ตอนที่ 96 คุณหมายความว่าสิ่งที่กําลังทําตอนนี้สําคัญเหรอ?

The rise of the white lotus

ตอนที่ 96 คุณหมายความว่าสิ่งที่กําลังทําตอนนี้สําคัญเหรอ?

 

ขณะที่อีธานคู่รอคําตอบของเธอจากความต้องการที่ผิดปกติของเขา การจับพวงมาลัยของเขาแน่นขึ้นและกรามของเขาก็ขบจนขึ้นสันชัด เขาคิดว่าเล็กซี่จะไม่พูดอะไรออกมาแม้แต่คําเดียวหรือแย่กว่านั้นคือตัดสายไปเลย ซึ่งเขาไม่ต้องการให้เกิดขึ้นกับคําขอที่เห็นแก่ตัวของเขา ดังนั้นเขาถึงเสียใจกับการตัดสินใจของเขาอย่างรวดเร็ว

 

หลังจากนั้นไม่กี่วินาที เล็กซี่ก็ตอบตกลงโดยไม่ได้หยีระอะไร จากนั้นก็รับสาย อีธานสั่นคลอนไปถึงแกนกลางเมื่อเธอตอบด้วยน้ําเสียงที่สุภาพ แต่หนักแน่น เขาเกือบจะอ้าปากค้างด้วยความไม่เชื่อกับคําพูดที่หยาบคายและเหน็บแนมของเธอ ซึ่งน่าจะทําให้มอริสหลิวไม่พอใจอย่างแน่นอน

 

หลังจากที่เธอพูดประโยคสุดท้ายของเธออย่างใจเย็น อีธานก็สัมผัสได้ถึงออร่าที่เป็นลางไม่ดีที่เริ่มเปล่งออกมาจากเธอ ก่อนที่เธอจะตะโกนจนสามารถทําให้เขาหูหนวกได้ ความหึงหวงของเขา เหมือนถูกโยนทิ้งไปด้านข้าง

 

“คุณ! คุณเป็นคนไม่สู้คนเหรอ?!”

 

“ เอ๊ะ?!” เมื่อได้ยินคําถามแสนดูถูกของเธอพร้อมกับการกล่าวหา อีธานก็เต็มไปด้วยเครื่องหมายคําถาม ในชีวิตของเขาเขาไม่เคยถูกเรียกว่าเป็นคนไม่สู้คนหรืออะไรก็ตามที่ใกล้เคียงคํานั้น แต่เพราะเขาไม่เคยกล้าพอที่จะฝ่าฝืนกฏของครอบครัวที่เข้มงวด และใช้ชีวิตในแบบที่เขาต้องการ

 

นอกเหนือจากออกเดทที่มีชื่อเสียงของอีธานลู่แล้ว เขานั้นยังได้รับการยอมรับนับถือจากเพื่อนนักธุรกิจเนื่องจากความสามารถของเขาในฐานะคนที่เป็นทายาทของตระกูลสู่ และนั่นถือเป็นข้อดีในที่สุด ดังนั้นเล็กชี้จึงสรุปได้อย่างไรว่าเขาเป็นคนขี้ขลาดกัน? มอริสหลิวเพื่อนสนิทของเขาพูดอะไรกับเธอในเวลาไม่ถึงนาที แล้วทําให้เธอโมโหขนาดนี้ได้?

 

“อะไรนะ? ถ้าเขาบอกให้คุณไปที่นั่นทันที่คุณจะบินไปที่นั่นไม่ว่าจะเป็นยังเหรอ? ” เธอยังคงโกรธกับน้ําเสียงที่เอาแต่ใจของมอริส ที่ทําให้เธอระคายเคืองถึงขีดสุด ดวงตาของเล็กซี่คมขึ้นราว กับว่าถ้ามีคําพูดไม่เข้าหูเธอจากเขา เธอจะเตะเขาออกไปทันที

 

