ตอนที่ 353 ข้างนอก

หยางโปมองทั้งสองคนจากไป แล้วก็ไม่ได้สนใจมากนัก พ่อหยางถึงแม้จะลำเอียงให้กับหยางหลาง แต่เขาก็รักชีวิตตนเองมากกว่า เขาย่อมไม่ทำเรื่องทำร้ายตัวเองแน่ !

แน่นอนว่าตอนนี้หยางโปรู้ตัวชัดเจนดี ในฐานะลูกเลี้ยง เขาไม่มีทางได้พื้นที่ในใจของอีกฝ่ายเท่าไหร่นัก ดังนั้นปัญหาแบบนี้ก็ไม่จำเป็นต้องไปคิดมาก !

ตอนที่กุ้ยหรงจิ่วมาถึง หยางโปก็กวาดร้านไปรอบหนึ่ง ชงน้ำชาอีกครั้ง

กุ้ยหรงจิ่วเดินเข้ามาในร้าน วนรอบมองไปรอบร้านของโบราณก็เอ่ยอย่างประหลาดใจ ” เดิมทีพวกเรายังกังวลใจ หลังจากมาถึงจินหลิงแล้วควรจะยืมของร้านโบราณไหนดี พอเห็นสมบัติพวกนี้ของนายแล้ว ฉันก็วางใจ ของพวกนี้ของนายสามารถถ่ายรายการที่จินหลิงได้สามตอนเลยทีเดียว ! “

หยางโปส่ายหน้า ” ที่นี่เล็กไปหน่อย เกรงว่าจะไม่ค่อยพอ “

 

กุ้ยหรงจิ่วหัวเราะฮ่าฮ่า ” ลอบเอาของปลอมมาปนที่นี่สักหลายชิ้นก็พอแล้ว ยังไงก็จัดฉาก ไม่มีทางที่จะไม่มีของปลอม ! เพียงแต่คิดไม่ถึงว่า ครั้งก่อนที่เชิญนายไปเป็นผู้ครองสมบัติ ครั้งนี้นายจะเป็นถึงระดับผู้เชี่ยวชาญแล้ว ! “

หยางโปหัวเราะเบาๆ ” ครั้งนี้พวกคุณจะเริ่มถ่ายทำเมื่อไหร่ ? “

” น่าจะวันพรุ่งนี้นะ ตอนบ่ายจะมีคนติดต่อนาย นายวางใจเถอะ ” กุ้ยหรงจิ่วเอ่ย

หยางโปรินชาให้กุ้ยหรงจิ่ว สนทนากับเขา หลักๆ แล้วก็ปรึกษาเรื่องที่เขาต้องให้ความสำคัญในวันพรุ่งนี้ เขาไม่อยากให้ขึ้นเวทีครั้งแรกก็เกิดเรื่องผิดพลาดขึ้น !

กุ้ยหรงจิ่วก็อดทน เอ่ยอธิบายอย่างละเอียดตั้งแต่ต้นจนจบ ถึงขนาดเล่าประสบการณ์บางส่วนออกมา ทำให้หยางโปเชื่อมั่นในตัวรายการเพิ่มขึ้นไม่น้อย

 

ถึงตอนบ่าย หยางโปปิดประตูร้านแล้วพากุ้ยหรงจิ่วไปปีนเขาจ่อหลินทันที

เช้าตรู่วันต่อมา หยางโปก็รีบไปสถานที่ถ่ายทำครั้งนี้ตามที่ได้รับแจ้ง โรงถ่ายทำที่สามของสถานีโทรศัพท์ซูเซิง !

ตอนที่รายการโทรทัศน์ออกมาประกาศ มักจะปรากฏสถานการณ์ฝูงชนล้อมอยู่ข้างนอก ถึงขนาดพิธีกรและผู้ครองสมบัติทำกิจกรรมกันไม่หยุดก็จะเกิดเรื่องน่าทึ่งมากมาย !

