อักษร หาน ตัวนี้ก็แปลก เหมือนกับสิ่งมีชีวิตกลุ่มหนึ่ง เปลี่ยนรูปร่างไปไม่หยุด แต่พอจ้องมองดู กลับไม่มีการเคลื่อนไหวเปลี่ยนแปลงอะไร น่าแปลกมากเลย

โจวเจิ้นโส่วก็สีหน้าเปลี่ยนทันที เขาเข้าใจความหมายแฝงของอักษร หาน ตัวนี้

“ตระกูลหาน ท่านเป็นคนตระกูลหานงั้นหรือ……ให้ตายเถอะ ผมมีตาหาไร้แวว คุณชายตระกูลหานมาที่นี่ ไม่ได้ไปต้อนรับ ต้องขออภัยด้วยจริงๆ ครับ ขออภัย!”

โจวเจิ้นโส่วเก็บป้ายนั้นขึ้นมาอย่างเคารพ สองมือยกป้ายไว้ แล้วเดินมาตรงหน้าหานเฟิง แล้วยื่นป้ายคืนให้กับหานเฟิง

หานเฟิงเก็บป้ายกลับมา แล้วพูดว่า “ไอ้พวกโง่มีตาแต่ไร้แวว ดูก็รู้ว่าตำแหน่งนี้สืบทอดมาอีกที ศิษย์น้องของฉันไม่ใช่คนที่นายจะมาหาเรื่องด้วยได้ นายไปสืบดูแล้วกัน ชื่อของลู่ฝานแห่งคณะหนึ่งเดียว ตอนนี้มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั้งเขตตงหวาแล้ว เป็นศิษย์เอกของสถาบันสอนวิชาบู๊ หลังจากออกมา จ่ายเงินเพียงเล็กน้อย ก็สามารถซื้อตำแหน่งสารวัตรได้แล้ว แต่นายกลับกล้ามาหาเรื่องเขา ฉันไม่รู้จริงๆ ว่าในหัวของนายมีแต่ขี้หรือไง ให้ตายเถอะ”

หานเฟิงด่าไปเหมือนด่าลูก น้ำลายกระเด็นเต็มหน้าของโจวเจิ้นโส่วไปหมด

แต่โจวเจิ้นโส่วก็ยังยืนอย่างเคารพอยู่ตรงนั้น ไม่กล้าขยับตัว

ช่วยไม่ได้ คำว่า ตระกูลหาน คำนี้ มันมีความหมายยิ่งใหญ่เลย แต่จากนั้น คำที่หานเฟิงพูดออกมา ก็ทำให้ใจของโจวเจิ้นโส่วกระตุกอีกครั้ง ศิษย์เอกของสถาบันสอนวิชาบู๊ ให้ตายเถอะ เป็นไปไม่ได้หรอกมั้ง ลู่ฝานเพิ่งได้เข้าไปในสถาบันสอนวิชาบู๊ไม่นานไม่ใช่หรือไง?

ลู่เฮ่าหราน กับลู่หมิงล้วนใช้สายตาแปลกใจมองไปยังลู่ฝาน

ลู่หมิงพอรู้ว่าลู่ฝานเป็นคนนำพาคณะหนึ่งเดียวรุ่งเรืองขึ้นจริง แต่ว่าลู่ฝานจะเอาชนะคณะหยินหยางได้จริงๆ หรือ?

พระเจ้า ลู่ฝานสร้างความมหัศจรรย์ในรอบร้อยปีเลยนะเนี่ย? ที่เขากลับมาครั้งนี้ สิ่งที่เขาพลาดไปเท่าไหร่แล้ว

ลู่ฝานลูบจมูกตนเอง ศิษย์พี่หานเฟิงพูดเสียจนเขาทำตัวไม่ถูกแล้ว

ศิษย์เอกของสถาบันสอนวิชาบู๊ อะแฮ่มๆ ฉายานี้เขาไม่เคยคิดเลยด้วยซ้ำ

หานเฟิงเอามือตบๆ หน้าของโจวเจิ้นโส่ว ถึงแม้จะไม่ได้ออกแรง แต่ก็ตบลงไปจนเสียงดังออกมาจากใบหน้าของโจวเจิ้นโส่ว

“รีบไสหัวออกไปเสียเถอะ ต่อไปถ้ายังกล้ามาเหยียบที่ตระกูลลู่แม้แต่ก้าวเดียว ฉันรับรองเลยว่านายจะทำตำแหน่งผู้เฝ้าเมืองไม่ได้อีกต่อไป หรือแม้แต่ชีวิตก็รักษาไว้ไม่ได้ ไป!”

โจวเจิ้นโส่วรีบตอบรับ แล้วก็หันหลังกลับ ไม่กล้าอยู่ต่ออีกเลย

ส่วนสองคนที่ถูกลู่ฝานต่อยล้มลงไป ก็ถูกคนของตระกูลลู่จับโยนออกไปเหมือนขยะ

ลู่ฝานเห็นดังนั้น ก็ยิ้มพูดกับหานเฟิงว่า “ศิษย์พี่หานเฟิง ครั้งนี้ต้องขอบคุณพี่มากเลย”

หานเฟิงก็ยิ้มพูดว่า “พี่น้องกันเอง มาขอบคุณอะไรกัน ลู่ฝาน นายไม่ต้องไปเกรงใจกับไอ้พวกทึ่มนี่หรอก ไม่ต้องพูดถึงแค่เมืองเจียงหลินเล็กๆ นี่เลย ทั้งเขตตงหวา นายก็ไม่ต้องกลัวใคร ไอ้โจวเจิ้นโส่วโง่คนนี้ กลับไปแล้วคงสืบข้อมูลของนายแน่นอน พอมันสืบได้แล้ว ก็จะตกใจกลัวไปเอง”

ลู่ฝานพยักหน้าเบาๆ แล้วก็หันหลังเดินจากไป

และก็เหมือนกับที่หานเฟิงพูดไว้ โจวเจิ้นโส่วที่วิ่งออกตระกูลลู่ พอออกมาก็ตวาดเสียงดัง “ใครก็ได้ ไปรวบรวมข้อมูลทั้งหมดของลู่ฝานมาให้ฉัน ฉันจะดู ให้ตายเถอะ ลู่ฝานไปเรียนมายังไง น่ากลัวมากเลย แม้แต่คุณชายของตระกูลหานก็รู้จัก”

ไม่กี่ชั่วโมง ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับลู่ฝานเป็นตับๆ ก็วางอยู่บนโต๊ะของโจวเจิ้นโส่ว

ดูไปแค่ชั่วธูปหนึ่งดอก โจวเจิ้นโส่วก็เหงื่อแตกเต็มหน้า

จากนั้น โจวเจิ้นโส่วก็ตะโกนออกมาว่า “เร็วเข้า รีบไปเตรียมของกำนัล ฉันจะไปขอขมาที่ตระกูลลู่ พวกนายนี่มันโง่จริงๆ เลยนะ บ้าจริง เล่นเอาฉันเกือบตายแล้วเชียว!”