หลี่จิงและคนอื่นๆสังเกตเห็นบทความของ “นักวิชาการแห่งแสงอาทิตย์” ได้อย่างรวดเร็ว
หลี่จิงชอบบทความนี้มาก เป็นผลให้เธอแนะนำให้แฟนๆจำนวนมากมาอ่านโพสต์นี้
ทันใดนั้น ก็เริ่มมีคนมาแสดงความคิดเห็นมากขึ้นเรื่อยๆ
(กบโดดเดี่ยวและเป็นหม้าย: น่าหดหู่จริงๆ! มีคนจำนวนมากเสียชีวิตเพราะเหตุการณ์นี้!)
(สมาชิก: ผมเห็นในรูป มีชายชราถูกเหยียบตาย!)
(ความจริง: ฉันกำลังสงสัยอยู่พอดี ว่าขนาดนักวิชาการจำนวนมากในสหรัฐอเมริกาและเยอรมนีก็ยังไม่สามารถทำเครื่องทำนายแผ่นดินไหวขึ้นมาได้เลย แล้วอย่างประเทศจีนจะสามารถทำเครื่องทำนายแผ่นดินไหวขึ้นมาได้อย่างไร?)
(บุคคลที่ไม่รู้จัก: รัฐบาลจีนมักจะโกหกแบบนี้เสมอ เมื่อไหร่ประเทศเราจะเป็นเหมือนสหรัฐอเมริกาสักที?)
(มอโตร่า: มหาวิทยาลัยในจีนมีเรื่องเน่าเหม็นเช่นนี้มานานแล้ว ฉันไม่แปลกใจเลยที่เรื่องนี้เกิดขึ้น)

(สมบัติ: น่าสงสารจิงจิงและคนที่ตกเป็นเหยื่อคนอื่นๆ!)
…………
ไม่นานหลังจากนั้น แอคเค้าท์ของ”นักวิชาการแห่งแสงอาทิตย์” ก็ขึ้นไปอยู่ในรายชื่อการค้นหายอดนิยมของเว่ยป๋อ
เมื่อพิจารณาจากจำนวนผู้อ่านและแฟนๆที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เฉินจงก็อดหัวเราะออกมาไม่ได้
ตอนนั้นเอง โทรศัพท์มือถือของเขาก็สั่นขึ้น
[เรา.ปรมาจารย์ทองคำ: บทความที่คุณโพสนั้นดีจริงๆ มันชี้ให้เห็นข้อสงสัยหลายๆอย่าง ฉันให้รางวัลแก่คุณ 1 ล้านหยวน 】
ทันทีหลังจากนั้นที่เฉินจงอ่านจบ โทรศัพท์มือถือของเขาก็สั่นขึ้นมาอีกครั้ง
[ยอดเงินเข้าบัญชี 1,000,000 หยวน 】
นี่…
เฉินจงกระโดดขึ้นอย่างมีความสุข
จากนั้น เขาก็วางมือลงบนแป้นพิมพ์และเริ่มพิมพ์บทความต่อไปอย่างรวดเร็ว
…………
ณ ปักกิ่ง บ้านของตระกูลโจว
โจวกั๋วเถาดูข้อมูลที่เขาถือไว้อยู่อย่างระมัดระวัง
หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็พูดออกมา “หลินฟานเป็นคนคิดค้นเครื่องพยากรณ์แผ่นดินไหวที่สามารถทำนายแผ่นดินไหวล่วงหน้าได้ 5 วันเลยอย่างงั้นหรอ แถมยังผ่านการตรวจสอบจากผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิทยาศาสตร์แล้วด้วย…”
“แต่ตอนนี้ เขากลับถูกโจมตีทางอินเทอร์เน็ต เพราะนักแสดงตัวเล็กๆคนหนึ่ง”
แม้ว่าน้ำเสียงของโจวกั๋วเถาจะดูสงบเหมือนกับสายน้ำ
แต่โจวซือหงที่ยืนอยู่ข้างๆเข้าใจอย่างชัดเจนเลยว่า ชายชราที่อยู่ข้างหน้าเขากำลังโกรธอย่างถึงที่สุด
โจวกั๋วเถาใช้พลังของตัวเองในการพลักดันตระกูลโจวขึ้นเป็นหนึ่งในสี่ตระกูลชั้นนำ
ด้านหนึ่งเป็นเพราะความสามารถของเขา
อีกด้านหนึ่งนั้นเป็นเพราะเขาเป็นคนรักชาติและจงรักภักดีต่อประเทศชาติ!
ดังนั้น คนใหญ่คนโตของประเทศจึงปล่อยให้เขาเติบโตต่อไป
ในวันนี้ โจวกั๋วเถาได้ยินข่าวว่ามีคนทำให้นักวิทยาศาสตร์ที่ทำประโยชน์ให้กับประเทศต้องเสียชื่อเสียง แถมนักวิทยาศาสตร์คนนั้นก็คือ… หลินฟาน!
