ตอนที่ 952 คนไข้

Elixir Supplier

952 คนไข้

“เป็นคนที่มีคนใหญ่คนโตหนุนหลังอยู่”หลังจากจิบชาแล้วเมี่ยวชิงหยวนก็ตอบออกไป“นายไม่ต้องกังวลเรื่องของเขาหรอก”

“ฉันไม่ได้เจอนายมาตั้งหลายปีนายมาอยู่ที่นี่ได้ยังไงเหรอ?”

“ยังไงน่ะเหรอ?” เมี่ยวชิงหยวนก้มหน้ามองควันในถ้วยน้ำชา

“ตอนที่ฉันออกมาจากหุบเขาเมื่อหลายปีก่อนฉันคิดจะไปให้ไกลจากหุบเขาและไม่คิดติดต่อ

กับใครในหุบเขาอีกตลอดไปฉันพยายามเอาตัวออกห่างจากเมี้ยวซีเหอให้มากที่สุด”เมี่ยวชิงหยวนพูด“ฉันเดินทางไปทางเหนือและตะวันตกแต่ฉันก็ไม่ได้มีเงินมากนักแล้วฉันก็มาจบที่เขตเหอที่อยู่ไม่ไกลฉันคิดแค่อยากจะตั้งรกรากและสร้างครอบครัวเท่านั้นฉันแค่มีชีวิตธรรมดาทั่วไปไม่ได้ร่ำรวยแต่ก็ไม่มีปัญหาอะไรเข้ามาในชีวิตมากมายนัก แต่อยู่ดีดีก็เกิดเรื่องขึ้นที่เขตเหอแล้ว

ยังมีหุบเขาเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยทําให้เชี่ยวชิงเฟิงออกมาตามหาพวกเรา”

“พวกนายถือว่าเป็นบ้านหลักใช่ไหม?”

“บ้านหลักงั้นเหรอ? เหอะทุกคนในหมู่บ้านต่างก็ใช้แซ่เมี่ยวเหมือนกัน”เมี่ยวชิงหยวนตอบ“บรรพบุรุษของเราก็คือต้นตระกูลที่แท้จริง! แต่เมี่ยวชิงเฟิงมันไม่สนใจเรื่องพวกนั้นหรอกมันก็ชั่ว

ไม่ต่างจากเมี้ยวซีเหอ!”

“นายยังคิดเรื่องแก้แค้นอยู่เหรอ?”

“คิดสิ”เมี่ยวชิงหยวนพูด“แล้วนายล่ะ?”“ฉันก็คิดเหมือนกัน”

“นายกับฉันเราคิดต่างกันนายคิดแล้วลงมือท่าส่วนฉันเลิกคิดและไม่ทําอะไรเลย”เดี๋ยวชิงหยวนหัวเราะเยาะตัวเองรอยยิ้มของเขาดูขมขื่น

“ฉันรู้ดีว่าตัวเองเป็นคนยังไง”เมี่ยวชิงหยวนพูด“กลับไปที่นั่นก็ไม่ต่างจากไปตายความจริงแล้วที่เมี่ยวซีเหอปล่อยให้พวกเรามีชีวิตอยู่จนถึงตอนนี้ ก็เพราะมันคิดว่าพวกเราทําอะไรมันไม่ได้มันก็เลยไม่คิดสนใจที่จะมาจัดการกับพวกเราก็แค่นั้น”เมี่ยวชิงหยวนเข้าใจเรื่องนี้ดี“ตอนนี้นายมีลูกรึยัง?”

“มีลูกชายคนหนึ่ง”

“กี่ขวบแล้วล่ะ?”

