ตอนที่ 1516 รวมตัว (3)
จวินอู๋เสียเลิกคิ้วขึ้นและตอบว่า “นั่นแหละที่ข้าต้องการ เป็นเป้าหมายของพวกเขา”
“ในหัวเจ้ามีความคิดอยู่เต็มไปหมด ข้าเชื่อว่าเจ้าตัดสินใจไม่ผิด” ฟ่านจั๋วเห็นว่าจวินอู๋เสียมั่นใจมาก เขาจึงวางใจขึ้น
เฉียวฉู่กระพริบตามองจวินอู๋เสีย เขาเต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็นเกี่ยวกับวิชาเสริมวิญญาณของจวินอู๋เสีย และได้ทดลองอยู่หลายวันจนน้ำแห้งหมดถังเผื่อจะสำเร็จสักครั้ง และสุดท้ายก็ล้มเหลว
“เสี่ยวเสีย เปิดเผยวิชาเสริมวิญญาณให้คนข้างนอกเห็น มันจะก่อความวุ่นวายหรือ? ทำไมเจ้าแสดงของดีแบบนั้นให้คนพวกนั้นเห็นล่ะ?” เฉียวฉู่ถาม
จวินอู๋เสียหันไปมองเฉียวฉู่ “เพราะข้าอยากเข้าสำนักธาราเมฆ”
“ฮะ?” เฉียวฉู่ตกใจ “เจ้าจะรับคำเชิญของสิบสองวิหารหรือ?”
จวินอู๋เสียส่ายหัว “ข้าได้ติดต่อกับประมุขวิหารหยกวิญญาณเอาไว้แล้ว และข้าจะเข้าสำนักธาราเมฆในฐานะผู้ถูกเลือกจากวิหารหยกวิญญาณ”
“วิหารหยกวิญญาณ……”
คำพูดของจวินอู๋เสียทำให้เพื่อนๆทุกคนแปลกใจอย่างมาก คำว่าวิหารหยกวิญญาณฟังดูห่างไกลจากพวกเขา
“วิหารหยกวิญญาณยังอยู่งั้นหรือ? มีข่าวลือว่าวิหารหยกวิญญาณได้หายไปนานมากแล้ว เจ้ายังสามารถหาพวกเขาเจออีก นั่นมันช่าง……” หรงรั่วรู้สึกนับถือจวินอู๋เสียจริงๆ นางทำได้ยังไงกัน?
“วิหารหยกวิญญาณถูกสิบสองวิหารกดขี่ข่มเหงอย่างรุนแรงมาตลอด ถ้าเจ้าไปที่นั่นในฐานะคนของวิหารหยกวิญญาณ คนจากสิบสองวิหารจะไม่มีวันปล่อยให้เจ้าอยู่อย่างสงบสุขแน่” ฮัวเหยาพูดด้วยเสียงเคร่งขรึม
จวินอู๋เสียกลับตอบว่า “มีเก้าอารามอยู่ สิบสองวิหารไม่กล้าทำเกินไปนักหรอก”
“ที่ข้าให้พวกเจ้ามาที่นี่วันนี้ก็เพราะข้าอยากถามพวกเจ้าทุกคน พวกเจ้าเคยเจอคนจากเก้าอารามบ้างไหม?” จวินอู๋เสียมองเพื่อนๆของนาง แต่ทุกคนพากันส่ายหัว
พวกเฉียวฉู่เปิดเผยพลังที่แท้จริงของตัวเองในสนามแข่งต่างๆ อาจกล่าวได้ว่าพวกเขาได้ก่อให้เกิดความปั่นป่วนอย่างมาก แต่ไม่มีใครพยายามติดต่อกับพวกเขาเลย
แต่นั่นก็เข้าใจได้ไม่ยาก
สิ่งที่พวกเฉียวฉู่แสดงออกมา หากไม่ใช่พลังวิญญาณที่แข็งแกร่งก็เป็นความแข็งแกร่งของภูติประจำตัว แม้ว่าพวกเขาจะแสดงให้เห็นถึงพรสวรรค์ที่หายากและสร้างความตื่นตะลึงให้ผู้คนมากมาย แต่มันก็มีความหมายที่แตกต่างจากการเสริมวิญญาณของจวินอู๋เสีย การเสริมวิญญาณเป็นสิ่งที่ไม่เคยปรากฏในอาณาจักรกลางมาก่อนและมีพลังที่ยิ่งใหญ่ ของแบบนี้ย่อมดึงดูดคนในอาณาจักรกลางอย่างไม่อาจต้านทานได้
กลับกัน แม้ว่าพวกเฉียวฉู่จะแข็งแกร่งอย่างมากเมื่อเทียบกับคนรุ่นราวคราวเดียวกัน แต่ทั้งภูติประจำตัวและพลังวิญญาณเป็นสิ่งที่ผู้คนเห็นกันจนชิน พวกเขาดึงดูดความสนใจของสิบสองวิหารก็จริง แต่ด้วยกฎของการแข่งขันที่อยู่เหนือหัว มันจึงไม่เพียงพอที่จะทำให้สิบสองวิหารลงมือทำอะไรต่อหน้าเก้าอาราม
และมีเพียงการแสดงของจวินอู๋เสียเท่านั้นที่ดึงคนของสิบสองวิหารและเก้าอารามออกมาได้
จวินอู๋เสียเงียบไปครู่หนึ่ง แล้วบอกการคาดเดาของนางเกี่ยวกับเก้าอารามให้เพื่อนๆของนางฟัง หลังจากพวกเฉียวฉู่ได้ฟัง พวกเขาก็เข้าใจได้คร่าวๆ
“ที่เก้าอารามปล่อยให้สิบสองวิหารทำตามใจชอบได้แบบนี้ พวกเขาต้องมีเหตุผลของตัวเองแน่ ข้ากลับคิดว่าการที่เก้าอารามสามารถกดสิบสองวิหารเอาไว้ได้ตลอดไม่ใช่ว่าไม่มีเหตุผล สิบสองวิหารจะพยายามเอาชนะเก้าอารามได้ง่ายดายอย่างนั้นได้ยังไง?” เฟยเหยียนประสานมือไว้หลังศีรษะ มุมปากของเขาโค้งขึ้นเป็นรอยยิ้ม
การแบ่งอำนาจในอาณาจักรกลางเป็นเช่นนี้มานาน ยกเว้นราชอาณาจักรแห่งความมืดที่เก็บตัวโดดเดี่ยวอยู่นั้น ตำแหน่งและระดับชั้นของกลุ่มอำนาจอื่นๆไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปมากนัก
“ไม่ว่าเก้าอารามจะมีเจตนาอะไร เป้าหมายของเราก็ยังเป็นสิบสองวิหาร หลังจากที่เราออกจากสำนักธาราเมฆ มันจะเป็นจุดเริ่มต้นที่แท้จริงของแผนเรา” จวินอู๋เสียหรี่ตา แววตาส่องประกายมุ่งมั่นแรงกล้า