“ เขาบอกว่าผมควรไปพบเขาตอนนี้เลยเหรอ?” เมื่อเดาบทสนทนาตามปกติของ มอริสหลิว ได้ใบหน้าของอีธานก็กระตุก เธอไม่ชินกับเขาตลอดหลายปีที่ผ่านมาเลยหรือไง? สุดท้ายแล้วมอริสก็เป็นเช่นนั้นเสมอ

 

“เดี๋ยวก่อนนะ นี่หมายความว่าเธอจะไปหาเขา แม้ว่าเธอจะอยู่ห่างออกไปถึงหนึ่งไมล์ถ้าเธอได้รับโทรศัพท์จากเขาอย่างกะทันหันเหมือนคราวที่แล้วเหรอ?” ทันใดนั้นความคิดนี้ก็วนเวียนอยู่ในใจของเขา ซึ่งทําให้อีธานต้องมาจอดอยู่ข้างถนนใกล้จุดหมายของเธอ

 

เขาหันไปมองเล็กชื่อย่างไม่เชื่อสายตา เขาขมวดคิ้วขณะที่ถาม “คุณคิดว่าผมเป็นคนไม่สู้คนเพราะเรื่องนี้เหรอ?”

 

” อ่าฮะ ถ้าคุณไม่อยู่ที่นี่ คุณจะไปไหม? ” เธอไม่พอใจขณะโอบแขนกอดอกของเธอ เล็กซี่ยังไม่รู้ตัว แต่ตอนนี้เธอทําตัวเหมือนโกรธแฟนของเธอโดยการประท้วงกับสิ่งที่ไม่เป็นธรรมต่อแฟนของเธอตรงหน้า นอกจากนี้เล็กซี่ไม่รู้ว่าทําไมเธอถึงรู้สึกกังวลและแสดงปฏิกิริยามากมายขนาดนี้ แต่สําหรับเธอแล้วนั่นไม่สําคัญ เพราะเธอจะไม่ยอมรับใครก็ตามที่ปฏิบัติต่อเขาด้วยวิธีนี้

 

“ แน่นอนสิครับ…”

 

” เห็นมั้ย? ” หลังจากได้ยินคําตอบของเขา เล็กซี่ก็ตอบกลับไปในทันที

 

” ผมหมายความว่า ผมจะไปหากเขาขอความช่วยเหลือที่สําคัญ แต่ถ้าผมติดธุระที่สําคัญอยู่เราจะต้องรอไปก่อน!” อีธานอธิบาย เขารู้สึกพ่ายแพ้ต่อความหัวร้อนของเธอ อย่างไรก็ตามส่วนหนึ่งของเขาสัมผัสได้ถึงความกังวลที่ผิดปกติของเธอเกี่ยวกับเขา

 

เล็กซี่ผงะเล็กน้อยเมื่ออีธานอธิบายสถานการณ์ให้ดียิ่งขึ้น เธอขมวดคิ้วขณะที่ความโกรธในใจลดลงไปนิดหน่อย “คุณหมายความว่าสิ่งที่กําลังทําตอนนี้สําคัญเหรอ?”

 

” แน่นอนสิ! นี่เป็นโปรเจ็กต์แรกของคุณหลังจากนั้นไม่มีมานานเลยนะ ” เล็กซี่โล่งใจได้ไม่นาน อีธานก็ไม่ได้คิดถึงคําพูดของเขาขณะที่เขาพูดเลย

 

เล็กซึ่: “….”

