ตอนที่ 277 อกสั่นขวัญหาย

Mars เจ้าสงครามครองโลก

ซู่!

ทุกคนสูดหายใจเข้าลึก ๆ!

ก่อนหน้านั้นมีผู้กำกับคนหนึ่งบอกว่าหานเฟิงเคยยกรถที่มีน้ำหนัก 1.5 ตัน และเขาเดินไปหนึ่งร้อยก้าวต่อหน้าสาธารณชน ถึงแม้จะเชื่อว่ามันเป็นเรื่องจริง แต่เขาไม่ได้เห็นด้วยตาตนเอง ดังนั้นเขาจึงไม่รู้สึกถึงความน่าสะพรึงกลัว!

แต่ตอนนี้ พวกเขาเห็นด้วยตาตนเองว่าชายสะพายดาบ ไม่เพียงสามารถสกัดกั้นซูเปอร์คาร์ไลแคนที่วิ่งมาด้วยความเร็วมากกว่าสองร้อยกิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ แต่ยังสามารถเหวี่ยงมันออกไปไกลหลายสิบเมตรได้อย่างง่ายดาย ซึ่งทำให้พวกเขาตกใจอย่างสุดขีด! !

มันน่าตกใจกลัวพอ ๆ กับที่คนโบราณเห็นเครื่องบิน!

ราวกับฟ้าถล่มทลาย จนทำให้คนอกสั่นขวัญหาย!

ลมหายใจของเฉินเทียนป้าผิดปกติเล็กน้อย มือของเขาสั่นและชาเล็กน้อย อย่างไรก็ตาม เมื่อสักครู่เขาเพิ่งสกัดกั้นซูเปอร์คาร์ไลแคนที่วิ่งมาด้วยความเร็วมากกว่าสองร้อยกิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งยากกว่าการยกรถและเดินไปหนึ่งร้อยเก้าหลายเท่า!

เพราะตนเองเขานั้นได้น่าสะพรึงกลัวเหมือนสามเทพสงคราม หากเทพสงครามทั้งสามคนอยู่ที่นี่ พวกเขาเตะเพียงครั้งเดียวก็สามารถทำให้ซูเปอร์คาร์ระเบิดแล้ว!

ถึงแม้ว่าตนจะอยู่ที่ระดับเซียนบู๊ และการที่จะก้าวขึ้นไปเป็นเทพบู๊ และได้รับตำแหน่งเทพสงครามนั้นหนทางยังอีกยาวไกล

และระดับนั้นใช่ว่าจะเป็นไปได้ง่าย ๆ

เฉินเทียนป้าไม่ใช่ พญาบู๊อย่างที่ผู้กำกับคาดเดา และไม่ใช่จอมพลระดับ ราชาบู๊ตามที่ ไฉจวิ้นคาดเดา แต่สูงกว่าราชาบู๊อีกระดับ ซึ่งก็คือระดับเซียนบู๊!

สำหรับกองทัพแล้ว เซียนบู๊ถูกขนานนามว่าราชาแห่งสงคราม!

และเฉินเทียนป้า ได้รับการแต่งตั้งจากขุนหลวงเป็นราชาปรับอุดร!

เขาเป็นหนึ่งในสี่ราชาสงคราม ผู้ใต้บังคับบัญชาของเจ้าเทพ!

และต่ำกว่าสามเทพสงครามเพียงระดับเดียวเท่านั้น!

แน่นอนว่าคนที่ไม่อยู่ในโลกบู๊นั้น ไม่รู้เรื่องทั้งหมดนี้อย่างชัดเจน

ขณะนี้ สายตาที่คนอื่น ๆ มองเฉินเทียนป้านั้น ราวกับว่าพวกเขากำลังมองสัตว์ประหลาดที่มีรูปร่างเหมือนมนุษย์!