รู้ไหมว่าหลินฟานเป็นคนช่วยชีวิตเขาไว้!
ในตอนนี้ ไม่มีใครสามารถจินตนาการถึงความโกรธในใจของโจวกั๋วเถาได้
ผ่านไปสักพัก โจวกั๋วเถาก็พูดขึ้นมาอย่างเคร่งขรึม “วงการบันเทิงควรได้รับการจัดระเบียบใหม่!”
…………
ณ เมืองหลวง บ้านตระกูลฉิน
หลังจากที่ฉินเว่ยหมิงไปงานวันเกิดคุณปู่ของหลินฟาน เขาก็ได้เดินทางกลับมายังเมืองหลวงพร้อมกับหลานชาย
ในเวลานี้ ฉินเว่ยหมิงก็กำลังนั่งสบายๆอยู่บนเก้าอี้พร้อมกับขยับร่างกายเบา ๆ

“ตึก!”
ตอนนั้นเอง ชายในเครื่องแบบทหารคนหนึ่งก็เดินเข้ามา
ฉินเว่ยหมิงยกเปลือกตาขึ้นก่อนจะพูด “เสี่ยวซู เกิดอะไรขึ้น?”
“ท่านผู้เฒ่า หลินฟานได้พัฒนาเครื่องทำนายแผ่นดินไหวที่สามารถทำนายได้ในอีกห้าวันข้างหน้า” เสี่ยวซูพูด
“โอ้ หลินฟานนี้น่าทึ่งจริงๆ! เขาเก่งทั้งคณิตศาสตร์และการแพทย์ แถมตอนนี้เขายังคิดค้นเครื่องทำนายแผ่นดินไหวขึ้นมาได้อีก! ดี ดีมาก!”
ขณะที่ฉินเว่ยหมิงพูดอยู่ ดวงตาของเขาก็เปล่งประกายขึ้นเล็กน้อย
เห็นได้ชัดว่าเขามีความสุขมากเมื่อได้ยินข่าวนี้
ย้อนกลับไปในตอนที่ฉินเว่ยหมิงลุกขึ้นต่อต้านฝ่ายที่เป็นภัยต่อประเทศ นั่นเป็นเพราะว่าเขาไม่ต้องการให้คนธรรมดาต้องทนทุกข์ทรมาน
เขาถึงสามารถขับไล่ผู้บุกรุกออกไปได้
แต่ภัยธรรมชาติเช่นแผ่นดินไหวนั้นต่างออกไป ไม่มีใครสามารถขับไล่มันออกไปได้
ฉินเว่ยหมิงจึงพบกับความสิ้นหวังทุกครั้งที่มีการเกิดแผ่นดินไหว
แต่หลังจากที่เขาได้ยินว่ามีคนคิดค้นเครื่องทำนายแผ่นดินไหวขึ้นมาได้ แถมยังเป็นเครื่องทำนายแผ่นดินไหวที่ทำนายล่วงหน้าได้ถึง 5 วัน…
เรื่องนี้สามารถลดความทุกข์ทรมานของประชาชนได้มากอย่างแน่นอน!
แล้วจะไม่ให้เขารู้สึกมีความสุขได้ยังไงกัน?
ฉินเว่ยหมิงพอใจกับข่าวนี้มาก แต่ตอนนั้นเอง เขาก็สังเกตุเห็นความลังเลของเสี่ยวซู ดูเหมือนเสี่ยวซูจะลังเลที่จะบอกเรื่องอะไรบางอย่าง ฉินเว่ยหมิงเลยอดไม่ได้ที่จะถามออกไป “ยังมีอย่างอื่นอีกหรอ?”
“คือว่า หลินฟานกำลังถูกโจมตีจากผู้คนในอินเทอร์เน็ต” เสี่ยวซูพูด
ฉินเว่ยหมิงขมวดคิ้วทันทีเมื่อได้ยินเรื่องที่เสี่ยวซูพูดออกมา
หลังจากพูดจบ เสี่ยวซูก็หยิบเอกสารออกมาจำนวนหนึ่ง
“ฟึบ ฟึบ ฟึบ!”
ฉินเว่ยหมิงอ่านเอกสารอย่างรวดเร็ว…
“ตุบบ!”
ครู่ต่อมา เขาก็ตบฝ่ามือลงบนที่วางแขนจนแตกกระจาย
เห็นได้ชัดเลยว่า ฉินเว่ยหมิงโกรธขนาดไหนหลังจากที่ได้อ่านข้อมูลบนเอกสาร
“กล้ามาก! ที่นักแสดงสาวกล่าวใส่ร้ายนักวิทยาศาสตร์ที่ทำเพื่อประเทศและประชาชนอย่างโจ่งแจ้งแบบนี้ ช่างกล้าจริงๆ!”