“ตอนนี้ เขาสี่ขวบแล้ว”เมื่อพูดถึงเรื่องลูกสีหน้าของเมี่ยวชิงหยวนก็อ่อนโยนลง“ดีแล้ว”เมี่ยวเฉิงถางพูดเขารู้สึกอิจฉาเล็กน้อย

เมี่ยวเฉิงถางอายุ 30 ปีแล้วเขาก็อยากมีครอบครัวเหมือนกันแต่ตอนอยู่ที่หุบเขาเขาไม่เคยคิดเรื่องการมีครอบครัวเลยเพราะเขารู้ดีว่าเกิดอะไรขึ้นในหมู่บ้านบ้างรวมไปถึงความลับดํามืดที่

ซุกซ่อนอยู่เขาจึงไม่ทําตัวโดดเด่นเขาคิดว่าถึงเขาจะแก้แค้นแทนพ่อแม่ของเขาไม่ได้เขาก็ไม่อยากให้ลูกของเขาต้องมีชีวิตเหมือนกับเขา

แต่ตอนนี้ทุกอย่างเปลี่ยนไปแล้วเขาหนีออกมาจากที่นั่นบทสนทนาระหว่างเขากับเมี่ยวชิงหยวนทําให้เขาคิดที่จะเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของตัวเองใหม่เขาอยากหาผู้หญิงธรรมดาๆสักคนและมีลูกสักสองคนจะดีมากถ้าได้ลูกชายหนึ่งคนและลูกสาวหนึ่งคนลูกของเขาไม่จําเป็นต้องฉลาดหรือเรียนเก่งก็ได้แค่เป็นเด็กที่สุขภาพร่างกายแข็งแรงเขาก็พอใจแล้ว

“ฉันยังกังวลอยู่” เมี่ยวเฉิงถางพูด

“นายกังวลว่า เดี๋ยวซีเหอจะตามหานายใช่ไหม?”

“ใช่ ยิ่งฉันรู้มากเท่าไหร่ฉันก็ยิ่งรู้สึกว่าเขาน่ากลัวมากขึ้นเท่านั้น”

“ที่นี่คือเทียนจินเมืองใหญ่โตขนาดนี้แล้วเขาจะตามหานายเจอได้ยังไง?”

“ถ้าเขาต้องการเขาก็ทําได้อยู่แล้ว”

“ยังกังวลอยู่สินะ?”

“บอกตามตรง ฉันอยากจะใช้ชีวิตอย่างคนธรรมดาบ้าง”

“ใช้ชีวิตอย่างคนธรรมดา?”

“ช่วงนี้ เวลานอนหลับทีไรฉันก็มักจะฝันร้ายตลอด”เมี่ยวเฉิงถางพูด เขานอนหลับไม่เคยสนิท

มันไม่ใช่ชีวิตในแบบที่เขาต้องการเลย

“บอกตามตรง ตอนที่หนีออกมาจากหมู่บ้านใหม่ๆฉันก็เป็นเหมือนกับนาย ฉันนอนไม่เคยหลับและเอาแต่คิดว่ามีคนกําลังไล่ตามฉันอยู่ แต่พอผ่านไปได้สักพักความคิดนั้นก็ค่อยๆลดลง”

“ตอนนี้ ทุกอย่างเปลี่ยนไปแล้ว”เมี่ยวเฉิงถางพูด“เขตเหอกับเขตอู่ซานมีคดีเกิดขึ้นและมีคนตายไปหลายคนเดี๋ยวซีเหอคนจะโมโหขึ้นมาจริงๆแล้วล่ะ”

“เทียนชวนเป็นคนทั้งหมดนั่นจริงๆเหรอ?”

“ใช่ เขาทําได้ทุกอย่างเพื่อการแก้แค้น”

“แล้วทําไมนายถึงแยกตัวออกมาจากเขาล่ะ?”