แต่ในความเป็นจริงแล้ว สถานที่ฝูงชนกับสถานที่ถ่ายทำอยู่ไกลกันมาก ตอนที่ถ่ายทำท้ายสุด มีแค่คนที่ครองสมบัติในรอบแรกถึงจะมีโอกาสได้เข้าร่วม ดังนั้นคนในที่นี่จึงไม่มากนัก

หยางโปมาถึงด้านนอกของสถานทีโทรทัศน์ซูเซิง ก็ถูกยามขวางเอาไว้ ” นายมาทำอะไร ? “

” ผมมาเข้าร่วมการถ่ายทำรายการประเมินสมบัติ ” หยางโปเอ่ย จู่ๆ เขาก็คิดถึงเรื่องหนึ่งออก เหมือนว่าในที่นี่ทุกคนจะห้อยป้ายชื่อ มีเพียงเขาคนเดียวที่ไม่มี

 

ยามคนนั้นมองเขาแวบหนึ่ง ” อยากมั่วเข้าไปเหรอ ? ไอ้หนู ถอดใจซะเถอะนะ ! ระดับความปลอดภัยของสถานีโทรทัศน์ของพวกเราสูงมาก นายเห็นพวกนั้นไหมพวกนั้นทั้งหมดเป็นทหารเกษียณมาทั้งนั้น คนหนึ่งมีแรงเท่ากับสามคนเลยทีเดียว ! “

หยางโปส่ายหน้ายิ้มแห้งๆ ” เป็นไปได้ว่าทีมงานลืมให้ป้ายชื่อผม คุณช่วยเรียกคนพวกนั้นมาหาผมได้ไหม ? “

” ไม่ต้องพูดมาก ตอนนี้นายไปโทรศัพท์ให้คนเอาแผ่นป้ายมาให้ ฉันถึงจะให้นายเข้าไปได้ ! ” ยามส่ายหน้าแล้วเอ่ยทันที

หยางโปจนปัญญา ทำได้แค่หยิบโทรศัพท์ โทรหาพนักงานของสถานีโทรทัศน์คนนั้นที่ติดต่อกับเขาเมื่อวาน แต่ว่าอีกฝ่ายไม่รู้ว่ากำลังทำอะไร จึงไม่ได้รับสายของเขาเลย

 

ยามคนนั้นเดิมก็คิดว่าหยางโปท่าทีไม่น่าไว้ใจ เวลานี้มองเห็นเขาโทรศัพท์ก็ไม่มีประโยชน์ ใบหน้ายิ้มเยาะทันที ” ในเมื่อไม่มีคนมารับรอง ถ้างั้นก็ไม่ต้องพูดมาก ! รีบออกไปจากที่นี่ซะ ! “

หยางโปเงยหน้ามองตึกใหญ่ ตึกใหญ่สูงมาก เขาไม่สามารถร้องตะโกนจากข้างนอกได้ แต่เกรงว่าจะทำให้เสียเรื่อง ลัวย่าวหัวลงทุนลงแรงเพื่อแย่งชิงเอาโอกาสในการโฆษณาครั้งนี้ไปมากทีเดียว !

” รีบไปสิ ! รีบไป ! ” ยามเอ่ยเร่งขึ้น

หยางโปจำต้องเดินไปข้างนอก พลางโทรศัพท์หากุ้ยหรงจิ่ว หวังว่าจะติดต่อได้โดยเร็วที่สุด ไหนเลยจะคิดว่ากุ้ยหรงจิ่วก็ไม่รับโทรศัพท์

” โอ้ สวัสดีครับ ! “

 

หยางโปกำลังถือโทรศัพท์เลื่อนหารายชื่อผู้ติดต่อ จู่ๆ ก็ได้ยินเสียงตะโกนเรียกจากด้านหลัง เขาหันหลังไปมองก็มองเห็นผู้นำของกลุ่มคนชุดสูทสีดำเดินเข้ามา

หยางโปประหลาดใจเล็กน้อย ” สวัสดีครับ “

มีคนหนึ่งเดินอยู่ด้านหน้าสุด เขาอายุไม่เกินสี่สิบห้าสิบปี สีหน้ารอยยิ้มอบอุ่น เป็นมิตรอย่างมาก ยื่นมือมาจับมือของหยางโป ” สวัสดีครับคุณชุย “

หยางโปมองไปอย่างประหลาดใจ เขาไม่รู้จักอีกฝ่ายเลย

” คุณชุย ผมคือเหล่าฟางไง ครั้งก่อนพวกเราเจอกันที่เมืองหลวง ! ” เหล่าฟางเอ่ยอย่างดีใจมาก

หยางโปกลับไม่ได้มีความทรงจำอะไร เขาจำไม่ได้ว่าตนเองไปรู้จักกับเจ้าหน้าที่ที่ไหน ” ผมไม่ได้แซ่ชุย “

