ตอนที่ 394 : ข้าไม่ใช่อาวุธ

Black Tech Internet Cafe System

ในความเป็นจริงผู้ฝึกฝนไม่ได้กังวลถึงความแข็งแกร่งของปีศาจเท่าไรนัก

 

ในเซียนกระบี่พิชิตมารพวกเขาจะได้สัมผัสกับพลังชีวิตอมตะของหลี่เสี่ยวเหยา ส่วนตอนนี้ในเดวิลเมครายสามพวกเขาสามารถสัมผัสกับพลังของสายเลือดปีศาจซึ่งเป็นสิ่งที่พวกเขาไม่เคยจินตนาการมาก่อน

 

ขณะที่พวกเขาเล่นเกมและดูฟางฉีเล่นพวกเขาค่อยๆ เข้าใจในบุคลิกภาพของดันเต้มากขึ้น ดันเต้เป็นคนมองโลกในแง่ดีมีอารมณ์ขัน เขานิ่งและสงบมีหลักการเป็นของเขาเอง เขาเหมือนมนุษย์มากขึ้นหลังจากที่เขาถูกปลุกขึ้นจากพลังปีศาจ

 

อย่างไรก็ตามพี่ชายฝาแฝดของเขาก็เหมือนปีศาจเข้าไปทุกทีเขาเป็นปีศาจที่เลือดเย็น เขาภูมิใจและชื่นชมในพลังของตัวเอง เขามักจะทำทุกวิธีทางเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย

 

ผู้เล่นทั้งผู้ฝึกฝนและนักรบจากตาจินและดินแดนทะเลดวงดาวนั้นรู้สึกชอบเวอร์จิลมากกว่า เขาไม่สนใจความสำคัญใดนอกจากทำมันเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย เขามีความทะเยอทยานเต็มไปด้วยพลังอันยิ่งใหญ่

 

ขณะเดียวกันโลกแห่งการฝึกฝนทั้งสองเองก็ได้ศึกษาอาวูะในเดวิลเมครายสามไปในตัว ตัวอย่างดันเต้มีอาวุธระยะประชิดอย่างดาบรีเบลเลี่ยนและเวอร์จิลมีดาบยามาโตะ

 

เดวิลเมครายสามมีความแตกต่างกับเกมเก่าอย่างสิ้นเชิง เซียนกระบี่พิชิตมารเน้นไปที่โชคชะตาและความรัก ส่วน Diablo นั้นมุ่งเน้นไปที่ความสนุกของการหลวมรวมไอเทม GTAV เน้นไปที่การใช้ชีวิตในรูปแบบใหม่ ส่วนเดวิลเมครายนั้นเน้นเรื่องการต่อสู้

 

ใช่ .. การต่อสู้

 

ส่วน GTAV เป็นเกมที่ใช้เล่นเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้เล่นเป็นส่วนใหญ่มันให้ความผ่อนคลายและคลายเครียด ส่วนเดวิลเมครายสามนั้นเล่นเกมที่สนองความต้องการของเหล่านักสู้ตัวยง

 

เห็นได้ชัดว่าตอนนี้ฟางฉีเล่นเกมได้ดีกว่าเก่า การโจมตีของเขารวดเร็วและคล่องตัว เขาใช้ท่าทางรอยัลการ์ดเพื่อต่อสู้กับปีศาจได้น่าชื่นชม

 

ดันเต้ยังคงเหมือนเดิมแม้จะถูกจู่โจมกับปีศาจแต่เขาไม่ได้รับบาดเจ็บเลย สายฟ้าและพายุที่พัดโหมกระหน่ำดันเต้ยังคงนิ่งเงียบเรากับน้ำลึกผู้ชมเริ่มเห็นถึงพลังอันน่ากลัวของเขาอีกครั้ง เมื่อรูปแบบการต่อสู้ของเขาดีขึ้นตัวเกมจะค่อยๆ เผยพลังที่ยิ่งใหญ่และท่าทางใหม่ๆอย่างกันสลิงเกอร์และสวอทมาสเตอร์ให้เขาได้ใช้ 

 

ชัดเจนว่าตอนนี้รอยัลการ์ดเป็นท่าพื้นฐานที่พูดเล่นได้จับต้องมากที่สุด

 

