ในความเป็นจริงผู้ฝึกฝนไม่ได้กังวลถึงความแข็งแกร่งของปีศาจเท่าไรนัก
ในเซียนกระบี่พิชิตมารพวกเขาจะได้สัมผัสกับพลังชีวิตอมตะของหลี่เสี่ยวเหยา ส่วนตอนนี้ในเดวิลเมครายสามพวกเขาสามารถสัมผัสกับพลังของสายเลือดปีศาจซึ่งเป็นสิ่งที่พวกเขาไม่เคยจินตนาการมาก่อน
ขณะที่พวกเขาเล่นเกมและดูฟางฉีเล่นพวกเขาค่อยๆ เข้าใจในบุคลิกภาพของดันเต้มากขึ้น ดันเต้เป็นคนมองโลกในแง่ดีมีอารมณ์ขัน เขานิ่งและสงบมีหลักการเป็นของเขาเอง เขาเหมือนมนุษย์มากขึ้นหลังจากที่เขาถูกปลุกขึ้นจากพลังปีศาจ
อย่างไรก็ตามพี่ชายฝาแฝดของเขาก็เหมือนปีศาจเข้าไปทุกทีเขาเป็นปีศาจที่เลือดเย็น เขาภูมิใจและชื่นชมในพลังของตัวเอง เขามักจะทำทุกวิธีทางเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย
ผู้เล่นทั้งผู้ฝึกฝนและนักรบจากตาจินและดินแดนทะเลดวงดาวนั้นรู้สึกชอบเวอร์จิลมากกว่า เขาไม่สนใจความสำคัญใดนอกจากทำมันเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย เขามีความทะเยอทยานเต็มไปด้วยพลังอันยิ่งใหญ่
ขณะเดียวกันโลกแห่งการฝึกฝนทั้งสองเองก็ได้ศึกษาอาวูะในเดวิลเมครายสามไปในตัว ตัวอย่างดันเต้มีอาวุธระยะประชิดอย่างดาบรีเบลเลี่ยนและเวอร์จิลมีดาบยามาโตะ
เดวิลเมครายสามมีความแตกต่างกับเกมเก่าอย่างสิ้นเชิง เซียนกระบี่พิชิตมารเน้นไปที่โชคชะตาและความรัก ส่วน Diablo นั้นมุ่งเน้นไปที่ความสนุกของการหลวมรวมไอเทม GTAV เน้นไปที่การใช้ชีวิตในรูปแบบใหม่ ส่วนเดวิลเมครายนั้นเน้นเรื่องการต่อสู้
ใช่ .. การต่อสู้
ส่วน GTAV เป็นเกมที่ใช้เล่นเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้เล่นเป็นส่วนใหญ่มันให้ความผ่อนคลายและคลายเครียด ส่วนเดวิลเมครายสามนั้นเล่นเกมที่สนองความต้องการของเหล่านักสู้ตัวยง
เห็นได้ชัดว่าตอนนี้ฟางฉีเล่นเกมได้ดีกว่าเก่า การโจมตีของเขารวดเร็วและคล่องตัว เขาใช้ท่าทางรอยัลการ์ดเพื่อต่อสู้กับปีศาจได้น่าชื่นชม
ดันเต้ยังคงเหมือนเดิมแม้จะถูกจู่โจมกับปีศาจแต่เขาไม่ได้รับบาดเจ็บเลย สายฟ้าและพายุที่พัดโหมกระหน่ำดันเต้ยังคงนิ่งเงียบเรากับน้ำลึกผู้ชมเริ่มเห็นถึงพลังอันน่ากลัวของเขาอีกครั้ง เมื่อรูปแบบการต่อสู้ของเขาดีขึ้นตัวเกมจะค่อยๆ เผยพลังที่ยิ่งใหญ่และท่าทางใหม่ๆอย่างกันสลิงเกอร์และสวอทมาสเตอร์ให้เขาได้ใช้
ชัดเจนว่าตอนนี้รอยัลการ์ดเป็นท่าพื้นฐานที่พูดเล่นได้จับต้องมากที่สุด
ฟางฉีได้รับประสบการณ์การต่อสู้มากมายในห้องฝึกฝนแถมเขายังคุ้นเคยกับรูปแบบการต่อสู้อีกด้วย นอกจากนี้เขายังเคยเล่นเกมเวอร์ชั่นเก่าในโลกที่เขาจากมาเขาจึงรู้ถึงท่าทางและรูปแบบการโจมตีของศัตรูส่วนใหญ่
การควบคุมของดันเต้มีช่วงเวลาและจังหวะที่สมบูรณ์แบบ ตอนนี้ผู้ชมข้างหลังกำลังกลั้นหายใจดูการต่อสู้ที่น่าทึ่งระหว่างปีศาจค้างคาวกับดันเต้ บนหน้าจอตอนนี้แสงสีขาวและแสงสีแดงกำลังปะปนกันนัวเนียและในที่สุดมันระเบิด!
