ตอนที่ 243

Crazy Leveling System

CLS ตอนที่ 243: หลบหนี

 

เขาเปิดใช้งานพลังป้องกันที่แข็งแกร่งที่สุด การที่จะโจมตีสวนกลับฝั่งตรงข้ามนั้นเป็นไปไม่ได้ มีเพียงแต่เพิ่มพลังป้องกันให้กับตนเองเท่านั้น

 

หลังจากที่เพิ่งจะเปิดใช้งานสายเลือดเทพมังกรและเคล็ดวิชาเซวียนเทียน ฝ่ามือนี้ก็ได้มาถึง ซัดลงบนร่างของเขา

 

“ปัง” อี้เทียนหยุนรู้สึกเหมือนกับร่างแทบจะฉีกขาด ถูกซัดปลิวไป ก่อนที่จะกระเด็นไปติดกำแพงที่ด้านหลัง เมื่อร่างที่แข็งแกร่งของเขาชนเข้ากับกำแพง ทำให้กำแพงปรากฏรอยแตกร้าวนับไม่ถ้วนออกมา แทบจะทะลุกำแพงไป

 

“ฮึ่ม…..”

 

อี้เทียนหยุนแค่นเสียงออกมา ก่อนที่จะหลุดออกจากกำแพง พร้อมกับนั่งชันเข่ากับพื้น “แค่ก….” เขาไอออกมาอย่างน่ากลัว ได้รับบาดเจ็บเล็กๆ น้อยๆ แต่เห็นแผลไม่ชัดนัก ยังไงก็ตาม อี้เทียนหยุนรู้สึกเหมือนกับอวัยวะภายในของเขาถูกเคลื่อน แสดงให้เห็นว่าฝ่ามือนี้น่าสะพรึงขนาดไหน

 

โชคดีที่พลังป้องกันของเขาร้ายกาจพอ ภายใต้สายเลือดเทพมังกรกับเคล็ดวิชาเซวียนเทียน ทำให้พลังป้องกันของเขาก้าวเข้าสู่จุดสูงสุดอีกขีดขั้น เมื่อรวมกับฉายาผู้พิทักษ์ที่มีอยู่ ทำให้พลังป้องกันของเขาเข้าสู่ระดับน่าสะพรึง แม้ว่าจะไม่ใช่การป้องกันสมบูรณ์แบบ แต่อย่างน้อยก็ป้องกันพลังโจมตีส่วนใหญ่เอาไว้ได้

 

หลังจากฟาดฝ่ามือนี้ออกมา ร่างเงาจักรพรรดิใต้พิภพก็ค่อยๆ หายไป ไม่สามารถคงสภาพร่างได้ต่อ ก่อนหน้านี้ได้ใช้พลังที่น่าสะพรึงมากออกมา ทำให้เครื่องรางป้องกันนี้ใช้พลังออกมาจนหมด ไม่สามารถคงสภาพได้จนถึงขีดจำกัด

 

หลังจากเงาร่างนั้นหายไป อี้เทียนหยุนก็ได้ลุกขึ้น ไอออกมาอีกสองสามครั้ง เห็นได้ชัดว่าได้รับบาดเจ็บ แม้จะสามารถป้องกันเอาไว้ได้ แต่ก็ยังได้รับบาดเจ็บจากพลังส่วนที่เหลือ ฝ่ามือเทพใต้พิภพมีพลังอย่างน้อย 6-7 ล้าน ถ้ารับเข้าไปตรงๆ ไม่ตายก็กลายเป็นคนพิการ

 

อี้เทียนหยุนเดินเข้ามา หยุดลงตรงหน้าเฉิงเฟิง เฉิงเฟิงในตอนนี้เหลือเพียงแค่ครึ่งร่างเท่านั้น ถ้าเปลี่ยนเป็นคนอื่นคงตายไปแล้ว แต่เขาเป็นผู้เชี่ยวชาญระดับผันแปรวิญญาณ ทำให้มีพลังชีวิตที่แข็งแกร่ง ดังนั้นจึงทนมาได้ถึงตอนนี้

 

“นี่ นี่คือเคล็ดวิชาเซวียนเทียน เจ้า เจ้าคือคนของวังเทียนจี๋…..” เฉิงเฟิงเบิกตาโต เต็มไปด้วยความไม่อยากจะเชื่อ

 

เมื่อเขาเห็นเคล็ดวิชาเซวียนเทียน ทันใดนั้นเขาก็คาดเดาได้ นี่เป็นวิชาที่เป็นเหตุผลให้พวกเราต้องเสนออภัยโทษ เพื่อเคล็ดวิชาเซวียนเทียนนี้ พวกเขาจึงเสนออภัยโทษให้กับวังเทียนจี๋ จากนั้นก็ค่อยๆ หาทางครอบครองวิชานี้อย่างช้าๆ

 