“ฉันไม่ได้ฆ่าใครไม่ว่าจะเป็นตอนที่อยู่ในหุบเขาหรือข้องนอกก็ตามทีแต่ฉันกลับถูกปฏิบัติไม่ต่างจากอาชญากรคนหนึ่ง”เมี่ยวเฉิงถางพูด“ฉันหนีหัวซุกหัวซุนไปทั่วเหมือนกับหนูตัวหนึ่งฉันต้องซ่อนตัวจากทั้งคนในหุบเขาและทางการเดี่ยวเทียนชวนเปลี่ยนไปแล้วเขาอันตรายมากไม่มี

ใครบอกได้เลยว่า เขาจะลงมือกับพวกเดียวกันตอนไหน”

“ที่นายมาที่นี่ก็เพื่อให้ได้นอนหลับสนิท แล้วค่อยคิดว่าจะทํายังไงต่อไปใช่ไหม?” “ใช่”เมี่ยวเฉิงถางพยักหน้า

หลังจากบอกลาเมี่ยวชิงหยวนแล้วเขาก็กลับไปที่พักของเขาในเทียนจินมันเป็นบ้านเช่าหลัง

หนึ่ง ถึงจะไม่ใช่บ้านที่ตกแต่งอย่างหรูหราแต่มันก็ดูน่าอยู่มันเป็นบ้านเช่าที่มีการตกแต่งเอาไว้เรียบร้อย

เขานอนลงบนเตียงและหลับตาไม่นานเขาก็หลับไปตั้งแต่ที่หนีออกมาจากหุบเขานี่เป็นครั้งแรกที่เขาสามารถนอนหลับสนิทได้
ในหมู่บ้านที่ห่างออกไปหลายพันไมล์มีคนไข้ที่พิเศษคนหนึ่งมาที่คลินิกของหวังเย้า

เธอมีอายุยี่สิบต้นๆบนใบหน้าด้านขวาของเธอมีปานสีดําขนาดใหญ่ติดอยู่มันทําให้ใบหน้าที่ควรจะงดงามของเธอดูน่ากลัวเธอจึงใช้เส้นผมปิดบังใบหน้าส่วนนั้นเอาไว้

“หมอหวังหมอพอจะทําอะไรกับปานบนหน้าของเธอได้บ้างไหมคะ?”หญิงวัยห้าสิบที่มากับหญิงสาวเป็นคนพูดเธอเป็นแม่ของหญิงสาวลูกสาวของเธออยู่ในวัยที่ต้องแต่งงานมีครอบครัวแล้วแต่เพราะปานบนหน้าของเธอทําให้ไม่มีผู้ชายคนไหนอยากแต่งงานด้วยปานนี้ยังทําให้เธอกลายเป็นคนไม่มั่นใจในตัวเองเมื่อไปที่โรงพยาบาลก็มีค่าใช้จ่ายที่สูงมากทั้งสองได้ยินเกี่ยวกับหมอที่มีฝีมือการรักษาแตกต่างไปจากคนอื่นพวกเขาจึงตัดสินใจมาที่นี่

“นั่งลง แล้วขอผมดูหน่อยนะครับ”หวังเย้าพูด

หญิงสาวนั่งลง หวังเข้าตรวจดูปานบนใบหน้าของเธอ

“อืม มันสามารถเอาออกได้ครับ”

“จริงเหรอคะ?” ผู้เป็นแม่ประหลาดใจ

“จริงครับ” หวังเย้าพูดด้วยรอยยิ้ม

“เอ่อ แล้วเราจะเอาออกยังไงเหรอคะ?”

“ปานดูเหมือนจะอยู่แค่บนผิวหนังมันไม่ได้ฝังลึกมาก”หวังเย้าพูด “อันดับแรก ผมจะเอาปานทั้งหมดออกไปก่อน”

“เอาปานออกไปทั้งหมด?หมอหมายถึงจะตัดเอาปานออกใช่ไหมคะ?”

“ใช่ครับ ผมหมายความแบบนั้น”

“อะไรกัน?” เธอตกใจที่ได้ยินแบบนั้น

“แต่มันอยู่บนหน้าของเธอนะถ้าหมอตัดออกมันจะไม่กลายเป็นแผลเป็นบนหน้าเธอเหรอ?

แบบนั้นจะไม่น่าเกลียดยิ่งกว่าเดิมเหรอคะ?”