พลังปีศาจของดันเต้ถูกปลดปล่อยทันทีเขาเหมือนภูเขาไฟที่กำลังปะทุพลังงานปีศาจตอนนี้ท่วมท้นจนผู้ชมเองแทบหายใจไม่ออก
ปีศาจตัวข้างหน้าถูกโจมตีด้วยความรุนแรง .. มันนอนกองอยู่บนพื้นเป็นที่เรียบร้อย
ผู้ชมเงียบกริบ
เพียงเสี้ยววิมีเสียงตะโกนดังขึ้นว่า “นั่นมันคืออะไร”
“น่ากลัว”
“ตื่นเต้นจนแทบหายใจไม่ออก“ เสียงอุทานดังมาจากด้านหลัง
“…”
พวกเขาพบว่าพลังปีศาจทรงพลังมากหากเปรียบเป็นอาวุธพวกเขาคงไม่สามารถคัดลอกออกมาได้เพราะนั่นเป็นพลังที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิด
ผู้ชมที่ชมอยู่ตอนนี้พวกเขาตั้งใจดูมากราวกับว่าพวกเขาดำเนินชีวิตอยู่ในเกมด้วยตัวเอง
ขณะเดียวกันปีศาจที่อยู่ในกองผ้าห่มพบว่าผู้ฝึกฝนรอบๆ กำลังจ้องมองมันด้วยสายตาแปลกๆ
“หืม!?” มันหันไปมองที่หน้าจอและพบว่าตันเด้กำลังเล่นกีต้าตัวของมันสั่นไหวทันที “ทำไมต้องจ้องมาที่ข้าด้วย”
“???” พวกเขามองเห็นดันเต้กำลังเล่นกีต้าร์ไฟฟ้าที่เพิ่งซื้อมา
“เจ้าคิดว่าเจ้านี้เป็นอาวุธหรือไม่” ยื่อหยันกระซิบ
“ข้าก็ไม่รู้เหมือนกัน” โมเซียนกระซิบ “มันไม่ใช่อาวุธหรอกหรอ”
“เจ้าคิดว่าอาวุธนี้สามารถเปลี่ยนเป็นอะไรได้บ้าง”
พวกเขาพูดคุยกันอย่างต่อเนื่อง
เจ้าปีศาจตัวสั่น
ฟางฉีอธิบายว่า “นี่เป็นเทเลพอร์ตไม่ใช่อาวุธ”
ปีศาจพูดว่า “ใช่ถูกต้อง! ข้าเป็นเทเลพอร์ต”
เขานิ่งไปเพราะขณะที่เขากำลังพูดอยู่เหมือนมีอะไรบางอย่างที่ไม่ถูกต้อง
“ข้าว่าแล้วเจ้าปีศาจเท่านี้ต้องมีอะไรบางอย่างที่แปลกๆ” หนิงไป่หัวเราะคิกคักดวงตาสีเขียวของเธอแวววับสดใสราวกับว่าเธอเพิ่งค้นพบภูเขาทองคำ
“ไม่! ไม่นะ ข้า .. ไม่ใช่อาวุธ!” มันเกือบกระทืบเท้าของมันด้วยความไม่พอใจโดยลืมไปว่าขณะนี้มันเป็นเพียงแค่ก้อนเมฆ