ตอนที่ 136 ความรู้สึกผิด

ปาฏิหาริย์รัก เทพธิดาจำแลง

เซียวจิ่ง “… ไอ้บ้าเอ๊ย แล้วนั่นแตกต่างกันยังไง แตกต่างกันตรงไหน!”

 

 

ถังซีอดหัวเราะไม่ได้เมื่อได้ยินเสียงคำรามของเซียวจิ่ง เฉียวเหลียงแค่ล้อเขาเล่น

 

 

อย่างไรก็ตามเฉียวเหลียงไม่รู้สึกผิดแม้แต่น้อย เขามองหน้าถังซี เขี่ยปลายจมูกเธออย่างสนิทสนม แล้วจึงตอบเซียวจิ่ง “แตกต่างสิ” หากเซียวโหรวไม่ใช่ถังซี แม้แต่หางตาเขาก็จะไม่มองเซียวโหรว ไม่ว่าเธอจะสวยมากแต่ไหนก็ตาม

 

 

ถังซีนั่งเท้าคางด้วยมือเดียว ขณะที่เฉียวเหลียงจับมือเธออีกข้างไว้ เธอกล่าวพร้อมด้วยรอยยิ้มอย่างพึงพอใจ “พอได้แล้วค่ะ ฉันหิว ฉันต้องรีบกลับบ้านหลังทานเสร็จ”

 

 

เมื่อได้ยินว่าเธอจะกลับบ้านหลังทานอาหาร เฉียวเหลียงก็ขมวดคิ้ว ถังซีกำลังจะอธิบายเหตุผลให้เขาฟังเมื่อโทรศัพท์มือถือของเธอดังขึ้น เธอมองดูชื่อผู้โทร ยื่นโทรศัพท์ให้เฉียวเหลียงดูหน้าจอแล้วรับโทรศัพท์ “ค่ะ คุณแม่”

 

 

เมื่อได้ยินเสียงถังซี หยางจิ้งเสียนก็รู้สึกโล่งอกและถามว่า “โหรวโหรว ตอนนี้ลูกอยู่ที่ไหนจ๊ะ ทำไมแม่ไม่เห็นหนูเลยที่ประตูโรงเรียน”

 

 

ถังซีเม้มปาก ขณะขยิบตาให้เฉียวเหลียง เธอคว้ากระเป๋านักเรียนเดินออกไปด้านนอก “หนูนั่งแท็กซี่มาค่ะ แต่หนูลืมบอกคุณแม่ คุณแม่กลับบ้านไปก่อนนะคะ”

 

 

เฉียวเหลียงวางสายเซียวจิ่งอย่างหมดความสุข คว้าหมวกและหน้ากากบนโต๊ะมาสวม แล้วตามถังซีออกไปเพื่อส่งเธอกลับบ้าน เมื่อเห็นใบหน้าเขาไร้ความสุขถังซีก็เอ่ยขึ้น “ฉันไม่รู้ว่าคุณจะมารับฉัน และไม่รู้ว่าคุณแม่ก็จะมารับฉันเหมือนกัน”

 

 

ขณะฟังคำอธิบายของถังซี เฉียวเหลียงยังคงหน้าบึ้งตึง ขับรถไปพูดไม่จา ถังซีมองหน้าเขาแล้วอดนึกไม่ได้ว่าสภาพเขาเป็นอย่างไรตอนอยู่ที่ลองบีช เธอเอื้อมมือไปจับมือเขา กล่าวอย่างนุ่มนวลว่า “อย่าโกรธเลยนะคะ…นะ ฉันไม่รู้จริงๆ ว่าคุณแม่จะมารับฉัน”

 

 

เฉียวเหลียงมองหน้าถังซี ไม่ได้ปัดมือเธอออกแต่ยังโกรธอยู่ สีหน้าเขาดูราวกับจะบอกว่า ‘ผมอารมณ์ไม่ดี อย่ายุ่งกับผม’ ถังซีถอนหายใจแล้วถามอย่างอ่อนโยน “แล้วคุณอยากให้ฉันทำยังไง”

 

 

“หลังจากกลับถึงบ้านแล้ว คุณต้องหาข้ออ้างแอบออกมา และไปทานอาหารค่ำกับผม” เฉียวเหลียงตอบพร้อมกับมองหน้าเธอ “สัญญากับผมสิ”

 

 

ถังซีกลัวว่าเธอจะทำไม่ได้ตามที่เขาขอ แต่เมื่อมองตาเขา เธอก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากพยักหน้าและกล่าวว่า “ตกลงค่ะ ไม่ต้องโกรธแล้วนะ”