“หลังจากผ่าตัดแล้ว ผมสามารถทําให้หน้าของเธอกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ครับ”

“บ้าไปกันใหญ่แล้ว ฉันเชื่อไม่ลงหรอก!”หญิงสาวปฏิเสธในทันที

“ไปกันเถอะ เราไปที่อื่นกันดีกว่า”ผู้เป็นแม่ดึงลูกสาวของเธอออกไปหวังเย้ายิ้มและส่ายหน้า

“แม่”

“ถ้าเขาให้ยาลูกเพื่อดูว่ามันได้ผลรึเปล่าแบบนั้นแม่ก็ไม่ว่าอะไรหรอก แต่ผ่าตัด? แม่ไม่คิดเลยว่าคนหนุ่มแบบเขาจะกลายเป็นพวกต้มตุ๋นไปได้!”ยิ่งพูดผู้เป็นแม่ก็ยิ่งโมโห“เราก็ไม่ได้เห็นด้วยกับเขานี่คะจริงไหม?”หญิงสาวพูดด้วยรอยยิ้ม

“ไปกันเถอะ แม่จะพาลูกไปที่โรงพยาบาลแทน”

“ไม่ต้องหรอกค่ะปล่อยไว้แบบนี้แหละ”หญิงสาวพูดเธอรู้ว่าสถานการณ์ทางบ้านของเธอเป็นยังไงพวกเขาไม่สามารถแบกรับค่าใช้จ่ายของทางโรงพยาบาลได้ยิ่งไปกว่านั้นเธอยังมีน้องชายที่กําลังเรียนอยู่ในมหาวิทยาลัยหลังจากที่เขาเรียนจบเขาก็ตั้งใจที่จะหางานท่าและซื้อบ้าน

อยู่ในเมือง ทั้งหมดล้วนต้องใช้เงินทั้งนั้ ครอบครัวของเธอจึงเก็บออมเงินไว้เพื่อน้องชายของเธอ

“อาจารย์”เจี๋ยจื้อจายเดินเข้ามาในคลินิก“สองแม่ลูกคู่นั้นมารักษาเหรอครับ?”

“ใช่”

“ปานบนหน้าผู้หญิงคนนั้นน่ากลัวจริงๆผมว่าตอนกลางคืนเธอคงไม่ต้องกลัวใครที่คิดจะเข้ามาทําร้ายหรอก”

“อย่าเอาข้อด้อยของคนอื่นมาล้อเล่นแบบนี้สิ”หวังเย้าพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง

“ครับ ผมผิดไปแล้ว” เจี๋ยจื้อจายรีบพูด

“แล้วมาหาอะไรที่นี่เหรอ?”

“วันนี้ ผมตกปลาตัวใหญ่มาได้ตัวหนึ่ง ผมก็เลยมาชวนเชียนเชิงไปกินซุปปลาที่บ้านครับ”
“อากาศแบบนี้มีปลาด้วยเหรอ?”

“มีสิครับ อยู่ติดริมแม่น้ำเลย

“ดี ผมรู้แล้ว” หวังเย้ายิ้มและพยักหน้า

“เชียนเชิงทําอะไรกับปานบนหน้าของผู้หญิงคนนั้นได้ไหมครับ?”

“ได้สิ แต่พวกเขาไม่เชื่อ” หวังเย้าพูด

“อ่อ พวกเขาพลาดแล้วล่ะ”

“ปานแบบนั้นรักษาไม่ยากมันอยู่แค่บนผิวหนังเท่านั้นแค่ตัดออกก็ได้แล้ว”

“ตัดออก? เอาออกไปพร้อมกับผิวหนังเลยเหรอครับ?แบบนั้นมันจะไม่เจ็บเหรอ?!”เจี๋ยจื้อจายถาม

“มันไม่ได้เจ็บมากหรอกแล้วผมก็มียาที่ช่วยเรื่องนี้อยู่แล้ว”หวังเย้าพูด“ถ้าผู้หญิงคนนั้นเอาปานออกจากหน้าได้เธอต้องเป็นคนที่สวยมากแน่ๆ”