เหล่าฟางพลันชะงักไปครู่หนึ่ง ” ครั้งก่อนตอนที่เชิญรัฐมนตรีชุยไปทานอาหาร คุณอยู่ที่ร้านอาหารนั่นด้วยไม่ใช่เหรอ ? “

 

หยางโปชะงักไปเล็กน้อยแล้วก็ตอบกลับมา ” มีเรื่องแบบนี้จริงๆ “

เหล่าฟางได้ยินก็ยิ้มออกมา เขาได้ยินเรื่องของชุยซื่อหยวนมาบ้าง ย่อมเข้าใจความสำคัญของบุคคลตรงหน้าดี เอาใจคนผู้นี้ก็ได้ผลกว่าเอาใจชุยซื่อหยวนมาก เขารีบเอ่ยถามเสียงเบา ” นี่คุณจะเข้าไปข้างในเหรอครับ ? “

หยางโปพยักหน้า ” ผมมาถ่ายรายการที่นี่ และไม่ได้เอาป้ายชื่อมา “

” ป้ายชื่อ ? ” เหล่าฟางมองหยางโป ทันใดนั้นก็เอ่ยตำหนิ ” ยังไม่รีบเชิญคุณหยางเข้าไปอีก ส่งคนมานำทาง ต้องรับประกันความปลอดภัยของคุณหยางด้วย ! “

ยามหน้าหน้าประตูคนนั้นได้ยินคำพูดแบบนี้ของรองผู้อำนวยการสถานีฟางก็รู้สึกตกใจมาก ถึงขนาดอดที่จะสงสัยฐานะของหยางโปไม่ได้ รีบเอ่ยกับหยางโปว่า ” ขออภัยจริงๆ ครับ “

ยามพาหยางโปเดินไปสองสามก้าว ยามคนนั้นถึงค่อยเอ่ยถามเสียงเบา ” คุณเป็นคนใหญ่คนโต ก็ปล่อยผู้น้อยไปสักครั้งเถอะนะครับ “

 

หยางโปมองไป ส่ายหน้าแล้วยิ้ม ไม่ได้พูดอะไร

ได้ยินเสียงฝีเท้าด้านหลัง ยามก็ยืนตัวตรงทันที ” รองผู้อำนวยการสถานีฟาง นี่คุณจะ ? “

” เอาล่ะ นายกลับไปเถอะ ฉันจะพาคุณหยางไปส่งเอง ! ” รองผู้อำนวยการสถานีฟางโบกมือ

ยามคนนั้นราวกับได้การอภัยโทษครั้งใหญ่ เขาหันหลังแล้ววิ่งออกไป เขาดีใจมาก

รองผู้อำนวยการสถานีฟางเอ่ยกับหยางโปเสียงเบา ” ต้องขออภัยจริงๆ ครับ ทำให้คุณต้องไม่สะดวก “

หยางโปส่ายหน้า ” วันนี้ต้องขอบคุณรองผู้อำนวยการสถานีฟาง ถ้าหากไม่ได้คุณ ผมก็เข้ามาไม่ได้ “

” นี่คือเรื่องที่ควรทำ ควรทำอย่างยิ่งครับ ” รองผู้อำนวยการสถานทีฟางเอ่ย

สตูดิโอถ่ายทำอยู่ไม่ไกล ดังนั้นไม่นานรองผู้อำนวยการสถานทีฟางก็พาหยางโปเข้าไป เขาหาข้ออ้างแล้วรองผู้อำนวยการสถานทีฟางก็จากไป

 

ก่อนจะจากไป รองผู้อำนวยการสถานทีฟางอ่อนน้อมมาก ดึงหยางโปแล้วเอ่ยว่า ” คุณหยาง ในเมื่อมาถึงสถานโทรทัศน์ซูเซิงแล้ว ก็ถือว่าที่นี่เป็นบ้านของตัวเอง ไม่ว่าจะมีเรื่องอะไร โทรศัพท์หาผม ผมจะจัดการให้คุณแน่นอน ! “

หยางโปส่ายหน้ายิ้ม ” คุณเกรงใจเกินไปแล้ว “

หยางโปมองแผ่นหลังที่จากไปของรองผู้อำนวยการสถานทีฟาง คิดไม่ถึงเลยจริงๆ ว่าตนเองจะถึงกับเจอกับอีกฝ่ายในสถานที่แบบนี้ ยิ่งไปกว่านั้นเขายังได้ความสะดวกของชุยซื่อหยวน ยังไงนี่ล้วนเป็นชื่อของชุยซื่อหยวน