ระยะที่ห่างออกไป เทวดาจำนวนมากที่หลบซ่อนอยู่ก็ได้เห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเช่นกัน

“นี่มันเป็นไปไม่ได้!”

หัวหน้าเทวดาตกใจกลัวจนสะดุ้งขึ้นมา เกือบที่จะทำให้ออร่าที่ปกปิดไว้ของตนเองรั่วไหลออกไป เมื่อเขาได้เห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ เขาก็ตกตะลึงอย่างมาก

“ผู้บ่มเพาะในระดับแกนทองเพียงคนเดียว ไม่คาดคิดว่าจะสามารถต้านทานการโจมตีประสานของยอดฝีมือในระดับแตกฉานห้าคนได้ อีกทั้งยังใช้หมัดสังหารยอดฝีมือในระดับแตกฉานไปได้หนึ่งคน นี่ข้ากำลังตาฝาดไปหรือไม่?!”

เขาส่ายหัวอย่างไม่อยากเชื่อ เรื่องนี้มันเป็นเรื่องที่ไม่เคยพบไม่เคยเจอมาก่อน ช่างน่าเหลือเชื่อเกินไป แม้แต่ผู้มีพรสวรรค์ดั่งปีศาจในเผ่าพันธุ์เทวดาของเขาก็ไม่ได้มีความสามารถถึงเพียงนี้ อีกทั้งยังเรียกได้ว่ายังห่างไกลไปอีกมาก

เทวดาคนอื่นๆก็ตกใจมาก ร่างกายสั่นเทา สามารถที่จะสัมผัสได้ถึงอำนาจบารมีที่ยิ่งใหญ่ของเซี่ยปิง ดูเหมือนกับเป็นอสูรโบราณที่เกรี้ยวกราด ร้ายกาจและไร้เทียมทาน

“ศัตรูคู่อาฆาต นี่คือศัตรูคู่อาฆาตของพวกเรา!”

เทวดาคนหนึ่งมีสีหน้าที่จริงจังขึ้นมา “นี่คือสัญญาณของว่าที่เซนต์ ในตำนานกล่าวไว้ว่าในช่วงวัยเยาว์ของเซนต์แต่ละคนนั้น พวกเขาต่างก็มีจุดยืนที่ไร้เทียมทาน สามารถที่จะต่อสู้กับศัตรูที่ระดับสูงกว่าได้ กวาดล้างศัตรูในทุกทิศทาง กำราบทุกสิ่งทุกอย่างที่ขวางเส้นทางของพวกเขา”

“ซึ่งในตอนนี้เจ้ามนุษย์ตรงหน้าของพวกเราก็กำลังแสดงให้เห็นถึงสัญญาณนั้น หากปล่อยให้เวลาผ่านไปล่ะก็ ตราบใดที่เขาไม่ร่วงลงมาจากท้องฟ้ากลางคัน บางทีเจ้ามนุษย์นี่ก็อาจจะพัฒนาเป็นเซนต์ไร้เทียมทานได้”

เขากำหมัดขึ้นมาอย่างแน่น รู้สึกไม่เต็มใจอย่างมาก ทำไมเผ่าพันธุ์มนุษย์จึงได้มีอัจฉริยะระดับสุดยอดปรากฏขึ้นมามากมายเช่นนี้ เซนต์ก็ยิ่งมีจำนวนเพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆ กดหัวเผ่าพันธุ์เทวดาของพวกเขาจนไม่สามารถโงหัวขึ้นมาได้

เห็นได้ชัดว่าเผ่าพันธุ์เทวดาของพวกเขาเป็นเผ่าพันธุ์ที่สูงส่งกว่า มีอายุยืนยาว ทว่าจำนวนของเซนต์กลับน้อยกว่าเผ่าพันธุ์มนุษย์ นี่ก็ส่งผลให้เผ่าพันธุ์เทวดาของพวกเขาปกครองได้เพียงแค่มุมหนึ่งของจักรวาลเท่านั้น ซึ่งอยู่ในทางตะวันตกของจักรวาล

“ก่อนหน้านี้เจ้าผู้นำของกลุ่มโจรสลัดผ้าคาดหัวสีแดงบอกว่าชื่อที่แท้จริงของเจ้าเด็กนั่นก็คือเซี่ยปิง เป็นลูกศิษย์ของเซนต์อสูรมืด นี่มันเป็นเรื่องที่ไม่สามารถมองข้ามได้ การที่เบื้องหลังของเขามีทรัพยากรและมีผู้หนุนหลังที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้ โอกาสที่เขาจะพัฒนากลายเป็นเซนต์ในอนาคตก็ยิ่งเพิ่มขึ้นมาอย่างมาก”