แม้ว่าอาณาจักรใต้พิภพจะมีวิชายุทธ์ที่ทรงพลังมากมาย แต่ใครที่จะรังเกียจว่ามีวิชายุทธ์มากเกินไป? ทั้งเคล็ดวิชาเซวียนเทียนยังมีความพิเศษเฉพาะ ดังนั้นพวกเขาจึงต้องการเคล็ดวิชาเซวียนเทียนนี้

 

ถ้าไม่ใช่เพราะเคล็ดวิชาเซวียนเทียนนี้ วังเทียนจี๋คงถูกบดขยี้ไปแล้ว ที่พวกเขาเสนอให้มีการอภัยโทษ ใจความหลักอยู่ที่เคล็ดวิชาเซวียนเทียนนี้! หากไม่มีเคล็ดวิชาเซวียนเทียน วังเทียนจี๋ก็ไม่มีอะไรเลย

 

การบดขยี้นั้นเป็นเรื่องง่าย แต่เพื่อให้ได้เคล็ดวิชาเซวียนเทียนนี้มา พวกเขาจึงจำเป็นต้องใช้วิธีที่อ่อนโยน

 

“เจ้าเดาถูกแล้ว ข้าคือคนของวังเทียนจี๋” อี้เทียนหยุนดึงผ้าคลุมหน้าลง รวมถึงหน้ากากร้อยแปลงด้วย พร้อมกับมองมาที่เขาอย่างเย็นชาแล้วพูดขึ้นว่า “คิดจะจับคนของวังเทียนจี๋เรา ทั้งยังคิดจะบดขยี้วังเทียนจี๋ของข้าอีก?”

 

“เจ้า เป็นเจ้า!!” เฉิงเฟิงมองมาที่เขาด้วยความตกใจ

 

เผชิญหน้ากับความตาย ใครบ้างจะไม่กลัว เขาจะไปคิดได้ยังไงว่าคนที่ลอบสังหารตนเองจะเป็นอี้เทียนหยุน ยังหนุ่มแต่ก็มีพลังที่น่าสะพรึง ตอนนี้เขาพลันเข้าใจแล้วว่า ผู้เชี่ยวชาญลึกลับคนนั้นของวังเทียนจี๋เป็นใคร

 

ยังไงก็ตาม ตอนนี้ได้สายไปแล้ว เฉิงเฟิงได้ตายลง ตายลงไปด้วยความไม่ยินยอม

 

“ติ๊ง ท่านสังหารเฉิงเฟิงสำเร็จ ได้รับค่าประสบการณ์ 460,000, ค่าความคลั่ง 4,500, ค่าความชั่ว 200, ได้รับเคล็ดวิชากายทองคำ(หายาก), ได้รับยันต์อัญเชิญใต้พิภพ(ใช้อัญเชิญร่างเงาจักรพรรดิใต้พิภพระดับผันแปรวิญญาณขั้นสูงสุด), บัตรค่าประสบการณ์ 20 เท่า(หายาก), กุญแจคุกเผ่าภูต(หายาก)!”

 

“ติ๊ง ยินดีด้วย ผู้เล่นอี้เทียนหยุนได้สังหารข้ามระดับ ได้รับโอกาสในการหมุนลอตเตอรี่รุ่นปรับปรุง 1 ครั้ง, เลื่อนระดับขึ้น 1 ขั้น!”

 

“ติ๊ง ผู้เล่นอี้เทียนหยุนได้เข้าสู่ระดับก่อแกนวิญญาณขั้นสูงสุด!”

 

“อะไรกัน!”

 

อี้เทียนหยุนตกใจ ครั้งนี้ไม่ได้รับบัตรเลื่อนระดับ แต่ได้รับการเลื่อนระดับแทน เมื่อมองไปที่ค่าประสบการณ์ตรงหน้าต่างสถานะ เขาก็พลันอยากจะร้องไห้ขึ้นมา เหลืออีกแค่ไม่กี่ล้านก็จะเลื่อนระดับได้แล้ว มาเลื่อนระดับให้ตอนนี้ช่างเสียเปล่าจริงๆ

 

นี่หมายความว่าค่าประสบการณ์สิบกว่าล้านเมื่อก่อนหน้ากลายเป็นเสียเปล่าไป! นี่ทำให้เขาไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี ทำไมไม่ให้บัตรเลื่อนระดับ แต่กลับเลื่อนระดับให้แทนกัน?

 

“ดูเหมือนว่าจะแล้วแต่สถานการณ์ ให้บัตรเลื่อนระดับยังจะดีซะกว่า” อี้เทียนหยุนมองไปยังร่างเฉิงเฟิง “พูดไปแล้วเจ้านี่ก็ช่างยากจนเสียจริง กระทั่งอาวุธยังไม่ตกให้ข้า แต่ตกไอเทมหายากออกมาก็นับว่าคุ้มค่าแล้ว”

 

อี้เทียนหยุนหยิบแหวนของเฉิงเฟิงขึ้นมาอย่างรวดเร็ว แม้ว่าของที่ตกจะไม่เยอะ แต่ของในแหวนนี้มีมากพอ ในนี้มีของขวัญที่เหล่าประมุขมอบให้กับเฉิงเฟิง แต่ตอนนี้ได้กลายเป็นของเขาแล้ว นี่แน่นอนว่าล้ำค่าอย่างมาก

 

“นายท่าน เกิดอะไรขึ้น!”