 

 

เฉียวเหลียงแอบยิ้ม มองหน้าถังซีจากทางด้านข้างแล้วเลิกคิ้ว “จริงๆ นะ”

 

 

“จริงสิคะ เชื่อฉันสิ!” ถังซีมองเฉียวเหลียงด้วยรอยยิ้ม และพบว่าสีหน้าเขาเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว จนเธอเกือบคิดว่าเขาเมื่อกี้นี้เขาแกล้งแสดง น่าเสียดายจริงๆ ที่เขาไม่ไปเป็นนักแสดง

 

 

เฉียวเหลียงจับมือถังซีแน่นขณะรถจอดที่สี่แยกไฟแดง เขาจ้องมองเธอและกล่าวเสียงต่ำ “ถ้าคุณไม่ได้กลายเป็นเซียวโหรวอยู่ตอนนี้ ผมจะไม่มีวันปล่อยให้คุณจากไป เพราะฉะนั้นโปรดเข้าใจผมด้วยนะ ซีซี คุณเข้าใจใช่ไหม”

 

 

ตอนที่เขาได้ยินข่าวการตายของเธอ เขาคิดว่าถ้าได้พบเธออีกครั้งเขาจะไม่มีวันปล่อยเธอจากเขาไป เขาไม่ได้ขโมยเธอมาจากตระกูลเซียว เพราะเขาพยายามอย่างดีที่สุดแล้วที่จะควบคุมตัวเอง พร้อมกับเตือนตัวเองอยู่ตลอดเวลาว่า ถ้าเขาทำอย่างนั้นจะเป็นการทำร้ายเธอ เขาจึงไม่รีบร้อนที่จะเหนี่ยวรั้งเธอไว้ให้อยู่ใกล้ตัวเขา

 

 

คำพูดของเฉียวเหลียงทำให้ถังซีนิ่งอึ้ง เธอดึงมือเขามาที่ริมฝีปากแล้วจูบเบาๆ ผ่านหน้ากาก น้ำเสียงเธอสั่นเครือเล็กน้อยขณะกล่าวว่า “ฉันรู้ค่ะ ฉันรู้ รู้ว่าที่ผ่านมาเป็นเรื่องยากลำบากมากสำหรับคุณ”

 

 

ในช่วงเวลาที่จิตวิญญาณเธออ่อนแอ เธอได้กลับไปยังสถานที่ที่เธอเสียชีวิต และได้เห็นว่าเขาเศร้าแค่ไหน จากนั้นเธอก็ได้เห็นว่าเขาสิ้นหวังที่ลองบีช แล้วทำไมเธอจะไม่เข้าใจเขา แม้จะรู้สึกว่าควรอยู่เคียงข้างเขาตลอดเวลา แต่เธอไม่สามารถทำได้ในตอนนี้ เพราะเธอไม่ได้เป็นเพียงถังซี แต่เธอยังเป็นเซียวโหรวด้วย เธอต้องแบกรับความรับผิดชอบของทั้งสองตัวตน

 

 

นอกจากนี้เธอยังรับ 008 เข้ามาในตัวตน เธอจะล้างแค้นให้ตัวเองด้วยความช่วยเหลือจาก 008 เพราะฉะนั้นเธอต้องกลับไปเมืองหลวง ทำให้พวกคนที่ฆ่าเธอได้รับโทษทัณฑ์ หลังจากนั้นเธอจะอยู่กับเขาได้โดยไม่มีภาระใดๆ

 

 

เมื่อสัญญาณไฟเปลี่ยนเป็นสีเขียว เฉียวเหลียงก็เคลื่อนรถ ไปส่งถังซีกลับถึงบ้านพักครอบครัวเซียว ถังซีมองไปที่ตัวบ้านก่อนจะจูบแก้มเฉียวเหลียงและเอ่ยเบา “รอสักครู่นะคะ อย่าลืมหาอะไรทานรองท้องก่อนนะ”

 

 

เฉียวเหลียงช่วยเธอปลดเข็มขัดนิรภัย ถังซีลงจากรถ เดินเข้าไปในบ้านพักของครอบครัวเซียว

 

 

ทันทีที่ถังซีเข้ามาในบ้านเธอก็พบเซียวเหยาตรงทางเข้า ดวงตาเขาเศร้าเล็กน้อยเมื่อมองไปยังรถของเฉียวเหลียงที่จอดอยู่ด้านนอก ร่องรอยความขวยเขินแผ่ซ่านใบหน้าถังซี แต่ในไม่ช้าเธอก็กลบเกลื่อนความรู้สึก เดินเข้ามาทักทายเซียวเหยาด้วยรอยยิ้ม “พี่เหยา ทำไมมายืนอยู่ที่ประตูละคะ”

