธ์ชั้นยอดขั้นปฐพีจะต้องตกเป็นของ แคว้นหนิง !”
“แคว้นหนิง !”
เป่ยเฉินเหลือบมองชายผู้นั้น ทว่านางมิได้เอ่ยออกคำพูดใด เพียงหันหลังเดินจากไป
แคว้นหนิง ? แคว้นเจียง ? แคว้นถัง ?
สำหรับนาง ชื่อพวกนี้หาได้สลักสำคัญแต่อย่างใด ! ด้วยยอดอัจฉริยะเช่นตัวของนางย่อมได้รับในสิ่งที่ดีกว่าแน่นอน !
…
ณ ประตูเมืองชายแดน องค์หญิงเก้ายืนกอดอกพิงบานประตูนิ่งอยู่ ไม่มีใครบอกได้ว่าในขณะนั้นนาง คิดสิ่งใด
ทันใดนั้น สายตาพลันจับภาพเคลื่อนไหวเบื้องหน้า ไม่ไกลออกไป ร่างสตรีนางหนึ่งกำลังมุ่งหน้ามา
สตรีผู้สวมชุดสีขาวบริสุทธิ์ไร้มลทิน !
ผู้นั้นคืออันหลานซิ่ว !
หญิงสาวเดินเข้ามาใกล้ องค์หญิงเก้ากำลังจะเอ่ยปาก พลันที่ผู้มาใหม่หันมองไปทางภูเขาสูงไกลออก ไป “ท่านเข้าใจผิด !”
ผู้ฟังขมวดคิ้ว ขณะที่เสียงของอันหลานซิ่วเสริมมาอีกว่า “เขาไม่ใช่คนเช่นนั้น !”
องค์หญิงเสียงแหบแห้ง “นี่คือคัมภีร์ยุทธ์ชั้นขั้นปฐพีที่ทุกคนใฝ่ฝัน !”
“ข้าเชื่อมั่นในตัวเขา !” คนพูดตอบพร้อมด้วยรอยยิ้มน้อย ๆ บนริมฝีปาก