บทที่ 158 ไม่มีใจให้แล้ว

รักหวานอมเปรี้ยว

“ดีขึ้นเยอะแล้ว”ท่านย่าตอบด้วยรอยยิ้ม

มายมินท์พยักหน้า “งั้นก็ดีแล้วค่ะ”

ทันใดนั้นท่านย่านึกอะไรขึ้นมาได้ เธอได้ชี้ไปที่หัวเตียง “หนูมินท์ เมื่อวานลูกชายของป้าแดงมาเยี่ยมเธอ ได้เอาฮอร์ธอร์น ที่บ้านตัวเองปลูกมาให้เธอเยอะมาก หนูชอบกินเยลลี่ฮอร์ธอร์น

ไม่ใช่เหรอ?เอาฮอร์ธอร์นพวกนี้กลับไปกินนะ”

มายมินท์มองลูกฮอร์ธอร์นในตระกร้า ทั้งแดงและลูกใหญ่ ทำให้คนแค่มองก็อยากจะกินแล้ว

ในขณะที่เธอกำลังอยากจะพยักหน้าตอบตกลง เปปเปอร์ได้เปิดปากพูดว่า “ไม่ได้ครับ!”

ท่านย่าขมวดคิ้ว

รอยยิ้มที่อยู่ใบหน้าของมายมินท์ก็ค่อยๆจางลงมา

ท่านย่ามองเปปเปอร์อย่างไม่พอใจ “ทำไมจะไม่ได้ นี่เป็นของที่ย่าให้มายมินท์ จะต้องผ่านความเห็นของแกด้วยหรือยังไง?”

เมื่อก่อนทำไมเธอถึงดูไม่ออกเลยว่าหลานชายคนนี้ขี้งกขนาดนี้

แค่ฮอร์ธอร์นก็ไม่ยอมให้!

มายมินท์ไม่ได้พูดจาและไม่ได้โกรธ

แค่ฮอร์ธอร์นเอง ไม่ให้ก็ไม่ให้สิ

โกรธกับเรื่องกินเล็กน้อยนั่น ไม่มีความจำเป็นเลย

มองสีหน้าที่เปลี่ยนไปของท่านย่ากับมายมินท์ เปปเปอร์ก็รู้เลยว่าพวกเธอเข้าใจตัวเองผิดแล้ว เขาหลุบตาลงพร้อมพูดจาเรียบเฉย:“เธอกินฮอร์ธอร์นไม่ได้ครับ”

ตั้งแต่รู้ว่ามายมินท์ตั้งครรภ์ เขาก็ไม่รู้ว่าตัวเองไปค้นหาข้อมูลในเน็ตสืบเนื่องจากอะไร เกี่ยวกับเรื่องที่หญิงตั้งครรภ์ควรระวังอะไร ในนั้นก็มีของที่หญิงตั้งครรภ์กินไม่ได้ด้วย

และลูกฮอร์ธอร์นก็คือหนึ่งในนั้น

“ทำไมถึงไม่ได้!”ท่านย่าหน้าบึ้งพร้อมจ้องเปปเปอร์ไว้ มีท่าทีเหมือนถ้าเปปเปอร์ไม่ให้เหตุผลที่สามารถให้คนยอมรับ เธอก็จะไม่จบไม่สิ้น

มายมินท์ก็มองหน้าเปปเปอร์ไว้ ไม่เข้าใจทำไมเขาถึงคิดว่าเธอกินไม่ได้

เปปเปอร์เม้มริมฝีปากบางไว้ ไม่รู้ว่าควรจะตอบยังไงดี

มายมินท์เองก็ยังไม่ได้ป่าวประกาศให้ทุกคนรู้เรื่องที่เธอตั้งครรภ์

เขาเองก็ย่อมช่วยเธอป่าวประกาศออกมาไม่ได้อยู่แล้ว

ระหว่างที่เปปเปอร์คิดแววตาได้ระยิบระยับ เขาได้พูดว่า:“นี่เป็นของที่ป้าแดงให้คุณย่า ให้คนอื่นมันไม่เข้าท่าเลย จะให้ป้าแดงคิดยังไงครับ ให้ป้าแดงอบให้แห้งแล้วเอาให้คุณย่าชงดื่มดีกว่าครับ”