หัวหน้าเทวดาพูดออกมาอย่างเยือกเย็น “เป็นเรื่องเลวร้ายจริงๆที่เขาเป็นลูกศิษย์ของนิกายฟ้าดินซึ่งอยู่ใกล้กับทางตะวันตกของจักรวาล หากนิกายฟ้าดินมีเซนต์อีกคนหนึ่งที่ถือกำเนิดขึ้นมานั้น เป็นไปได้อย่างไรที่พวกเขาจะไม่มีความคิดทะเยอทะยาน ในอนาคตก็มีโอกาสสูงที่พวกเขาจะรุกรานเข้ามาในทางตะวันตกของจักรวาลและแบ่งแย่งอาณาเขตของเผ่าพันธุ์เทวดาของพวกเราไป พวกเราจะต้องกำจัดเจ้าตัวปัญหาในอนาคตนี้ทันที”

เขาเห็นได้ถึงภัยคุกคามของเซี่ยปิงอย่างกะทันหัน ความคิดของการสังหารผุดขึ้นมาทันที ต้องการที่จะกำจัดภัยคุกคามในอนาคตนี้ให้รวดเร็วที่สุด

“จะต้องสังหารเขา ปล่อยให้เขาเติบโตและกลายเป็นเซนต์ไม่ได้อย่างแน่นอน”

“แม้ในตอนนี้ก็ยังร้ายกาจถึงเพียงนี้ หากเป็นในอนาคตล่ะก็ ข้าไม่อยากจะคิด นี่คือศัตรูคู่อาฆาตของเผ่าพันธุ์เทวดาของพวกเรา”

“อย่าเพิ่งวิตกกังวลไป รอให้ทั้งสองฝ่ายเผชิญกับความเสียหายทั้งคู่ จากนั้นพวกเราก็จะลงมืออีกครั้ง จบสงครามครั้งนี้ด้วยมือของพวกเรา”

“คาดการณ์ได้ว่าพวกเขาคงจะไม่คาดคิดว่ามีบางคนที่กำลังรอซุ่มโจมตีพวกเขาอยู่”

“การที่บังเอิญมาพบเจอกับพวกเรานั้น ถือว่าเป็นความโชคร้ายของกลุ่มมนุษย์ชั้นต่ำเหล่านี้”

เทวดาจำนวนมากต่างก็แสยะออกมาอย่างต่อเนื่อง ดวงตาเผยให้เห็นจิตสังหารที่น่าสะพรึงกลัว ในตอนนี้ความรู้สึกของการสังหารเซี่ยปิงในจิตใจของพวกเขาเพิ่มขึ้นมาอย่างมาก

ต่อให้จะปล่อยกลุ่มโจรสลัดผ้าคาดหัวสีแดงไปได้ ทว่าพวกเขาจะปล่อยให้เซี่ยปิงรอดไปไม่ได้อย่างแน่นอน นี่คือศัตรูคู่อาฆาตในอนาคตของเผ่าพันธุ์เทวดาของพวกเขา เพื่อกำจัดภัยคุกคามนี้ ไม่ว่าจะต้องแลกมาด้วยสิ่งใด มันก็ถือว่าคุ้มค่า

…………….

ในช่วงเวลานี้ เมื่ออู๋อันและคนอื่นๆเห็นรองผู้นำที่ถูกเซี่ยปิงสังหารไป พวกเขาต่างก็รู้สึกขนหัวลุกทันที ทั่วทั้งร่างกายเย็นเยียบ เหมือนกับว่าจิตวิญญาณถูกแช่แข็ง รู้สึกได้ถึงจิตสังหารที่น่าสะพรึงกลัว

ก่อนหน้านี้พวกเขามีจิตใจที่ผ่อนคลาย คิดว่านี่เป็นเพียงแค่การสังหารหมู่ จะไม่ได้สิ้นเปลืองพลังอำนาจมากมาย เป็นเหมือนกับการออกมาเดินเล่นในสงครามก็ว่าได้

ทว่าเมื่อรองผู้นำในระดับแตกฉานถูกสังหารไป มันก็เป็นสัญญาณเตือนที่ร้ายแรง ทำให้พวกเขาหวาดกลัวจนได้สติขึ้นมา ทำให้พวกเขาคิดได้อย่างกะทันหันว่าตอนนี้ตนเองได้มาพบกับศัตรูที่น่าสะพรึงกลัวเข้าแล้ว