ตกใจจนอกสั่นขวัญหาย

คนไม่น้อยตกใจกับพลานุภาพของเฉินเทียนป้า จนถอยหลังไปหลายก้าวตามสัญชาตญาณ

เมื่อสักครู่คนที่พูดจาเหน็บแนม ตอนนี้พวกเขาตกใจจนไม่กล้าหายใจแรง แค่หวังว่าอีกฝ่ายจะไม่สังเกตเห็นตนเอง

ตอนนี้ ไม่มีใครสนใจเรื่องความเป็นความตายของไฉจวิ้นแล้ว แค่หวังว่าสองคนนั้นจะไม่มาหาเรื่องตนเอง

เฉินเทียนป้าไม่ได้สนใจไฉจวิ้น แล้วเดินไปทางโจงหย่าถิง

โจงหย่าถิงตกใจจนหน้าขาวซีด และสีหน้าเต็มไปด้วยความตกใจ

นั่งลงบนพื้น และไม่กล้าแม้แต่จะร้องไห้ออกมา

เพียะ!

เฉินเทียนป้าตบไปที่หน้าของโจงหย่าถิงและกล่าวอย่างเย็นชาว่า “คุณเป็นเพียงนักแสดงเท่านั้น ใครให้ความกล้าแก่คุณ ทำให้เจ้าพลเสียเกียรติ!”

ก่อนหน้านั้น มีคนมากมายคล้อยตามโจงหย่าถิง แต่ตอนนี้ ทุกคนกลัวจนรีบหลบแทบไม่ทัน

การตบครั้งนี้ ทำให้ฟันของโจงหย่าถิงร่วงไปเกือบหนึ่ง เธอรีบคุกเข่าอยู่ตรงหน้าเย่เซิ่งเทียน และกล่าวด้วยความตื่นตระหนก “ฉันผิดไปแล้ว ฉันผิดไปแล้ว ฉันขอโทษ ฉันขอโทษ ฉันมีตาแต่หามีแววไม่ ฉันไม่กล้าอีกแล้ว ได้โปรดยกโทษให้ฉันด้วยเถอะ”

เธอในฐานะผูนำนางเอกสาวดาวรุ่งสี่คนของปีนี้ และเป็นนักแสดงยอดนิยม แต่ตอนนี้ โจงหย่าถิงสูญเสียความเย่อหยิ่งไปอย่างสิ้นเชิง เหลือเพียงความหวาดกลัวเท่านั้น!

เธอตกใจจนฉี่ราดกางเกง

“คุณเป็นตัวอะไร ยังไม่มีคุณสมบัติที่จะกราบเจ้าพล!”

เฉินเทียนป้าใช้เท้าเตะเธอออกไปทันที จนทำให้ขาของโจงหย่าถิงหัก และยังไม่ทันที่โจงหย่าถิงจะกรีดร้องออกมา เฉินเทียนป้าก็ปล่อยหมัดออกไปติดต่อกันสองครั้ง จนทำให้แขนทั้งสองข้างของเธอหัก!

เมื่อสักครู่ เย่เซิ่งเทียนเพียงแค่เดินไปอยู่ข้างหน้าเธอเท่านั้น แต่เธอไม่ยอมลดราวาศอก จะให้เย่เซิ่งเทียนคุกเข่า และหลังจากที่ ไฉจวิ้นปรากฏตัวแล้ว เธอยิ่งยโสโอหัง ต้องการหักแขนขาของเย่เซิ่งเทียน ซึ่งเธอเป็นคนที่โหดร้ายมาก

ตอนนี้ เฉินเทียนป้าทำให้เธอสมปรารถนา

คนที่อยู่รอบ ๆ มองเย่เซิ่งเทียนด้วยสายตาที่หวาดกลัว

ทุกคนต่างคาดเดากันว่าชายหนุ่มคนนี้มีสถานะตัวตนแบบไหน? มีประวัติความเป็นมาอย่างไร? ที่สามารถทำให้คนที่แข็งแกร่งเช่นนี้คุ้มกันเขา! !

อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่ต้นจนจบเย่เซิ่งเทียนไม่ได้หันหน้ากลับมา แค่จ้องแผ่นโลหะที่ประตูของตระกูลโจว ที่เป็นรูปมังกรและหงส์ที่มีตัวอักษรว่า – ตระกูลโจว

ทันใดนั้น เย่เซิ่งเทียนก็ตะโกนอย่างเย็นชา “เอาดาบมา!”