 

ในตอนนี้เอง ผู้คุ้มกันก็ได้มาที่นี่อย่างรวดเร็ว อี้เทียนหยุนรีบสวมหน้ากาก  จากนั้นก็ซ่อนตัว หายไปจากที่นี่อย่างรวดเร็ว ผู้คุ้มกันพุ่งเข้ามาอย่างไว แต่เพราะว่าข้างนอกได้ถล่มลงมาแล้ว ดังนั้นพวกเขาจึงทำได้แค่ปีนขึ้นมา ทำให้ไม่สามารถมาเร็วได้เท่าที่ควร

 

ฝ่ามือเทพใต้พิภพนั้นแข็งแกร่งมาก ทำให้ตำหนักนี้ถึงกับพังทลาย แน่นอนว่าทำให้พวกเขาเข้ามาที่นี่ได้ไม่เร็วนัก

 

แต่เมื่อพวกเขาเข้ามา พวกเขาก็พลันพบกับศพของเฉิงเฟิงอย่างรวดเร็ว ทำให้พวกเขาต้องการกันตกใจ

 

“เฉิง เฉิงต้าเหริน…..” พวกเขาพุ่งเข้ามาตรงนี้ เมื่อตรวจสอบลมหายใจก็พากันหน้าซีดอย่างรวดเร็ว ไม่คิดว่าเฉิงต้าเหรินจะตายไปทั้งอย่างนี้!

 

ดูจากสภาพศพที่น่าขยะแขยง ทำให้พวกเขาไม่กล้ามองตรงๆ เฉิงเฟิงออกจะแข็งแกร่ง ทำไมถึงได้ตายอยู่ที่นี่ ไม่รู้ว่าเป็นการลงมือของผู้เชี่ยวชาญคนไหน

 

“เร็ว รีบไปค้นหาเร็วเข้า!” ตัวหัวหน้ามีท่าทางใจเย็น พร้อมกับออกคำสั่งให้ค้นหา

 

เฉิงเฟิงตายไปแล้ว แต่ยังมีผู้จัดการอีกหลายคน ทันใดนั้นก็ได้มีคำสั่งลงมา ให้ออกค้นหาทุกซอกทุกมุม จากนั้นก็ได้มีผู้คุ้มกันคนหนึ่งหยิบพลุขึ้นมา พร้อมกับยิงออกไปอย่างรวดเร็ว ทำให้พลุพุ่งขึ้นไปบนฟ้า พร้อมกับระเบิดออก

 

กองกำลังทั้งหมดในตำหนักต่างก็มองเห็น ท่าทางของพวกเขาพลันเปลี่ยนไป จากนั้นก็เริ่มค้นหาที่ที่น่าสงสัยในทันที

 

อี้เทียนหยุนที่ได้หนีออกมานั้น รู้สึกเหมือนร่างกายบาดเจ็บหนัก พลังของฝ่ามือเมื่อกี้แข็งแกร่งมาก แม้จะต้านรับเอาไว้ได้ แต่ก็ทำให้เขาได้รับบาดเจ็บ ไม่สามารถคงอยู่ในสภาพซ่อนตัวเอง ทำให้ร่างของเขาค่อยๆ เผยออกมาอย่างช้าๆ

 

“อาการบาดเจ็บค่อยๆ หนักขึ้นเรื่อยๆ แล้ว…..” อี้เทียนหยุนรู้สึกเวียนหัว ฝ่ามือเทพใต้พิภพนี้ไม่สามารถดูถูกได้จริงๆ แม้จะสามารถต้านรับพลังภายนอกเอาไว้ได้ แต่ก็ยังมีผลข้างเคียง ทำให้ไม่นานก็เกิดเวียนหัว ทำให้สายตาพร่าเบลอ ส่งผลต่อการต่อสู้

 

“ไปตรวจสอบทางนี้ดู!” ในตอนนี้เอง ได้มีผู้คุ้มกันค้นหามาถึงที่นี่

 

อี้เทียนหยุนรีบเงยหน้าขึ้น จากนั้น ร่างก็กระพริบวาบ ไปปรากฏตรงด้านหน้าบ้านหลังหนึ่ง พร้อมกับกระโดดขึ้นไปบนหลังคา แต่เพิ่งจะเหยียบลงบนนั้น ก็ได้มีลำแสงเย็นเยียบเล็งมาที่เขา

 

“ใครกัน!” เสียงใสใสดังมา

 

อี้เทียนหยุนฉวยโอกาสที่มีแสงจันทร์มองไปที่ด้านข้าง และก็พบว่าคนที่ชี้กระบี่ใส่ตนนั้นไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นอวี่ชีเชียนนั่นเอง! ไม่คิดว่าห้องที่เขาเข้ามาซ่อนจะเป็นห้องของอวี่ชีเชียน