ท่านย่าโมโหจนมือสั่น “นี่ก็คือเหตุผลที่แกไม่ให้หนูมินท์กินลูกฮอร์ธอร์นเหรอ? เก่งมาก เปปเปอร์ แกนี่เก่งจริงๆ ย่าว่าแกคงจะอยู่กับผู้หญิงอย่างพิศมัยนานเกินไปแล้วจริงๆ ถึงได้เรียนรู้ความขี้เหนียวขี้งกของเธอ แกดูหน้าตาที่คิดเล็กคิดน้อยของแกสิ ถ้ารู้อย่างนี้ ย่าก็ไม่น่าเอาแกไปให้พิศมัยรับเลี้ยงแล้ว”

ฟังคุณย่าพูดเหมือนซะตัวเองเป็นคนเห็นแก่ตัวเลย มุมปากของเปปเปอร์ได้กระตุกทีนึงอย่างได้แค่แหงนมองแต่ไม่สามารถเข้าใกล้ในระยะประชั้นชิด จากนั้นได้มองไปที่มายมินท์

จิตใต้สำนึกของเขาไม่อยากให้เธอรู้สึกว่าเขาเป็นคนแบบนั้นจริงๆ

“หนูมินท์ เดี๋ยวเอาลูกฮอร์ธอร์นไปนะ หนูอย่าไปฟังคำพูดของเขา ยังไม่ถึงที่ต้องให้เขามาเป็นคนตัดสิน” ท่านย่าจ้องเปปเปอร์อย่างโหดทีนึง และพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่อนุญาติให้คนอื่นมาพูดแทรก

มายมินท์พยักหน้า “โอเคค่ะ”

เปปเปอร์ยิ่งไม่อยากให้เธอ เธอก็จะยิ่งรับเอาไว้

เขาไม่มีความสุข เธอก็จะรู้สึกมีความสุข

มายมินท์เงยหน้ามองไปที่เปปเปอร์ ไม่อำพรางความท้าทายของแววตาเลยสักนิด

เปปเปอร์ค่อนข้างอยากหัวเราะ

ช่างเถอะ เธอรับเอาไว้ก็รับเอาไว้เถอะ

อย่างมาก เดี๋ยวเขาค่อยคิดหาวิธีกำจัดลูกฮอร์ธอร์นทิ้งก็พอแล้ว สรุปก็คือจะให้เธอกินไม่ได้

“ยังยืนเซ่ออยู่ทำไม ยังไม่รินน้ำให้หนูมินท์อีก?”ท่านย่าเห็นเปปเปอร์ยืนอยู่ที่นั่น ก็โมโหขึ้นมาอีก

หลังจากผ่านเรื่องเมื่อครู่ เธอยิ่งอยู่ยิ่งไม่ชอบขี้หน้าหลานชายคนนี้แล้ว เมื่อก่อนเป็นเด็กที่ยอดเยี่ยมมากแค่ไหน ทำไมตอนนี้ถึงกลายเป็นแบบนี้ไปได้?

เปปเปอร์ตอบคำนึง จากนั้นได้เอาแก้วที่ใช้ครั้งเดียวไปรองน้ำที่หน้าตู้กดน้ำเย็น

หลังจากรองน้ำเสร็จ เขาเดินมาที่ตรงหน้ามายมินท์แล้วยื่นให้กับเธอ

“ขอบคุณค่ะ”มายมินท์กล่าวขอบคุณด้วยมารยาทพร้อมกับรับน้ำมา

เปปเปอร์ตอบคำนึงพร้อมเตือนว่า:“ระวังร้อนนะ”

ท่านย่ามองเขาอย่างประหลาดใจ

เขาเป็นห่วงหนูมินท์อยู่เหรอเนี่ย?