“ท่าไม่ดีแล้ว เจ้าเด็กนี่แข็งแกร่งเกินไป ยิ่งไปกว่านั้นพลังอำนาจของเขาก็เพิ่มขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง ไม่สามารถปล่อยให้การต่อสู้ยืดเยื้อไปกว่านี้ได้ ไม่อย่างนั้นพวกเราจะต้องตาย”

“ไม่คาดคิดว่าผู้บ่มเพาะในระดับแกนทองจะบีบบังคับให้พวกเราตกอยู่ในสถานการณ์ที่นั่งลำบากเช่นนี้ ช่างเป็นเหตุการณ์ที่ไม่เคยพบไม่เคยเจอมาก่อน”

“ถึงเวลาที่พวกเราจะต้องทุ่มสุดตัว ทุ่มเททุกสิ่งทุกอย่างที่มีเพื่อจัดการเขา หากยังประมาทเจ้าเด็กนี่อยู่อีกล่ะก็ พวกเราจะเป็นฝ่ายที่ต้องตาย”

รองผู้นำทั้งสามคนต่างก็กัดฟันอย่างแน่น มีสีหน้าที่เคร่งขรึมอย่างมาก

“จัดตั้งค่ายกลเรียกลมอัญเชิญฝน แผดเผาเลือดลมและพลังเวทมนตร์ในร่างกาย ข้าจะต้องฝังเจ้าเด็กนี่ให้ได้” อู๋อันถ่ายทอดคำสั่งออกมา ดวงตาของเขาเปล่งประกายด้วยแสงที่มุ่งมั่น เขาได้ทำการตัดสินใจอย่างเด็ดขาด

อะไรนะ?!

ได้ยินเช่นนี้ รองผู้นำทั้งสามคนก็สะดุ้งตกใจ พวกเขารู้ว่าค่ายกลเรียกลมอัญเชิญฝนเป็นค่ายกลที่น่าสะพรึงกลัวแค่ไหน ถือว่าเป็นไพ่ตายใบสุดท้ายของกลุ่มโจรสลัดผ้าคาดหัวสีแดงของพวกเขา เป็นวิธีการสังหารสุดท้าย

การเรียกลมอันเชิญฝนนี้ไม่ใช่เป็นสิ่งที่จะเรียบง่ายอย่างที่จินตนาการไว้ ไม่ใช่เป็นเพียงแค่หารอัญเชิญลมและฝนทั่วไป

ว่ากันว่าเมื่อเซนต์แสดงความสามารถศักดิ์สิทธิ์เรียกลมอัญเชิญฝนนี้ขึ้นมานั้น จะสามารถอัญเชิญสายลมศักดิ์สิทธิ์นิรันดร์และน้ำลงทัณฑ์อาฆาตออกมาทันที การอัญเชิญลมและฝนเช่นนี้ มีพลังอำนาจที่จะทำลายล้างโลกได้ ทรงพลังเพียงพอที่จะทำลายดวงเคราะห์นับไม่ถ้วน

แน่นอนว่าพวกเขาก็ไม่ได้มีพลังอำนาจที่เทียบเท่าได้กับเซนต์ ทว่าก็สามารถที่จะอัญเชิญน้ำไม้กะมรณะและลมดาราทองซิง ลมและฝนเช่นนี้สามารถที่จะถล่มฟ้าทลายดินได้ แม้แต่ยอดฝีมือในระดับแตกฉานก็ต้องถูกสังหาร มีพลังอำนาจที่ไร้ขอบเขต

ทว่าการที่ต้องการจะใช้ค่ายกลนี้นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย จำเป็นที่จะต้องแผดเผาเลือดลมและพลังเวทมนตร์ของตนเอง อีกทั้งยังต้องสูญเสียอายุขัยและศักยภาพส่วนหนึ่งไปเช่นกัน เรียกได้ว่าเป็นค่ายกลที่ต้องทุ่มเททุกสิ่งทุกอย่างจริงๆ

ทว่าตอนนี้พวกเขาก็ไม่มีทางเลือก หากไม่สังหารเซี่ยปิงในตอนนี้ พวกเขาก็ไม่มีทางที่จะมีชีวิตรอดไปได้ มีเพียงแค่การต่อสู้ไปจนตัวตายเท่านั้น

ซู่ ซู่ ซู่!!!