 

เมื่อได้ยินคําพูดที่ที่อทีม แต่สัมผัสได้ เล็กซี่ก็พูดไม่ออก ตั้งแต่ที่เธอเข้ามาทํางานในวงการบันเทิง นอกจากการสนับสนุนจากพ่อแม่แล้ว ไม่มีใครเคยคิดว่าสิ่งที่เธอทําไม่ว่าจะเพื่อตัวเองหรือ เพื่อความรักที่ไม่สมหวังนั้นสําคัญสําหรับเธอแค่ไหน

 

ดังนั้นการที่เขาพูดคําเหล่านั้น ราวกับว่ามันมีความสําคัญมากกว่าสิ่งที่เธอคิดว่ามันจะเป็นระลอกของอารมณ์ที่วนเวียนอยู่ในหัวใจที่ไม่สามารถแตะต้องได้ของเธอ ไม่ต้องพูดถึงเขาอ้างว่าเป็นโปรเจ็กต์ ‘แรก’ ของเธอ ราวกับว่าเขามั่นใจว่าเธอจะได้รับบทนี้แน่นอน

 

“โอเค ผมไม่ได้เป็นคนขี้ขลาดและผมจะไม่มีวันเป็นอย่างนั้น แต่ผมรู้วิธีที่จะยอมรับตําแหน่งของผมอย่างแน่นอน – สุดท้ายมันก็ยังคงเป็นประโยชน์ต่อผมนะ “ ด้วยความมั่นใจ อีธานยิ้มอย่างอ่อนโยนกับสีหน้าที่พูดไม่ออกของเธอ ก่อนที่เขาจะหมุนตัวขึ้นรถและขับรถต่อไปยังทางเข้าด้านหลังของสถานที่ออดิชั่น

 

” กลับเลย ไม่ต้องรอฉัน” เมื่อมาถึงจุดหมายปลายทางแล้ว อีธานตอบด้วยรอยยิ้ม ศีรษะไปตามทิศทางของ เธอเขาเลิกคิ้วขณะที่เขาดูเธอปลดเข็มขัดที่เบาะนั่งและจัดชุดที่เรียบง่าย แต่สง่างามของเธอให้เข้าที่ เขาเอ่ยต่อ

 

“ แน่ใจเหรอว่าไม่ให้ผมรอคุณ”

 

“อืม ใช่ อาบีจะขับรถไปส่งฉันที่บ้านเอง” หลังจากคําอธิบายสั้นๆของเธอ เล็กซี่เหลือบมอง เขาและหันหนีไปทันที ด้วยเหตุผลบางอย่างอีธานที่ผมยุ่งเหยิงจริงใจนั้นดูดีมากเกินไป

 

“ ฉันขยับไม่ได้เลยชู” ชูรูที่ไม่ได้ขยับตัวบนตักของเธอตั้งแต่ก่อนหน้านี้พูดอย่างไร้อารมณ์ซึ่งทําให้เล็กซี่หันเหความสนใจจากสิ่งที่เธอคิดเกี่ยวกับอีธาน เมื่อมองลงไปที่อาการ 50/50 ของเกี่ยวที่น่ารักและร่าเริงตลอดเวลา เล็กซี่รู้สึกแย่ไปกับเธอด้วย

 

ดังนั้นเล็กซี่จึงเกิดความคิดที่ไร้สาระที่จะช่วยเพื่อนสนิทของเธอ เมื่อหาโทรศัพท์ของเธอจากกระเป๋าสะพาย เธอถือมันไว้บนฝ่ามือจากนั้นก็หยิบชูรูขึ้นมาและวางเธอทับก่อนที่จะวางฝ่ามืออีกข้างไว้ข้างๆอีกข้าง

 

เมื่อเห็นว่าเธอมีท่าทางแปลก ๆ ในขณะที่ถือ โทรศัพท์” ของเธอ ราวกับว่ามันเป็นสิ่งล้ําค่าที่สุดในโลกที่พระเจ้ามอบให้ อีธานขมวดคิ้วด้วยความงงงวย “ เอ่อ…คุณกําลังทําอะไรอยู่เหรอ?”

 

“เอ่อ…เข้าถึงบทน่ะ! ใช่แล้ว นี่คือวิธีที่ฉันทําเพื่อเรียนสมาธินะ ฮะ ฮะ “ เล็กซี่โกหกโดยไม่สบตา เธอจึงหาข้อแก้ตัวอย่างเชื่องช้า ท้ายที่สุดเธอไม่สามารถพูดได้ว่าเธอกําลังถือเกี้ยวที่มองไม่เห็น ทางโทรศัพท์ เธอตอบกลับด้วยน้ําเสียงเรียบเฉย

 

“อืม คุณจะเปิดประตูให้ไหม?”