 

 

เซียวเหยาละสายตา แล้วกะพริบตาเพื่อปกปิดความหม่นหมอง จากนั้นก็ลูบศีรษะถังซี กล่าวอย่างอ่อนโยนว่า “คุณตาโทรมาหาเราบ่ายวันนี้ ขอให้พวกเราไปเยี่ยมที่บ้านตระกูลหยาง คุณแม่ออกไปรับเธอ แต่ไปเกือบชั่วโมงแล้วยังไม่กลับมา พี่เป็นห่วงนิดหน่อยเลยออกมาดู”

 

 

หัวใจถังซีวูบลง เมื่อได้ยินว่าครอบครัวเธอทั้งครอบครัวกำลังจะไปบ้านตระกูลหยาง เธอกะพริบตาถี่ๆ มองเซียวเหยา แล้วถามว่า “ที่บ้านคุณตาเหรอคะ”

 

 

เซียวเหยาพยักหน้า กล่าวเสียงเรียบ “ตอนที่เรายังอยู่ในโรงพยาบาล คุณลุงขอให้เราไปเยี่ยมคุณตาหลังจากออกจากโรงพยาบาล นี่เราก็ออกมาได้สองวันแล้ว และคุณตาโทรหาเรา บอกว่าวันนี้เป็นวันศุกร์ ท่านอยากชวนเราไปที่บ้านท่าน”

 

 

ถังซีอ้าปากค้าง เธอสัญญากับเฉียวเหลียงว่าจะไปทานอาหารค่ำกับเขา แต่ตอนนี้เธอต้องไปบ้านคุณตา เธอควรทำยังไงดี!

 

 

เท่าที่เธอรู้จักเขามา เขาต้องโกรธแน่นอน เมื่อโกรธเขาจะไม่ยอมทานอาหาร แล้วสุขภาพเขาก็จะ… ถังซีคิดว่าคงไม่เป็นไรใช่ไหม ถ้าจะไม่ได้ทานอาหารสักมื้อหนึ่ง

 

 

แล้วถ้าเขายังไม่ได้ทานอะไรเลยวันนี้ทั้งวันล่ะ

 

 

ถังซีเงยหน้ามองเซียวเหยา เขายิ้มและเดินกลับเข้าไปในบ้าน “สองเดือนกว่าแล้วที่เธอกลับมาอยู่ที่บ้านเรา คุณตาและคุณลุงอยากพบเธอ คุณแม่ก็เห็นด้วย เราทุกคนจะไปทานอาหารค่ำที่บ้านตระกูลหยางกันคืนนี้”

 

 

ถังซีกำลังจะถามพอดีว่าเธอจะอยู่บ้านได้ไหม แต่ต้องกลืนคำพูดกลับไปเมื่อได้ยินคำอธิบายของเซียวเหยา แล้วพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม “ตกลงค่ะ ฉันเข้าใจแล้ว ฉันจะขึ้นไปเตรียมตัวข้างบน นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันจะได้ไปเยี่ยมคุณตาที่บ้านท่าน ฉันต้องสร้างความประทับใจแก่ท่านให้มากที่สุด”

 

 

เซียวเหยาพยักหน้าด้วยรอยยิ้มและมองดูถังซีขึ้นไปชั้นบน ก่อนจะมองออกไปนอกบ้านผ่านหน้าต่างบานสูงจากพื้นจรดเพดาน เขาเห็นรถสีดำจอดอยู่ภายนอก แสงแห่งความหม่นหมองแวบขึ้นในดวงตา เธออยากออกไปกับเขาใช่ไหม แล้วเขาก็อดประณามตัวเองไม่ได้ เซียวเหยานี่นายกลายเป็นคนน่ารังเกียจอย่างนี้ตั้งแต่เมื่อไร

 

 

หลังจากถังซีขึ้นไปชั้นบน เธอก็โทรหาเฉียวเหลียง ขอโทษเขา และสัญญาว่าจะไม่ทำอย่างนี้อีก เฉียวเหลียงส่งเสียงคำรามจากลำคออย่างเฉยเมยเป็นคำตอบ และวางสายโทรศัพท์ไป

 

 

ถังซีมองโทรศัพท์ แล้วหันไปมองรถที่เพิ่งขับออกไปด้วยความรู้สึกผิด…