มายมินท์ไม่ได้รู้สึกว่าเปปเปอร์กำลังเป็นห่วงเธอ เพราะการเตือนแบบนี้เป็นเรื่องปกติมากที่ใครๆก็พูดกัน

ถ้าเปลี่ยนเป็นเธอ เธอก็จะเตือนฝ่ายตรงข้ามด้วยความหวังดีเหมือนกัน

เพราะฉะนั้น เธอไม่ได้รู้สึกว่ามีอะไรเลย

มายมินท์เป่าน้ำร้อนแล้วดื่มคำนึง จากนั้นอดส่งเสียง“เอ๊ะ”ไม่ได้

“มินท์ หนูเป็นอะไร?” ท่านย่าถามด้วยความเป็นห่วง

มายมินท์มองไปที่เปปเปอร์ด้วยสีหน้าแปลกประหลาด “ประธานเปปเปอร์ คุณได้ใส่น้ำผึ้งลงไปเหรอคะ?”

“อืม” เปปเปอร์พยักหน้า “คุณไม่ชอบเหรอ?”

น้ำเสียงของเขาแฝงด้วยความตื่นเต้นที่สังเกตเห็นยาก

ประสบการณ์หลายสิบปีของท่านย่า ไม่ใช่มายมินท์ที่จะสามารถเทียบได้

มายมินท์รับรู้ไม่ได้ แต่ท่านย่ารับรู้ได้แล้วตกใจอย่างแรง

เมื่อครู่เธอก็สงสัยแล้วว่าเปปเปอร์กำลังเป็นห่วงมายมินท์อยู่

ตอนนี้ได้ยินว่าเปปเปอร์ใส่น้ำผึ้งให้มายมินท์ แถมยังถามหนูมินท์ด้วยความตื่นเต้นว่าชอบหรือเปล่า นี่แสดงว่าอะไร แสดงว่าเปปเปอร์มีใจให้กับมายมินท์อยู่

แต่เปปเปอร์ที่ไม่เอาไหนนี่สิ ยังไม่รู้ตัวอีก!

คิดถึงตรงนี้ ทีนี้ท่านย่าได้เกลียดขี้หน้าเปปเปอร์ไปโดยสิ้นเชิงแล้ว

มายมินท์ยิ้มให้กับเปปเปอร์เล็กน้อย “เปล่าค่ะ แค่ค่อนข้างแปลกใจเฉยๆ ขอบคุณประธานเปปเปอร์ค่ะ”

เปปเปอร์เชิดคางขึ้น “ไม่ต้องเกรงใจ”

เขาโล่งอกไปที

ดูท่าการทำอะไรโดยพลการของเขา ไม่ได้ทำให้เธอไม่พอใจ

เปปเปอร์ยกมุมปากขึ้น ค่อนข้างมีความสุข

ท่านย่ามองเขาด้วยหางตา “คนโง่!”

เปปเปอร์ยักคิ้ว “คุณย่าว่าผม?”

เขาได้ทำอะไรไป

ทำไมถึงกลายเป็นคนโง่ซะงั้น

มายมินท์ก็มองท่านย่าด้วยความแปลกใจ

ท่านย่าเชอะอย่างเย็นชา “ไม่ว่าแกแล้วจะว่าใคร?”

คนที่แม้แต่ใจตัวเองก็ยังไม่รู้ ไม่ใช่คนโง่แล้วคืออะไร

เปปเปอร์เม้มปาก ในใจค่อนข้างกล้ำกลืน กำลังอยากจะถามหาสาเหตุ มือถือก็ได้ดังขึ้นในเวลานี้

เขาขมวดคิ้วทีนึง จากนั้นได้หยิบมือถือออกมา พอเห็นส้มเปรี้ยวโทรมา แววตาได้ซับซ้อนขึ้นมาทันที

“ทำไมไม่รับล่ะ?”ท่านย่าถาม

เปปเปอร์ขยับริมฝีปากบาง ค่อนข้างไม่อยากรับสาย

โดยเฉพาะต่อหน้าคุณย่ากับ……

เปปเปอร์ได้มองมายมินท์แว๊บนึง

มายมินท์แสยะยิ้มมุมปาก

แปลก เขามองเธอทำไม?