ฟางฉีได้รับประสบการณ์การต่อสู้มากมายในห้องฝึกฝนแถมเขายังคุ้นเคยกับรูปแบบการต่อสู้อีกด้วย นอกจากนี้เขายังเคยเล่นเกมเวอร์ชั่นเก่าในโลกที่เขาจากมาเขาจึงรู้ถึงท่าทางและรูปแบบการโจมตีของศัตรูส่วนใหญ่

 

การควบคุมของดันเต้มีช่วงเวลาและจังหวะที่สมบูรณ์แบบ ตอนนี้ผู้ชมข้างหลังกำลังกลั้นหายใจดูการต่อสู้ที่น่าทึ่งระหว่างปีศาจค้างคาวกับดันเต้ บนหน้าจอตอนนี้แสงสีขาวและแสงสีแดงกำลังปะปนกันนัวเนียและในที่สุดมันระเบิด!

 

พลังปีศาจของดันเต้ถูกปลดปล่อยทันทีเขาเหมือนภูเขาไฟที่กำลังปะทุพลังงานปีศาจตอนนี้ท่วมท้นจนผู้ชมเองแทบหายใจไม่ออก

 

ปีศาจตัวข้างหน้าถูกโจมตีด้วยความรุนแรง .. มันนอนกองอยู่บนพื้นเป็นที่เรียบร้อย 

 

ผู้ชมเงียบกริบ

 

เพียงเสี้ยววิมีเสียงตะโกนดังขึ้นว่า “นั่นมันคืออะไร”

 

“น่ากลัว”

 

“ตื่นเต้นจนแทบหายใจไม่ออก“ เสียงอุทานดังมาจากด้านหลัง

 

“…”

 

พวกเขาพบว่าพลังปีศาจทรงพลังมากหากเปรียบเป็นอาวุธพวกเขาคงไม่สามารถคัดลอกออกมาได้เพราะนั่นเป็นพลังที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิด

 

ผู้ชมที่ชมอยู่ตอนนี้พวกเขาตั้งใจดูมากราวกับว่าพวกเขาดำเนินชีวิตอยู่ในเกมด้วยตัวเอง 

 

ขณะเดียวกันปีศาจที่อยู่ในกองผ้าห่มพบว่าผู้ฝึกฝนรอบๆ กำลังจ้องมองมันด้วยสายตาแปลกๆ

 

“หืม!?” มันหันไปมองที่หน้าจอและพบว่าตันเด้กำลังเล่นกีต้าตัวของมันสั่นไหวทันที “ทำไมต้องจ้องมาที่ข้าด้วย”

 

“???” พวกเขามองเห็นดันเต้กำลังเล่นกีต้าร์ไฟฟ้าที่เพิ่งซื้อมา

 

“เจ้าคิดว่าเจ้านี้เป็นอาวุธหรือไม่” ยื่อหยันกระซิบ

 

“ข้าก็ไม่รู้เหมือนกัน” โมเซียนกระซิบ “มันไม่ใช่อาวุธหรอกหรอ”

 

“เจ้าคิดว่าอาวุธนี้สามารถเปลี่ยนเป็นอะไรได้บ้าง”

 

พวกเขาพูดคุยกันอย่างต่อเนื่อง

 

เจ้าปีศาจตัวสั่น

 

ฟางฉีอธิบายว่า “นี่เป็นเทเลพอร์ตไม่ใช่อาวุธ”

 

ปีศาจพูดว่า “ใช่ถูกต้อง! ข้าเป็นเทเลพอร์ต”

 

เขานิ่งไปเพราะขณะที่เขากำลังพูดอยู่เหมือนมีอะไรบางอย่างที่ไม่ถูกต้อง

 

“ข้าว่าแล้วเจ้าปีศาจเท่านี้ต้องมีอะไรบางอย่างที่แปลกๆ” หนิงไป่หัวเราะคิกคักดวงตาสีเขียวของเธอแวววับสดใสราวกับว่าเธอเพิ่งค้นพบภูเขาทองคำ

 

“ไม่! ไม่นะ ข้า .. ไม่ใช่อาวุธ!” มันเกือบกระทืบเท้าของมันด้วยความไม่พอใจโดยลืมไปว่าขณะนี้มันเป็นเพียงแค่ก้อนเมฆ