 

“ โอ้…ได้สิ ” อีธานใช้โอกาสจากข้ออ้างของเธอ เนื่องจากเล็กที่มีด้านที่แตกต่างของเธอและคิดว่านี่เป็นหนึ่งในนั้น ดังนั้นแม้ว่าเขาจะพบว่ามันงี่เง่า แต่เขาก็ไม่ได้ยึดติดกับมัน ในขณะที่เขาเอนตัวยึดแขนเพื่อเปิดประตูให้เธอ

 

ในขณะที่เขาทําเช่นนั้น เล็กซี่ก็เอนหลังและยกมือขึ้นเล็กน้อยเพื่อจับมันไว้ด้วยกัน เมื่อกลิ่นหอมจากธรรมชาติจาง ๆ ของเขาลอยไปตามจมูกของเธอ เธอกระพริบตาหลายครั้งเพราะเธอไม่สามารถแสดงคําชมออกมาเป็นคําพูดได้

 

เธอไม่เคยสังเกตเห็นรูปลักษณ์ของเขาและกลิ่นหอมอ่อน ๆ ตามธรรมชาติของเขา ดังนั้น เล็กซี่จึงรู้สึกสับสนว่าทําไมวันนี้จิตใจของเธอถึงได้แปลกๆ นี่เป็นเพราะ ความเงียบ” ของชรที่ทําให้จิตใต้สํานึกของเธอชี้ให้เห็นสิ่งเหล่านี้โดยอัตโนมัติ ในขณะไม่มีเกี้ยวตัวเล็ก ๆ ?

 

“ เปิดให้แล้ว ” หลังจากเปิดประตูให้เธอเล็กน้อย อีธานก็ไม่ได้อยู่ใกล้เธออีและทําให้หัวใจของเขาไม่อยู่นิ่งอย่างน่าประหลาดใจ เมื่อเห็นว่าเธอรู้สึกงุนงงขณะที่ฝ่ามือของเธอยังคงค้างอยู่โดยมีโทรศัพท์อยู่บนนั้น อีธานจึงโบกมือเรียก

 

” เฮ้? “

 

“ใช่แล้ว ขอบคุณนะ!” เมื่อกลับมาสู่ความเป็นจริง เล็กซี่ก็รีบออกไป

 

” นี่!” ขณะที่เธอก้าวเท้าออกไปข้างนอก เธอก็ได้ยินอีธานเรียก ทําให้เธอมองลงไปที่ช่องหน้าต่างที่เปิดอยู่ด้วยสายตาที่สับสน เมื่อเห็นอีธานยิ้มให้เธอขณะที่เขาพูดว่า

 

” ยินดีด้วยนะ!” จากนั้นเขาก็ขยิบตา เขาขยิบตาให้เธอตลอดเวลา แต่ทําไมเธอถึงได้รับผลกระทบตอนนี้กัน

 

“ขอบคุณค่ะ เดินทางดีๆนะ “ เล็กซี่ส่ายหัวในขณะที่เธอพูดขอบคุณกับคํากล่าวแสดงความยินดีของเขา ก่อนที่จะเดินเข้าไปในสถานที่ออดิชั่นต่อ

 

อีธานเฝ้าดูเธอเข้าไปในอาคาร ในขณะที่เธอถือโทรศัพท์อย่างงี่เง่าแล้วหัวเราะเบา ๆ เขาพึมพํา

 

“ ผู้หญิงป้องคนนี้เธอเหมาะกับบทนี้จริงๆแหละ” จากนั้นเขาก็ขับออกไปไปพร้อมกับ รอยยิ้มที่อ่อนโยนบนริมฝีปากของเขา