มายมินท์หันหน้าไปอีกทาง

เปปเปอร์เห็นท่าทีที่เย็นชาของเธอแล้วค่อนข้างไม่สบอารมณ์ จากนั้นได้รับสายด้วยความงอน “ฮัลโหล ส้มเปรี้ยว”

เขาเดินไปคุยโทรศัพท์ที่ระเบียง

สีหน้าของท่านย่าดูไม่ค่อยดีเลย “ผู้หญิงคนนั้นอีกแล้ว”

มายมินท์ได้ยิ้มอ่อนๆ “คุณส้มเปรี้ยวเป็นว่าที่ภรรยาของประธานเปปเปอร์ โทรศัพท์หากันก็เป็นเรื่องปกติไม่ใช่เหรอคะ?”

“ก็มีแค่คนโง่คนนี้แหละที่ตาบอด ดูไม่ออกว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นใจดำ” ท่านย่าเบะปากพูด

ที่จริงเธอดูออกว่าเปปเปอร์ไม่ได้รักส้มเปรี้ยว

แต่กลับไม่รู้เพราะอะไรถึงได้ยึดติดกับส้มเปรี้ยวขนาดนี้ ยึดติดจนนึกว่ารัก เลยทำให้ตอนนี้ไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าคนที่ตัวเองรักจริงๆคือหนูมินท์ เธอถึงได้ว่าเปปเปอร์โง่ไง

“ประธานเปปเปอร์ไม่ใช่ไม่รู้หรอกค่ะ เขารู้นิสัยที่แท้จริงของคุณส้มเปรี้ยวมาโดยตลอด แค่เขาไม่แคร์เฉยๆ” มายมินท์เสยผมแล้วพูด

ท่านย่าอุทานด้วยเสียงไม่พอใจ “ช่างเถอะ ไม่พูดถึงผู้หญิงคนนั้นแล้ว พูดเรื่องหนูหน่อยดีกว่า”

“เรื่องของหนู?” มายมินท์ชี้ตัวเอง

ท่านย่าพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม “ก็ใช่น่ะสิ มินท์ หนูบอกย่ามาตามตรง หนูยังมีใจให้เปปเปอร์อยู่หรือเปล่า?”

ถ้ามินท์ยังมีใจให้อยู่ เธอก็จะยอมเสียหน้า ไม่ว่ายังไงก็จะไล่ส้มเปรี้ยวไป จับคู่มินท์กับเปปเปอร์ใหม่อีกครั้ง

ให้เปปเปอร์ตระหนักได้ว่าคนที่เขารักคือมินท์

มายมินท์ส่ายหัวด้วยรอยยิ้ม “คุณย่าคะ หนูไม่มีใจให้แล้วค่ะ”

สีหน้าของท่านย่าแข็งทื่อ เห็นได้ชัดว่าค่อนข้างไม่เชื่อ “ไม่มีใจให้แล้วจริงอ่ะ?”

“จริงค่ะ!”มายมินท์พยักหน้าอย่างหนักแน่น

ท่านย่าดูความจริงจังในแววตาเธอออก ได้ถอนหายใจด้วยความผิดหวัง “งั้นช่างเถอะ”

“ขอโทษค่ะ คุณย่า หนู……”

ท่านย่ายิ้มขึ้นมาอีกครั้ง “ไม่มีอะไรต้องขอโทษเลย เปปเปอร์ทำกับหนูขนาดนั้น ยัยแก่อย่างย่าก็เห็นๆอยู่ หนูไม่รักเปปเปอร์แล้วก็เป็นเรื่องปกติ ย่าแค่คิดไม่ถึงว่าจะเร็วขนาดนี้เฉยๆ”

มายมินท์หลุบตาลง “ผิดหวังเกินไป ถึงหมดรักเร็วค่ะ”

“ก็ใช่น่ะสิ” ท่านย่าถอนหายใจ

นอกหน้าต่างของระเบียง เปปเปอร์ค่อยๆวางมือที่จะผลักประตูลง พร้อมก้มหน้าไว้เล็กน้อย ทำให้คนดูสีหน้าไม่ออก