…………
ในบ้านเช่าที่มีแสงไฟสลัวๆ
เฉินจงเปิดเว่ยป๋อขึ้นมาอีกครั้ง เขาเหลือบดูข้อมูลการอ่านและจำนวนแฟนๆที่ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากนั้นเขาก็ยืนขึ้นและบิดสะโพกของเขาเล็กน้อย
เขาหัวเราะลั่นออกมาก่อนจะพูด “รวย คราวนี้รวยเละแน่ๆ!”
“ก๊อก ก๊อก ก๊อก!”
ตอนนั้นเอง เสียงเคาะประตูจากดังขึ้นมาจากด้านนอก

เฉินจงขมวดคิ้วทันทีแล้วพูดว่า “ใครกัน?”
“มาส่งของครับ!”
เฉินจงพึมพำ “ส่งของหรอ ดูเหมือนว่าฉันจะไม่ได้สั่งซื้ออะไรหนิ”
ถึงแม้ว่าเขาจะงุนงงอยู่พอสมควร แต่สุดท้ายเขาก็เดินไปเปิดประตู
“ตึก ตึก ตึก ตึก!”
ในชั่วพริบตาที่เขาเปิดประตูออก พนักงานสอบสวนกลุ่มใหญ่ก็วิ่งเข้ามาพร้อมกับตะโกนเสียงดัง “หมอบลง!”
“เอามือยกขึ้นมาไว้ที่ท้ายทอย!”
เฉินจงตกใจมาก เขาไม่มีเวลาตอบสนองกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
“ตุบ!”
จากการมองดู พนังงานสอบสวนพบว่าเฉินจงไม่ได้ทำตามในสิ่งที่เขาบอก พนังงานสอบสวนจึงเดินไปข้างหน้าแล้วจับไหล่ของเฉินจงกดลงกับพื้นทันที
…………
โรงพยาบาลเมืองเสฉวน
ในตอนนี้ หลี่จิงกำลังนอนยิ้มอยู่บนเตียงในโรงพยาบาล
เนื่องจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ในครั้งนี้ ไม่ได้ทำให้เธอสูญเสียความนิยมของตัวเองไป
แถมยังทำให้เธอโด่งดังขึ้นกว่าเดิมซะอีก
หลี่จิงกำลังมีความสุขอย่างมาก เธอคิดว่าต่อจากนี้เงินทองจะต้องไหลมาเทมาหาเธออย่างแน่นอน
“กริ๊ง!”
ในขณะนั้นเอง โทรศัพท์ที่วางอยู่ข้างๆหมอนของเธอก็ดังและสั่นขึ้นมา
หลี่จิงรีบเหลือบไปมองทันทีว่าคนที่โทรมาเป็นใคร ซึ่งเมื่อเธอเห็นชื่อของคนที่โทรมา รอยยิ้มก็ได้ปรากฏขึ้นมาบนใบหน้าของเธอทันที
เพราะสายที่โทรเข้านั้นมาจากเจ้านายของบริษัทที่เธอเซ็นสัญญา
เธอคิดว่าเจ้านายจะต้องมาแสดงความยินดีกับเธอที่ความนิยมของเธอเพิ่มขึ้นแน่ๆ!
แต่ทันทีที่หลี่จิงกดรับโทรศัพท์ เสียงคำรามก็ดังออกมาทันที
“หลี่จิง เธอทำอะไรลงไป”
“ตอนนี้ ภาพยนตร์ ทีวี โฆษณา…อุตสาหกรรมสื่อทั้งหมดได้ยุติความร่วมมือกับเราไปหมดแล้ว!”
“บริษัททุน ละคร ทีวี ภาพยนตร์ การ์ตูน…เหลือแค่กระดาษสัญญาเปล่าๆ!”
“ตอบสิ!”
“เธอต้องอธิบายเรื่องที่เกิดขึ้นให้กับเหล่าพนักงานและผู้บริหารฟังอีกมากมาย ว่าเกิดอะไรขึ้น!”
หลี่จิงตกตะลึง เธอไม่รู้ว่าจะต้องอธิบายอะไร
“ตึก ตึก ตึก!”
ทันใดนั้น หน่วยสืบสวนกลุ่มใหญ่ก็ได้วิ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว
“หลี่จิง คุณถูกจับแล้ว!”
…………
ในเวลาเดียวกัน ข้อมูลทั้งหมดบนอินเทอร์เน็ตที่เกี่ยวกับการใส่ร้ายและดูถูกหลินฟาน ก็หายไปราวกับว่ามันไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
หลายคนตกอยู่ในความงุนงง จากนั้นข่าวรายวันแห่งชาติก็ได้ประกาศออกมา