หลังจากที่พูดจบ อู๋อันและคนอื่นๆก็จัดตั้งค่ายกลขึ้นมาทันที ไม่ได้ลังเลอีกต่อไป พวกเขารู้ว่าในการต่อสู้ของยอดฝีมือนั้น ความลังเลอาจจะเป็นบ่อเกิดของความตายได้

ทันใดนั้นค่ายกลที่ลึกลับซับซ้อนก็ได้ปรากฏขึ้นมาใต้เท้าของพวกเขา ทั้งสี่คนแยกกันออกไปในสี่จุด ซึ่งก็คือจุดทางเหนือ จุดทางใต้ จุดทางตะวันออกและจุดทางตะวันตก ในเวลาเดียวกันก็ได้หลั่งไหลพลังเวทมนตร์เข้าไป จิตศักดิ์สิทธิ์สั่นสะท้าน ดึงพลังงานของโลกเข้ามา

ตึบ!

ทันทีที่ค่ายกลที่ยิ่งใหญ่นี้ถูกควบแน่นขึ้นมา อวกาศก็แยกออกจากกันสองจุดและกลายเป็นหลุมดำขนาดใหญ่ทันที มีเสียงของคลื่นลมที่น่าสะพรึงกลัวดังขึ้นมาจากส่วนลึกของหลุมดำหลุมหนึ่ง มันก็คือลมดาราทองซิงนั่นเอง!

เดิมทีที่เป็นสภาวะสุญญากาศที่ไม่มีกระแสพลังฉีใดๆไหลเวียนอยู่นั้น ทว่าลมดาราทองซิงนี้ก็ไม่ใช่กระแสพลังฉีธรรมดาทั่วไป แต่เป็นพลังงานที่บริสุทธิ์ สามารถที่จะขับเคลื่อนในสุญญากาศได้

ลมนี้ส่งเสียงหวิวดังขึ้นมา พัดออกมาจากหลุมดำนี้ เหมือนกับจะมีเสียงของคมดาบและมีดที่ปะทะกันในส่วนลึกของลมนี้ ส่งเสียงดังสนั่น ประกายไฟปะทุออกมา

ลมดาราทองซิงที่พัดออกมาจากหลุมดำนี้ ควบแน่นกลายเป็นดาบและคมมีดสีทอง แอบแฝงไปด้วยวิญญาณชั่วร้ายที่ไร้ที่สิ้นสุด พลังอำนาจนี้สามารถที่จะทำลายการป้องกันของพลังเวทมนตร์ได้โดยเฉพาะ ทำลายทุกสิ่งทุกอย่าง

เพียงแค่ลมดาราปกติที่พัดออกมานั้น ก็เพียงพอที่จะตัดอุกกาบาตกลายเป็นสองซีกได้ ทว่าตอนนี้ลมดาราทองซิงก็มีนับพันนับหมื่นสาย เป็นเหมือนกับดาบหมื่นเล่มที่พุ่งออกมา ทรงพลังเพียงพอที่จะทำลายดาวเคราะห์ดวงหนึ่งได้

ปัง!

ในช่วงเวลานี้หลุมดำอีกหลุมก็เปิดออกมา น้ำไม้กะมรณะได้หลั่งไหลออกมาจากข้างใน นี่เหมือนกับเป็นแม่น้ำแยงซีก็ว่าได้ เป็นสีครามทั้งหมด แอบแฝงไปด้วยออร่าชั่วร้ายที่น่าสะพรึงกลัว

โจรสลัดผ้าคาดหัวสีแดงจำนวนมากที่เห็นแม่น้ำสีครามนี้ ทันใดนั้นก็ขนลุกตั้งขึ้นมา ตื่นตระหนกอย่างมาก ถอยยานอวกาศออกไปอย่างรวดเร็ว เกรงกลัวว่าจะหลีกเลี่ยงออกไปไม่พ้นระยะของการโจมตีนี้

พวกเขาก็ล่วงรู้ได้ถึงความน่าสะพรึงกลัวของแม่น้ำสีครามนี้ หากตกลงเข้าไปในแม่น้ำนี้โดยที่ไม่ทันได้ระวังตัวล่ะก็ ทันใดนั้นก็จะถูกออร่าธาตุไม้กะกัดกร่อน ภายในไม่กี่ลมหายใจก็จะลุกลามเข้าไปสู่หัวใจ และเปลี่ยนให้กลายเป็นแท่งไม้

นี่คือแม่น้ำแห่งความตาย มีพลังอำนาจที่จะทำลายล้างโลกได้

“ตายซะเถอะ!”

อู๋อันและคนอื่นๆต่างก็ตะโกนออกมา ทันใดนั้นก็บงการค่ายกลเรียกลมอัญเชิญฝนนี้ พลังอำนาจของน้ำไม้กะมรณะและลมดาราทองซิงได้โจมตีออกไปที่เซี่ยปิง ครอบคลุมพื้นที่ในระยะหลายพันกิโลเมตร